ปีนี้ข้อสอบยากมาก ส่วนตัวไม่ได้เรียนพิเศษ ตั้งใจเรียนแต่ในห้องเรียน สาเหตุที่ไม่เรียนพิเศษไม่ใช่ไม่มีเงิน จริงๆพ่อแม่ก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่แต่เพราะว่าแค่เรียนในห้องเรียนก็หนักมากอยู่แล้ว หลังเลิกเรียนก็อยากมีเวลาของตัวเองบ้างอย่าพักผ่อนบ้าง ไม่อยากทุ่มเทเวลา 3 ปีหลังเลิกเรียนจะต้องเรียนพิเศษเสาร์อาทิตย์ก็ไปเรียนพิเศษเพื่อที่ตอนม 6 จะได้สอบเข้าได้ตามที่หวัง
ส่วนตัวอยากเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์และแน่นอนว่ามหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของเด็กไทยก็คือจุฬาลงกรณ์ ส่วนตัวก็คือความฝัน ว่าตัวเองจะได้เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาฯ ก็ตั้งใจเรียนในห้องเรียนเต็มที่ ผลการเรียนในโรงเรียนชั้นมัธยมปลายก็ได้เกรด 4 ทุกวิชามาโดยตลอด การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เตรียมมาเรื่อยๆจากการตั้งใจเรียนในห้องเรียน ส่วนกลางตั้งใจอ่านหนังสืออย่างจริงจังลดเวลาสบายๆในการดูอนิเมะดูซีรีย์อ่านหนังสือการ์ตูนเล่นเกมลงไปแทบหมดก็ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมนี้เอง
ส่วนตัวเข้าใจว่าข้อสอบจำเป็นต้องออกเงินหลักสูตรและจำเป็นต้องออกให้ยาก เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยแต่ละคณะรับจำนวนน้อยมากในขณะที่คนต้องการสอบเข้ามีจำนวนมาก ถ้าออกข้อสอบง่ายนักเรียนสอบได้คะแนนแทบจะไม่แตกต่างกันแล้วจะแยกยังไงว่าใครควรได้เข้าเรียนใครไม่ควรได้เข้าเรียนอันนี้เข้าใจ
แต่ก็แอบคิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหมถ้าจะออกข้อสอบให้ไม่เกินหลักสูตร ให้ไม่จำเป็นต้องไปเรียนกวดวิชาขอแค่คุณตั้งใจเรียนในห้องเรียน ข้อสอบจะสามารถแยกเด็กได้ ระหว่างคนที่ไม่ตั้งใจเรียนเลยกับคนที่ตั้งใจเรียนมาโดยตลอด ไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษถ้าคุณตั้งใจเรียนในห้องเรียนคุณก็สามารถสอบติดคณะในฝันได้ หรือมันเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าถ้าข้อสอบเป็นแบบนั้นคนที่เรียนพิเศษจะได้เปรียบกว่าจะทำให้เด็กที่ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไม่เอาใจใส่การเรียนเลย 3 ปีที่ผ่านมาเพียงแค่ไปเรียนพิเศษติวเตอร์ก็จะสอนเคล็ดลับต่างๆที่ควรตั้งใจเรียนมาตลอด 3 ปียังแพ้ มันจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า
คิดว่าอย่างไรบ้างครับ ส่วนตัวถึงจะไม่ได้เรียนพิเศษ และข้อสอบปีนี้ยากมาก ก็เข้าใจได้ว่าคนออกข้อสอบจำเป็นต้องออกให้ยากเพื่อแยกเด็กได้ ส่วนตัวเห็นว่าข้อสอบยากก็ดี เปลี่ยนคนออกข้อสอบทุกปีแบบนี้ก็ดี ให้ติวเตอร์จับทางไม่ได้มันก็อาจจะเป็นแนวทางหนึ่งของความเสมอภาคในการศึกษาหรือเปล่า
ข้อสอบ GAT PAT ถ้าออกแค่ตามหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนจริง คิดว่าจะสามารถแยกเด็กให้เข้ามหาวิทยาลัยต่างๆได้ไหมครับ
ส่วนตัวอยากเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์และแน่นอนว่ามหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของเด็กไทยก็คือจุฬาลงกรณ์ ส่วนตัวก็คือความฝัน ว่าตัวเองจะได้เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาฯ ก็ตั้งใจเรียนในห้องเรียนเต็มที่ ผลการเรียนในโรงเรียนชั้นมัธยมปลายก็ได้เกรด 4 ทุกวิชามาโดยตลอด การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เตรียมมาเรื่อยๆจากการตั้งใจเรียนในห้องเรียน ส่วนกลางตั้งใจอ่านหนังสืออย่างจริงจังลดเวลาสบายๆในการดูอนิเมะดูซีรีย์อ่านหนังสือการ์ตูนเล่นเกมลงไปแทบหมดก็ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมนี้เอง
ส่วนตัวเข้าใจว่าข้อสอบจำเป็นต้องออกเงินหลักสูตรและจำเป็นต้องออกให้ยาก เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยแต่ละคณะรับจำนวนน้อยมากในขณะที่คนต้องการสอบเข้ามีจำนวนมาก ถ้าออกข้อสอบง่ายนักเรียนสอบได้คะแนนแทบจะไม่แตกต่างกันแล้วจะแยกยังไงว่าใครควรได้เข้าเรียนใครไม่ควรได้เข้าเรียนอันนี้เข้าใจ
แต่ก็แอบคิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหมถ้าจะออกข้อสอบให้ไม่เกินหลักสูตร ให้ไม่จำเป็นต้องไปเรียนกวดวิชาขอแค่คุณตั้งใจเรียนในห้องเรียน ข้อสอบจะสามารถแยกเด็กได้ ระหว่างคนที่ไม่ตั้งใจเรียนเลยกับคนที่ตั้งใจเรียนมาโดยตลอด ไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษถ้าคุณตั้งใจเรียนในห้องเรียนคุณก็สามารถสอบติดคณะในฝันได้ หรือมันเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าถ้าข้อสอบเป็นแบบนั้นคนที่เรียนพิเศษจะได้เปรียบกว่าจะทำให้เด็กที่ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไม่เอาใจใส่การเรียนเลย 3 ปีที่ผ่านมาเพียงแค่ไปเรียนพิเศษติวเตอร์ก็จะสอนเคล็ดลับต่างๆที่ควรตั้งใจเรียนมาตลอด 3 ปียังแพ้ มันจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า
คิดว่าอย่างไรบ้างครับ ส่วนตัวถึงจะไม่ได้เรียนพิเศษ และข้อสอบปีนี้ยากมาก ก็เข้าใจได้ว่าคนออกข้อสอบจำเป็นต้องออกให้ยากเพื่อแยกเด็กได้ ส่วนตัวเห็นว่าข้อสอบยากก็ดี เปลี่ยนคนออกข้อสอบทุกปีแบบนี้ก็ดี ให้ติวเตอร์จับทางไม่ได้มันก็อาจจะเป็นแนวทางหนึ่งของความเสมอภาคในการศึกษาหรือเปล่า