สวัสดีค่ะ ถ้าคุณเจอเหตุการณ์แบบที่เราเจอคุณจะแก้ไขยังไงคะ …….
ท้าวความก่อนนะคะ ว่าเรา เป็นเด็กผู้หญิงคนนึง ไม่มีบ้านไม่มีญาติ ไม่มีพ่อ มีแม่แต่แม่เราเลือกทางเดินของตัวเองโดยการบวชตลอดชีวิต และตัดขาดจากโลกภายนอกรวมถึงตัดขาดเราด้วย ตั้งแต่เราอายุ15 ค่ะ
สาเหตุเพราะ แม่ชอบทำร้ายร่างกายเรารุนแรงเกินไป จนข้างห้องต้องแจ้งให้มูลนิธิเข้ามาดูแล
แม่เราเลยตัดสินใจไปบวช ทิ้งเราไว้กับมูลนิธิ
แต่โชคดีที่เรามีเจ้านายที่ใจดี (ตอนนั้นเราทำงานแล้ว เรียนด้วย) พี่ผู้หญิงคนนี้จึงดูแลเราเหมือนลูกบุญธรรมคนนึงตลอดมา จนวันนึงที่เราไม่วามารถทำงานให้เขาจรพอใจได้ จึงมีแากเสียงทะเลาะกัน
เราจึงออกมาใช้ชีวิตคนเดียว
เรียนด้วยทำงานด้วย จนเรามาเจอกับผู้ชายคนนึง อายุห่างกับเรา5 ปี ตอนนั้นอาศัยอยู่บ้านเพื่อน ด้วยความที่แม่ของเพื่อนชอบขโมยเงินเรา เราจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่บ้านแฟน ด้วยความเป็นเด็ก ไม่มีที่ไป คิดว่าคนนี้แหละ คงรักและปกป้องจากอันตรายในสังคมได้
เราทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันได้ 2 ปี ทุกอย่างไม่มีอะไรหวือหวาหรือผิดปกติ จนกระทั้งเราตั้งท้อง
ตอนนั้นเราทั้งคู่ ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นและ ก้มหน้าก้มตาทำงาน เราเองทำงานจนคลอด แฟน ทำงานเป็นเชฟ แต่ แฟนไม่เคยให้ค่าเลี้ยงดูอะไรเลย
ทุกอย่างที่เป็นของลูกคือเงินเก็บเราทั้งหมด
จนวันนึงเงินเราเริ่มหมด เพราะเราเลี้ยงลูกอยู่บ้านไม่ได้ทำงาน เพราะต่างคนต่างไม่มีพ่อแม่ ไม่มีคนเลี้ยงให้ ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิน ค่าลูก ทุกอย่าง เป็นเงินของเรา
พฤติกรรมของเขาที่เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเราไม่มีเงิน
เริ่มใช้ถ้อยคำรุนแรง ลามปามถึงแม่ของเรา
เริ่ม ตัคอกใส่ลูกเวลาลูกร้อง
เริ่มทำร้ายร่างกายเรา เวลาทะเลาะกัน ทำลายข้าวของ ที่เป็นของๆเรา
เราอดทน และ อดทน จนวันนึง ที่เราทนไม่ไหว เพราะเค้าไม่ให้เงินเรากินข้าว แต่กลับไปสังสรรค์บ้านเพื่อนยันดึกดื่น เราจะ บอกเลิกและทะเลาะกัน
ทุกครั้งที่ทะเลาะ คำพูดของเค้าคือ ทนไม่ได้ให้ไปอยู่ที่อื่น เราทนมาทุกครั้ง จนครั้งนี้ เราไปจริงๆ เราไปอยู่บ้านพักฉุกเฉิน ที่ดินแดง อยู่ได้ 15 วัน เค้าไม่เคยมาตามหรือมาขอให้กลับบ้าน ที่งที่เค้ารู้ว่าเราอยู่ไหน เราเองที่โทรหาเค้า บอกว่าเราอยากกลับบ้าน
กลับมาทุกอย่างก็เหมือนเดิม เราเลยออกไปหางานทำ เวลาผ่านไปจนเราตั้งตัวได้ มีเงินเก็บ (โดยที่เราไม่เคยรับรู้เรื่องเงินเขาเลย )
เราแทคแคร์ครอบครัวและรู้สึกว่านี้แหละ คือความสุข ….. อยากได้อะไรเราซื้อให้ อยากกินอะไรเราซื้อให้กิน ขอเงินเราก็ให้
เราอยากให้ชีวิตมันดีขึ้น เลยตัดสินใจ กู้เงินมาเพื่อทำธุรกิจ (ที่เราคิดคนเดียว) เพราะเราไม่สามารถขอคำปรึกษาอะไรจากแฟนได้เลย เพราะเค้าเป็นคนไม่เคยช่วยอะไรเรา ยิ่งเวลาผ่านไป เรายิ่งโตขึ้นและรู้สึกว่านี้ไม่ใช่ครอบครัว ไม่ใช่ความรัก ไม่ใช่แบบที่เราเข้าใจในตอนแรก
เราตัดสินใจแยกกันอยู่ โดยลูกอยู่กับเรา และ เลิกจากกันขาด แฟนขอเงินจากเรา โดยอ้างว่าเป็นค่าที่มาอยู่บ้านเขา ถ้าไม่ให้ จะไม่ให้ออกจากบ้าน จะขังเรากับลูกไว้ที้บ้าน
เราซึ่งคิดว่าเค้าไม่กล้าทำขนาดนั้น เราจึงไม่ให้ สรุปเรากับลูกโดนขังจริงๆ จริงตัดสินใจโอนให้ เงินที่เขาต้องการคือ 2 แสนบาท
เราออกมาเริ่มชีวิตใหม่กับเพื่อนผู้หญิงที่เราเพิ่งรู้จัก
กับเงินที่กูเมาอีกล้านกว่า (ขอเล่าแบบรวดเร็ว )
เพื่อนยืมเอาเงินเราไปทั้งหมด ค่อยๆยืมทีละสามแสนๆ อ้างจะฆ่าตัวตาย เราสงสารเลยช่วย สุดท้ายเพื่อนหนี แจ้งความไม่ได้ต้องฟ้องอย่างเดียว เนื่องจากเป็นการยืม (ถึงเค้าจะวางแผนมาหมดแล้วก็เถอะ ) และยังมียอดแชร์อีกหลายแสน
สรุปที่วางแผนจะทำธุกิจเสื้อผ้าก็ไม่ได้ทำ
สรุปสั้นๆ ว่าเราหมดตัว เพราะโดนเพื่อนโกง
ระหว่างนี้ แฟนเราติดต่อมา บอกว่าให้เรากลับมาบ้าน เค้าจะช่วยเอง …… นี้คือจุดเริ่มต้นค่ะ
โดยการที่ให้เรากลับมาจองเขาคือ ให้เรากลับมาพักใจและค่อยๆคิดว่าจะเอาเงินคืนจากเพื่อนยังไง
โดยที่เค้าจะคอยกดดันให้เรา ไปตามเรื่อง ไปเอาเรื่อง เอาเงินคืนมาให้ได้
แต่ทุกอย่างมันยากไปหมด เราเลยหาอะไรทำระหว่างนี้ เราศึกษาเรื่องนำเข้าของจากจีนมาขาย ก็ปรึกษาเค้าแล้วช่วยกันคิด ต้นทุน กำไร ต่อเดือน วางแผน ถ้าเป็นไปตามแผนก็กำไรเดือนละ เจ็ดหมื่นกว่า
เค้าเห็นแผนที่วาง เลยเอ่ยปากจะลงทุนให้ แต่ขอแบ่งกำไร ให้เค้า 70 เรา 30 เพราะเค้าลงทุน และโอนเงินมาให้เรา ลงทุน 5 หมืนบาท
เราดีใจมาก เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เค้าช่วยเหลือเรา
แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคือ เค้ามีผู้หญิงอีกคนที่เค้าชอบอยู่ ผู้หญิงคนนี้เข้ามาตอนเราเลิกกับเค้า เค้าอยากจากด้วยดี เค้าขอเวลา 10 วัน จะต้องคุยกันเจอกัน เราต้องรับให้ได้
เราอึ้งและชอค และ งง ทุกอย่างดับ มืดสนิด โลกหมุนแรงมาก บอกอาการไม่ถูกเหมือนจะชอค หรือ วูบไปตรงนั้นเลย เราบอกว่าเรารับไม่ได้และขอร้องให้เค้าอย่าทำแบบนี้กับเรา เค้าบอกว่า เค้าเสียใจที่เราทิ้งเค้าตอนเรามีเงิน
(เค้าลืมคืดหรือป่าว ว่าตอนเราไม่มีสีกบาทเราก็ทิ้งเค้าไปบ้านพักฉุกเฉินเหมือนกัน และเราก็ให้เงินเค้าสองแสน ไม่รวมกับก่อนหน้านี้ที่ให้บ่อยๆ ทั้งหมดเหือบครึ่งล้าน )
เค้ากลัวเรา ทิ้ง เค้าอีก เลยขอมีผู้หญิงคนนี้สำรองไว้ คุยไปคุยมา คือขอมีอะไรกับผู้หญิงคนนี้ครั้งนึง แล้วจะเลิกให้ เค้าทำตัวปกติ คุยโทรศัพท์กันต่อหน้าเรา ยิ่มหัวเราะ บนความทุกข์ของเราเราทำใจรับไม่ได้ ตัดสินใจ กินยาล้างห้องน้ำ เผื่อเค้าจะคิดได้บ้าง ว่าเราเสียใจแค่ไหน แต่เค้ามาเห็นทันและปัดขวดทิ้ง ตบหน้าเรา และด่าเราไล่เราออกจากบ้าน เราขอโทษเขาและอ้อนวอนกราบเท้าว่าเราจอร้องอย่าทำแบบนี้ ถ้ากลัวเราทิ้งอีก จะเก็บเงินทุกบาทที่บัญชีเขาก็ได้ แต่เลิกกับผู้หญิงคนนั้นได้ไหม เค้ายืนยัน ว่าขอเวลา 10 วัน
เราตัดสินใจบ้าบไปอยู่โรงแรม 10 วัน เพรทะทนสภาพเห็นคนที่เรารัก คุยกับคนอื่นไม่ได้ เค้าไม่ทำอะไรเลย คุยกันทั้งวัน เรามีหน้าที่ ทำงานบ้านเลี้ยงลูก เตรียมข้าวปลาอาหาร ร้องให้ก็โดนด่า
เวลาผ่านไป10 วันที่โรงแรม เรากับลูกทรมานมากมันทั้งเสียใจและหน้ากลัว จิตใจเราอ่อนแอไปหมด เฝ้ารอวันที่ทุกอย่างจะเคลียร์จบ ….ไม่เลย
พอจะกลับบ้าน เค้าขอเลื่อนเป็น 15 วัน ….
20 วัน ….. 25 วัน และสุกท้าย 1 เดือน 15 วัน เราถึงได้กลับบ้าน…….
เสียค่าโรงแรมไปโดยใช่เหตุ เสียเวลา เสียความรู้สึก เสียทุกอย่าง แต่เขามีความสุข …..
เมื่อกลับมาบ้าน เค้าก็ยังแอบคุยกัน
จนเรายืนคำขาดว่าถ้าเป็นแบบนี้เราขอถอย เขาถึงทำทุกอย่างให้เราตามที่เราขอ คือเลิกคุยกัน
แต่เราไม่มีสิทธิ์ดูโทรศัพท์ของเขาอยู่ดี เราเคยพยายามแย่งมาเพราะเห็นว่ามีผู้หญิงโทรมา จนเราโดนทำร้ายร่างกายฟกช้ำ ตาปูด (มีหลักฐาน)
สุดท้ายเรารับสภาพ คิดว่า ทำงาน หาเงิน ทำตัวให้ยุ่ง แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เราจะอดทนเพื่อลูก ให้ลูกมีพ่อ (เพราะตัวเราไม่มีพ่อ เราไม่อยากให้ลูกซ้ำรอย)
ทุกอย่างเป็นหน้าที่เรา ทั้งงานเรา งานบ้าน ขายของ เลี้ยงลูก และ งานของเขา (ขายพระ ) เราต้องทำทุกอย่าง แต่เงินทุกบาทเป็นของเขา
*ยกเว้นเงินจากการลงทุนนำเข้าของจากจีน เพราะขายไม่ได้ ของไม่ตรงปก เรียกว่าง่ายๆ จมทุน
เหมือนเราเอาเงินที่เขาลงทุนให้ไปโดนโกง
เราโดนด่า โดนกดดัน โดนตบหน้า แทบทุกวัน กับความผิดครั้งนี้
เรารู้สึกผิดและอยากแก้ไขมัน ต่อราไม่มีทางออก
เวลาผ่านไปเราไม่สามารแก้ปันหาได้ เราเลยเอ่ยขอทุนกับเขาอีกคาั้งมาลงทุน ขายเสื้อผ้ามือสอง
ใช้ทุน 1 หมื่นบาท
เค้าตกลง แต่มีข้อแม้ว่า หากเพื่อนที่โกงไปคืนเงินมา ต้องให้เค้าออกรถกระบะ เงินสด 1 คัน และขอรีโนเวทบ้าน ของเขา (เราไม่ได้จดทะเบียนหรือแต่งงานกัน )
เราจึงเปิดใจคุยกับเขา ว่าให้ทำใจ เรื่องนี้ ให้ปลงและลืมมันไปซะ ถือว่าเป็นราคาที่เราต้องจ่ายจากความโง่ของเราที่ไปเชื่อเพื่อนคนนี้
ยังไงก็ไม่มีทางได้คืน ต่อให้ฟ้องเพราะเค้าใช้บัญชีคนอื่นไปแล้ว และไม่มีสินทรัพย์อะไรที่ให้ยึดได้เลย สุดท้าศาลพิจารณาให้ผ่อนจ้ายเค้าจะไม่จ่ายก็ทำอะไรเค้าไม่ได้ ให้ยอมรับมัน
และเราจะเคลียหนี้ก้อนนี้เองเพราะเรากู้มา เราจะไม่ให้เดือดร้อนแฟน
พอเขาได้ยินแบบนี้ เขาโมโหมาก และ ต่อว่าเรา ว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ กลับมานึกว่าจะได้เงินคืนจากเพื่อนมาสร้างบ้านซื้อรถ
แล้วกลับมายืมเงิน แล้วก็เจ๋งเหลือตัวปล่างแบบนี้หรอ แล้วเมื่อไหร่ครอบครัวจะเจริญ
เราอึ้งและ เรื่มรู้สึกได้ถึงความต้องการที่แท้จริงของเค้า …….
เราเลยพูดความในใจของเราบ้าง ว่าให้เรากลับมาเพรทะหวังเงินใช่มั้ย ???
เค้าบอกว่าถ้าคิดแค่นี้ให้เราไปอยู่ที่อื่นและเอาลูกไปด้วย
เราแยกย้ายกันนอน และ เลิกทะเลาะกันเพียงเท่านี้
ตั้งแต่วันที่เค้ารู้ว่า เราไม่สามารถ เอาเงินล้านคืนมาได้ และ แผน ขายของนำเข้าเดือนละ 7-8หมื่นบ้มเหลว
ทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทุกครั้งที่ตื่นนอน คำถามคือ จะเอสเงินที่ไหนคืนเค้า
เราตอบไม่ได้เพราะเราก็ไม่รู้ เลยตัดสินใจขอออกไปหางานทำ
คำตอบคือ ไม่ให้ทำ แต่ให้เราขายของมีค่าทั้งหมดที่เรามี และคืนเงินให้เค้า
เราเถียงกันเรื่องนี้อยู่ 1-2 อาทิตย์ เพราะเราไม่ยอมขาย (โทรศัพท์ ไอแพด เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ทุกอย่างที่แลกเป็นเงินได้ )
เราพูดให้เค้าคิดว่า แต่ไปทำงานอย่างน้อยก็ได้เดือนละ 15000 - 20000 มันจะง่ายขึ้นโดยที่เราไม่ต้องขายของที่เราไม่อยากขาย เพราะบางอย่างมันยังต้องใช้อยู่
เค้าไม่โอเค ซึ้งเราไม่เข้าใจตรงจุดนี้ ……
สุดท้าย เหตุเกิดขึ้นเมื่อวาน คือเราโดนลามปามถึงแม่อีกแล้ว ว่าแม่สอนมาแบบไหน ทำไม่ถึงนิ่งเฉยไม่ยอมคืนเงินเขาเสียที เราฟิวขาด จึงตัดสินใจจะขายทุกอย่างทีาขายได้ เรารวบรวมทุกอย่างไว้กลางบ้านเพื่อนมาขาย และคืนเงินให้เขา
เค้ทเอายกับเราให้เราขายและไปใช่ชีวิตที่อื่นเค้ารับไม่ได้ที่เราผิดพลาด ซ้ำๆ ซากๆ
ตอนนี้ของที่เราจะเตรียมขาย เค้าเอาไปหมดแล้ว
และไล่เราออกจากบ้าน ตัวเปล่า แบบไม่มีเยื้อใย แม่แต่กับลูก
เราไม่เข้าใจแต่จะขอพูดความในใจของเราบ้าง
ว่าที่ผ่านมา เค้าไม่เคยเป็นหัวหน้าครอบครัวเลย ไม่ว่าปันหาอะไรก็แล้วแต่ เราจะต้องเป็นคนรับหน้า แม่แต่โจรมางัดบ้าน เราต้องเป็นคนแจ้งตำรวจ ออกมารับหน้ามาเสี่ยงอันตราย ฝนตกไฟดับ เพราะหลังคารั่ว แล้วน้ำฝนไหลลงเซฟทีคัท(สมัยคบกันใหม่ๆ ไม่มีเงิน ) เราต้องเป็นคนปีนตู้ไปทายาแนว ตรงรอยน้ำไหล ให้ไหลไปทางอื่น ตอนนั้นเราท้อง6 เดือน เพราะไฟดับแล้วนอนไม่ได้
แม้แต่ ของกิน ห้องน้ำ เสื้อผ้า ทุกอย่างจะใช้อย่างสกปรกและเราต้องเก็บต้องล้างตามหลัง อยากวางบนที่นอนก็วาง ทิ้งขนมไว้บนหัวเตียงเป็นสิบๆห่อ
เราก็อดทนมาตลอด แม้แต่ด่าแม่เรา ทุบตีเรา เรายอมมาตลอด ทำไมเราถึงไป เพราะเรารับไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเรามีเงิน แล้วทิ้งเขา เราแค่อยากมีชีวิตที่ดี เราผิดหรอ ตอนเราไม่มีเงินเราก็เคยไป มันเป็นเพราะนิสัยเขาต่างหาก ที่ทำให้เราไปไม่ใช่เพราะเรามีเงิน
ความผิดของเราที่เราโง่แล้วโดนโกง ก็ไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อน ถึงเขาจะเป็นคนยืนมามาช่วย แต่ถ้าเราย้อยกลับไปๆด้เราจะไม่เอา ถ้าต้องแลกมากับการที่เขามีคนอื่น
เรารู้สึกว่าเราไร้ศักดิ์ศรี มองหน้าตัวเองในกระจกแล้วเราสมเพสตัวเองมากๆ
แล้วทุกอย่างมันบังเอิญไปหมด เค้าเผลอหลับเราเลยแอบดูโทรศัพท์เค้า
ความจริงทุกอย่สงก็ปรากฎ
1. แชทที่เค้าคุยกับเพื่อน คือเค้าเสียพนันรวมๆ 6 แสน คือเงินเก็บที่เค้ามี( และมันคงรวมถึงเงินที่เราให้เค้าก่อนเราเลิกกันด้วย)
ตอยนี้เค้าเองไม่มีเงิน มีแค่พอใช้ แต่ไม่มีเก็บแล้ว
2.แชทที่คุยกับผู้หญิงคนนั้น
คือเค้าเจอกันในแอปหาคู่ เริ่มจากเค้าไปเล่าให้ผู้หญิงคนฟังถึงเราว่าเราทิ้งเค้าไปตอนเรามีเงิน เรามีผู้ชายใหม่ ซึ้งเป็นการใสร้าย เพราะเรารักเค้ามากเเต่เค่อยู่ด้วยกันต่อไม่ได้ เราไม่เคยมีคนใหม่
ในส่วนของแชท ผู้หญิง
แฟนเราไปสร้างภาพไว้ว่าตัวเองรวยมาก มีบ้าน3หลัง มีเงินเก็บหลักล้าน เป็นเซียนพระ
ไม่แปลกที่ผู้หญิงคนนี้จะเอาใจและดีกับแฟนเรามากจนแฟนเรารู้สึกดีด้วย
แต่สิ่งที่เราชอคคือ ทั้งสองคุยกันถึงเรื่องของเรา
คนที่วางแผนชวนเรากลับมาอยู่บ้าน คือผู้หญิงคนนี้
โดยเธอพิมพ์ว่า ในเมื่อเราทิ้งไปตอนไม่มีเงินก็เอาคืนสิ หลอกให้กลับมา เเล้วเอาให้หมดตัว ยุยงให้แฟนเราแก้แค้นเรา
แฟนเราก็ไปเชื่อและทำตามทุกอย่าง :ต่อในคอมเม้นนะคะ :
ช่วยด้วยค่ะ โดนแฟนไล่ออกจากบ้าน เพราะเราจับได้ว่าเขากับชู้ของเขาหลอกใช้เรา
ท้าวความก่อนนะคะ ว่าเรา เป็นเด็กผู้หญิงคนนึง ไม่มีบ้านไม่มีญาติ ไม่มีพ่อ มีแม่แต่แม่เราเลือกทางเดินของตัวเองโดยการบวชตลอดชีวิต และตัดขาดจากโลกภายนอกรวมถึงตัดขาดเราด้วย ตั้งแต่เราอายุ15 ค่ะ
สาเหตุเพราะ แม่ชอบทำร้ายร่างกายเรารุนแรงเกินไป จนข้างห้องต้องแจ้งให้มูลนิธิเข้ามาดูแล
แม่เราเลยตัดสินใจไปบวช ทิ้งเราไว้กับมูลนิธิ
แต่โชคดีที่เรามีเจ้านายที่ใจดี (ตอนนั้นเราทำงานแล้ว เรียนด้วย) พี่ผู้หญิงคนนี้จึงดูแลเราเหมือนลูกบุญธรรมคนนึงตลอดมา จนวันนึงที่เราไม่วามารถทำงานให้เขาจรพอใจได้ จึงมีแากเสียงทะเลาะกัน
เราจึงออกมาใช้ชีวิตคนเดียว
เรียนด้วยทำงานด้วย จนเรามาเจอกับผู้ชายคนนึง อายุห่างกับเรา5 ปี ตอนนั้นอาศัยอยู่บ้านเพื่อน ด้วยความที่แม่ของเพื่อนชอบขโมยเงินเรา เราจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่บ้านแฟน ด้วยความเป็นเด็ก ไม่มีที่ไป คิดว่าคนนี้แหละ คงรักและปกป้องจากอันตรายในสังคมได้
เราทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันได้ 2 ปี ทุกอย่างไม่มีอะไรหวือหวาหรือผิดปกติ จนกระทั้งเราตั้งท้อง
ตอนนั้นเราทั้งคู่ ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นและ ก้มหน้าก้มตาทำงาน เราเองทำงานจนคลอด แฟน ทำงานเป็นเชฟ แต่ แฟนไม่เคยให้ค่าเลี้ยงดูอะไรเลย
ทุกอย่างที่เป็นของลูกคือเงินเก็บเราทั้งหมด
จนวันนึงเงินเราเริ่มหมด เพราะเราเลี้ยงลูกอยู่บ้านไม่ได้ทำงาน เพราะต่างคนต่างไม่มีพ่อแม่ ไม่มีคนเลี้ยงให้ ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิน ค่าลูก ทุกอย่าง เป็นเงินของเรา
พฤติกรรมของเขาที่เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเราไม่มีเงิน
เริ่มใช้ถ้อยคำรุนแรง ลามปามถึงแม่ของเรา
เริ่ม ตัคอกใส่ลูกเวลาลูกร้อง
เริ่มทำร้ายร่างกายเรา เวลาทะเลาะกัน ทำลายข้าวของ ที่เป็นของๆเรา
เราอดทน และ อดทน จนวันนึง ที่เราทนไม่ไหว เพราะเค้าไม่ให้เงินเรากินข้าว แต่กลับไปสังสรรค์บ้านเพื่อนยันดึกดื่น เราจะ บอกเลิกและทะเลาะกัน
ทุกครั้งที่ทะเลาะ คำพูดของเค้าคือ ทนไม่ได้ให้ไปอยู่ที่อื่น เราทนมาทุกครั้ง จนครั้งนี้ เราไปจริงๆ เราไปอยู่บ้านพักฉุกเฉิน ที่ดินแดง อยู่ได้ 15 วัน เค้าไม่เคยมาตามหรือมาขอให้กลับบ้าน ที่งที่เค้ารู้ว่าเราอยู่ไหน เราเองที่โทรหาเค้า บอกว่าเราอยากกลับบ้าน
กลับมาทุกอย่างก็เหมือนเดิม เราเลยออกไปหางานทำ เวลาผ่านไปจนเราตั้งตัวได้ มีเงินเก็บ (โดยที่เราไม่เคยรับรู้เรื่องเงินเขาเลย )
เราแทคแคร์ครอบครัวและรู้สึกว่านี้แหละ คือความสุข ….. อยากได้อะไรเราซื้อให้ อยากกินอะไรเราซื้อให้กิน ขอเงินเราก็ให้
เราอยากให้ชีวิตมันดีขึ้น เลยตัดสินใจ กู้เงินมาเพื่อทำธุรกิจ (ที่เราคิดคนเดียว) เพราะเราไม่สามารถขอคำปรึกษาอะไรจากแฟนได้เลย เพราะเค้าเป็นคนไม่เคยช่วยอะไรเรา ยิ่งเวลาผ่านไป เรายิ่งโตขึ้นและรู้สึกว่านี้ไม่ใช่ครอบครัว ไม่ใช่ความรัก ไม่ใช่แบบที่เราเข้าใจในตอนแรก
เราตัดสินใจแยกกันอยู่ โดยลูกอยู่กับเรา และ เลิกจากกันขาด แฟนขอเงินจากเรา โดยอ้างว่าเป็นค่าที่มาอยู่บ้านเขา ถ้าไม่ให้ จะไม่ให้ออกจากบ้าน จะขังเรากับลูกไว้ที้บ้าน
เราซึ่งคิดว่าเค้าไม่กล้าทำขนาดนั้น เราจึงไม่ให้ สรุปเรากับลูกโดนขังจริงๆ จริงตัดสินใจโอนให้ เงินที่เขาต้องการคือ 2 แสนบาท
เราออกมาเริ่มชีวิตใหม่กับเพื่อนผู้หญิงที่เราเพิ่งรู้จัก
กับเงินที่กูเมาอีกล้านกว่า (ขอเล่าแบบรวดเร็ว )
เพื่อนยืมเอาเงินเราไปทั้งหมด ค่อยๆยืมทีละสามแสนๆ อ้างจะฆ่าตัวตาย เราสงสารเลยช่วย สุดท้ายเพื่อนหนี แจ้งความไม่ได้ต้องฟ้องอย่างเดียว เนื่องจากเป็นการยืม (ถึงเค้าจะวางแผนมาหมดแล้วก็เถอะ ) และยังมียอดแชร์อีกหลายแสน
สรุปที่วางแผนจะทำธุกิจเสื้อผ้าก็ไม่ได้ทำ
สรุปสั้นๆ ว่าเราหมดตัว เพราะโดนเพื่อนโกง
ระหว่างนี้ แฟนเราติดต่อมา บอกว่าให้เรากลับมาบ้าน เค้าจะช่วยเอง …… นี้คือจุดเริ่มต้นค่ะ
โดยการที่ให้เรากลับมาจองเขาคือ ให้เรากลับมาพักใจและค่อยๆคิดว่าจะเอาเงินคืนจากเพื่อนยังไง
โดยที่เค้าจะคอยกดดันให้เรา ไปตามเรื่อง ไปเอาเรื่อง เอาเงินคืนมาให้ได้
แต่ทุกอย่างมันยากไปหมด เราเลยหาอะไรทำระหว่างนี้ เราศึกษาเรื่องนำเข้าของจากจีนมาขาย ก็ปรึกษาเค้าแล้วช่วยกันคิด ต้นทุน กำไร ต่อเดือน วางแผน ถ้าเป็นไปตามแผนก็กำไรเดือนละ เจ็ดหมื่นกว่า
เค้าเห็นแผนที่วาง เลยเอ่ยปากจะลงทุนให้ แต่ขอแบ่งกำไร ให้เค้า 70 เรา 30 เพราะเค้าลงทุน และโอนเงินมาให้เรา ลงทุน 5 หมืนบาท
เราดีใจมาก เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เค้าช่วยเหลือเรา
แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคือ เค้ามีผู้หญิงอีกคนที่เค้าชอบอยู่ ผู้หญิงคนนี้เข้ามาตอนเราเลิกกับเค้า เค้าอยากจากด้วยดี เค้าขอเวลา 10 วัน จะต้องคุยกันเจอกัน เราต้องรับให้ได้
เราอึ้งและชอค และ งง ทุกอย่างดับ มืดสนิด โลกหมุนแรงมาก บอกอาการไม่ถูกเหมือนจะชอค หรือ วูบไปตรงนั้นเลย เราบอกว่าเรารับไม่ได้และขอร้องให้เค้าอย่าทำแบบนี้กับเรา เค้าบอกว่า เค้าเสียใจที่เราทิ้งเค้าตอนเรามีเงิน
(เค้าลืมคืดหรือป่าว ว่าตอนเราไม่มีสีกบาทเราก็ทิ้งเค้าไปบ้านพักฉุกเฉินเหมือนกัน และเราก็ให้เงินเค้าสองแสน ไม่รวมกับก่อนหน้านี้ที่ให้บ่อยๆ ทั้งหมดเหือบครึ่งล้าน )
เค้ากลัวเรา ทิ้ง เค้าอีก เลยขอมีผู้หญิงคนนี้สำรองไว้ คุยไปคุยมา คือขอมีอะไรกับผู้หญิงคนนี้ครั้งนึง แล้วจะเลิกให้ เค้าทำตัวปกติ คุยโทรศัพท์กันต่อหน้าเรา ยิ่มหัวเราะ บนความทุกข์ของเราเราทำใจรับไม่ได้ ตัดสินใจ กินยาล้างห้องน้ำ เผื่อเค้าจะคิดได้บ้าง ว่าเราเสียใจแค่ไหน แต่เค้ามาเห็นทันและปัดขวดทิ้ง ตบหน้าเรา และด่าเราไล่เราออกจากบ้าน เราขอโทษเขาและอ้อนวอนกราบเท้าว่าเราจอร้องอย่าทำแบบนี้ ถ้ากลัวเราทิ้งอีก จะเก็บเงินทุกบาทที่บัญชีเขาก็ได้ แต่เลิกกับผู้หญิงคนนั้นได้ไหม เค้ายืนยัน ว่าขอเวลา 10 วัน
เราตัดสินใจบ้าบไปอยู่โรงแรม 10 วัน เพรทะทนสภาพเห็นคนที่เรารัก คุยกับคนอื่นไม่ได้ เค้าไม่ทำอะไรเลย คุยกันทั้งวัน เรามีหน้าที่ ทำงานบ้านเลี้ยงลูก เตรียมข้าวปลาอาหาร ร้องให้ก็โดนด่า
เวลาผ่านไป10 วันที่โรงแรม เรากับลูกทรมานมากมันทั้งเสียใจและหน้ากลัว จิตใจเราอ่อนแอไปหมด เฝ้ารอวันที่ทุกอย่างจะเคลียร์จบ ….ไม่เลย
พอจะกลับบ้าน เค้าขอเลื่อนเป็น 15 วัน ….
20 วัน ….. 25 วัน และสุกท้าย 1 เดือน 15 วัน เราถึงได้กลับบ้าน…….
เสียค่าโรงแรมไปโดยใช่เหตุ เสียเวลา เสียความรู้สึก เสียทุกอย่าง แต่เขามีความสุข …..
เมื่อกลับมาบ้าน เค้าก็ยังแอบคุยกัน
จนเรายืนคำขาดว่าถ้าเป็นแบบนี้เราขอถอย เขาถึงทำทุกอย่างให้เราตามที่เราขอ คือเลิกคุยกัน
แต่เราไม่มีสิทธิ์ดูโทรศัพท์ของเขาอยู่ดี เราเคยพยายามแย่งมาเพราะเห็นว่ามีผู้หญิงโทรมา จนเราโดนทำร้ายร่างกายฟกช้ำ ตาปูด (มีหลักฐาน)
สุดท้ายเรารับสภาพ คิดว่า ทำงาน หาเงิน ทำตัวให้ยุ่ง แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เราจะอดทนเพื่อลูก ให้ลูกมีพ่อ (เพราะตัวเราไม่มีพ่อ เราไม่อยากให้ลูกซ้ำรอย)
ทุกอย่างเป็นหน้าที่เรา ทั้งงานเรา งานบ้าน ขายของ เลี้ยงลูก และ งานของเขา (ขายพระ ) เราต้องทำทุกอย่าง แต่เงินทุกบาทเป็นของเขา
*ยกเว้นเงินจากการลงทุนนำเข้าของจากจีน เพราะขายไม่ได้ ของไม่ตรงปก เรียกว่าง่ายๆ จมทุน
เหมือนเราเอาเงินที่เขาลงทุนให้ไปโดนโกง
เราโดนด่า โดนกดดัน โดนตบหน้า แทบทุกวัน กับความผิดครั้งนี้
เรารู้สึกผิดและอยากแก้ไขมัน ต่อราไม่มีทางออก
เวลาผ่านไปเราไม่สามารแก้ปันหาได้ เราเลยเอ่ยขอทุนกับเขาอีกคาั้งมาลงทุน ขายเสื้อผ้ามือสอง
ใช้ทุน 1 หมื่นบาท
เค้าตกลง แต่มีข้อแม้ว่า หากเพื่อนที่โกงไปคืนเงินมา ต้องให้เค้าออกรถกระบะ เงินสด 1 คัน และขอรีโนเวทบ้าน ของเขา (เราไม่ได้จดทะเบียนหรือแต่งงานกัน )
เราจึงเปิดใจคุยกับเขา ว่าให้ทำใจ เรื่องนี้ ให้ปลงและลืมมันไปซะ ถือว่าเป็นราคาที่เราต้องจ่ายจากความโง่ของเราที่ไปเชื่อเพื่อนคนนี้
ยังไงก็ไม่มีทางได้คืน ต่อให้ฟ้องเพราะเค้าใช้บัญชีคนอื่นไปแล้ว และไม่มีสินทรัพย์อะไรที่ให้ยึดได้เลย สุดท้าศาลพิจารณาให้ผ่อนจ้ายเค้าจะไม่จ่ายก็ทำอะไรเค้าไม่ได้ ให้ยอมรับมัน
และเราจะเคลียหนี้ก้อนนี้เองเพราะเรากู้มา เราจะไม่ให้เดือดร้อนแฟน
พอเขาได้ยินแบบนี้ เขาโมโหมาก และ ต่อว่าเรา ว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ กลับมานึกว่าจะได้เงินคืนจากเพื่อนมาสร้างบ้านซื้อรถ
แล้วกลับมายืมเงิน แล้วก็เจ๋งเหลือตัวปล่างแบบนี้หรอ แล้วเมื่อไหร่ครอบครัวจะเจริญ
เราอึ้งและ เรื่มรู้สึกได้ถึงความต้องการที่แท้จริงของเค้า …….
เราเลยพูดความในใจของเราบ้าง ว่าให้เรากลับมาเพรทะหวังเงินใช่มั้ย ???
เค้าบอกว่าถ้าคิดแค่นี้ให้เราไปอยู่ที่อื่นและเอาลูกไปด้วย
เราแยกย้ายกันนอน และ เลิกทะเลาะกันเพียงเท่านี้
ตั้งแต่วันที่เค้ารู้ว่า เราไม่สามารถ เอาเงินล้านคืนมาได้ และ แผน ขายของนำเข้าเดือนละ 7-8หมื่นบ้มเหลว
ทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทุกครั้งที่ตื่นนอน คำถามคือ จะเอสเงินที่ไหนคืนเค้า
เราตอบไม่ได้เพราะเราก็ไม่รู้ เลยตัดสินใจขอออกไปหางานทำ
คำตอบคือ ไม่ให้ทำ แต่ให้เราขายของมีค่าทั้งหมดที่เรามี และคืนเงินให้เค้า
เราเถียงกันเรื่องนี้อยู่ 1-2 อาทิตย์ เพราะเราไม่ยอมขาย (โทรศัพท์ ไอแพด เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ทุกอย่างที่แลกเป็นเงินได้ )
เราพูดให้เค้าคิดว่า แต่ไปทำงานอย่างน้อยก็ได้เดือนละ 15000 - 20000 มันจะง่ายขึ้นโดยที่เราไม่ต้องขายของที่เราไม่อยากขาย เพราะบางอย่างมันยังต้องใช้อยู่
เค้าไม่โอเค ซึ้งเราไม่เข้าใจตรงจุดนี้ ……
สุดท้าย เหตุเกิดขึ้นเมื่อวาน คือเราโดนลามปามถึงแม่อีกแล้ว ว่าแม่สอนมาแบบไหน ทำไม่ถึงนิ่งเฉยไม่ยอมคืนเงินเขาเสียที เราฟิวขาด จึงตัดสินใจจะขายทุกอย่างทีาขายได้ เรารวบรวมทุกอย่างไว้กลางบ้านเพื่อนมาขาย และคืนเงินให้เขา
เค้ทเอายกับเราให้เราขายและไปใช่ชีวิตที่อื่นเค้ารับไม่ได้ที่เราผิดพลาด ซ้ำๆ ซากๆ
ตอนนี้ของที่เราจะเตรียมขาย เค้าเอาไปหมดแล้ว
และไล่เราออกจากบ้าน ตัวเปล่า แบบไม่มีเยื้อใย แม่แต่กับลูก
เราไม่เข้าใจแต่จะขอพูดความในใจของเราบ้าง
ว่าที่ผ่านมา เค้าไม่เคยเป็นหัวหน้าครอบครัวเลย ไม่ว่าปันหาอะไรก็แล้วแต่ เราจะต้องเป็นคนรับหน้า แม่แต่โจรมางัดบ้าน เราต้องเป็นคนแจ้งตำรวจ ออกมารับหน้ามาเสี่ยงอันตราย ฝนตกไฟดับ เพราะหลังคารั่ว แล้วน้ำฝนไหลลงเซฟทีคัท(สมัยคบกันใหม่ๆ ไม่มีเงิน ) เราต้องเป็นคนปีนตู้ไปทายาแนว ตรงรอยน้ำไหล ให้ไหลไปทางอื่น ตอนนั้นเราท้อง6 เดือน เพราะไฟดับแล้วนอนไม่ได้
แม้แต่ ของกิน ห้องน้ำ เสื้อผ้า ทุกอย่างจะใช้อย่างสกปรกและเราต้องเก็บต้องล้างตามหลัง อยากวางบนที่นอนก็วาง ทิ้งขนมไว้บนหัวเตียงเป็นสิบๆห่อ
เราก็อดทนมาตลอด แม้แต่ด่าแม่เรา ทุบตีเรา เรายอมมาตลอด ทำไมเราถึงไป เพราะเรารับไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเรามีเงิน แล้วทิ้งเขา เราแค่อยากมีชีวิตที่ดี เราผิดหรอ ตอนเราไม่มีเงินเราก็เคยไป มันเป็นเพราะนิสัยเขาต่างหาก ที่ทำให้เราไปไม่ใช่เพราะเรามีเงิน
ความผิดของเราที่เราโง่แล้วโดนโกง ก็ไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อน ถึงเขาจะเป็นคนยืนมามาช่วย แต่ถ้าเราย้อยกลับไปๆด้เราจะไม่เอา ถ้าต้องแลกมากับการที่เขามีคนอื่น
เรารู้สึกว่าเราไร้ศักดิ์ศรี มองหน้าตัวเองในกระจกแล้วเราสมเพสตัวเองมากๆ
แล้วทุกอย่างมันบังเอิญไปหมด เค้าเผลอหลับเราเลยแอบดูโทรศัพท์เค้า
ความจริงทุกอย่สงก็ปรากฎ
1. แชทที่เค้าคุยกับเพื่อน คือเค้าเสียพนันรวมๆ 6 แสน คือเงินเก็บที่เค้ามี( และมันคงรวมถึงเงินที่เราให้เค้าก่อนเราเลิกกันด้วย)
ตอยนี้เค้าเองไม่มีเงิน มีแค่พอใช้ แต่ไม่มีเก็บแล้ว
2.แชทที่คุยกับผู้หญิงคนนั้น
คือเค้าเจอกันในแอปหาคู่ เริ่มจากเค้าไปเล่าให้ผู้หญิงคนฟังถึงเราว่าเราทิ้งเค้าไปตอนเรามีเงิน เรามีผู้ชายใหม่ ซึ้งเป็นการใสร้าย เพราะเรารักเค้ามากเเต่เค่อยู่ด้วยกันต่อไม่ได้ เราไม่เคยมีคนใหม่
ในส่วนของแชท ผู้หญิง
แฟนเราไปสร้างภาพไว้ว่าตัวเองรวยมาก มีบ้าน3หลัง มีเงินเก็บหลักล้าน เป็นเซียนพระ
ไม่แปลกที่ผู้หญิงคนนี้จะเอาใจและดีกับแฟนเรามากจนแฟนเรารู้สึกดีด้วย
แต่สิ่งที่เราชอคคือ ทั้งสองคุยกันถึงเรื่องของเรา
คนที่วางแผนชวนเรากลับมาอยู่บ้าน คือผู้หญิงคนนี้
โดยเธอพิมพ์ว่า ในเมื่อเราทิ้งไปตอนไม่มีเงินก็เอาคืนสิ หลอกให้กลับมา เเล้วเอาให้หมดตัว ยุยงให้แฟนเราแก้แค้นเรา
แฟนเราก็ไปเชื่อและทำตามทุกอย่าง :ต่อในคอมเม้นนะคะ :