รีวิวความท้าทายสุดยิ่งใหญ่ของชีวิตกับการเสริมจมูก ศัลยกรรมครั้งแรก เมื่อชีวิตวัยเบญจเพสเงียบเหงาจนต้องหาเรื่องใส่ตัว ต้องหาทำอะไรสักอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการอยากใช้เงิน

อันดับแรกที่ต้องคำนึงเลยก็คือ ทำไปทำไมก่อน 
เพื่อนๆอาจมีคำถามนี้ก็เพราะเราสวยอยู่แล้วแหละ อิอิ อันนี้ก็ต้องบอกว่าก็พอตัวอะแหละ (อิอิ หยอกๆให้มีสีสันจ้าอย่าเพิ่งปิดกระทู้กันไปซะก่อนแหะๆ)คือความจริงแล้วที่ตัดสินใจทำเพราะว่าจมูกมันไม่พุ่งไม่โด่ง ไม่รับทรัพย์โหงวเฮ้งไม่ดีนี่ยอมกันไม่ได้ เลยเริ่มต้นคิดอยากจะปรับแก้จมูกตั้งแต่อายุ 15 แต่กว่าจะเก็บหอมรอมริบเงินที่มีอยู่น้อยนิดมาได้ก็ปาไปอายุ 25 ตั้งใจไว้ดิบดีว่ายังไงเบญจเพสนี้ต้องได้หน้าใหม่มาเชยชม  แล้วก็ได้สมใจจ้าา แต่ขั้นตอนหาข้อมูลก็มีมากมายใช่ว่าจะสวยได้ในพริบตา วันนี้เลยจะมาสรุปให้ฟังเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าก่อนจะตัดสินใจทำอะไรกับหน้าสักครั้งควรต้องทำยังไงบ้าง

1. สิ่งแรกเลยต้องคุยกับตัวเองก่อน
เราลองถามตัวเองก่อนเลยว่าพร้อมจริงไหม อยากทำไปเพื่ออะไร จริงๆเหตุผลแค่ว่า ก็อยากสวยอะแหละ ก็เพียงพอสำหรับการตัดสินใจอะไรแบบนี้แล้ว แต่ต้องมั่นใจด้วยว่าจะมีเงินซัพพอร์ท อยากจะสวยทั้งทีก็ต้องลงทุน ทำแล้วหน้าเบี้ยวมาก็ไม่คุ้มเด้อ

2. หาข้อมูลคลินิกหรือโรงพยาบาล (ข้อนี้ยาวหน่อย)
ใจจริงอยากบินว่อนไปทำที่เกาหลีมาก แต่เดี๋ยวนี้หมอไทยก็ใช่ว่าจะน้อยหน้าที่ไหน ทำแล้วสวยงามตระการตาก็มีถมไป บวกกับสถานการณ์โควิดที่ไม่รู้จะไปสิ้นสุดชาติไหน เลยคิดว่าทำที่ไทยก็ได้ ประหยัดไปอีก แถมทำช่วงนี้ยังมีเวลาพักฟื้น 

ส่วนตัวหาข้อมูลหนักมากตามเพจศัลยกรรมใดๆ แต่เซลล์ก็เต็มไปหมดจนแยกแยะไม่ออก แต่ก็ไปสะดุดอยู่สองสามที่ ลิสรายชื่อคลินิกออกมาแล้วไล่ดูพวกรีวิวคอมเมนต์ใดๆ รวมถึงข้อมูลหมอแบบรู้ลึกรู้จริง ทำหน้าครั้งแรกจะพลาดท่าไม่ได้!!

ซึ่งหลังจากงมหากันอยู่นานพอสมควร ก้ได้เป้าหมายมาเล็งไว้ โดยคลินิกที่ตัดสินใจทำด้วยก็คือ “วลีรัตน์คลินิก” สาขาสยามสแควร์ จริงๆที่นี่เป็นคลินิกที่โด่งดังเรื่องการร้อยไหมอ่าแหละแต่ ดิชั้นก็ดันเป็นลูกค้าเก่าเค้าอะนะ แต่เพิ่งค้นพบว่ามีพาร์ทศัลยกรรมด้วยก็เลยไล่ตามหาข้อมูลแล้วแอบถามแอดมินใดๆ สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเลือกที่นี่เลยก็คือ

หมอที่ดูแลเป็นอาจารย์หมอเฉพาะทางโดยตรง 
และก็ดูรีวิวคร่าวๆ สิ่งนี้ก็คือตามไปดูในเพจ เฟซบุ้ค ไอจี ของร้าน แต่ดูแค่ความสวยงามอย่างเดียวไม่ได้นะจ๊ะ ต้องดูไปถึงเซ้นต์ในการออกแบบใบหน้าของร้านด้วย ว่าตรงสไตล์เรารึเปล่า คือบางที่ทำสวยแหละ แต่มันไม่ใช่แนวอะ แล้วที่นี่ดันสื่อสารแล้วเข้าใจตรงกันได้ว่า เออ เราอยากได้แบบไหน
เทคนิคที่ใช้ กับซิลิโคนเกรดอะไร ต่อให้หมอดีคลินิกดี แต่ถ้าใช้ซิลิโคนจีนแดงก็บายค่าา ข้อนี้สำคัญมาก ต้องถามแอดมินดีๆ รุ่นอะไร จากที่ไหน ยี่ห้อ ปีที่ผลิต ถามมันทุกอย่าง
ราคาและโปรโมชั่น ขาดไม่ได้กับเรื่องเงินๆทองๆ อันนี้แล้วแต่คนไหวนะ แต่ต้องคำนึงไว้เสมอว่า ถูกและดีใช้กับวงการนี้ไม่ได้ บางที่แพงหูฉี่แต่ไม่ดีก็มีถมไป ลงทุนหน่อยแต่ส่งผลระยะยาวมันก็คุ้มค่า เพราะฉะนั้นถ้าให้แนะนำคืออย่ามัวแต่มองหาของถูก หาของดีแล้วคุ้มจะดีกว่า
บริการหลังการขาย สำหรับคนอื่นอาจจะไม่ แต่เราคือซีเรียสมากเรื่องบริการหลังการขาย เพราะผ่าเสร็จแล้วใช่ว่าจะสวยเลย มันต้องดูแลตัวเองในระดับนึง ซึ่งเราต้องเลือกเฉพาะคลินิกที่ตอบโจทย์ตรงนี้เราให้ได้อะเนอะ
3. เตรียมตัวและหัวใจให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง
บอกเลยพาร์ทนี้สำคัญมาก หลังจากตกลงหาฤกษ์ผ่าแล้วดิบดี พนักงานคนสวยก็แนะนำขั้นตอนการเตรียมตัวใดๆ ยาและวิตามินที่ต้องงดเว้นไปก่อน เพราะบางตัวมันส่งผลต่อการเสียเลือดในวันผ่าตัดก็งดไป โรคประจำตัวมีมั้ย ประวัติการติดเชื้อ หรือพวกความเสี่ยงต่างๆที่จะเป็นอันตรายต่อการผ่าตัด ถึงจะเป็นการผ่าตัดเล็กที่ไม่ต้องดมยาสลบ แต่การเตรียมตัวเพื่อให้ทุกอย่างราบรื่นก็สำคัญมากๆ ท่องไว้ ทุกอย่างส่งผลต่อความสวยเราทั้งนั้น เพราะฉะนั้นห้ามทำเป็นเล่นไปค่ะ แล้วอย่าลืมสวดมนต์ไห้พระก่อนนอนทุกวัน อธิษฐานให้จมูกอันแรกออกมาสวยแบบใจฝันด้วยเถิด

4. วันเชือดมาถึงแล้วจ้าาา
สำหรับวันเชือดคือทุกอย่างผ่านไปไวมาก หลังจากเปลี่ยนชุด คลีนหน้าเรียบร้อย ก็ไปนอนรอบนเขียง แล้วคุณหมอ (ที่สวยน่ารัก) ก็จะมาขับกล่อมเบาๆสองสามประโยค แล้วลงมือเชือดเลย
เริ่มต้นด้วยฉีดยาชา แล้วหน้าก็ตึงไปทั้งแถบ ตอนหมอผ่าคือแทบจะไม่รู้สึก เผลอหลับไปรึป่าวก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็คือหมอเย็บแผลติดเฝือก แล้วพี่พนักงานก็จะพามานั่งพัก เสริฟอาหารว่างป้อนน้ำหวาน พร้อมอธิบายการดูแลหลังผ่าตัดมากมาย ชนิดที่จำแทบไม่หมด พาไปเปลี่ยนชุด แล้วประคองส่งขึ้นรถกลับบ้านกันทีเดียวเลยจ้า พร้อมกำชับว่าถ้ามีอะไรผิดปกติแม้แต่น้อยก็ติดต่อมาได้เลย 24 ชม บริการเกินคุ้มมาก เอาเป็นว่าจมูกสวยไม่สวยยังไม่รู้ แต่ประทับใจการบริการระดับเต็มสิบกันเลยทีเดียวนะ

5.วันใหม่ของชีวิตที่เปลี่ยนไป 
วันแรกของความบวมฉึ่ง
หลังจากตื่นมาแบบหลับไม่เต็มตื่น เพราะช่วง 3 วันแรกคุณหมอแนะนำให้นั่งหลับหรือนอนหัวสูง เพื่อลดอาการบวม ตื่นมาก็หน้าบวมตุ่ย แต่ไม่ช้ำเขียวใดๆเลยจ้าแปลว่าหมอมือเบา หน้าเลยไม่ฟกชำดำเขียว ช่วงนี้ห้ามแผลโดนน้ำ เช็ดหน้าด้วยน้ำเกลือและทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือ คลินิกให้ยาสำหรับทามาด้วย ก็ควบคุมความสะอาดกันดีนะคะ ป้องกันการติดเชื้อใดๆ ยาฆ่าเชื้อและยาลดบวมก็ทานไปอย่าให้ขาด เน้นว่า ห้าม!!! หาทานอาหารแสลงเด็ดขาด เพราะจะทำให้แผลหายช้าแล้วหน้าบวมตุ่ยอีกด้วย
วันที่สอง - หน้ายังบวมแต่น้อยกว่าวันแรกอยู่เด้อ นอนหัวสูงต่อไปจ้า อาการเจ็บปวดรวดร้าวคือไม่มีเลย ใครที่กังวลว่า หน้าบวมมากมั้ย หยุดงานนานๆไม่ได้ ก็คือหายห่วงจ้ะ เพราะใช้ชีวิตเป็นปกติสุขดีได้เลยจ้า

วันที่สี่ - หน้าหายบวมแบบแทบจะเป็นปกติ วันนี้สามารถเอาเฝือกออกได้ หลังจากที่เปรอะไปด้วยน้ำมันบนใบหน้า ตอนเอาออกสามารถทำเองได้ แต่ต้องระมัดระวังนิดนึงนะ หลังจากนั้นทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ เช็ดแบบเบามือที่สุด เพราะกลัวจมูกเคลื่อน

วันที่ 7 - งามค่าาา จมูกเริ่มยุบ และหายบวม จะเริ่มเห็นทรงแบบชัดๆ ก็คือสวยย
วันที่ 14 - หมอนัดตัดไหม คุณหมอแอบทักว่าดูแลแผลดีมาก ตอนนี้ก็คือจมูกเริ่มเข้าที่ เห็นทรงชัดแจ๋ว สวยถูกใจใช่เลยจ้าาา
ปัจจุบัน ( 1 เดือน ) - สวยมาก ถูกใจที่สุด ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายความประทับใจนี้
 

 หวังว่าจะได้ประโยชน์จากบทความนี้กันไม่มากก็น้อยนะคะ ขออวยพรให้ทุกคนสมหวังในการลงทุนทำสวยกันถ้วนหน้านะคะ ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณจ้า // พับไมค์