เฟซบุ๊กของ หมอมนูญ ระบุว่า วันนี้ขอแชร์สั้นๆเรื่องที่คนไข้ชาวกัมพูชาเล่าให้ผมฟัง ผู้ป่วยชายอายุ 42 ปี ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลในประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 แพทย์ที่นั่นจ่ายยา "โมลนูพิราเวียร์" นำเข้าจากประเทศอินเดีย ให้กินเช้า 4 เม็ด เย็น 4 เม็ด นาน 5 วัน อาการดีขึ้น เขาจ่ายเงินค่ายา คิดเป็นเงินไทย 1,500 บาท
ยานี้ผลิตในประเทศอินเดีย ราคาขาย 2,000 รูปี คิดเป็นเงินไทย 878 บาท ในกัมพูชาสามารถซื้อยา "โมลนูพิราเวียร์" ตามร้านขายยาในโรงพยาบาลตั้งแต่ต้นปี 2565 และแพทย์ที่นั่นไม่ให้ยา "ฟาวิพิราเวียร์" แล้ว

ขณะที่ประเทศไทย กรมการแพทย์ รับมอบยาต้านไวรัส "โมลนูพิราเวียร์" จาก บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 2 ล้านเม็ดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในเบื้องต้น จะมีการพิจารณาใช้ยาตัวนี้กับผู้ป่วยกลุ่ม 607 คือ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรครื้อรัง 7 โรคประจำตัว อย่างไรก็ตาม อาจมีการพิจารณาใช้ยาตัวนี้กับผู้ป่วยกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไปเพิ่มเติมเข้ามาในอนาคต หากมีจำนวนยาที่มากขึ้น
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุถึงการใช้ยาตัวนี้ว่า ผู้ป่วยจะต้องได้รับยาโมลนูพิราเวียร์ วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 4 แคปซูล ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วันจนครบ (40 แคปซูล)
ซึ่งยาโมลนูพิราเวียร์จะช่วยลดโอกาสในการเสียชีวิตหรือเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ในผู้ป่วยที่เสี่ยงจะมีอาการรุนแรง หากได้รับยาภายใน 5 วันนับจากวันที่เริ่มมีอาการ
https://www.bangkokbiznews.com/news/995839

กัมพูชาอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์แล้ว แซงหน้า FDA ของสหรัฐ

ทั้งนี้ ยาโมลนูพิราเวียร์ที่ได้รับการอนุมัติจากกัมพูชาดังกล่าวเป็นยาที่มีการผลิตจากบริษัท Mylan Laboratories Ltd ซึ่งเป็นบริษัทยาของอินเดีย
ส่วนในสหรัฐนั้น บริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ได้ยื่นขออนุมัติต่อ FDA เมื่อวันที่ 11 ต.ค. โดยคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในช่วงต้นเดือนธ.ค.
คณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่เป็นบุคคลภายนอก จะจัดการประชุมในวันที่ 30 พ.ย.เพื่อหารือกันว่าจะให้การอนุมัติสำหรับการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นกรณีฉุกเฉินหรือไม่ ก่อนที่จะทำรายงานเสนอความเห็นแก่ FDA
หากคณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นกรณีฉุกเฉิน ก็จะเป็นการปูทางให้ FDA ทำการอนุมัติอย่างเป็นทางการต่อไป โดยที่ผ่านมา FDA มักมีมติสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการที่ปรึกษาดังกล่าว แม้ว่าโดยหลักการแล้ว FDA ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามคำแนะนำของคณะกรรมการที่ปรึกษา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 64)
https://www.infoquest.co.th/2021/142079

การใช้ยารักษาโควิดของไทยเป็นไปตามแผนของกระทรวงสาธารณสุข เหมือนการฉีดวัคซีน
แม้ไทยใช้ยาตัวนี้ช้ากว่ากัมพูชา แต่ก็มีประเทศอื่นๆที่ช้ากว่าเช่นกัน
แพทย์ไทยมักจะตัดสินใจเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรกค่ะ
💜มาลาริน/หมอมนูฟังจากคนไข้กัมพูชา ก็ว่าเขมรก้าวหน้ากว่าไทย..กัมพูชาอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ แซงหน้า FDAนานแล้ว
เฟซบุ๊กของ หมอมนูญ ระบุว่า วันนี้ขอแชร์สั้นๆเรื่องที่คนไข้ชาวกัมพูชาเล่าให้ผมฟัง ผู้ป่วยชายอายุ 42 ปี ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลในประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 แพทย์ที่นั่นจ่ายยา "โมลนูพิราเวียร์" นำเข้าจากประเทศอินเดีย ให้กินเช้า 4 เม็ด เย็น 4 เม็ด นาน 5 วัน อาการดีขึ้น เขาจ่ายเงินค่ายา คิดเป็นเงินไทย 1,500 บาท
ยานี้ผลิตในประเทศอินเดีย ราคาขาย 2,000 รูปี คิดเป็นเงินไทย 878 บาท ในกัมพูชาสามารถซื้อยา "โมลนูพิราเวียร์" ตามร้านขายยาในโรงพยาบาลตั้งแต่ต้นปี 2565 และแพทย์ที่นั่นไม่ให้ยา "ฟาวิพิราเวียร์" แล้ว
ขณะที่ประเทศไทย กรมการแพทย์ รับมอบยาต้านไวรัส "โมลนูพิราเวียร์" จาก บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 2 ล้านเม็ดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในเบื้องต้น จะมีการพิจารณาใช้ยาตัวนี้กับผู้ป่วยกลุ่ม 607 คือ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรครื้อรัง 7 โรคประจำตัว อย่างไรก็ตาม อาจมีการพิจารณาใช้ยาตัวนี้กับผู้ป่วยกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไปเพิ่มเติมเข้ามาในอนาคต หากมีจำนวนยาที่มากขึ้น
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุถึงการใช้ยาตัวนี้ว่า ผู้ป่วยจะต้องได้รับยาโมลนูพิราเวียร์ วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 4 แคปซูล ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วันจนครบ (40 แคปซูล)
ซึ่งยาโมลนูพิราเวียร์จะช่วยลดโอกาสในการเสียชีวิตหรือเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ในผู้ป่วยที่เสี่ยงจะมีอาการรุนแรง หากได้รับยาภายใน 5 วันนับจากวันที่เริ่มมีอาการ
https://www.bangkokbiznews.com/news/995839
ทั้งนี้ ยาโมลนูพิราเวียร์ที่ได้รับการอนุมัติจากกัมพูชาดังกล่าวเป็นยาที่มีการผลิตจากบริษัท Mylan Laboratories Ltd ซึ่งเป็นบริษัทยาของอินเดีย
ส่วนในสหรัฐนั้น บริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ได้ยื่นขออนุมัติต่อ FDA เมื่อวันที่ 11 ต.ค. โดยคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในช่วงต้นเดือนธ.ค.
คณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่เป็นบุคคลภายนอก จะจัดการประชุมในวันที่ 30 พ.ย.เพื่อหารือกันว่าจะให้การอนุมัติสำหรับการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นกรณีฉุกเฉินหรือไม่ ก่อนที่จะทำรายงานเสนอความเห็นแก่ FDA
หากคณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นกรณีฉุกเฉิน ก็จะเป็นการปูทางให้ FDA ทำการอนุมัติอย่างเป็นทางการต่อไป โดยที่ผ่านมา FDA มักมีมติสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการที่ปรึกษาดังกล่าว แม้ว่าโดยหลักการแล้ว FDA ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามคำแนะนำของคณะกรรมการที่ปรึกษา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 64)
https://www.infoquest.co.th/2021/142079
แม้ไทยใช้ยาตัวนี้ช้ากว่ากัมพูชา แต่ก็มีประเทศอื่นๆที่ช้ากว่าเช่นกัน
แพทย์ไทยมักจะตัดสินใจเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรกค่ะ