JJNY : ติดเชื้อ25,164 เสียชีวิต80│เอกชนห่วงราคาน้ำมัน-ค่าระวางเรือยังพุ่ง│จ่อปรับค่าไฟฐานอีก!│ขีปนาวุธรัสเซียตกทะลุบ้าน

โควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 25,164 ราย เสียชีวิต 80 ราย ป่วยสะสมระลอกปีใหม่ ทะลุ 1.2 ล้าน
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_3247802
 
 
โควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 25,164 ราย เสียชีวิต 80 ราย ป่วยสะสมระลอกปีใหม่ ทะลุ 1.2 ล้าน
 
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวม 25,164 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 25,116 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 48 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,200,521 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 24,770 ราย หายป่วยสะสม 993,837 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 237,128 ราย เสียชีวิต 80 ราย จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,496 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 19 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 26.1


 
เอกชนห่วงราคาน้ำมัน-ค่าระวางเรือยังพุ่ง ตัวแปรส่งออกข้าวไทย
https://www.thansettakij.com/economy/518426
  
เอกชนห่วงราคาน้ำมัน-ค่าระวางเรือยังพุ่งตัวแปรส่งออกข้าวไทย  แต่ยังมั่นใจส่งออกข้าวไทยปีนี้7ล้านตัน จากความต้องการโลกที่เพิ่มขึ้นราคาแข่งขันได้ สงครามรัสเซีย-ยูเครนไม่กระทบส่งออกข้าวไทย
  
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย  เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ถึงสถานการณ์การส่งออกข้าวในขณะนี้ว่าแม้ว่าตลาดส่งออกข้าวจะกลับมาคึกคักจากความต้องการข้าวในต่างประเทศดีขึ้นประกอบกับราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข็งขันได้ โดยราคาข้าวไทย ณ ตอนนี้ ราคาFOB ข้าว5%อยู่ที่ 415-420ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน  ซึ่งใกล้เคียงกับราคาคู่แข่งอย่างเวียดนามที่มีราคาอยู่ที่415ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน 
  
ทำให้ลูกค้าตัดสินใจหันมาซื้อข้าวไทยมากขึ้น เพราะด้วยคุณภาพข้าวที่ดีทำให้หลายประเทศในแถเอเชียหันมาซื้อข้าวไทยไม่ว่าจะเป็นจีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์มากขึ้น เฉลี่ยต่อเดือนไทยส่งออกข้าวไปแล้ว7แสนตัน
   
นอกจากนี้ความต้องการข้าวในประเทศโดยเฉพาะโรงงานผลิตอาหาร ที่ขณะนี้ราคาข้าวโพด ข้าวสาลี ปรับตัวสูงเป็นอย่างมาก ดังนั้น ผู้ผลิตจึงหันมาใช้ข้าวกล้อง เป็นการผสมที่ให้ดีมานเตรงนี้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศปรับตัวสูงขึ้นโดยราคาตอนนี้อยู่ที่ตันละ8,500บาทจากเดิมราคาอยู่ที่7,000บาทต่อตันซึ่งช่วยให้ตลาดข่าวกลับมาคึกคักมากขึ้น
   
แต่อย่างไรก็สิ่งที่เอกชนเป็นห่วงคือ ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งกระทบกับต้นทุนการขนส่ง ประกอบกับค่าระวางเรือที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง รวมถึงตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังมีปัญหาขาดแคลนพอมาเจอกับราคาน้ำมันที่ปรับสูงถึง100ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลประกบกับค่าเฟคที่ปรับเพิ่มแม้ว่าจะเป็นผลกระทบทางอ้อม เช่น การแข่งขันของผู้ส่งออกของประเทศอื่นที่ไทยเสียเปรียบโดยเฉพาะอินโดนีเซีย จีนที่มีกองเรือที่แข้งแกร่งทำใหได้เปรียบในด้านการขนส่ง หรือระยะทางแบบอินเดียที่สามารถส่งออกไปตะวันออกกลาง หรือแอฟริกาซึ่งใกล้กว่าไทยส่งผลให้ค่าเฟดของไทยปรับสูงกว่าซึ่งพอไปรวมกับต้นทุนที่ลูกค้าต้องจ่ายทำให้ลูกค้าตัดสินใจไปซื้อข้าวจากประเทศอื่นแทน
   
ส่วนสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนนั้น ไม่กระทบส่งออกข้าวไทยมาก ที่กระทบคือพวกข้าวสาลีและข้าวโพด และการส่งออกข้าวไปรัสเซีและยูเครน ปีที่ผ่านมาส่งไปไม่ถึงหมื่นตันดังนั้น2ตลาดนี้เป็นตลาดที่เล็กมาก  ส่วนตลาดซาอุดิอาระเบียนั้น ถือว่าไม่ใช้ตลาดใหย่ที่เอกชนจะโฟกัสและแข่งขันยากเพราะซาอุฯบริโภคข้าวบาสมาติก  อาจจะมีส่งออกข้าวหอมมะลิไปบางส่วนเพราะกล่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนต่างชาติที่ไปอาศัยอยู่ที่ซาอุฯ
   
สำหรับอุปสรรคของการส่งออกข้าวไทยในปีนี้นอกจากราคาน้ำมันแล้ว หากผลผลิตข้าวปีนี้ไม่มีปัญหาขาดแคลน หรือเจอภัยแล้งก็คิดว่าน่าจะไปได้ดี หรือถ้ามีอะไรกระทบกับราคาข้าวมากก็อาจจะทำให้การส่งออกได้รับผลกระทบ ต้องยอมรับว่าการส่งออกข้าวในปัจจุบันเชือดเฉียดกันในเรื่องราคาเป็นหลักแล้วเพราะคุณภาพข้าวแต่ละประเทศมีการพัฒนาคุณภาพแทบจะไม่แตกต่างกัน
 

  
จ่อปรับค่าไฟฐานอีก! ปัจจุบันเก็บ 3.76 บาท/หน่วย ประกาศใช้กลางปีนี้
https://www.matichon.co.th/economy/news_3247214

จ่อปรับค่าไฟฐานขยับอีกจากปัจจุบันเก็บ 3.76 บาท/หน่วย ประกาศใช้กลางปีนี้ เบื้องต้นปชช.ไม่กระทบ แต่ผู้ใช้ไฟอุตฯไม่รอด
 
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกฯ สำนักงาน กกพ. กล่าวว่า ขณะนี้ กกพ.กำลังทำโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ทั้งระบบ ซึ่งอาจจะมีการปรับค่าไฟฟ้าฐานจากปัจจุบันอยู่ที่ 3.76 บาท/หน่วย เนื่องจากเป็นรอบที่ต้องมีการปรับประจำอยู่แล้ว 3-5 ปีต่อครั้ง และค่าไฟฟ้าฐานปัจจุบันใช้มาตั้งแต่ปี 2558 เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้พลังงานมากขึ้นจึงต้องมีการพิจารณาใหม่ ซึ่งคาดว่าภายในเดือนหน้าจะมีการประกาศเพื่อออกมารับฟังความคิดเห็น และจะสามารถกำหนดใช้ได้ภายในกลางปี 2565
 
ทั้งนี้ ค่าไฟฟ้าฐานมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการปรับหลายครั้งก็มีการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะท้อนโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตไฟ รวมถึงการใช้เชื้อเพลิง ครั้งล่าสุดยอมรับว่าอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เบื้องต้นประชาชนไม่ได้รับผลกระทบ แต่กลุ่มที่กระทบคือ ผู้ใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม มีมิเตอร์ไฟสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ากิจการขนาดใหญ่ หรือ TOU เนื่องจากจะมีการเกลี่ยอัตราเรียกเก็บไฟฟ้าในช่วงความต้องการใช้ไฟสูง(พีก) และนอกช่วงเวลาดังกล่าว(ออฟ-พีก)ใหม่ ให้สะท้อนการใช้งานจริง แต่ยืนยันว่าสำหรับผู้ใช้ไฟบ้านจะไม่ได้รับผลกระทบกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่