รีวิว เมื่อถูกรถยนต์ชนครั้งแรกในชีวิต

วันที่ 14กุมภาพันธ์ 2565 ดอกไม้ก็ไม่ได้ แต่ได้เลือดแทน

เราออกไปทำงานต่างอำเภอ และเอามอไซค์ไปใช้ วันนั้น เราซ้อนมอไซค์รุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันไปซื้อของในตัวอำเภอ ซื้อของใกล้จะสิ้นแล้ว ขณะที่จะไปซื้อของชิ้นสุดท้าย ขณะที่เรากำลังจะผ่านแยกไป มีรถยนต์คันนึงขับมาแบบไม่มีเสียงเบรคชนรถมอเตอร์ไซค์และเรารู้สึกตัวคือ ตัวเองนั่งอยู่บนถนน ขาเหยียดไปข้างหน้า มีเลือดไหลออกมา เรานิ่งแบบทำตัวไม่ถูก คู่กรณีลงรถมา กู้ภัยมา เราถูกพาตัวไปโรงพยาบาล พยาบาลถามอาการ ทำแผลให้ และบอกว่า แผลเย็บไม่ได้นะคะ เพราะเนื้อหลุดออกไปเลย คือ แบบว่า พยาบาลตัดแต่งแผลและใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลให้ เรานี่ร้องลั่นโรงพยาบาล คือ มันเป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆที่ประสบอุบัติเหตุ เจ็บมากขนาดนี้

พอทำแผลเสร็จ เราจะลงจากเตียง พอเท้าถูกพื้นสะดุ้งเลยค่ะ เซถลาไป คือเจ็บมาก ทุกคนมะรุมมะตุ้มมาประคอง และเอารถเข็นมาให้

เจ็บกว่ากายก็คือเจ็บใจ ไร้คู่กรณีมาดูแลเรา แม้จะยังไม่ถึงทุ่มนึงเลย แถมรถก็ถูกลากไปโรงพัก หารถกลับที่พักไม่มี โชคดีที่น้องชายรู้จักคนแถวนั้น เขาสงสารจึงมารับไปส่ง

เจ็บตัวก็ลำบากละ แต่คือเรากำลังเรียนต่ออยู่ การบ้านต้องส่ง งานก็ต้องทำ จะพักคือ  ก็ไม่ได้ ต้องทน ค่าเทอมแพง

ผ่านไปสองวัน อาการระบมเริ่มมา เราเจ็บบริเวณซี่โครง จึงจ้างเหมารถไปโรงพยาบาล หมอบอกว่า เอกซเรย์ไปคราวที่แล้ว กระดูกไม่หัก อวัยวะหากฉีกขาดจะมีอาการแล้ว และะถามเราว่า เพิ่งจะเคยโดนรถชนเหรอคะ เราตอบว่าใช่ ครั้งแรกในชีวิต ของคนอายุสี่สิบต้นๆ แบบเรายอมรับเป็นคนขี้แหย จึงระวังตัวมาก

เรื่องคดี เราก็เรียกร้องไป และมีการขอลด เราก็ให้ได้เท่าที่ให้ได้ และบอกไปว่า ถ้าไม่ได้เราก็จะฟ้องเอา 55 ไม่ต้องรอให้ขู่หรอกว่า อยากได้ให้ฟ้องเอา และสุดท้ายก็ตกลงกันได้

แต่สิ่งที่เราอยากจะแชร์เกี่ยวกับประสบการณ์ในอุบัติเหตุครั้งนี้คือ  การที่หน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ละเลย ไม่เอาใจใส่อุปกรณ์สัญญาณไฟจราจร ทำให้มีคนไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ขับรถยนต์มาชนเรา
และเท่าที่เรารู้ เคยมีกรณีคล้ายๆแบบนี้บ่อยมากตรงบริเวณนี้

ความจริงคือ แยกนี้มีรถผ่านจำนวนมาก เดิมมีสัญญาณไฟจราจร แต่เสีย ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเลยถอดเอาออกไป และไม่นำกลับมาติดตั้งใหม่

สิ่งที่เราทำ เราร้องเรียนไปยัง 1111 ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำสัญญาณไฟจราจรกลับมาติดตั้งดังเดิม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคล้ายๆกับคดีของเรา  เราไม่แค่ร้องเรียนค่ะ แต่เราโทรตามเป็นระยะ และทำเรื่องร้องเรียน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เราได้รับแจ้งว่า ผู้ถูกร้องเรียนต้องรายงานกลับมาภายใน 15 วัน

ผลคือ ภายใน 15 วัน น่าจะ 13วัน ตำรวจเจ้าของคดีของเราบอกว่า พอมีเคสของเรา สัญญาณไฟจาราจถูกนำมาติดตั้ง เราเลยบอกไปว่า เราเป็นคนร้องเรียนไปเอง

ไปดูให้เห็นกับตาค่ะ มีสัญญาณไฟจราจรมาติดตั้งแล้วจริงๆ ถือว่าเราทำได้

เราคิดเองนะคะว่า ประวัติศาสตร์ อดีตที่เกิดขึ้น มันควรจะเป็บบทเรียนให้กับเรา สิ่งไหนที่เรารู้สาเหตุ และเราป้องกันที่เกตุได้ เราก็ควรจะทำ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำกับคนอื่น เราอินกับเคสหมอกระต่ายมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะเจอเช่นกัน แต่เราโชคดีที่มันเป็นครั้งแรก ไม่ใช่ครั้งเดียว

การขับรถ วัตถุที่มีความเร็วขนาดนั้น มันอันตรายยิ่งกว่า ถือมีดไล่ฟันคน แต่พอทุกคนถือกุญแจรถในมือ กลับมองไม่เห็นว่าตัวเองมีอาวุธที่อันตรายขนาดไหน บางคนรักหมาแมว แต่อยากให้คิดเสมอเวลาจะสตาร์ทรถว่า ที่ร่วมใช้ถนนเดียวกับเราคือ คน ที่มีแค่เลือดเนื้อ กระดูก ไม่สามารถจะต่อกรกับ โลหะหลายตันที่มาพร้อมความเร็วได้

ขอแท็กวิทยาศาสตร์ เพราะอยากขอคำอธืบายว่า รถที่มาด้วยความเร็ว มันคืออาวุธที่อันตรายระดับไหน

https://www.img.in.th/image/7PC95u
รูปสัญญาณไฟราจรใหม่เอี่ยม

เรายังยืนยันว่า ความประมาทไม่มีจริง มันคือการเจตนาที่จะฝ่าฝืนกฎหมายต่างหาก

อยากลงรูปแต่ลงไม่ได้ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่