ประวัติพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์
...วัดสันติธรรม ได้จัดแสดงนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ และอัฐิธาตุของพระอริยสงฆ์ไทย ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘
ในวาระฉลองครบรอบ ๕๐ ปีวัดสันติธรรม
ในครั้งนั้น ได้มีการนำอัฐิธาตุของพระอริยสงฆ์รูปสำคัญของประเทศไทย ออกมาจัดแสดง
เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการะ พร้อมทั้งอัฐิธาตุของพระเดชพระคุณพระญาณสิทธาจารย์ (สิม พุทฺธาจาโร)
และพระเดชพระคุณพระนพีสีพิศาลคุณ (ทองอินทร์ กุสลจิตฺโต) ผู้เป็นพระบูรพาจารย์ก่อตั้งและพัฒนาวัดสันติธรรมจนมีความเจริญรุ่งเรืองในปัจจุบัน
ล้วนเป็นผู้ทรงคุณธรรมอันวิเศษ ได้อบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระ
คณะศิษยานุศิษย์สำนึกในคุณูปการขององค์ท่านทั้งสองรูป จึงได้มีมติจัดสร้างพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์นี้ขึ้น
...ลักษณะตัวอาคาร
เป็นศิลปะล้านนาประยุกต์ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ชั้น ขนาดกว้าง ๑๐ เมตร สูง ๓๐ เมตร
ชั้นที่ ๑ เป็นห้องสมุดกลางของวัด
ชั้นที่ ๒ เป็นบุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและจัดแสดงนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ อัฐิธาตุพระสุปฏิปันโนทั่วประเทศไทย
งบประมาณการก่อสร้าง ๑๒ ล้านบาท ออกแบบโดยอาจารย์สืบพงศ์ จันทร์สืบศรี ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐
โดยมีพระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล) วัดเจดีย์หลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน
พระพุทธิสารโสภณ (บุญส่ง สุขปฺปตฺโต) เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธ) วัดล้านนาญานสังวราราม อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พระครูวิทิตศาสนากิจ (ไพโรจน์ วิโรจโน) เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่-ลำพูน (ธ) สำนักสงฆ์ดอยปุย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
และพระครูวิมลธรรมรัต เจ้าอาวาสวัดสันติธรรม เจ้าคณะตำบลสันกำแพง (ธ)
ร่วมกันวางศิลาฤกษ์ พระสงฆ์ ๙ รูป เจริญชัยมงคลคาถา
นายกฤษดาภรณ์ เสียมภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
วัตถุประสงค์การจัดสร้าง
(๑) เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา
(๒) เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ อัฐิธาตุพระสุปฏิปันโนทั่วประเทศไทย
และเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ ของพุทธศาสนิกชน
(๓) เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ต่อพระบูรพาจารย์ผู้มีพระคุณเป็นอันมากต่อวัดสันติธรรม
โดยเป็นที่ประดิษฐานหุ่นขึ้ผึ้ง อัฐบริขารและอัฐิธาตุของพระบูรพาจารย์ของวัดสันติธรรม ได้แก่
พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)
พระนพีสีพิศาลคุณ (หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต)
(๔) เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
(๕) เพื่อยกย่องเกียรติคุณของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ให้ปรากฏต่อสาธารณชนและให้เป็นพลวปัจจัยหนุนส่งถึงพระนิพพานในปัจจุบันชาติ
พระบรมสารีริกธาตุที่นำบรรจุได้แบ่งเป็น ๙ ผอบ ดังนี้
(๑) ผอบทองคำ จำนวน ๑ ผอบ บรรจุในส่วนปลายของฉัตร
(๒) ผอบเงิน จำนวน ๗ ผอบ บรรจุในส่วนยอดบัวของยอดปลี
(๓) ผอบทองเหลือง จำนวน ๑ ผอบ บรรจุในส่วนยอดบัวของยอดปลี
พิธียกยอดปลีและฉัตรพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์
...วันเสาร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ทำพิธียกยอดฉัตรอาคารพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์และเปิดนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ
คุณมิตตา เลิศสุมิตรกุล คุณอรวรรณ จุฑะพุทธิ์ คุณราเชน มงคลธรรม และญาติมิตร ได้บริจาคปัจจัยมูลค่า ๘๐๐,๐๐๐ บาท
เป็นเจ้าภาพร่วมสร้างยอดปลีและฉัตรพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์
โดยได้ว่าจ้างบริษัทฐาปนินทร์เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างยอดปลีและฉัตร
วัสดุทำด้วยสเตนเลสหุ้มด้วยสเตนเลสสีทอง ได้แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยและกำหนดการให้มีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุภายในยอดปลีและยอดฉัตร
และทำพิธียกฉัตรขึ้นสู่ยอดอาคารพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ในวันเสาร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔
โดยมีพระพุทธสารโสภณ (บุญส่ง สุขปฺปตฺโต) เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธ)
พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
พระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
และพระครูวิมลธรรมรัต เจ้าอาวาสวัดสันติธรรม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
เจ้าภาพและคณะศรัทธาวัดสันติธรรมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงในผอบ ประกอบพิธียกฉัตร
พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พลเอกธงชัย เทพารักษ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จำนวน ๙ รูป
ที่มาของพระบรมสารีริกธาตุ
...พระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุนั้นประกอบด้วย พระบรมสารีริกธาตุ สัณฐานเมล็ดพันธุ์ผักกาด พรรณแดงใส
จากพระสถูปโบราณเมืองกุสินาราย์ ประเทศอินเดีย จำนวน ๙ องค์
...พระบรมสารีริกธาตุ ที่เสด็จมาเอง ณ วัดใหม่สะพานศรี อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร จำนวน ๙ องค์
...พระบรมสารีริกธาตุ ที่เสด็จมาเอง ณ วัดศรีสะอาด อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร จำนวน ๙ องค์
...ได้มีคณะศรัทธาที่มาร่วมงาน ได้บริจาคแก้ว แหวน สายสร้อยทองคำ กำไล พระเครื่อง เพื่อบรรจุในยอดปลีจำนวนมาก
และได้นำบรรจุเฉพาะส่วนที่มีขนาดพอใส่ได้ ส่วนที่มีขนาดใหญ่เกินไปหรือเป็นรูปของสัตว์ บุคคล ไม่ใช่พระพุทธเจ้า
ก็ไม่ได้นำบรรจุ จะนำบรรจุในฐานบุษบกให้ภายหลัง
.....................................
<<< บันทึกท้ายกระทู้ >>>
วัดสันติธรรมนี้ ผมได้รู้จักครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๐ ซึ่งผมเองใคร่อยากรู้อยากเห็นส่ิ่งต่างๆ จึงได้บันทึกเรื่องราวไว้
ส่วนภาพที่นำมาลงนี้ถ่ายไว้หลายๆ ครั้ง แล้วจึงเลือกนำมาลงเป็นบางส่วนครับ
ตั้งใจที่จะเขียนกระทู้เพื่อระลึกถึงเชียงใหม่ในหลายๆ แง่ เท่าที่ผมมีโอกาสและพอจะมีสาระมาเล่าให้ฟังเท่านั้น
..................
และสุดท้ายก็คือ
ผมไม่ปิดกั้นในการแสวงหาความรู้ และสิ่งที่ไม่เคยรู้ ผมใช้เวลาช่วงบั้นปลายชีวิตที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่ยังไม่รู้ครับ
.....................
เชียงใหม่-นำชมพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ ของพระอริยสงฆ์ไทย วัดสันติธรรม ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง
ประวัติพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์
...วัดสันติธรรม ได้จัดแสดงนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ และอัฐิธาตุของพระอริยสงฆ์ไทย ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘
ในวาระฉลองครบรอบ ๕๐ ปีวัดสันติธรรม
ในครั้งนั้น ได้มีการนำอัฐิธาตุของพระอริยสงฆ์รูปสำคัญของประเทศไทย ออกมาจัดแสดง
เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการะ พร้อมทั้งอัฐิธาตุของพระเดชพระคุณพระญาณสิทธาจารย์ (สิม พุทฺธาจาโร)
และพระเดชพระคุณพระนพีสีพิศาลคุณ (ทองอินทร์ กุสลจิตฺโต) ผู้เป็นพระบูรพาจารย์ก่อตั้งและพัฒนาวัดสันติธรรมจนมีความเจริญรุ่งเรืองในปัจจุบัน
ล้วนเป็นผู้ทรงคุณธรรมอันวิเศษ ได้อบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระ
คณะศิษยานุศิษย์สำนึกในคุณูปการขององค์ท่านทั้งสองรูป จึงได้มีมติจัดสร้างพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์นี้ขึ้น
...ลักษณะตัวอาคาร
เป็นศิลปะล้านนาประยุกต์ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ชั้น ขนาดกว้าง ๑๐ เมตร สูง ๓๐ เมตร
ชั้นที่ ๑ เป็นห้องสมุดกลางของวัด
ชั้นที่ ๒ เป็นบุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและจัดแสดงนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ อัฐิธาตุพระสุปฏิปันโนทั่วประเทศไทย
งบประมาณการก่อสร้าง ๑๒ ล้านบาท ออกแบบโดยอาจารย์สืบพงศ์ จันทร์สืบศรี ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐
โดยมีพระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล) วัดเจดีย์หลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน
พระพุทธิสารโสภณ (บุญส่ง สุขปฺปตฺโต) เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธ) วัดล้านนาญานสังวราราม อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พระครูวิทิตศาสนากิจ (ไพโรจน์ วิโรจโน) เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่-ลำพูน (ธ) สำนักสงฆ์ดอยปุย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
และพระครูวิมลธรรมรัต เจ้าอาวาสวัดสันติธรรม เจ้าคณะตำบลสันกำแพง (ธ)
ร่วมกันวางศิลาฤกษ์ พระสงฆ์ ๙ รูป เจริญชัยมงคลคาถา
นายกฤษดาภรณ์ เสียมภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
วัตถุประสงค์การจัดสร้าง
(๑) เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา
(๒) เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ อัฐิธาตุพระสุปฏิปันโนทั่วประเทศไทย
และเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ ของพุทธศาสนิกชน
(๓) เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ต่อพระบูรพาจารย์ผู้มีพระคุณเป็นอันมากต่อวัดสันติธรรม
โดยเป็นที่ประดิษฐานหุ่นขึ้ผึ้ง อัฐบริขารและอัฐิธาตุของพระบูรพาจารย์ของวัดสันติธรรม ได้แก่
พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)
พระนพีสีพิศาลคุณ (หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต)
(๔) เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
(๕) เพื่อยกย่องเกียรติคุณของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ให้ปรากฏต่อสาธารณชนและให้เป็นพลวปัจจัยหนุนส่งถึงพระนิพพานในปัจจุบันชาติ
พระบรมสารีริกธาตุที่นำบรรจุได้แบ่งเป็น ๙ ผอบ ดังนี้
(๑) ผอบทองคำ จำนวน ๑ ผอบ บรรจุในส่วนปลายของฉัตร
(๒) ผอบเงิน จำนวน ๗ ผอบ บรรจุในส่วนยอดบัวของยอดปลี
(๓) ผอบทองเหลือง จำนวน ๑ ผอบ บรรจุในส่วนยอดบัวของยอดปลี
พิธียกยอดปลีและฉัตรพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์
...วันเสาร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ทำพิธียกยอดฉัตรอาคารพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์และเปิดนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ
คุณมิตตา เลิศสุมิตรกุล คุณอรวรรณ จุฑะพุทธิ์ คุณราเชน มงคลธรรม และญาติมิตร ได้บริจาคปัจจัยมูลค่า ๘๐๐,๐๐๐ บาท
เป็นเจ้าภาพร่วมสร้างยอดปลีและฉัตรพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์
โดยได้ว่าจ้างบริษัทฐาปนินทร์เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างยอดปลีและฉัตร
วัสดุทำด้วยสเตนเลสหุ้มด้วยสเตนเลสสีทอง ได้แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยและกำหนดการให้มีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุภายในยอดปลีและยอดฉัตร
และทำพิธียกฉัตรขึ้นสู่ยอดอาคารพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ในวันเสาร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔
โดยมีพระพุทธสารโสภณ (บุญส่ง สุขปฺปตฺโต) เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธ)
พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
พระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
และพระครูวิมลธรรมรัต เจ้าอาวาสวัดสันติธรรม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
เจ้าภาพและคณะศรัทธาวัดสันติธรรมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงในผอบ ประกอบพิธียกฉัตร
พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พลเอกธงชัย เทพารักษ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จำนวน ๙ รูป
ที่มาของพระบรมสารีริกธาตุ
...พระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุนั้นประกอบด้วย พระบรมสารีริกธาตุ สัณฐานเมล็ดพันธุ์ผักกาด พรรณแดงใส
จากพระสถูปโบราณเมืองกุสินาราย์ ประเทศอินเดีย จำนวน ๙ องค์
...พระบรมสารีริกธาตุ ที่เสด็จมาเอง ณ วัดใหม่สะพานศรี อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร จำนวน ๙ องค์
...พระบรมสารีริกธาตุ ที่เสด็จมาเอง ณ วัดศรีสะอาด อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร จำนวน ๙ องค์
...ได้มีคณะศรัทธาที่มาร่วมงาน ได้บริจาคแก้ว แหวน สายสร้อยทองคำ กำไล พระเครื่อง เพื่อบรรจุในยอดปลีจำนวนมาก
และได้นำบรรจุเฉพาะส่วนที่มีขนาดพอใส่ได้ ส่วนที่มีขนาดใหญ่เกินไปหรือเป็นรูปของสัตว์ บุคคล ไม่ใช่พระพุทธเจ้า
ก็ไม่ได้นำบรรจุ จะนำบรรจุในฐานบุษบกให้ภายหลัง
.....................................
<<< บันทึกท้ายกระทู้ >>>
วัดสันติธรรมนี้ ผมได้รู้จักครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๐ ซึ่งผมเองใคร่อยากรู้อยากเห็นส่ิ่งต่างๆ จึงได้บันทึกเรื่องราวไว้
ส่วนภาพที่นำมาลงนี้ถ่ายไว้หลายๆ ครั้ง แล้วจึงเลือกนำมาลงเป็นบางส่วนครับ
ตั้งใจที่จะเขียนกระทู้เพื่อระลึกถึงเชียงใหม่ในหลายๆ แง่ เท่าที่ผมมีโอกาสและพอจะมีสาระมาเล่าให้ฟังเท่านั้น
..................
และสุดท้ายก็คือ
ผมไม่ปิดกั้นในการแสวงหาความรู้ และสิ่งที่ไม่เคยรู้ ผมใช้เวลาช่วงบั้นปลายชีวิตที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่ยังไม่รู้ครับ
.....................