มหากาพย์การซื้อบ้านกับบ.ซื้อขายบ้านมือสอง ที่เกือบทำให้เป็นไมเกรนเรื้อรัง

เราเพิ่งได้ซื้อบ้านหลังแรกของเรากับบริษัท (ขอไม่เอ่ยชื่อนะคะ กลัวโดนอุ้ม) มาเมื่อต้นปี 2564 ความเจ็บปวดที่ซื้อบ้านจากบริษัทนี้เกิดขึ้นเพราะ 2 สาเหตุ 
1.พนักงานขาย : ไม่มีความรอบคอบด้านเอกสารเลย ผิดพลาดจนถึงวันโอน และบริการหลังการขายอันน่าสยดสยองของเซล 
2.บริการหลังการขาย : แจ้งปัญหาไป ได้รับการแก้ปัญหาที่ช้ามาก นัดไม่เป็นนัด ไม่มีความเป็นมืออาชีพ
 
- นัดดูบ้าน - 
28 พ.ย. 63 : นัดเซลไว้ประมาณ 10 โมง เราไปถึงก่อนเวลา 10 นาที เซลโทรมาว่าสายหน่อยนะคะ สรุปมาเกือบ 11 โมงจ้า คุณแม่หงุดหงิดแล้วว่าทำไมไม่ตรงเวลา เราก็หงุดหงิดนิดหน่อยแต่ไม่เป็นประเด็นอะไร พอดูบ้านก็ถูกใจ คุยกับเซลเรื่องจอง 
 
ที่บ.นี้จะมีการวางเงิน “จองเพื่อยื่นกู้” ความหมายคือ ทางบ.จะช่วยทำเอกสารในการขอกู้ให้ และสามารถจองแบบนี้ได้หลายคน ระหว่างที่เรารอของเราว่าจะผ่านไม่ผ่าน หากมีอีกคนที่จองเหมือนกันยื่นกู้ผ่านก่อน เราชวดบ้านเลยนะ เขาก็จะคืนเงินจองมาให้ 
 
- ขอเอกสารเพื่อยื่นกู้ - 
2 ธ.ค. 63 : ขอเอกสารกับทางเซลเพื่อขอยื่นกู้กับต้นสังกัดของเราซึ่งต้องยื่นไม่เกินวันที่ 15 ไม่งั้นรอไปอีกเดือนนึง โดยต้องใช้ 1. บัตรปชช.ผู้ขาย 2. คู่สมรสผู้ขาย 3. สำเนาทะเบียนบ้านที่จะขาย เซลก็ส่งมาเป็นไฟล์ PDF มาให้ เราก็อุ่นใจยื่นทันแน่ๆ แล้วการยื่นกู้นี้ต้องใช้ 4. เล่มประเมินบ้านด้วย เซลก็บอกว่าเดี๋ยวหนูจัดให้เองพี่ไม่ต้องห่วง เอ้ยดีว่ะ เซลน่ารัก ดูแลดี๊ดี
 
3 ธ.ค. 63 : เพิ่งว่างมาเปิดดูไฟล์ที่เซลส่งมา เจอปัญหาค่ะ สำเนาบัตรมันขีดคร่อมว่าเพื่อตกแต่งซ่อมแซมกับบ. เราก็รีบทักเซลไปว่ามันใช้ไม่ได้โดนเซ็นคร่อม ตอบมาว่า ใช้ไม่ได้จริงๆหรอคะ เขามีเอกสารแค่นี้ .... อืมน้องคะ เขาคร่อมมาตัวเท่าช้าง ให้ปริ๊นไปยื่นจะโดนฟ้องหมดตัวมั้ยเนี่ย ก็เลยยืนยันว่าไม่ได้ เซลบอกเดี๋ยวจะตามให้ 
 
9 ธ.ค. 63 : ทักไปหาเซล บอกว่า อย่าลืม สำเนาบัตรผู้ขาย(3คน) คู่สมรส(2คน) ใบสมรส(2ใบ) พร้อมลงวันที่ด้วยนะคะ ย้ำเลยว่าลงวันที่ด้วยนะคะ (เป็นข้อกำหนดของทางต้นสังกัด) โทรคุยย้ำด้วยอีกรอบ เซลก็ตกปากรับคำอย่างดี 
 
11 ธ.ค. 63 : ทักไปถามเซลว่าได้หรือยัง เอามาให้วันไหนได้ เซลตอบว่าได้ครบแล้ว นัดวันได้เลย เราก็ดีใจมาก จะได้ยื่นซะที จึงนัดเป็นวันที่ 13 
 
13 ธ.ค. 63 : เซลเอาเอกสารมาให้ ปัญหาเกิด เซลเอามาเฉพาะสำเนาบัตรปชช.เฉพาะผู้ขายมา ไม่มีของคู่สมรส! ทะเบียนสมรสก็ไม่มี!! ตอนนั้นคือโกรธนะ เพราะเราย้ำนักย้ำหนาว่าของคู่สมรสมาด้วย แถมที่เอามาให้ ไม่ลงวันที่อีก! แต่ยังเก็บอารมณ์ ไม่อยากต่อว่า เซลก็รีบโทรหาอีกคนว่าขาดเอกสารนะ รีบหน่อยๆ วางสายเซลก็บอกว่า อาจจะไม่ทันนะคะ เพราะว่าคนขายอยู่ต่างจังหวัด ต้องใช้เวลาขอเอกสารนิดนึง กว่าจะส่งมาทางกทม.ก็นาน ในใจคือ อืม.. ก็คือสั่งไปแต่แรกแล้วไง แทนที่จะขอมาแต่แรก นางก็บอกว่าใช้เอกสาร PDF ที่เคยให้ไปได้มั้ยคะ เอาหน้าที่ไม่มีขีดคร่อมไปใช้ ส่วนที่มีขีดคร่อมเขาจะเซ็นส่งมาเป็นรูปแล้วให้เราปริ๊นไปยื่น ตอนนั้นเราก็ใจร้อนอะนะ กลัวจะยื่นไม่ทัน เลยบอกว่าโอเคได้ก็ได้ 
 
14 ธ.ค. 63 : รวบรวมเอกสารทั้งหมด เล่มประเมิน สำเนาบัตรปชชคนขายที่เซลให้ สำเนาบัตรปชชคู่สมรสผู้ขายที่ปริ๊นเอา ทะเบียนสมรสที่ปริ๊นเอา ส่งยื่นกู้ ตรวจแล้วครบ! ยื่นได้ สบายใจ 
 
28 ธ.ค. 63 : ต้นสังกัดแจ้งว่าขาดหนังสือยินยอมคู่สมรส (ทำไมไม่บอกแต่แรกวะว่าต้องใช้ ต้องมาขอเพิ่มอีก -.-) ก็แจ้งเซลไป เซลก็ได้ค่ะๆ เดี๋ยวตามเอกสารให้ 
 
4 ม.ค. 64 : ทวงเซลซ้ำไปอีกรอบ เซลบอกว่า คนขาย3คนอยู่คนละที่ 2คนอยู่ต่างจังหวัด อีกคนอยู่กทม ต้องส่งมาจากตจว.มาให้คนที่อยู่กทม. แล้วคนที่กทม.ถึงจะเอามาส่งให้เซล แล้วเซลถึงจะเอามาให้ มันใช้เวลานิดนึง ก็เซ็งๆว่าแล้วทำไมไม่ส่งตรงมาที่เราเลยวะ จะส่งมาเป็นทอดๆทำไม บอกไปนะว่าส่งมาที่เราเลยก็ได้ค่ะ เขาบอกไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวรวบรวมให้ ตอนนั้นบอกเลยว่าเซ็งและเบื่อมาก ประสาทเริ่มกิน ทั้งจากที่ทำงานและจากเซล หงุดหงิดแต่ก็ทำได้แค่ รอ.... 
 
6 ม.ค 64 : วันนี้คือพีคสุด ยังจำวันที่ 13 ธ.ค. กันได้มั้ย ที่เอกสารไม่ครบแล้วต้องปริ๊น นั่นแหละค่ะ ความมักง่ายของเราและเซลนั้นกลับมาเล่นงานเราแล้ว เขาไม่รับเนื่องจากเป็นการปริ๊นจากรูป แล้วที่พีคไปกว่านั้น คือเอกสารที่เซลเอามาให้เพิ่มทั้งหมด เป็นแบบสำเนาสี! รวมทั้งสัญญาจะซื้อจะขายด้วย!! ต้นสังกัดต้องการเป็นเซ็นสดเท่านั้น สรุปคือเอกสารทั้งหมดเนี่ย โดนตีกลับหมดเลย เราผิดที่มักง่ายปริ๊นไปยื่น เซลก็ดั๊นนนให้มาเป็นสำเนาสีอี๊ก เลยแจ้งเซลกลับไปด้วยความหงุดหงิด เซลก็บอกว่าเดี๋ยวขอให้ใหม่ พร้อมกับหนังสือยินยอมด้วย 
 
11 ม.ค. 64  : เอ๊ะมันชักนาน เซลหายไปหลายวันไม่ติดต่อ เลยทักไป(ด้วยความหงุดหงิด) ว่าให้ทางผู้ขายทั้งหลายเนี่ยส่งเอกสารมาที่เราได้เลยนะ จะได้ไม่ต้องรอนาน ไม่งั้นไม่ได้พิจารณาในรอบนี้แน่ ไปอีกรอบแน่ๆ ทางเซลก็บอกว่ารออีกนิดนะคะ คนที่อยู่ตจว.ส่งเอกสารมาแล้ว เอกสารกำลังเดินทางมา พรุ่งนี้ได้แน่นอน ก็อะ รอ... 
 
12 ม.ค. 64 : เซลมาส่งเอกสาร เห้อ... วันที่ก็ไม่ลง อีกแล้ว ย้ำแล้วย้ำอีกนะ ก็ไม่ลง แถมสัญญากับหนังสือยินยอมก็เซ็นพยานไม่ครบ จะผ่านมั้ยชาตินี้ ทำเอกสารได้ชุ่ยมาก 
 
จุดนี้บอกเลยว่า อยากเปลี่ยนเซลสุดๆ รู้สึกเซลคนนี้ไม่รอบคอบเรื่องเอกสารเลย เราพูดไรไปพิมพ์ไรไปเหมือนอ่านผ่านๆ บอกให้ลงวันที่ ไม่ลง ขอเอกสารตอนแรกย้ำว่ามีนี้ๆๆๆๆ ก็ไม่ครบ คือถ้าไม่ติดว่าอยากได้บ้านนี้จริงๆนะ เทแล้ว แล้วจะรายงานกับบริษัทด้วยว่า ที่ยื่นไม่ผ่านเพราะพนักงานของคุณไร้ความรอบคอบเนี่ยแหละ แต่นะ แถวนี้บ้านที่ถูกใจมันหายาก หามาหลายเดือน ชอบหลังนี้ จะเอา ทนหน่อยนะลูก *ตบบ่าปลอบใจตัวเอง 
 
18 ม.ค. 64 : ต้นสังกัดโทรมา พูดคำแรกว่า “มาเซ็นสัญญาได้เลยจ้า” ตอนนั้นในหัวคือ สัญญาไรวะ ถามไปด้วยความประหม่า ผ่านแล้วหรอคะ ปลายสายตอบมานิ่งๆ “ผ่านแล้วค่ะ” ดีใจมากกกกกกกกก 
 
19 ม.ค. 64 : วางเงินจองเพื่อซื้อ การจองเพื่อซื้อนี้คือเราคนเดียวละ ซื้อแน่ๆละ ใครที่จองกู้ไว้ก่อนหน้านี้ซ้อนกับเรา ถือเป็นโมฆะ ชั้นชนะ!!!! ซึ่งบ้านนี้ มีเราคนเดียวนี่แลที่จองแต่แรก 
 
ทางต้นสังกัดเราก็ให้วันโอนมาเป็นวันที่ 28 ม.ค. เราก็เอาไปแจ้งกับเซล ตกลงกันดิบดี ไม่มีปัญหา และนัดตรวจรับบ้านวันที่ 24 ม.ค. 
 
24 ม.ค. 64 : อันนี้คือความผิดพลาดของเราเอง แทนที่จะโฟกัสที่การตรวจบ้าน เหมือนไปเดินดูว่าจะตกแต่งต่อเติมอะไรเสียมากกว่า คุณพ่อคุณแม่ก็ช่วยตรวจช่วยดู ส่วนใหญ่เจอปัญหาหน้าต่างสนิมกิน ประตูเปิดปิดยาก กำแพงมีรอยร้าว มีช่องว่างของหน้าต่างบานเลื่อน แจ้งเซลไปตามรายการที่พบ รอเก็บงานดังกล่าว 
ช่วงเย็นนี้ก็มีญาติโทรมาว่าตรวจให้ละเอียดเลยนะ ตรวจเยอะมั้ย ก็ตอบไปตามตรงว่า ตรวจไม่ละเอียดเท่าไรนัก ญาติก็บอกว่า ไปตรวจใหม่นะ เอาให้ละเอียด เพราะถ้าโอนแล้วมันตามงานยากมากนะ เราก็ด้วยความขี้เกียจอะเนาะ อีกแค่ 4 วันจะโอน มันไม่มีเวลา ก็เลยไม่ได้ไปตรวจซ้ำ คิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วล่ะ 
 
- โอนบ้าน -
- วันโอนบ้านแล้ว เซลโทรมาแต่เช้าถามหาหนังสือยินยอม ก็ยังนึกอยู่ว่า แล้วทำไมแกไม่ขอคนขายมาเผื่อตั้งแต่แรก เราขอมายื่นกู้ ทำไมคุณไม่ขอเพื่อเตรียมโอนเผื่อด้วย แต่ก็ด้วยความเข้าใจผิดของตัวเอง คิดว่าทางต้นสังกัดจะเอาเอกสารที่ยื่นกู้ไปด้วย ก็เลยโอเคๆเดี๋ยวเอาไปเอง 
- พอไปถึงที่ที่ดิน ระหว่างรอพนักงานบ.ที่มาช่วยเรื่องโอน ต้นสังกัดที่มาด้วยไม่มีหนังสือยินยอมจ่ะ ทางผู้ขายก็ไม่มีเหมือนกัน พี่ที่ไปด้วยกันก็ต้องขับรถกลับไปที่ทำงานเพื่อหาเอกสารมาให้
- พอมาถึงเราก็รีบเอามาให้ พนง.ช่วยโอนบอก ไม่ต้องแล้ว ผู้ขายเขียนเอง เราก็แบบ เอ้าละให้กลับไปเอาเพื่อออออออ หงุดหงิดนิดหน่อย แต่เออเราผิดเองแหละ ที่เราไม่เอามาแต่แรก ก็จบไปเรื่องหนังสือยินยอม
- ผ่านไปชั่วโมงกว่าเซลเพิ่งมา ในใจคือไม่อยากเจอเซลแล้ว เบื่อมาก แต่ก็ไม่พูดไม่โวยวายอะไร เซลขอให้รีวิวด้วยนะ เราก็อะโอเค ด้วยความน้องเขามายืนดูเรารีวิว เลยบอกไปว่า อะจะให้พิมพ์อะไรบอกมาเลย ฉันพูดไม่เก่ง นางก็บอกเขียนว่า เซลช่วยเหลือทุกเรื่องดีมากเลยค่ะ ประทับใจมาก อะไรแถวๆนี้ เราก็โอเค กดส่งไป
- พอถึงตอนที่เราต้องไปเซ็นหนังสือสัญญาขาย เราก็เซ็นๆไม่ได้อ่านอะไร นึกมาเอะใจอะไรไม่รู้ ลองอ่านดีกว่า นี่คือจุดแตกหัก ที่เรารู้สึกแย่กับเซลคนนี้มากๆ คือ ยอดเงินที่เขียนในสัญญา ไม่ตรงกับยอดเงินที่ตกลงกันไว้! (เกินมาแสนบาท) ทางพนง.ช่วยโอนเขาก็ยืนยันว่ายอดนี้จริงๆ เรานี่ขึ้นเลย โวยวายไปเรียกเซลมาคุย เอาสัญญามาเปิดดูเลยว่าเขียนไว้ว่าเท่าไหร่ แล้วนี่ยอดอะไรเกินมาแสนนึง ทำงานกันยังไง ไม่ยอมเด็ดขาด! เพราะอะไรถึงต้องเล่นใหญ่คะ เพราะถ้าเป็นยอดนั้นก็ต้องจ่ายส่วนต่างเองไง เซลก็โทรไปเคลียกับบัญชี 10 นาทีกว่าผ่านไป เซลก็บอกว่าผิดจริง ให้ใส่ยอดตามราคาบ้านตามนี้ เราก็อะโอเค เซ็นสัญญาไปให้เรียบร้อย 
- ในใจนี่คือเดือดดาลมากนะ ว่านี่เซลแกจะทำงานสะเพร่าจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยเหรอ นี่จะโอนแล้วยังทำงานไม่ได้เรื่องอยู่อีก ปวดตับมาก แต่ก็เบื่อจะคุยแล้ว ขอจบกันกับเซลและบ.เพียงเท่านี้
- ตอนกลับบ้านมาก็มานั่งหงุดหงิดว่าทำไมบ.ห่วยแบบนี้ จนนึกได้ว่า เขียนรีวิวไว้นี่หว่าาาา ด้วยความหงุดหงิด จึงเข้าไปแก้รีวิวจ้า ว่าตลอด 2 เดือนเต็มเซลแย่แค่ไหน ขอให้ปรับปรุงด้วย กด submit ไปด้วยความสบายใจว่าได้ด่าแล้ว

ต่อในเม้น 1 เลยค่ะ มันยังไม่จบเพียงเท่านี้

----------------------------

แก้ไข : ขอลบชื่อย่อที่ได้เอ่ยถึงบริษัทนี้ค่ะ เนื่องจากกลัวเป็นปัญหาในอนาคต
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่