วิธีการเลิกยาเสพติดด้วยตนเอง

กระทู้สนทนา
เป็นแค่แนวความคิดเมื่อเราอยากจะเลิกยาเสพติด(สำหรับคนที่อาการไม่หนักเกินไป ยังสามารถคิดแยกแยะเหตุผลได้)คิดอย่างไรให้สามารถเลิกยาได้

1.หันหน้าเข้าหาครอบครัวให้มากขึ้น  ถ้าจะเลิกยาคนที่เราจะบอกเป็นอันดับแรกคือพ่อแม่จะดีที่สุด  ความรักจากพ่อแม่ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกติดยา ความรักครอบครัว สถาบันครอบครัว จะช่วยเยียวยาจิตใจของเราได้ ถ้ามีความพร้อมเรื่องเวลาก็สามารถเข้าค่ายไปบำบัดได้ หรือจะบำบัดเองก็ได้ ครอบครัวต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด สร้างความเชื่อมั่นว่าสามารถทำได้อย่างแนนอนอย่าพูดประชด ดุด่า บั่นทอนกำลังใจ
2.บอกคนรอบตัว(เพื่อน,แฟน,คนสนิท) ว่าต้องการเลิกยาเสพติด เล่าเรื่องให้ฟัง คนรอบข้างต้องเข้าใจในเหตุผลด้วยกันทั้งสองฝ่าย ถ้าคนรอบตัวไม่ร่วมมือจะเป็นการยากที่จะเลิกเช่นกัน ที่สำคัญคนรอบตัวต้องพูดให้กำลังใจ ห้ามพูดบั่นทอน
หรือเอาคนติดยาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นว่าแย่มากแค่ไหน มันจะทำให้คนติดยาเครียดมากและรู้สึกหมดหวังในกลุ่มเพื่อนที่เสพยาด้วยกันให้เราบอกเขาว่าเราจะเลิกเพื่อเหตุผลใดๆก็ว่าไปเช่น จะต้องไปทำงาน จะมีครอบครัว จึงตัดสินใจเลิกไม่มีเวลาว่าง เหมือนเก่า เพื่อนที่ดีจะเข้าใจเรา หากเขาพยายามชักชวนเราไม่ยอมเข้าใจเรา ให้เลิกคบไปเลยครับเสียเวลา
3.ออกจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆที่นำไปสู่ความรู้สึกอยากกลับไปเสพ สถานที่เสพ เลิกพฤติกรรมที่นำพาไปสู่การใช้ยาเสพติด เพราะคนติดยามักหาเหตุผลให้ตนเองเพื่อใช้งานให้จนได้  เช่นก่อนจะใช้สารเสพติดเราจะกระทำกิจกรรมใดใดก่อนจากนั้นจึงเสพ ยกตัวอย่างเช่น เวลาจะทำงาน,สังสรรค์ปาร์ตี้,เวลาดื่มเหล้า ดังนั้นไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไร เราควรงดกิจกรรมเสี่ยงพวกนี้ไปก่อนจนกว่าร่างกายเราจะเริ่มปรับตัวได้ เมื่อปรับตัวได้เราจะมีสำนึกที่ดีเวลาจะทำอะไรเราจะเลือกตัดสินใจได้ไม่เป็นทาสของสารเสพติด(ถ้าถามว่าเมื่อไหร่จึงจะปรับตัวได้ก็คือเมื่อตอนที่คุณไม่มีความคิดอยากจะใช้มันอีกอาจจะใช้เวลามากกว่า6เดือนแล้วแต่กรณี ) สำหรับสถานการณ์ที่มีโอกาสใช้ยาสูงควรเลิกขาดไปเลยจะดีที่สุด
4.ตั้งใจให้แน่วแน่(มีความตั้งใจว่าจะเลิกยา) ย้ำต้องแน่วแน่ไม่ใช่แค่ปากพูดว่าวันนี้แค่นี้พอ วันหลังค่อยว่ากัน(ลักษณะนี้คือยังตัดไม่ขาด) หาเหตุผลในการที่เราจะอยากเลิกจริงๆ ในกลุ่มผู้เสพด้วยกันมักจะมีประโยคที่ว่า "ของแบบนี้เลิกได้ไม่ได้อยุ่ที่ใจ"ข้อเท็จจริงก็อยู่ที่ใจจริงๆแค่ลำพัง ความอดทน อดกลั้นอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ การหาเหตุผลในการเลิกยาคือสิ่งคัญอย่างเมื่อมีเหตุผลที่ดีเราจะมีข้อผูกมัด เราจะเริ่มคิดได้ เช่นเคยเสพยาแล้วไปทำร้ายคนในครอบครัว เมื่อรู้ว่ามีความเสี่ยง ความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นมาแล้ว เราจะเริ่มตระหนักรับรู้ขึ้นมา(ต้องมีความคิดอยากเลิกจริงๆควบคู่ด้วย)
*เวลาว่างให้หากิจกรรมอื่นๆทำ เล่นเกมส์ เล่นกีฬา หรือทำไรก็ได้ที่ไม่ใช่มั่วสุมเล่นยาเสพติด เพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่าน ว่างจนเกินไป *
5.ให้เราคิดให้ดี เราเล่นมานานรู้สึกอิ่มตัวแล้วไม่มีความสุข
ไม่สนุกเหมือนช่วงแรกๆอีกต่อไปจึงควรเลิกการพยายามเล่นต่อจะมีแต่ส่งผลร้ายแบบไม่มีวันจบสิ้น,เสียเวลา,สิ้นเปลืองเงินที่เราเสียไปจากเรื่องพวกนัมันมากแค่ไหนแล้ว มันควรจะหยุดได้แล้ว  เวลาเหล่านี้เอาไปทำอย่างอื่น เงินทองเอาไปใช้ในสิ่งที่คุ้มค่า เงินที่เสียไปกับของพวกนี้นำไปใช้ประโยชน์ให้ตนเองได้มากมาย 
* ช่วงระหว่างขาดยาจนถึงเลิกยา- มักจะมีอาการแย่อยากจนทนไม่ไหวและทรมานอย่างมาก เพราะสมองเราจะให้เราไปหามาเวลาเรานึกถึงมากๆ
  การรักษาขึ้นอยู่กับอาการแสดงออกมา ปกติถ้าการติดยาอยู่ในระดับที่เรางดเสพทั่วไปได้อย่างปกติ (ไม่ได้เสพทุกวัน เช่น สัปดาห์ละหน เดือนละสามครั้ง อันนี้คือระดับที้เราควบคุมได้การเลิกก็สามารถหักดิบได้หากไม่หักดิบจะทำให้ต้องกลับไปเสพประปรายไปเรื่อยๆกลายเป็นเลิกไม่ได้สักที)
ข้อควรระวังคือสำหรับคนที่เสพยามาเป็นเวลานานการหักดิบไปเลยจะมีอาการข้างเคียงอันตราย เช่น หน้ามืดปวดหัวมากผิดปกติ  ใจสั่น นอนไม่หลับ  ปวดเมื่อยตัวปวดกระดูกตลอดเวลานั้นควรพบแพทย์ช่วยประเมินบอกไปว่าเราเสพปริมาณวันเท่าใด เขาจะจ่ายยามาให้ตามระดับอาการมียาช่วยเลิก,ยาบรรเทาอาการความอยาก,แก้ปวดหัว/ยานอนหลับ ให่เรากิน อาการอยากยาของเราจะลดลงเรื่อยไปตามการรักษา จนเราเริ่มดีขึ้นพอดีขึ้นจนถึงขั้นงดเสพได้ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เราต้องพักฟื้นเราต้องเผชิญอยู่กับความย่ำแย่ของจิตใจและร่างกาย ต้องผ่านมันไปให้ได้ช่วงนี้จะยากมากที่สุด มีโอกาสกลับไปเสพซ้ำ เพราะเราจะมีอาการเศร้า หดหู่ หาความสุขได้ยาก ทำอะไรก็ไม่มีความสุขเท่าเสพยาเลย เบื่อ เครียด อยากเก็บตัว ไม่อยากเจอคน ไม่อยากทำอะไรเลย  ความเสียหายของสมองจะค่อยๆฟื้นฟูไปเรื่อยๆ ตามระยะเวลา ช่วง3เดือนแรกจะแทบทนไม่ไหว (ของผมช่วงนี้คือเก็บตัวไม่เจอคนนอกเลย แม้แต่เพื่อนที่สนิทก็ตาม รู้สึกเศร้าไม่มี ความสุขอย่างมาก เลยเก็บตัว)หลังพ้นสามเดือนแรกจิตใจเราจะยังคงนึกถึงกลื่นอายของสารเสพติด รสชาติ ความสนุก บรรยากาศ อยู่เรื่อยๆถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเรากำลังฟื้นฟูสภาพสมอง มันกำลังดีขึ้น ระยะเวลายิ่งนานยิ่งจะทำให้เราดีขึ้น
เราต้องเชื่อมั่นเราสามารถทำได้ (ของผมตอนหลังสามเดือนแรกเริ่มปกติ ปฏิสัมพันธ์พูดคุยมากขึ้น เวลาว่าง ระหว่างนี้ก้หาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อยอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องมาเสพยา  จงเชื่อมั่นว่าเมื่อผ่านไปแต่ละช่วงเวลามันเกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับความคิดเราจริงๆ เราจะเริ่มคิดได้มาก นำไปสู่การเลิกยาได้จริงๆต้องใช้เวลาอย่างต่ำ2ปีถึง5ปีก็จะปกติแล้วแต่คน บางคนสองปีก็กลับมาปกติ(ความเสียหายของยาเสพติดบางประเภทมันทำลายสมองด้านความคิด ความจำ ต่อให้ฟื้นฟูจนสามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้แต่อาจจะมีบางแห่งที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อันนี้ต้องทำใจ เพราะเราเลือกที่ใช้มันเอง)
  
  เหตุผลในข้อ3,4 สำคัญมากเพื่อป้องการมิให้เกิดการกลับไปเสพซ้ำ (Relapse prevention)  ความคิดความอยากที่เกิดขึ้นในสมองหากเคยเสพมาหลายปี นั่นหมายถึงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะฟื้นฟูสภาพสมองให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ หากกลับไปเสพซ้ำถือว่าความพยายามมาทั้งหมด สูญเปล่า ดังนั้นต้องจิตใจแน่วแน่เด็ดขาด หากไม่อยากเริ่มใหม่อีก ให้คิดเสมอว่าเราเลิกได้มาเป็นปีแล้วอย่ากลับไปเสพเลย นึกถึงช่วงเลิกแรกๆ ความสุขที่หายไป กว่าจะฟื้นสู่สภาวะปกติได้ เพื่อตนเอง  สุดท้ายหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนอยากเลิกยาเสพติด ส่วนตัวผมเคยติดมาประมาณเกือบ4ปีตอนติดคือเสพทุกวันขาดไม่ได้ปัจจุบันนั้นเลิกมาได้3ปีแล้ว  เลยอยากจะมาแชร์ความคิดที่ทำให้ทุกวันนี้ไม่อยากกลับไปยุ่งกับยาเสพติด  *การฝึกความคิดของตนเองเป็นสิ่งสำคัญ รู้จักยับยั้งชั่งใจตน อย่าหลอกตัวเองว่ามันอดไม่ไหว มันขาดไม่ได้  จะเห็นว่ามีคนบำบัดแล้วกลับออกมาติดยาอยู่ เราต้องมีเป้าหมายชัดเจนว่าเราต้องการทำอะไรให้สำเร็จ ไม่หวนกลับไปอีก จำไว้ว่ามันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง หากเราไม่ฝึกฝนให้ดีพอเราจะวนกลับไปอยู่กับวงจรชีวิตแบบเดิมๆไม่มีวันออกมาได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่