สีน้ำมูกบอกความรุนแรงของหวัด


ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะช่วงฝนตกบ่อย หรือ อากาศเริ่มเย็นลง ทำให้หลายคนอาจเป็นหวัด และอาการที่มักจะมากับหวัดคือน้ำมูก ซึ่งสีของน้ำมูกนั้นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงระดับความรุนแรงของโรคหวัดได้ ดังนี้

🤧 น้ำมูกใส 🤧
น้ำมูกใสแจ๋วนับเป็นภาวะปกติที่ไม่ใช่สัญญาณบ่งบอกโรค เพราะปกติแล้วร่างกายจะผลิตน้ำมูกใสออกมาล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากจมูก แต่ถ้ามีน้ำมูกใสออกมากกว่าปกติอาจเป็นสัญญาณของโรคภูมิแพ้

🤍 น้ำมูกขาวขุ่น 🤍
น้ำมูกสีขาวขุ่น อาจเป็นเพราะโพรงจมูกบวมจากการอักเสบเกิดและมีน้ำมูกขังอยู่ในโพรงจมูกเป็นเวลานาน หรือเกิดจากการขาดน้ำทำให้น้ำมูกเหนียวข้นกว่าปกติ สามารถแก้ไขได้ด้วยการดื่มน้ำให้มากขึ้น และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบหายใจโล่งขึ้น

💛 น้ำมูกเหลือง 💛
น้ำมูกสีเหลืองใสหรือเหลืองข้น เกิดจากการติดเชื้อในโพรงจมูกและโพรงไซนัส จนระบบภูมิคุ้มกันร่างกายส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวมาทำลายเชื้อโรค แต่ถ้าน้ำมูกยังเป็นสีเหลืองนานเกิน 7 วัน ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับยารักษา

💚 น้ำมูกเขียว 💚
น้ำมูกสีเขียวคือระดับอาการติดเชื้อในโพรงจมูกรุนแรงขึ้นกว่าน้ำมูกเหลือง หรือมีอาการติดเชื้อในโพรงจมูกมานานกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

❤️ น้ำมูกแดงหรือมีเลือดปน ❤️
น้ำมูกสีแดงหรือมีเลือดปน ส่วนมากเป็นเพราะเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก ซึ่งเกิดจากการระคายเคืองหรือบาดเจ็บบริเวณจมูก การอักเสบในโพรงจมูก เยื่อบุจมูกแห้ง เนื้องอกในโพรงจมูก โรคหลอดเลือดชนิดต่าง ๆ รวมถึงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ หากมีน้ำมูกปนเลือดหรือเลือดออกทางจมูกบ่อย ๆ หรือมีเลือดออกมากผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

ดังนั้น หากน้ำมูกเป็นสีเขียวควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการติดเชื้อที่รุนแรงขึ้น ทั้งนี้ ไข้หวัดไม่ได้บ่งบอกด้วยสีของน้ำมูกเท่านั้น อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย หรือท้องเสีย แต่ถ้าอาการต่าง ๆ ยังไม่ดีขึ้นใน 2 – 3 วัน ควรรีบมาพบแพทย์ เพราะอาจมีความเสี่ยงเป็นโรคอื่นที่รุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาได้

ข้อมูลโดย นพ. ประยุทธ อังกูรไกรวิชญ์ สาขา อายุรแพทย์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่