[CR] ไปเมืองนอกทำไม? ที่เชียงใหม่ก็มี

ทริปนี้ถือเป็นทริปกินบุญเก่าของตัวเอง คือเป็นทริปที่ตะเวนใช้ Voucher ที่พัก ที่ได้รับจากการที่ผมได้ส่งบทความแล้วได้รับการตีพิมพ์ลงนิตยสาร My World ซึ่งเป็นนิตยสารราย 2 เดือน ในเครือบัตรเครดิต KTC โดยถ้าหากบทความที่ส่งเข้าไปมีความน่าสนใจจนได้รับการตีพิมพ์ลงนิตยสาร เราก็จะได้รับ Voucher ที่พัก ให้ไปพักผ่อนกันฟรีๆ ครับ โดยในปีที่ผ่านมา บทความของผมได้รับการตีพิมพ์ถึง 5 บทความ ทำให้ได้รับ Voucher มา 5 ใบ โดย 3 ใน 5 ใบ เป็น Voucher ของโรงแรม Nimano Suite ซึ่ง Voucher 1 ใบ สามารถเข้าพักห้อง Deluxe Room พร้อมอาหารเช้า ได้ 2 คืน+รถเช่า AVIS อีก 1 วัน สรุปแล้วที่ Nimano Suite ผมสามารถเข้าพักได้ถึง 6 คืน รวมรถเช่าอีก 3 วัน และยิ่งไปกว่านั้น ทาง KTC ได้ให้รางวัลพิเศษสำหรับผมอีก โดยการมอบ Voucher ห้องพัก Grand Terrace Suite พร้อมอาหารเช้าที่ Onsen @ Moncham 2 คืน ถือว่าเป็นลาภลอยจริงๆ เพราะที่ Onsen @ Moncham นี่ ผมใฝ่ฝันที่จะเข้าพักมานานแล้วครับ สำหรับเพื่อนคนไหนที่อยากจะร่วมแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวผ่านบทความ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ https://bit.ly/mw-writer นอกจากจะได้มีผลงานเป็นที่ภูมิใจของตัวเองแล้ว ยังจะได้ Voucher ที่พักฟรีอีกด้วย สำหรับ Voucher ที่ได้ ไม่มีข้อสัญญาใดๆ ว่าหลังจากเขาพักแล้วจะต้องทำรีวิวให้เขานะครับ เพียงแต่ทุกครั้งที่ผมไปเที่ยว ผมจะทำรีวิวมาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆ อยู่แล้ว
สำหรับแผนการเดินทางทริปนี้ ผมมีเวลา 5 วัน 4 คืน ซึ่งไม่สามารถวางแผนไปเที่ยวไกลๆ แบบวงกลมได้ เพราะข้อจำกัดเรื่องที่พัก โดย 2 คืนแรก ผมวางแผนเข้าพักที่ Onsen @ Moncham ก่อน และอีก 2 คืนที่เหลือ ผมเลือกที่จะเข้าพัก ที่ Nimano Suite เพื่อจะได้ไม่ต้องรีบร้อนในวันที่ต้องเดินทางกลับครับ
จุดหมายแรก ผมมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่ริม ระหว่างทางแวะเที่ยวที่ปางช้างแม่สาเป็นจุดแรก ช่วงนี้ปางช้างแม่สาเปิดให้เข้าชมฟรีครับ ก่อนหน้าที่ Covid จะระบาดจะมีการเก็บค่าเข้าชม ผมเชื่อว่าก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ แต่พอ Covid ระบาด ทำให้ที่นี่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ทำให้ขาดรายได้หลักไปเลย ที่ปางช้างก็ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อการอยู่รอด โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมฟรี แต่รายได้ที่จะเข้ามาจุนเจือช้าง จะมาจากค่าอาหารที่นักท่องเที่ยวได้ซื้ออาหารเลี้ยงช้างครับ
สำหรับอาหารเลี้ยงช้าง จะมาเป็นตะกร้าเลยครับ ตะกร้าละ 100 บาท ภายในตะกร้าจะมีกล้วย มีอ้อย และคล้ายๆ กับก้อนข้าวเหนียวครับ
เมื่อเราให้อาหารช้างหมดแล้ว ควาญช้างก็จะสั่งให้ช้างขอบคุณ โดยการเอางวงมาโอบรัดเรา เห็นแล้วก็น่าเอ็นดูจริงๆ

พลายหนึ่ง ช้างพลายงายาว อายุเกือบ 40 ปีแล้ว พลายหนึ่งไม่หวงงาครับ ควาญช้างบอกว่าสามารถเข้าไปจับงาเพื่อความโชคดี จะได้โชคได้ลาภครับ
ใครที่ใช้เส้นทาง 1096 หรือมาเที่ยวที่อำเภอแม่ริม ผมอยากให้เข้าไปเยี่ยมชมปางช้างแม่สากันเยอะๆ นะครับ จะได้ช่วยต่ออายุ ให้ “ช้าง” สัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยได้อยู่ดีกินดีไปนานๆ ครับ

เที่ยงนี้ผมฝากท้องไว้ที่ร้านฟักแก้วริมน้ำ ร้านอาหารริมถนนสาย 1096 ซึ่งเลยปางช้างแม่สาไปไม่ไกล จริงๆ แล้วละแวกนี้มีร้านอาหารริมลำธารเยอะเลย เดิมทีผมวางโปรแกรมไว้ว่าจะไปใช้บริการที่ร้านทับริมธาร แต่พอมาถึงหน้าร้านแล้วต้องเปลี่ยนแผน เพราะคนเยอะมาก มากจนไม่มีที่จอดรถ เลยต้องขับรถต่อไปข้างหน้า เห็นร้านฟักแก้วริมน้ำ พอจะมีที่จอดรถอยู่บ้าง เลยตัดสินใจฝากท้องไว้กับที่นี่ครับ
ร้านฟักแก้วริมน้ำเป็นร้านอาหารเล็กๆ ริมน้ำ ผมเลือกที่จะไปนั่งที่ริมลำธารเลยครับ โต๊ะที่นั่งจะคล้ายๆ เป็นแคร่ไม้ไผ่ ตั้งอยู่บนผิวน้ำ มื้อนี้ได้อาหารจานด่วนแบบง่ายๆ เพราะตอนที่ผมเดินลงมานั่ง ได้กลิ่นไข่เจียวที่โต๊ะอื่นสั่งมาเตะจมูกเข้าอย่างจัง เลยจัดไปครับ เพิ่มเติมด้วยข้าวผัดกระเพาและส้มตำปูปลาร้าแซบๆ ครับ

จากร้านฟักแก้วริมน้ำ นั่งรถต่ออีกประมาณ 200 เมตร ก็มาถึง สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ การเข้าชมสวน มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุเกิน 60 ปีเข้าชมฟรี ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเข้าไปด้านในสวนได้เลย โดยเสียค่านำรถเข้า (พร้อมคนขับ) 100 บาท ชำระเงินแล้ว เก็บบัตรไว้ให้ดีๆ นะครับ
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นสถานที่รวบรวมและอนุรักษ์พรรณไม้เป็นหมวด โดยปลูกให้อิงกับธรรมชาติมากที่สุด สำหรับจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาที่สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ เห็นจะเป็น Canopy walkway ทางเดินลอยฟ้าบนยอดไม้ ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยเราสามารถนำบัตรเข้าชมสวนที่ซื้อด้านหน้ามาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ตรง Canopy Walkway เพื่อเข้าชมได้เลยครับ
ทางเดินลอยฟ้า มีระยะทางกว่า 400 เมตร สูงกว่า 20 เมตร โครงสร้างทำจากเหล็ก บางช่วงจะเป็นกระจกใส ให้นักท่องเที่ยวได้ชมทิวทัศน์เบื้องล่างครับ ระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกให้ความรู้เกี่ยวกับพรรณพืชต่างๆ รวมถึงสัตว์หายากในบริเวณนั้น และเมื่อมองออกไปจะเห็นดอยม่อนคว่ำหล้อง จุดที่ถือว่าสูงที่สุดของอำเภอแม่ริมครับ
อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือกลุ่มอาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่ โดยอาคารแต่ละหลังจะมีการจัดแสดงพรรณไม้แบ่งตามหมวดหมู่ เช่น ไม้ป่าดิบชื้น พรรณไม้น้ำ พืชทะเลทราย และอื่นๆ อีกมากมายเลยครับ
จริงๆ แล้ว ด้านในยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ผมไม่มั่นใจว่าถ้ามีเวลา 2-3 ชั่วโมง เราจะสามารถชมสวนให้ครบทุกจุดได้หรือไม่ แต่ถ้าหากใครมีเวลาน้อยอย่างผม แนะนำว่าไม่ควรพลาด 2 จุดที่ผมแนะนำไว้ครับ
ชื่อสินค้า:   Onsen at moncham, Nimano Suite, สวนส้มจินจู, Sixflowers Garden, Take a Walk เตวแอ่ว house and coffee
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่