30 ล้าน ถ้าเป็นคุณจะไม่รับเหรอครับ?

ผมสงสัยทำไมถึงมีดราม่าทั้งๆที่มันเป็นเรื่องที่นานๆทีจะเกิดขึ้นในสังคมไทยนั่นก็คือการเยียวยาชดใช้ให้กับผู้เสียหายหรือผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุโดยคู่กรณี 

หลายครั้งหลายคราเราก็เห็นๆกันอยู่ในเคสที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ผู้บาดเจ็บหรือครอบครัวผู้สูญเสียต้องสู้กันสุดใจขาดดิ้นเพื่อความยุติธรรมในขณะที่คู่กรณีเงียบไม่มีแม้กระทั่งเข้าไปขอขมาลาโทษหรือพูดถึงเรื่องการเยียวยาหรือชดใช้ค่าเสียหาย บางเคสเล่นหนีไปเลยก็มีครับ  

สมมุติมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับคุณหรือคนในครอบครัวแล้วคู่กรณีเค้าเข้ามากราบขอขมาแสดงออกถึงความเสียใจและแสดงความรับผิดชอบด้วยจำนวนเงิน 30 40 ล้านคุณจะไม่รับเหรอครับ? 

จำได้ไหมครับกับเคสเมาแล้วขับจนเกิดการสูญที่มีการแสดงความรับผิดชอบโดยการดูแลและเยียวยากันรวมๆแล้วกว่า 45 ล้านก็ไม่เห็นเป็นเรื่องดราม่าอะไรและยังมีเสียงบางส่วนที่ชื่นชมด้วยซ้ำไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
มันไม่ใช่เรื่องว่ารับเงินหรือไม่รับ แต่มันเป็นเรื่องของความเหมาะสมในการแสดงออกครับ

ตอนที่มาออกรายการ ภาพที่ทุกคนเห็นชัดเจนที่สุดในการคุยกับพิธีกร ไม่ใช่เรื่องความเสียใจที่ลูกตาย หรือโกรธคนที่มีส่วนร่วมที่ทำให้ลูกตาย หรือแสดงความขอบคุณต่อทุกคนที่มาช่วยค้นหาและช่วยงานอื่นๆ แต่ผมขออนุญาติเหมารวมว่าทุกคนรู้สึกได้ตรงกันคือ คุณแม่คิดและพูดแต่เรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องเดียว ต้องเป็นผู้จัดการมรดก ต้องเอาเงินทุกอย่างมาไว้ในมือแล้วจะแบ่งสันปันส่วนให้ทีหลังเอง (กรณีเงินประกัน) และที่สำคัญ คนที่อาจมีส่วนในการตายของลูกแต่เอาเงินมาให้ก็ให้อภัยได้ง่ายๆ คิดคำนวณเม็ดต่อหน้าสาธารณะ มันทำให้สังคมคิดกันไปว่าคุณแม่จะเอาเงินอย่างเดียว เรื่องอื่นไม่ได้สนใจใครหรืออะไร จะเป็นยังไงก็ช่าง

ถ้าถามถึงความผิดถูก แม่คงจะไม่ได้ผิดที่จะรับเงิน แต่ผมว่ามันไม่เหมาะสมเลยที่จะมาพูดตรงนี้ในเวลานี้ครับ
ความคิดเห็นที่ 1
ขึ้นอยู่กับบริบทของคนนั้นๆครับ
ทิ้งลูกไปเกือบทั้งชีวิตควรได้อะไรจากลูกตอนเสียชีวิตด้วยหรอ
ความคิดเห็นที่ 4
เค้าไม่ได้ดราม่าเรื่องการเยียวยา  แต่ดราม่าเรื่องความเหมาะสมของคน  

เสพข่าวอย่างมีสติ   การเยียวยามันต้องมีอยู่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 11
ไม่รับค่ะ เพราะรวยอยู่แล้ว
ไม่รับค่ะเพราะสัญชาตญาณความเป็นแม่
และเชื่อว่าถ้าคุณพ่อโสยังอยู่ คุณพ่อก็จะไม่รับเหมือนกันค่ะ
แต่ก็ไม่แปลกใจนะคะที่แม่คนนี้จะรับ จะเอาอะไรกับแม่ที่ทิ้งลูกไปตั้งแต่ลูกแค่ 3 ขวบ
จะเอาอะไรกับแม่ที่เพิ่งมาคุยกับลูกตอนปี 60 จะเอาอะไรกับแม่ที่เพิ่งมาดีกันจริง ๆ ตอนปี 63
ระยะเวลาแค่นี้ไม่ได้สร้างความผูกพันอะไรหรอกค่ะ แต่ลูกสาวก็ยังคงกตัญญูถึงกับเปลี่ยนชื่อเป็นนิดา ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวยังคงชอบ ภัทรธิดา

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ถ้ามือเรายังมี เท้าเรายังมี ร่างกายเรายังมีทำงานได้อยู่ ยังไงเราก็ไม่รับค่ะ
เว้นแต่ว่าตอนนั้นเราแก่หง่อม ขี้เกียจ อยากสบายแล้ว เราก็อาจจะรับ  
แต่ถ้าถามว่าตาวาวมั้ยเวลาเห็นเงินก้อนใหญ่ แน่นอนว่าวาวค่ะ /ยักไหล่
โอเคนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่