เนื่องจากช่วงนี้กระแสซีรี่ย์ The lord of the ring มาแรง(แม้ด้านลบก็เถอะ555) ผมเลยอยากจะนำเสนอบทความที่ผมเคยลงในอีกเว็บบอร์ดนึงมาลง โดยบทความในวันนี้ที่จะนำเสนอคือ สุดยอดเอลฟ์ ที่มีบทบาทใน มิดเดิ้ลเอิร์ธทั้ง3ยุคที่ผ่านมา(ส่วนใหญ่จะเป็นยุคแรกซะมากกว่า)
ดังนั้นเอลฟ์ที่ทรงปัญญาอย่าง วันยาร์จะไม่มีชื่อซักคน เพราะหลังจากที่ข้ามฟากไปยังวาลินอร์ พวกเขาไม่กลับมามิดเดิ้ลเอิร์ธเลย
(จนศึกสุดท้ายถึงจะมาช่วยตบเกรียนบอส) ดังนั้นผมจะเกริ่น ประวัติคร่าวๆก่อนนะครับว่า เอลฟ์นั้นแบ่งเป็นพวกไหนบ้างแบบรวบรัด
ซึ่งในการจัดอันดับครั้งนี้นั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวโดยแต่ละอันดับวัดจากหลายๆองค์ประกอบรวมกัน
เพื่อเพิ่มความอินเปิด sound นี้ฟังไปด้วยจะได้อรรถรสยิ่งขึ้น

เอลฟ์เกิดจากการสร้างขององค์เอรูหรือ อิลูวาทาร์(พระเจ้า)โดยที่เอลฟ์ได้ตื่นขึ้นมา 6คู่ และแต่ละคู่ก็ไปพบเอลฟ์ที่เจอและจัดตั้งกลุ่มของตนเอง กลุ่มแรกมีน้อยสุดแค่ 14คนต่อมาคือเอลฟ์วันยาร์ กลุ่มที่2 มี56คนต่อมาคือเอลฟ์โนลดอร์ กลุ่มสุดท้ายมีมากสุดคือ74คนต่อมาคือชาวเทเลริ ภายหลังเทพต้องการให้เอลฟ์ย้ายไปอยู่ใกล้เทพ เพื่อเลี่ยงถูกเมลเคอร์จับไปทรมาน จึงได้เชิญผู้นำแต่ละกลุ่มไปคือ อิงเว ฟินเว เอลเวให้ไปได้เห็นก่อนจากนั้นจึงมาชวนพวกที่เหลือให้เดินทางไป ซึ่งการเดินทางนี่แหละเป็นอีกหนึ่งการแบ่งแยกเอลฟ์ คือพวกที่เลือกเดินทางคือพวกเอลดาร์ส่วนที่ไม่ไปคือพวกอวาริ หรือเอลฟ์ซิลวัน ซึ่งพวกวันยาร์และโนลดอร์ทั้งหมดนั้นได้เดินทางไปถึงวาลินอร์(ดินแดนเทพ) ส่วนพวกเทเลรินั้นแบ่งเป็น2กลุ่ม กลุ่มนึงตามหาผู้นำของตนคือเอลเวหรือธิงโกล(กลุ่มนี้ต่อมาคือพวกซินดาร์)ที่หายไประหว่างการเดินทาง กับอีกกลุ่มที่เดินทางไปจนถึงวาลินอร์(กลุ่มนี้ให้โอลเวน้องชายของเอลเวขึ้นมาเป็นผู้นำชาวเทเลริแทน)พวกที่ไปถึงนั้นล้วนเป็นไฮฟ์เอลฟ์ที่ทรงภูมิปัญญาเหนือกว่าพวกที่ไม่ได้ไปในทุกๆด้านเพราะแสงแห่งทวิพฤกษา ส่วนพวกซินดาร์นั้นแม้ไม่ได้ไปแต่สติปัญญาและการต่อสู้เหนือกว่าพวกอื่นเพราะได้เห็นแสงต้นทวิพฤกษาผ่านเทพีเมลิอัน(เป็นเทพไมอาร์)บวกกับที่ราชาของตนได้เคยไปถึงวาลินอร์มาแล้ว จากนั้นเกิดเหตุการต่างๆมากมาย เมลคอร์หนึ่งในเทพวาลาร์ก่อกบฎขโมยดวงแก้วซิลมาริลมายังมิดเดิ้ลเอิร์ธ จนพวกโนลดอร์ต้องกลับมามิดเดิ้ลเอิร์ธอีกครั้งนึงเพื่อจัดการเมลคอร์

เกริ่นมายาวพอสมควรที่จริงรายละเอียดเยอะกว่านี้มากแต่เดี๋ยวจะยาวเกินไปมาเข้าเรื่องเลยดีกว่า ว่า Partแรก มีใครบ้าง
10.ลอร์ดเอลรอลด์

เปิดมาที่คนแรกเลยก็คือ ลอร์ดเอลรอลด์ผู้พิทักษ์แห่ง ริเวนเดลล์ มีบทบาทมากในยุคที่2และ3ยุคที่เซารอนครองอำนาจ ต้องบอกก่อนเลยว่าต้นกำเนิดของแกนั้นเรียกได้ว่าไม่ธรรมดา เพราะมีสายเลือดของเอลฟ์ทั้ง3เผ่าอย่างวันยาร์ โนลดอร์และเทเลริ(ซินดาร์) รวมไปถึงเทพ(เทพีเมลิอันเป็นเทพไมอาร์)
และมนุษย์ทั้งปู่อย่างทูออร์ และฝั่งแม่ก็มีเบเรน(เรียกทวดคงได้แหละ555)ที่เป็นมนุษย์อีกด้วย เอลรอลด์นั้นเป็นบุตรของ เออาเรนดิลกับเอลวิง และมีพี่ชายคือเอลรอสซึ่งตระกูลของเขาสามารถเลือกได้ที่จะเป็นเอลฟ์หรือมนุษย์ ตัวเอลรอลด์เลือกที่จะเป็นเอลฟ์ ส่วนพี่ชายเอลรอสเลือกเป็นมนุษย์และได้เป็นต้นกำเนิดราชาแห่งนูเมนอร์อันยิ่งใหญ่
หลังจากที่จบยุคที่1นั้นเอลรอลด์ได้มาอยู่กับกิล-กาลัดจอมกษัตริย์โนลดอร์คนสุดท้ายที่ลินดอน และมีส่วนสำคัญอย่างมากในการต่อต้านเซารอน ในยุคที่2 เพราะหลังจากที่เซารอนล่อวงให้ เคเลบริมบอร์สร้างแหวนทั้งหลายแต่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายแอบสร้างแหวนเอลฟ์จึงได้มาถล่ม เอเรกิออน กิลกาลัดและเอลรอลด์จึงได้ยกทัพนำมาช่วย แต่ก็สายไปซะแล้ว เอเรกิออนแตก แต่เอลรอลด์ตีฝ่าออกได้และได้มาตั้งหลักที่ อิมลาดิส(ริเวลเดลล์)ใช้เป็นที่หลบภัยในช่วงแรก ภายหลังกองทัพชาวนูเมนอร์มาเสริมทำให้เซารอนต้องล่าถอยไป และเอลรอลด์ก็ลงหลักปักฐานอยู่ยาวมาตลอด
ต่อมาก็จะเป็นเหตุการต้นเรื่องของเดอะ ลอร์ดนั่นแหละสงครามพันธมิตรครั้งสุดท้าย โดยในศึกนี้เขาได้รบเคียงข้างกับกิลกาลัดและเคียร์ดัน(นักต่อเรือ)ในการสู้กับเซารอน แม้สุดท้ายอิซิลดูร์จะสามารถตัดแหวนเซารอนจากมือได้ แต่ความสูญเสียของทั้งสองฝั่งก็มากเช่นกันกิลลาลัดผู้นำเอลฟ์ในสงคราม จอมกษัตริย์โนลดอร์คนสุดท้ายและเอเลนดิลผู้นำของมนุษย์ได้เสียชีวิตจากศึกนี้ แต่เงามืดก็ไม่ได้หายไปเพียงแต่แอบไปหลบซ่อนรอวันกลับมาอยู่ก็เท่านั้นและเป็นการสิ้นสุดยุคที่2


ในยุคที่3นี้เอลรอลด์มีส่วนในการช่วยให้คนแคระรู้ถึงการเปิดประตูสู่เอเรบอร์เพื่อยึดมันคืนจากมังกรสม็อกเพราะช่วยไขปริศนาจากภาษาโบราณด้วยการบอกวันดูรินให้ทราบ

และมีส่วนช่วยขับไล่เนโครมันเซอร์(เซรอน)ออกจากป้อมโดลกุลดูร์ด้วย

ต่อมาก็ให้การรักษาไม่สิต้องบอกว่าเยียวยาบาดแผลของโฟรโดที่ถูกนาซกูลแทงด้วยดาบมอร์กูล ภายหลังจบสงครามที่เซารอนพ่ายแพ้(อย่างถาวร)ก็ได้แล่นเรือกลับวาลินอร์

เอลรอลด์ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาขาวหรือว่าพวกผู้มีอำนาจในยุคที่3นั่นแหละครับ อีกทั้งยังได้รับมอบแหวนวิลย่า(แหวนลม)จากกิลกาลัด
โดยแกมีชื่อเสียงในฐานะครูตำนานเพราะแกถือว่ารอบรู้รอบด้านมากที่สุดคนนึง บวกกับเป็นทั้งหมอและนักรบที่เก่งมากๆ


ชีวิตส่วนตัวนั้นภรรยาแกคือ เคเลเบรียนลูกของเลดี้ กาลาเดรียลกับลอร์ด เคเลบอร์น มีบุตรชายฝาแฝดคือ เอลลาดาน และ เอลโรเฮียร์ กับบุตรสาวคนสุดท้องคือ อาร์เวน อุนโดเมียล และได้เลี้ยงดูเชื้อสายของ อิซิลดูร์ กษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักร กอนดอร์ และเป็นทายาทเพียงผู้เดียวที่หลงเหลืออยู่ อย่าง อารากอนที่ต่อมาจะหลอมรวมกอนดอร์และอานอร์ให้เป็นหนึ่งอีกครั้ง



อย่างที่ได้กล่าวไปพอจบสงครามเอลรอลด์ได้ส่งตัวลูกสาว อย่างอาร์เวนและมอบคทาแห่งอันนูมินาสแก่อารากอน

ก่อนที่เอลรอลด์จะข้ามฟากไปยังวาลินอร์เป็นอันสิ้นสุดยุคที่3ไป

ต้องบอกก่อนว่า ในอันดับนี้นั้นมีคนอื่นอีกหลายคนที่สมควรได้มากกว่าแต่ด้วยวีรกรรมและสายเลือดของเออาเรนดิลบวกกับบทบาทต่างๆ รวมถึงให้คนที่ไม่เคยอ่านซิลมาริลจะได้เข้าถึงตัวละครอื่นจากนิยายง่ายขึ้นด้วยผมเลยขอจัดแกเปิดหัวเอาไว้
จัดอันดับ Top 10 เอลฟ์ในประวัติศาสตร์Middle-earth Part1
ดังนั้นเอลฟ์ที่ทรงปัญญาอย่าง วันยาร์จะไม่มีชื่อซักคน เพราะหลังจากที่ข้ามฟากไปยังวาลินอร์ พวกเขาไม่กลับมามิดเดิ้ลเอิร์ธเลย
(จนศึกสุดท้ายถึงจะมาช่วยตบเกรียนบอส) ดังนั้นผมจะเกริ่น ประวัติคร่าวๆก่อนนะครับว่า เอลฟ์นั้นแบ่งเป็นพวกไหนบ้างแบบรวบรัด
ซึ่งในการจัดอันดับครั้งนี้นั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวโดยแต่ละอันดับวัดจากหลายๆองค์ประกอบรวมกัน
เพื่อเพิ่มความอินเปิด sound นี้ฟังไปด้วยจะได้อรรถรสยิ่งขึ้น
เอลฟ์เกิดจากการสร้างขององค์เอรูหรือ อิลูวาทาร์(พระเจ้า)โดยที่เอลฟ์ได้ตื่นขึ้นมา 6คู่ และแต่ละคู่ก็ไปพบเอลฟ์ที่เจอและจัดตั้งกลุ่มของตนเอง กลุ่มแรกมีน้อยสุดแค่ 14คนต่อมาคือเอลฟ์วันยาร์ กลุ่มที่2 มี56คนต่อมาคือเอลฟ์โนลดอร์ กลุ่มสุดท้ายมีมากสุดคือ74คนต่อมาคือชาวเทเลริ ภายหลังเทพต้องการให้เอลฟ์ย้ายไปอยู่ใกล้เทพ เพื่อเลี่ยงถูกเมลเคอร์จับไปทรมาน จึงได้เชิญผู้นำแต่ละกลุ่มไปคือ อิงเว ฟินเว เอลเวให้ไปได้เห็นก่อนจากนั้นจึงมาชวนพวกที่เหลือให้เดินทางไป ซึ่งการเดินทางนี่แหละเป็นอีกหนึ่งการแบ่งแยกเอลฟ์ คือพวกที่เลือกเดินทางคือพวกเอลดาร์ส่วนที่ไม่ไปคือพวกอวาริ หรือเอลฟ์ซิลวัน ซึ่งพวกวันยาร์และโนลดอร์ทั้งหมดนั้นได้เดินทางไปถึงวาลินอร์(ดินแดนเทพ) ส่วนพวกเทเลรินั้นแบ่งเป็น2กลุ่ม กลุ่มนึงตามหาผู้นำของตนคือเอลเวหรือธิงโกล(กลุ่มนี้ต่อมาคือพวกซินดาร์)ที่หายไประหว่างการเดินทาง กับอีกกลุ่มที่เดินทางไปจนถึงวาลินอร์(กลุ่มนี้ให้โอลเวน้องชายของเอลเวขึ้นมาเป็นผู้นำชาวเทเลริแทน)พวกที่ไปถึงนั้นล้วนเป็นไฮฟ์เอลฟ์ที่ทรงภูมิปัญญาเหนือกว่าพวกที่ไม่ได้ไปในทุกๆด้านเพราะแสงแห่งทวิพฤกษา ส่วนพวกซินดาร์นั้นแม้ไม่ได้ไปแต่สติปัญญาและการต่อสู้เหนือกว่าพวกอื่นเพราะได้เห็นแสงต้นทวิพฤกษาผ่านเทพีเมลิอัน(เป็นเทพไมอาร์)บวกกับที่ราชาของตนได้เคยไปถึงวาลินอร์มาแล้ว จากนั้นเกิดเหตุการต่างๆมากมาย เมลคอร์หนึ่งในเทพวาลาร์ก่อกบฎขโมยดวงแก้วซิลมาริลมายังมิดเดิ้ลเอิร์ธ จนพวกโนลดอร์ต้องกลับมามิดเดิ้ลเอิร์ธอีกครั้งนึงเพื่อจัดการเมลคอร์
เกริ่นมายาวพอสมควรที่จริงรายละเอียดเยอะกว่านี้มากแต่เดี๋ยวจะยาวเกินไปมาเข้าเรื่องเลยดีกว่า ว่า Partแรก มีใครบ้าง
10.ลอร์ดเอลรอลด์
เปิดมาที่คนแรกเลยก็คือ ลอร์ดเอลรอลด์ผู้พิทักษ์แห่ง ริเวนเดลล์ มีบทบาทมากในยุคที่2และ3ยุคที่เซารอนครองอำนาจ ต้องบอกก่อนเลยว่าต้นกำเนิดของแกนั้นเรียกได้ว่าไม่ธรรมดา เพราะมีสายเลือดของเอลฟ์ทั้ง3เผ่าอย่างวันยาร์ โนลดอร์และเทเลริ(ซินดาร์) รวมไปถึงเทพ(เทพีเมลิอันเป็นเทพไมอาร์)
และมนุษย์ทั้งปู่อย่างทูออร์ และฝั่งแม่ก็มีเบเรน(เรียกทวดคงได้แหละ555)ที่เป็นมนุษย์อีกด้วย เอลรอลด์นั้นเป็นบุตรของ เออาเรนดิลกับเอลวิง และมีพี่ชายคือเอลรอสซึ่งตระกูลของเขาสามารถเลือกได้ที่จะเป็นเอลฟ์หรือมนุษย์ ตัวเอลรอลด์เลือกที่จะเป็นเอลฟ์ ส่วนพี่ชายเอลรอสเลือกเป็นมนุษย์และได้เป็นต้นกำเนิดราชาแห่งนูเมนอร์อันยิ่งใหญ่
หลังจากที่จบยุคที่1นั้นเอลรอลด์ได้มาอยู่กับกิล-กาลัดจอมกษัตริย์โนลดอร์คนสุดท้ายที่ลินดอน และมีส่วนสำคัญอย่างมากในการต่อต้านเซารอน ในยุคที่2 เพราะหลังจากที่เซารอนล่อวงให้ เคเลบริมบอร์สร้างแหวนทั้งหลายแต่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายแอบสร้างแหวนเอลฟ์จึงได้มาถล่ม เอเรกิออน กิลกาลัดและเอลรอลด์จึงได้ยกทัพนำมาช่วย แต่ก็สายไปซะแล้ว เอเรกิออนแตก แต่เอลรอลด์ตีฝ่าออกได้และได้มาตั้งหลักที่ อิมลาดิส(ริเวลเดลล์)ใช้เป็นที่หลบภัยในช่วงแรก ภายหลังกองทัพชาวนูเมนอร์มาเสริมทำให้เซารอนต้องล่าถอยไป และเอลรอลด์ก็ลงหลักปักฐานอยู่ยาวมาตลอด
ต่อมาก็จะเป็นเหตุการต้นเรื่องของเดอะ ลอร์ดนั่นแหละสงครามพันธมิตรครั้งสุดท้าย โดยในศึกนี้เขาได้รบเคียงข้างกับกิลกาลัดและเคียร์ดัน(นักต่อเรือ)ในการสู้กับเซารอน แม้สุดท้ายอิซิลดูร์จะสามารถตัดแหวนเซารอนจากมือได้ แต่ความสูญเสียของทั้งสองฝั่งก็มากเช่นกันกิลลาลัดผู้นำเอลฟ์ในสงคราม จอมกษัตริย์โนลดอร์คนสุดท้ายและเอเลนดิลผู้นำของมนุษย์ได้เสียชีวิตจากศึกนี้ แต่เงามืดก็ไม่ได้หายไปเพียงแต่แอบไปหลบซ่อนรอวันกลับมาอยู่ก็เท่านั้นและเป็นการสิ้นสุดยุคที่2
ในยุคที่3นี้เอลรอลด์มีส่วนในการช่วยให้คนแคระรู้ถึงการเปิดประตูสู่เอเรบอร์เพื่อยึดมันคืนจากมังกรสม็อกเพราะช่วยไขปริศนาจากภาษาโบราณด้วยการบอกวันดูรินให้ทราบ
และมีส่วนช่วยขับไล่เนโครมันเซอร์(เซรอน)ออกจากป้อมโดลกุลดูร์ด้วย
ต่อมาก็ให้การรักษาไม่สิต้องบอกว่าเยียวยาบาดแผลของโฟรโดที่ถูกนาซกูลแทงด้วยดาบมอร์กูล ภายหลังจบสงครามที่เซารอนพ่ายแพ้(อย่างถาวร)ก็ได้แล่นเรือกลับวาลินอร์
เอลรอลด์ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาขาวหรือว่าพวกผู้มีอำนาจในยุคที่3นั่นแหละครับ อีกทั้งยังได้รับมอบแหวนวิลย่า(แหวนลม)จากกิลกาลัด
โดยแกมีชื่อเสียงในฐานะครูตำนานเพราะแกถือว่ารอบรู้รอบด้านมากที่สุดคนนึง บวกกับเป็นทั้งหมอและนักรบที่เก่งมากๆ
ชีวิตส่วนตัวนั้นภรรยาแกคือ เคเลเบรียนลูกของเลดี้ กาลาเดรียลกับลอร์ด เคเลบอร์น มีบุตรชายฝาแฝดคือ เอลลาดาน และ เอลโรเฮียร์ กับบุตรสาวคนสุดท้องคือ อาร์เวน อุนโดเมียล และได้เลี้ยงดูเชื้อสายของ อิซิลดูร์ กษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักร กอนดอร์ และเป็นทายาทเพียงผู้เดียวที่หลงเหลืออยู่ อย่าง อารากอนที่ต่อมาจะหลอมรวมกอนดอร์และอานอร์ให้เป็นหนึ่งอีกครั้ง
อย่างที่ได้กล่าวไปพอจบสงครามเอลรอลด์ได้ส่งตัวลูกสาว อย่างอาร์เวนและมอบคทาแห่งอันนูมินาสแก่อารากอน
ก่อนที่เอลรอลด์จะข้ามฟากไปยังวาลินอร์เป็นอันสิ้นสุดยุคที่3ไป
ต้องบอกก่อนว่า ในอันดับนี้นั้นมีคนอื่นอีกหลายคนที่สมควรได้มากกว่าแต่ด้วยวีรกรรมและสายเลือดของเออาเรนดิลบวกกับบทบาทต่างๆ รวมถึงให้คนที่ไม่เคยอ่านซิลมาริลจะได้เข้าถึงตัวละครอื่นจากนิยายง่ายขึ้นด้วยผมเลยขอจัดแกเปิดหัวเอาไว้