เราได้รู้สึกดีกับพี่ที่ทำงานคนนึงค่ะ แต่ดูเหมือนว่าพี่เค้าคงทำได้แค่ "รู้สึกดี" กับเรา
เราทำงานที่ รพ.รัฐบาลในตำแหน่ง นวก.สาสุข ลูกจ้างชั่วคราวสัญญาปีต่อปี เราทำงานมาได้ สองปีสี่เดือนแล้ว
(ขออนุญาติบอกตำแหน่งเพราะมันเกี่ยวข้องกับเรื่องราวค่ะ)
ส่วนพี่ T เค้าเป็น พขร.ค่ะ (อายุงานหกปี) ก็คือพนักงานขับรถค่ะ รถฉุกเฉินนี้ฝีมือดีเลยล่ะค่ะ
เรากับพี่ T รู้จักกันและสนิทกันจากการทำงานเกี่ยวกับโควิคนิแหละค่ะ ยิ่งช่วงกลางปี 64 ที่ผ่านมายิ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานด้วยกัน เวลากักตัวไม่ว่ากักกี่รอบก็กักพร้อมกัน เวลาหายหน้าหายตาเพื่อนพี่ T ก็จะแซวว่าเราทั้งคู่ชอบหายไปพร้อมกัน เพราะว่ากักพร้อมกัน... อาจเพราะวิถีการทำงานใกล้ชิดสัมผัสเสี่ยงผู้ป่วยโควิคพร้อมกัน แต่ไม่ใช่มีแค่เรากับพี่ T นะคะที่กัก คนอื่นก็ด้วย 55555 ความสัมพันธ์มันเริ่มจากการกักตัวครั้งที่สองที่เรากักพร้อมกันแหละค่ะ กักไปกักมาเราติดโควิคสะงั้น ช่วงนั้นเดลต้าระบาดเราเองสัมผัสเสี่ยงกับคนไข้พร้อมกับพี่ T เลยต้องตรวจ RT PCR พร้อมกันสรุปเกมที่เราคนเดียวเฟลสิคะ เดลต้าธรรมดาที่ไหน เราเองก็เป็นผญ. ต้องย้ายตัวเองไป HOSPITAL เนื่องจากเชื้อไม่ลงปอดเลยไม่ได้แอดมิทที่รพ. เฟลมากค่ะ เพราะห่วงพ่อแม่ที่บ้าน เราทำงานรพ.ในอำเภอค่ะบ้านและรพ.ห่างกันไม่มากไปเช้าเย็นกลับสบายแต่ถ้าอยุ่เวรต้องนอนบ้านพัก ก่อนกักตัวก็กลับบ้านตลอดเลยห่วงพ่อแม่ แล้วทางบ้านก็มีแต่ผู้สูงอายุ ทางรพ.บอกว่าต้องให้ที่บ้านมาตรวจแต่ด้วยความที่บ้านมีแต่ผู้สูงอายุเลยไม่สามารถมาได้ บวกกับพี่ชายเราทำงานในกทม.เป็นช่วงที่ไม่สามารถเดินทางมาบ้านได้ในทันที เคอร์ฟิวแหละค่ะ 😢 เราโทรหาทางบ้านตลอดเวลาวันแรกที่ไปอยุ่ HOSPITAL พี่ T นิแหละไปส่งเข้ากองค่ะ แอบคุยว่าห่วงพ่อแม่ปู่อา กลัวติดเรา พี่ T บอกไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่ไปรับมาตรวจเอง เราเองตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากขอบคุณพี่ T ผลทางบ้านลบหมดค่ะ แต่ต้องกักตัว 14 วัน เพราะสัมผัสจากเรา เราทราบจากแม่ว่าพี่ T ช่วงแรกมาหาแม่ที่บ้านทุกวันเอาข้าวมาห้อยหน้าบ้านตลอด ช่วงนั้นพี่เราก็ไม่สามารถกลับมาได้อยุ่แล้ว เพราะเข้าบ้านไม่ได้...
ทางเพื่อนที่แผนกก็ต่างฝากข้าวของมาให้ตลอดการกักตัวทั้ง 14 วัน จนหายเป็นปกติ เราก็กลับมาทำงาน เราได้ขอบคุณพี่ๆที่มอบน้ำขนมให้ทางบ้านช่วงกักตัว ขอบคุณเพื่อนๆในแผนกที่ซื้อข้าวซื้อน้ำให้ตลอด แต่... ทุกคนกลับตอบว่าฉันซื้อให้เทออ่ะใช่ แต่ทางบ้านอ่ะไม่มีใครเอาไปให้นะ เราเองก็แปลกใจเพราะพี่ T ก็เอาข้าวเอาขนมไปห้อยหน้าบ้านเราทุกวัน คิดว่ารพ.สนับสนุนทางบ้าน จนท. 55555 ตัดสินใจถามคนเอาไปให้เลย นางก็ยอมรับแหละว่าเอาไปให้เอง อย่าบอกทางบ้านนะเพราะกลัวพ่อแม่เราจะว่าไปจีบลูกสาวเค้า
เราก็ ออ!! ขอบคุณค่ะ. เอาเงินคืนให้นาง นางไม่เอา เราเลยบอกนางไปว่าถ้าพี่ไม่รับ หนูจะไม่คุยด้วยนะ นางเองก็กลัวเราเฟล เลยบอกว่าเลี้ยงน้ำนางแล้วกัน เราก็ตกลงที่จะเลี้ยงแหละคะ พอออกมาได้เราทำงานปกติ มีบ้างที่พานางกลับมากินข้าวด้วยที่บ้านพ่อเราก็แบบ เอ้า!!คนนี้นิที่เอาขนมมาให้ คุยกันถูกคอไปอีก พ่อเราก็แอบถามนางนะว่าไม่มีเมียเหรอ นางก็บอกไม่มีนางยากจนเป็นแค่คนขับรถ วันทั้งวันทำงาน ไม่มีเวลาหาครับ... กินเหล้ากันถูกคอเลย...
เราเริ่มรู้สึกดี ดีมากเลยแหละ แล้วเราก็คิดว่าพี่ T นางเองก็รู้สึกดีไม่ต่างจากเรา จรผ่านมาถึงทุกวันนี้ช่วงที่มีโอมิครอน มีอยู่วันนึงต้องไปแจกสุดตรวจ ATK ทุกอนามัยทั้งหมด 13 อนามัย เราก็ได้ไปกับพี่ T ค่ะ แปลกมากที่การนั่งรถครั้งนี้ทำตัวไม่ถูกเลยทั้งที่ปกติตลอดช่วงปีกว่าๆก็ไปมาด้วยกัน เราตัดสินใจถามนางก่อนว่าพี่ไม่คิดอยากมีใครเหรอ นางก็ตอบว่าอยากสิ อยากมีคนดูแล อายุก็เริ่มมากขึ้นแล้ว เอ้า!! ลืมบอก เราอายุ 25 ในช่วงนั้น ส่วนพี่ T 37 ดูสิห่างกันรอบปี แต่พี่ T ดูไม่แก่นะ แต่เราแก่ (แก่แดดค่ะ) 55555 อ่ะต่อๆๆๆ เราก็อืมมม พี่ไม่มองใครในรพ.บ้างเหรอ โสดๆก็มีเยอะไป แล้วนางก็ถามเรา ว่า"หนูเองก็โสดนิ" ใช่ป่ะ แน๊ะๆๆ รู้อีก "ถ้าพี่อายุเท่าหนูพี่จีบหนูแล้วนะ" อินิหน้าชาเลยค่ะ แต่ปฏิกิริยาลุคผู้ชายได้หันไปตอบพี่ T ว่า "เฮ้ยพี่ ทำไมละ อายุเป็นเพียงตัวเลข" นางก็ตอบกลับมาเบาๆว่า "ไม่ดีกว่า ไม่อยากให้มาลำบาก"
ค่ะ! ให้อิหนูตอบว่ายังไงดี เราเองก็ไม่อยากดึงดร่าม่ามากเลยเปลี่ยนเรื่องคุย จนบ่ายสองกว่าแจก ATK เสร็จกลับถึง รพ. เราก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานต่อ พี่ A เพื่อนพี่ T ที่เป็นพขร.ด้วยกันถามเราว่า "ว่าไงหนู พี่ T จีบสำเร็จป่ะ" เราก็แบบ"อะไรพี่ จีบอะไรทำงานๆ" นางพี่ A ก็งง "เอ้า!! พี่ T แกชอบหนูนะ" หาาาา!! หน้าชาไปอี๊กกกก เราเลยกลับมาบ้านพร้อมกับถามแม่ว่า "แม่พี่ T เค้าชอบหนู" แม่เลยถามกลับมาว่า "แล้วหนูชอบเค้ามั้ย" เราก็ตอบว่า "ชอบ" จากนั้นเรา LINE หานาง ถามว่า"อยุ่เวรเหรอ กินอะไรมั้ย หนูจะไปขึ้นเวรเที่ยงคืน เดี๋ยวซื้อไปฝาก" นางก็ตอบแค่ว่า"ไม่เป็นไร เกรงใจ" เราเลยตัดสินใจถามนางไปว่า "เป็นไรรึป่าว" นางก็ตอบแค่ว่า "ป่าวครับ" ใจอ่ะอยากถามเรื่องที่พี่ A บอกมาก แต่มันไม่เหมาะอ่ะ ต้องไปถามต่อหน้าเลย เราเลยคิดว่า พน.ลงเวรจะถามแต่เช้าเลย พอลงเวรนางพี่ T ไปรีเฟอที่รพ.ในจังหวัด อินิก็นั่งรอไปเถอะ พอเค้ามารีบวิ่งไปหาเค้าแล้วเริ่มต้นพูดด้วยบทสนทนาพาซีเรียสว่า "พี่ชอบหนูเหรอ" นางก็หน้านิ่งเลย แต่ตอบเบาๆว่า "อืม" อิหนูนิตาโตเลย "แล้วทำไมไม่จีบ" นางก็บอกว่า "จีบแล้วหนูชอบพี่เหรอ มีแต่คนว่าพี่กินหญ้าอ่อน จะจีบเด็ก จีบคนรุ่นเดียวกับพี่ดีกว่า" ค่ะเรานิไปไม่ถูกเลย ลุคแบบพี่ T ไม่เคยเป็นปกติจะสุภาพ ตลก เวลาพูดชอบเกาหัว แต่มาตอนนี้เมื่อวานเช้านี้เลย นางเอาสองมือล่วงกระเป๋า พูดตาลอยมองบนฟ้ามาดกวนตีนรึคีบลุคว่ะ แต่ดูท่าฝืนมากอ่ะ ...
พี่จ้าแม่จ้า อยากน้ำตาไหลมาก แต่ก็ทำได้แค่ "เหรอ"
เปลี่ยนเรื่องถามนางว่า "แล้วพี่กินข้าวยัง หนูมีโจ๊กกินป่ะ" นางก็บอกว่า"ไม่เป็นไร พี่ไปทำงานต่อก่อนนะ" แล้วเดินจากไป เราทำได้แค่ เออออ!!! ไม่ต้องกินนะ อยากเอาโจ๊กเขวี้ยงหัวมาก กลับมาห้องนิน้ำตาคลอเลย แต่ไม่ค่ะ ไม่ร้อง ไม่ร้องได้ไง... แม่จ๋าาาา หนูรู้สึกดีกับพี่ T แต่นางกับพูดกับหนูแบบนี้ เราควรทำยังไงดี ณ เวลานี้ทำได้แต่นั่งมองหน้าต่างบ้าน พขร.ว่าเค้าจะเปลี่ยนใจเดินมาหามั้ย ก็ไม่ ปกติเดินกลับบ้านพักต้องเปิดหน้าต่างถาม เนี่ยๆๆๆ ยังไม่มีวี่แววเลย... งื้อออ อยากระบาย
จะมาแจ้งความคืยหน้านะ
วัย 26 ปี กับความรักที่ถือว่า... ยังไงดีละ
เราทำงานที่ รพ.รัฐบาลในตำแหน่ง นวก.สาสุข ลูกจ้างชั่วคราวสัญญาปีต่อปี เราทำงานมาได้ สองปีสี่เดือนแล้ว
(ขออนุญาติบอกตำแหน่งเพราะมันเกี่ยวข้องกับเรื่องราวค่ะ)
ส่วนพี่ T เค้าเป็น พขร.ค่ะ (อายุงานหกปี) ก็คือพนักงานขับรถค่ะ รถฉุกเฉินนี้ฝีมือดีเลยล่ะค่ะ
เรากับพี่ T รู้จักกันและสนิทกันจากการทำงานเกี่ยวกับโควิคนิแหละค่ะ ยิ่งช่วงกลางปี 64 ที่ผ่านมายิ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานด้วยกัน เวลากักตัวไม่ว่ากักกี่รอบก็กักพร้อมกัน เวลาหายหน้าหายตาเพื่อนพี่ T ก็จะแซวว่าเราทั้งคู่ชอบหายไปพร้อมกัน เพราะว่ากักพร้อมกัน... อาจเพราะวิถีการทำงานใกล้ชิดสัมผัสเสี่ยงผู้ป่วยโควิคพร้อมกัน แต่ไม่ใช่มีแค่เรากับพี่ T นะคะที่กัก คนอื่นก็ด้วย 55555 ความสัมพันธ์มันเริ่มจากการกักตัวครั้งที่สองที่เรากักพร้อมกันแหละค่ะ กักไปกักมาเราติดโควิคสะงั้น ช่วงนั้นเดลต้าระบาดเราเองสัมผัสเสี่ยงกับคนไข้พร้อมกับพี่ T เลยต้องตรวจ RT PCR พร้อมกันสรุปเกมที่เราคนเดียวเฟลสิคะ เดลต้าธรรมดาที่ไหน เราเองก็เป็นผญ. ต้องย้ายตัวเองไป HOSPITAL เนื่องจากเชื้อไม่ลงปอดเลยไม่ได้แอดมิทที่รพ. เฟลมากค่ะ เพราะห่วงพ่อแม่ที่บ้าน เราทำงานรพ.ในอำเภอค่ะบ้านและรพ.ห่างกันไม่มากไปเช้าเย็นกลับสบายแต่ถ้าอยุ่เวรต้องนอนบ้านพัก ก่อนกักตัวก็กลับบ้านตลอดเลยห่วงพ่อแม่ แล้วทางบ้านก็มีแต่ผู้สูงอายุ ทางรพ.บอกว่าต้องให้ที่บ้านมาตรวจแต่ด้วยความที่บ้านมีแต่ผู้สูงอายุเลยไม่สามารถมาได้ บวกกับพี่ชายเราทำงานในกทม.เป็นช่วงที่ไม่สามารถเดินทางมาบ้านได้ในทันที เคอร์ฟิวแหละค่ะ 😢 เราโทรหาทางบ้านตลอดเวลาวันแรกที่ไปอยุ่ HOSPITAL พี่ T นิแหละไปส่งเข้ากองค่ะ แอบคุยว่าห่วงพ่อแม่ปู่อา กลัวติดเรา พี่ T บอกไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่ไปรับมาตรวจเอง เราเองตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากขอบคุณพี่ T ผลทางบ้านลบหมดค่ะ แต่ต้องกักตัว 14 วัน เพราะสัมผัสจากเรา เราทราบจากแม่ว่าพี่ T ช่วงแรกมาหาแม่ที่บ้านทุกวันเอาข้าวมาห้อยหน้าบ้านตลอด ช่วงนั้นพี่เราก็ไม่สามารถกลับมาได้อยุ่แล้ว เพราะเข้าบ้านไม่ได้...
ทางเพื่อนที่แผนกก็ต่างฝากข้าวของมาให้ตลอดการกักตัวทั้ง 14 วัน จนหายเป็นปกติ เราก็กลับมาทำงาน เราได้ขอบคุณพี่ๆที่มอบน้ำขนมให้ทางบ้านช่วงกักตัว ขอบคุณเพื่อนๆในแผนกที่ซื้อข้าวซื้อน้ำให้ตลอด แต่... ทุกคนกลับตอบว่าฉันซื้อให้เทออ่ะใช่ แต่ทางบ้านอ่ะไม่มีใครเอาไปให้นะ เราเองก็แปลกใจเพราะพี่ T ก็เอาข้าวเอาขนมไปห้อยหน้าบ้านเราทุกวัน คิดว่ารพ.สนับสนุนทางบ้าน จนท. 55555 ตัดสินใจถามคนเอาไปให้เลย นางก็ยอมรับแหละว่าเอาไปให้เอง อย่าบอกทางบ้านนะเพราะกลัวพ่อแม่เราจะว่าไปจีบลูกสาวเค้า
เราก็ ออ!! ขอบคุณค่ะ. เอาเงินคืนให้นาง นางไม่เอา เราเลยบอกนางไปว่าถ้าพี่ไม่รับ หนูจะไม่คุยด้วยนะ นางเองก็กลัวเราเฟล เลยบอกว่าเลี้ยงน้ำนางแล้วกัน เราก็ตกลงที่จะเลี้ยงแหละคะ พอออกมาได้เราทำงานปกติ มีบ้างที่พานางกลับมากินข้าวด้วยที่บ้านพ่อเราก็แบบ เอ้า!!คนนี้นิที่เอาขนมมาให้ คุยกันถูกคอไปอีก พ่อเราก็แอบถามนางนะว่าไม่มีเมียเหรอ นางก็บอกไม่มีนางยากจนเป็นแค่คนขับรถ วันทั้งวันทำงาน ไม่มีเวลาหาครับ... กินเหล้ากันถูกคอเลย...
เราเริ่มรู้สึกดี ดีมากเลยแหละ แล้วเราก็คิดว่าพี่ T นางเองก็รู้สึกดีไม่ต่างจากเรา จรผ่านมาถึงทุกวันนี้ช่วงที่มีโอมิครอน มีอยู่วันนึงต้องไปแจกสุดตรวจ ATK ทุกอนามัยทั้งหมด 13 อนามัย เราก็ได้ไปกับพี่ T ค่ะ แปลกมากที่การนั่งรถครั้งนี้ทำตัวไม่ถูกเลยทั้งที่ปกติตลอดช่วงปีกว่าๆก็ไปมาด้วยกัน เราตัดสินใจถามนางก่อนว่าพี่ไม่คิดอยากมีใครเหรอ นางก็ตอบว่าอยากสิ อยากมีคนดูแล อายุก็เริ่มมากขึ้นแล้ว เอ้า!! ลืมบอก เราอายุ 25 ในช่วงนั้น ส่วนพี่ T 37 ดูสิห่างกันรอบปี แต่พี่ T ดูไม่แก่นะ แต่เราแก่ (แก่แดดค่ะ) 55555 อ่ะต่อๆๆๆ เราก็อืมมม พี่ไม่มองใครในรพ.บ้างเหรอ โสดๆก็มีเยอะไป แล้วนางก็ถามเรา ว่า"หนูเองก็โสดนิ" ใช่ป่ะ แน๊ะๆๆ รู้อีก "ถ้าพี่อายุเท่าหนูพี่จีบหนูแล้วนะ" อินิหน้าชาเลยค่ะ แต่ปฏิกิริยาลุคผู้ชายได้หันไปตอบพี่ T ว่า "เฮ้ยพี่ ทำไมละ อายุเป็นเพียงตัวเลข" นางก็ตอบกลับมาเบาๆว่า "ไม่ดีกว่า ไม่อยากให้มาลำบาก"
ค่ะ! ให้อิหนูตอบว่ายังไงดี เราเองก็ไม่อยากดึงดร่าม่ามากเลยเปลี่ยนเรื่องคุย จนบ่ายสองกว่าแจก ATK เสร็จกลับถึง รพ. เราก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานต่อ พี่ A เพื่อนพี่ T ที่เป็นพขร.ด้วยกันถามเราว่า "ว่าไงหนู พี่ T จีบสำเร็จป่ะ" เราก็แบบ"อะไรพี่ จีบอะไรทำงานๆ" นางพี่ A ก็งง "เอ้า!! พี่ T แกชอบหนูนะ" หาาาา!! หน้าชาไปอี๊กกกก เราเลยกลับมาบ้านพร้อมกับถามแม่ว่า "แม่พี่ T เค้าชอบหนู" แม่เลยถามกลับมาว่า "แล้วหนูชอบเค้ามั้ย" เราก็ตอบว่า "ชอบ" จากนั้นเรา LINE หานาง ถามว่า"อยุ่เวรเหรอ กินอะไรมั้ย หนูจะไปขึ้นเวรเที่ยงคืน เดี๋ยวซื้อไปฝาก" นางก็ตอบแค่ว่า"ไม่เป็นไร เกรงใจ" เราเลยตัดสินใจถามนางไปว่า "เป็นไรรึป่าว" นางก็ตอบแค่ว่า "ป่าวครับ" ใจอ่ะอยากถามเรื่องที่พี่ A บอกมาก แต่มันไม่เหมาะอ่ะ ต้องไปถามต่อหน้าเลย เราเลยคิดว่า พน.ลงเวรจะถามแต่เช้าเลย พอลงเวรนางพี่ T ไปรีเฟอที่รพ.ในจังหวัด อินิก็นั่งรอไปเถอะ พอเค้ามารีบวิ่งไปหาเค้าแล้วเริ่มต้นพูดด้วยบทสนทนาพาซีเรียสว่า "พี่ชอบหนูเหรอ" นางก็หน้านิ่งเลย แต่ตอบเบาๆว่า "อืม" อิหนูนิตาโตเลย "แล้วทำไมไม่จีบ" นางก็บอกว่า "จีบแล้วหนูชอบพี่เหรอ มีแต่คนว่าพี่กินหญ้าอ่อน จะจีบเด็ก จีบคนรุ่นเดียวกับพี่ดีกว่า" ค่ะเรานิไปไม่ถูกเลย ลุคแบบพี่ T ไม่เคยเป็นปกติจะสุภาพ ตลก เวลาพูดชอบเกาหัว แต่มาตอนนี้เมื่อวานเช้านี้เลย นางเอาสองมือล่วงกระเป๋า พูดตาลอยมองบนฟ้ามาดกวนตีนรึคีบลุคว่ะ แต่ดูท่าฝืนมากอ่ะ ...
พี่จ้าแม่จ้า อยากน้ำตาไหลมาก แต่ก็ทำได้แค่ "เหรอ"
เปลี่ยนเรื่องถามนางว่า "แล้วพี่กินข้าวยัง หนูมีโจ๊กกินป่ะ" นางก็บอกว่า"ไม่เป็นไร พี่ไปทำงานต่อก่อนนะ" แล้วเดินจากไป เราทำได้แค่ เออออ!!! ไม่ต้องกินนะ อยากเอาโจ๊กเขวี้ยงหัวมาก กลับมาห้องนิน้ำตาคลอเลย แต่ไม่ค่ะ ไม่ร้อง ไม่ร้องได้ไง... แม่จ๋าาาา หนูรู้สึกดีกับพี่ T แต่นางกับพูดกับหนูแบบนี้ เราควรทำยังไงดี ณ เวลานี้ทำได้แต่นั่งมองหน้าต่างบ้าน พขร.ว่าเค้าจะเปลี่ยนใจเดินมาหามั้ย ก็ไม่ ปกติเดินกลับบ้านพักต้องเปิดหน้าต่างถาม เนี่ยๆๆๆ ยังไม่มีวี่แววเลย... งื้อออ อยากระบาย
จะมาแจ้งความคืยหน้านะ