northern trip with MOTORCYCLE on long holiday : DEC 2021 - JAN 2022

เป็นปกติของทุกสิ้นปี ที่คนส่วนใหญ่อยากขึ้นเหนือเพื่อไปเที่ยวรับลมหนาวกัน ซึ่งเราเลือกที่จะขี่รถมอไซเที่ยว เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นในช่วงเทศกาลแบบนี้ ส่วนตัวเคยคุยกับแฟนว่าขับรถไปเที่ยวกันก็ได้นะ จะได้สบาย ไม่เหนื่อย แต่เขาชอบเที่ยวแบบนี้มากกว่า เลยขี่มอไซเที่ยวแบบนี้มาด้วยกันตลอด

วันแรก : ชลบุรี > นครสวรรค์ > แพร่

ออกจากชลบุรีตอนตีสี่ สายกว่าแผนที่วางไว้ประมาณชั่วโมงนึง เราตั้งใจขี่เที่ยวกันแบบเรื่อยๆ ไม่อยากเค้นความเร็วเพื่อทำเวลา และเพื่อแวะเที่ยวตามรายทางด้วย เลยเลือกปักหมุดวันแรกกันที่จังหวัดแพร่ ระหว่างทางก็แวะไหว้ศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสน ที่จังหวัดนครสวรรค์กันก่อน


เรามาถึงศาลเจ้าพ่อนาคราชจันเสนประมาณ 8:00 AM ยังเช้าอยู่ คนเลยไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ที่นี่เป็นศาลเจ้าแบบสถาปัตยกรรมจีน ( chinese architecture ) ที่ค่อนข้างสวยงามเลย


หลังจากไหว้พระขอพรกันเสร็จ ก็ลองเซียมซีดู ปรากฎว่าได้เลขเดียวกันกับแฟน อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นใบที่ดี เลยเก็บใส่กระเป๋าเอาไว้


หลังจากออกมาจากศาลเจ้าพ่อฯ แวะพักเหนื่อย หากินกาแฟกัน ทริปนี้คุณแฟนเป็นเพื่อนคุยเพื่อนคิดที่ดีมากจริงๆ คอยห้ามไม่ให้เราใจร้อนเวลาเจอเพื่อนร่วมทางแย่ๆ


พออิ่มใจกันแล้วก็กะว่าจะหามื้อเช้ากินกันแถวนั้น แต่แฟนยังไม่หิวเลยขี่รถกันต่อ ขี่มาได้สักพัก ก่อนเข้าอำเภอเด่นชัยก็ได้เล่นโค้งจนจุใจ สมใจอยากมาก เพลินจนเงยหน้ามาอีกทีเห็น " กำแพงเมืองแพร่น่าอยู่ ประตูสู่ล้านนา " ก็จอดถ่ายรูปกัน



เมื่อก่อนผ่านกำแพงตรงนี้บ่อย แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่แวะจอดถ่ายรูป เจอ vespa สีเหลือง ขี่มาจากสมุทรปราการกับแฟนสองคนเหมือนกัน ถามไถ่ได้ความว่าจะยิงไปน่านรวดเดียวเลย ก็อวยพรขอให้ปลอดภัยแล้วแยกย้ายกัน


ไปต่อจนถึงที่พักในตัวเมืองแพร่ คืนแรกเรานอนพักกันที่ taris art hotel ที่พักค่อนข้างโอเค สะอาด เห็นวิวเมือง


เก็บข้าวของเสร็จ ออกมาขี่รถเล่นในตัวเมืองแพร่ บรรยากาศดีมาก ได้แวะซื้อเสื้อผ้าพื้นเมืองที่บ้านทุ่งโฮ้ง กับของฝากติดมืออีกเล็กน้อย



ชมเมืองจนหนำใจแล้ว ก็ได้เวลาหาข้าวกิน แต่ไปตามร้านที่ค้นใน internet แล้วไม่เจอ ขี่หลงอยู่สักพักจนบังเอิญไปเจอร้านนึงชื่อว่า " ณ บุรี " ตอนแรกก็ลังเล แต่ก็ลองแวะดู ถือว่าโชคดีจริงๆ เพราะอาหารและเครื่องดื่มที่นี่อร่อยคุ้มกับเงินที่จ่ายทุกอย่าง แถมร้านก็สวยมาก ประทับใจจนคิดว่าถ้ามีโอกาสได้มาที่แพร่อีก ก็จะแวะมาซ้ำให้ได้


วันที่สอง : แพร่ > เชียงราย

แผนวันนี้คือเราจะไปวัดพระธาตุช่อแฮ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำตัวของคนเกิดปีขาล แล้วจะยิงตรงขึ้นไปจังหวัดเชียงรายเลย


เราเกิดปีขาล และเป็นปีชง ซึ่งส่วนตัวเป็นคนไม่มีศาสนา และไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่แฟนเป็นคนที่ศรัทธาในศาสนามาก เราเลย plan ที่นี่ให้เป็นจุดที่ต้องแวะไหว้กันจริงจัง เพื่อความสบายใจของเขา ก็อยู่ทำบุญที่นี่กันจนเกือบเที่ยง


ออกจากวัดพระธาตุช่อแฮ ก็ขี่ขึ้นไปทางจังหวัดพะเยา เส้นนี้แทบไม่มีรถเลย ทำความเร็วได้ค่อนข้างดี


ขี่ไปสักพักก็ถึงกว๊านพะเยา อากาศช่วงเที่ยงร้อนมากจริงๆ เพราะสภาพอากาศเลยแวะพักเหนื่อยแถวนี้กันค่อนข้างนาน


อีกไม่กี่อึดใจ ก็มาถึงจังหวัดเชียงรายกัน ขี่ข้ามสะพานพญาเม็งราย ก็ถึงที่พักแล้ว


ที่พักวันที่สองนี้ เราพักกันที่ โรงแรมลักษวรรณ บูติก ( luck swan boutique ) สภาพถือว่าปานกลาง ดูเก่า ห้องน้ำไม่ค่อยสะอาด แต่ก็รับได้ในเรตราคานี้ นอกโรงแรมถือว่าสวยอยู่ ทำเลเดินทางสะดวก


เก็บข้าวของขึ้นห้องเสร็จ พักกายสักครู่ แล้วออกไปวัดร่องเสือเต้น ซึ่งวัดนี้อยู่ใกล้กับที่พักมาก แต่กว่าเรามาถึงที่พักก็จะเย็นอยู่แล้ว เลยได้ภาพในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เริ่มตก สวยไปอีกแบบ


ภายในโบสถ์ของวัดร่องเสือเต้น เน้นไปทางโทนสีน้ำเงิน ใช้วิธีการเขียนลวดลายเป็นส่วนใหญ่


ออกจากวัดร่องเสือเต้น แล้วไปที่วัดห้วยปลากั้งต่อ ช่วงที่ออกมาเริ่มค่ำแล้ว ตอนแรกก็ลังเลว่าจะไปดีไหม ดูแผนที่แล้วไม่ไกลกันมากเท่าไหร่ เลยตัดสินใจไปกัน

ทางขึ้นวัด


คนค่อนข้างน้อย น่าจะเพราะเป็นช่วยเวลาที่เริ่มมืดแล้ว


ภายในโบสถ์ของวัดห้วยปลากั้ง ขาว สงบ ใช้ปูนปั้นประดับเป็นส่วนใหญ่


เป็นวัดที่ทุกสิ่งดูใหญ่ไปหมดจริงๆ


อิ่มบุญกันจนพอใจแล้ว ท้องก็เริ่มหิวเช่นกัน เลยว่าจะไปหาอะไรกินกันที่ night bazaar


ขี่มอไซฝ่าความหนาวไป บังเอิญผ่านงานเชียงรายดอกไม้งามก่อน จึงแวะเดินเที่ยวที่นี่แทน พร้อมกับซื้ออาหารกินไปด้วยเลย ขนมจีนน้ำเงี้ยวกับไก่ทอดในงานอร่อยมาก อร่อยจนต้องกลับมาซื้ออีกวัน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่