กระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาเหยียดหรือสร้างความเกลียดชังแต่ประการใด เพียงแต่ต้องการนำเสนอมุมมองอีกด้านเท่านั้น
โดยบ้างเรื่องที่ผู้หญิงหรือกลุ่มแฟมินิสต์ออกมาเรียกร้อง อาทิ ยกเลิกเก็บภาษีผ้าอนามัยแบบนี้ก็เห็นด้วยนะ
แต่พวกอ้างความเท่าเทียมมักอ้างว่าชายไทยเอาเปรียบผู้หญิงและกดขี่ผู้มีรสนิยมหรือเพศวิถีที่หลากหลาย แต่ความจริงผู้ชายไทยเองก็โดนเอาเปรียบไม่ต่างกันหรอกและโอกาสของผู้หญิงก็ไม่ได้น้อยเหมือนสมัยอดีต โอกาสในเรื่องหน้าที่การงานของผู้หญิงปัจจุบันนี้ก็เปิดกว้างมากอยู่แล้วไม่เห็นมันจะเป็นปิตาธิปไตยตรงไหนเลย ปัจจุบันผู้หญิงก็ขับรถ เรียนหนังสือกันได้ หลายๆสายงานในปัจจุบันก็รับผู้หญิงเยอะมากเช่นกัน อาทิ หมอ วิศวกร โฟร์แมน ดราฟแมนและอื่นๆอีกมากมาย บางฝ่ายรับเฉพาะผู้หญิงด้วยซ้ำ อาธิ งานเลขา เซล และอื่นๆอีกมากมายที่ผู้หญิงทำได้ดีกว่า โดยเงินเดือนเฉลี่ยปัจจุบันชาย-หญิงก็ไม่ได้ห่างกันมากมายขนาดนั้น งานระดับบริหารองกรณ์ สส. สว. รมว. และอีกมากมายปัจจุบันผู้หญิงก็มีทั่วไปเลย ก็ไม่เห็นว่าประเทศเราชายจะเอาเปรียบผู้หญิงตรงไหนเลย
ส่วนการโดนเอาเปรียบของฝ่ายชาย
ด้านชีวิตคู่ ทั้งเรื่องสิทธิในการรับเลี้ยงบุตร โดนมหกรรมหลอกปล้นสินสอดจากฝ่ายหญิงที่มีญาติพี่น้องสมรู้ร่วมคิดกันโดยที่ฝ่ายชายทำอะไรไม่ได้เลย หรือแม้แต่สังคมปัจจุบันผู้หญิงในบางคู่ชีวิตกลับเป็นฝ่ายกระทำผู้ชายเสียเองโดยฝ่ายชายเลือกที่จะไม่ทำอะไรตอบโต้ฝ่ายหญิงเลย อาทิ การทำลายข้าวของ ของสะสมของฝ่ายชาย รวมถึงการทำร้ายร่างกายด้วยเช่นกันโดยถ้าตอบโต้หรือป้องกันตัวเขาก็รวมหัวกับเพื่อน ญาติพี่น้อง หาว่าเราเลว เราชั่ว

อีก
โดนมองว่ารสนิยมผู้ชายบางคนเป็นปิตาธิปไตย อาทิ
ชอบผู้หญิงตัวเล็กเป็นการบ้าอำนาจของฝ่ายชาย
การสร้างความประทับใจเล็กๆน้อยๆด้วยการช่วยยกของ ถือของให้ฝ่ายหญิง โดนมองเป็นการเหยียดผู้หญิงอ่อนแอ
โดนมองว่าความเป็นชายเป็นพิษ กดขี่เพศหญิงและ ผู้มีรสนิยมหรือเพศวิถีที่หลากหลาย ทั้งที่ความเป็นจริงก็ขึ้นอยู่กับรายบุคคลไปโดยมีปัจจัย การได้รับการอบรมจากผู้ปกครอง โรงเรียนและขึ้นอยู่กับจิตสำนึกด้วย ไม่ว่าเพศไหนถ้าทำตัวทุเรศก็เป็นพิษได้หมดแหละ
พอบอกว่าเท่าเทียมทางเพศในไทยทุกวันนี้ก็เท่ากันอยู่แล้วก็หาว่าเป็นพวก incel เกลียดผู้หญิงและผู้มีรสนิยมหรือเพศวิถีที่หลากหลาย
พูดอธิบายยังไงเขาก็เชื่อว่าสังคมไทยชายยังเป็นใหญ่อยู่ดี
ทำไมพวกอ้างความเท่าเทียมถึงมักอ้างว่าไทยเป็นปิตาธิปไตยทั้งที่ความจริงผู้ชายก็เสียเปรียบเช่นกัน?
โดยบ้างเรื่องที่ผู้หญิงหรือกลุ่มแฟมินิสต์ออกมาเรียกร้อง อาทิ ยกเลิกเก็บภาษีผ้าอนามัยแบบนี้ก็เห็นด้วยนะ
แต่พวกอ้างความเท่าเทียมมักอ้างว่าชายไทยเอาเปรียบผู้หญิงและกดขี่ผู้มีรสนิยมหรือเพศวิถีที่หลากหลาย แต่ความจริงผู้ชายไทยเองก็โดนเอาเปรียบไม่ต่างกันหรอกและโอกาสของผู้หญิงก็ไม่ได้น้อยเหมือนสมัยอดีต โอกาสในเรื่องหน้าที่การงานของผู้หญิงปัจจุบันนี้ก็เปิดกว้างมากอยู่แล้วไม่เห็นมันจะเป็นปิตาธิปไตยตรงไหนเลย ปัจจุบันผู้หญิงก็ขับรถ เรียนหนังสือกันได้ หลายๆสายงานในปัจจุบันก็รับผู้หญิงเยอะมากเช่นกัน อาทิ หมอ วิศวกร โฟร์แมน ดราฟแมนและอื่นๆอีกมากมาย บางฝ่ายรับเฉพาะผู้หญิงด้วยซ้ำ อาธิ งานเลขา เซล และอื่นๆอีกมากมายที่ผู้หญิงทำได้ดีกว่า โดยเงินเดือนเฉลี่ยปัจจุบันชาย-หญิงก็ไม่ได้ห่างกันมากมายขนาดนั้น งานระดับบริหารองกรณ์ สส. สว. รมว. และอีกมากมายปัจจุบันผู้หญิงก็มีทั่วไปเลย ก็ไม่เห็นว่าประเทศเราชายจะเอาเปรียบผู้หญิงตรงไหนเลย
ส่วนการโดนเอาเปรียบของฝ่ายชาย
ด้านชีวิตคู่ ทั้งเรื่องสิทธิในการรับเลี้ยงบุตร โดนมหกรรมหลอกปล้นสินสอดจากฝ่ายหญิงที่มีญาติพี่น้องสมรู้ร่วมคิดกันโดยที่ฝ่ายชายทำอะไรไม่ได้เลย หรือแม้แต่สังคมปัจจุบันผู้หญิงในบางคู่ชีวิตกลับเป็นฝ่ายกระทำผู้ชายเสียเองโดยฝ่ายชายเลือกที่จะไม่ทำอะไรตอบโต้ฝ่ายหญิงเลย อาทิ การทำลายข้าวของ ของสะสมของฝ่ายชาย รวมถึงการทำร้ายร่างกายด้วยเช่นกันโดยถ้าตอบโต้หรือป้องกันตัวเขาก็รวมหัวกับเพื่อน ญาติพี่น้อง หาว่าเราเลว เราชั่ว
โดนมองว่ารสนิยมผู้ชายบางคนเป็นปิตาธิปไตย อาทิ
ชอบผู้หญิงตัวเล็กเป็นการบ้าอำนาจของฝ่ายชาย
การสร้างความประทับใจเล็กๆน้อยๆด้วยการช่วยยกของ ถือของให้ฝ่ายหญิง โดนมองเป็นการเหยียดผู้หญิงอ่อนแอ
โดนมองว่าความเป็นชายเป็นพิษ กดขี่เพศหญิงและ ผู้มีรสนิยมหรือเพศวิถีที่หลากหลาย ทั้งที่ความเป็นจริงก็ขึ้นอยู่กับรายบุคคลไปโดยมีปัจจัย การได้รับการอบรมจากผู้ปกครอง โรงเรียนและขึ้นอยู่กับจิตสำนึกด้วย ไม่ว่าเพศไหนถ้าทำตัวทุเรศก็เป็นพิษได้หมดแหละ
พอบอกว่าเท่าเทียมทางเพศในไทยทุกวันนี้ก็เท่ากันอยู่แล้วก็หาว่าเป็นพวก incel เกลียดผู้หญิงและผู้มีรสนิยมหรือเพศวิถีที่หลากหลาย
พูดอธิบายยังไงเขาก็เชื่อว่าสังคมไทยชายยังเป็นใหญ่อยู่ดี