[CR] ทริปแห่งสายหมอก ที่เชียงคาน เขาค้อ แบบไม่ง้อฤดูกาล


สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าบันทึกการเดินทางอีกครั้ง โดยเป็นจังหวัดที่ผมไปค่อนข้างบ่อย ทั้งเลย และเพชรบูรณ์ แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าเพราะผมไปในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นพัดเข้ามาที่ประเทศไทยพอดี 555+ จริงๆ จะบอกว่าไม่ง้อฤดูกาลก็อาจจะไม่ขนาดนั้น เพราะบางปี ปลายกุมภาพันธ์ก็ยังคงมีอากาศหนาวเย็นอยู่ แต่ปีนี้เหมือนจะไม่ค่อยเย็น ประจวบกับช่วงโควิด-19 ทำให้คนไม่เยอะมาก เลยถือว่าเป็นทริปที่ได้เห็นหมอกเยอะมากๆๆๆ

วันที่ไป : 25 - 27 กุมภาพันธ์ 2565
ค่าใช้จ่าย : 3 - 4 พันบาท ต่อคน

ทริปนี้ผมมีอุปกรณ์เพิ่มเติมคือ เจ้าโดรน DJI Air 2 ที่ซื้อมา แต่ภาพต่างๆ ก็ยังห่วยแตก 555+ ด้วยความที่ผมถ่ายภาพไม่เก่ง แต่ที่ตัดสินใจซื้อโดรนเพราะชอบภาพมุมสูง และไปเที่ยวป่าบ่อย ถ้าใครพร้อมเดินทางไปกับผมแล้วก็มาเลย 


วันที่ 25 กุมภา (ออกเดินทางเช้า เป้าหมายคือภูเรือ และเชียงคาน)

ทริปนี้จริงๆ ผมออกเดินทางคืนวันที่ 24 แต่เป็นเกือบเที่ยงคืน เพราะจากการคำนวณแล้ว จะไปเช้าที่ภูเรือ พอดี ซึ่งผมยังไม่เคยไปเลยสักครั้ง ไปถึงก็ 6:15 โดยประมาณ อากาศหนาวเย็น ระหว่างทางมีหมอกบางๆ แต่เมื่อขึ้นไปบนยอดภู แล้วกลับไม่เจอหมอกสักจึ๋ง

ภูเรือค่อนข้างเงียบเหงา มีนักท่องเที่ยวแค่กลุ่มสองกลุ่มเล็กๆ เดินทางมาในวันที่ผมไป อาจจะเพราะเป็นวันศุกร์ก็ได้ แต่โดยรวมผมค่อนข้าง เฉยๆ นะ เพราะข้างบนภูก็ไม่ได้มีอะไรให้ถ่ายมากนัก มีแต่อากาศหนาวเย็นหน่ะแหล่ะ ที่ชัดเจนที่สุด 


หลังจากทานข้าวเช้าที่ภูเรือ ก็บึ่งต่อกันมาที่วัดป่าห้วยลาด ซึ่งเป็นวัดขนาดใหญ่เลย มีประติมากรรมสวยๆ หลากหลายชิ้น โดยความเห็นส่วนตัว คิดว่าเป็นวัดที่ค่อนข้างสมัยใหม่ ไม่ยึดติดกับรูปแบบวัดทั่วๆ ไปที่ผมเคยไปนัก ด้านในอุโบสทมีพระประธานสีขาว หรือหลวงพ่อขาว องค์ใหญ่ม้าก ผมเข้าไปสักการะ แล้วก็เดินทางต่อไปที่เชียงคาน


ตอนแรกกะว่าจะเข้าที่พักเลย แต่ดันไปไวเกิน เลยขอขยับโปรแกรมมาที่วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน ที่เป็นโบราณสถานเก่าแก่ของเชียงคาน เมื่อก่อนจะเดินทางค่อนข้างยาก ต้องเป็นผู้มีบุญวาสนาจริงๆ ถึงจะมาถึงได้ แต่ปัจจุบันการเดินทางเริ่มง่ายขึ้น โดยวัดมีขนาดไม่ใหญ่นัก ด้านในมีรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนหินลับมีดอยู่
กิจกรรมอีกอย่างที่น่ารัก คือด้านหลังจะมีกรงกระต่ายขนาดย่อมๆ อยู่ เราสามารถซื้ออาหารไปเลี้ยงน้องได้ แต่โปรดระวัง กระต่ายกัด !!! เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน


หลังจากไปที่พัก เก็บของเสร็จก็ได้เวลามาสถานที่ยอดฮิตอีกที่หนึ่งของเชียงคาน นั่นก็คือ "แก่งคุดคู้" จุดชมวิวริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่มองไปไม่ไกลมากก็จะเห็นประเทศเพื่อนบ้านบริเวณนี้ (ประเทศเพื่อนบ้านก็จะมองเห็นเราเหมือนกัน) ซึ่งวันที่ผมไปค่อนข้างเงียบเหงานะ มีนักท่องเที่ยวไม่มาก รวมถึงร้านรวงต่างๆ มีการปิดกิจการไปจากพิษเศรษฐกิจ (เดา) อีกสิ่งที่ไปแล้วไม่ซื้อกลับมาไม่ได้เลยคือ...มะพร้าวแก้วนั่นเอง โดยที่นี่เป็นแหล่งผลิตมะพร้าวแก้วที่อร่อย มีหลายเกรด มาก เราโดนไปเยอะเหมือนกัน

หลังจากนั้นเราก็กลับไปบริเวณถนนคนเดินเชียงคาน ซึ่งยังคงความเป็นเอกลักษณ์เหมือนทุกครั้งที่ผมมา แต่วันนี้คนจะน้อยหน่อย ทำให้ความครึกครื้นลดลงไปเยอะ แต่ก็นั่นแหล่ะ อาจจะยังไม่ใช่วันที่นักท่องเที่ยวมากัน ...

วันที่ 26 กุมภา (ชมหมอกตระการตาที่ภูทอก ขาสั่นที่สกายวอล์ค)


ตอนเช้าผมตื่นมาตีห้าครึ่งเพื่อมาใส่บาตรข้าวเหนียวแบบเร่งด่วน เพราะจุดหมายปลายทางที่แท้ทรูคือ ภูทอก อีกหนึ่งไฮไลท์ของเชียงคานที่ ไม่ไปไม่ได้ (มั้ง) โดยเช้านี้นักท่องเที่ยวมีพอสมควรเลย ผมขึ้นมาถึงบนภู ประมาณ 6:30 ตลอดเส้นทางที่นั่งรถสองแถวขึ้นมา อากาศเย็นจัด และมีหมอกลงตลอดเส้นทาง พอมาถึงด้านบน ก็อย่างที่เห็นเลย วันนี้หมอกหนาแน่นมาก ถือเป็นครั้งแรกที่ผมขึ้นมาแล้วได้เห็นทะเลหมอกหนาขนาดนี้ ปกติจะมีแบบบางเบา


อยู่ข้างบนได้สักเกือบชั่วโมง เราก็ลงมากินข้าวเช้าด้านล่าง และกลับไปที่พัก เตรียมตัวออกเดินทางต่อไปยังจังหวัดต่อไป ก็คือเพชรบูรณ์ แต่ก่อนไป ขอไปลุยที่สกายวอล์คเชียงคานก่อนนะ


ไม่แน่ใจว่ามีมานานหรือยัง แต่การได้ขึ้นมาบนสกายวอล์ค แห่งนี้ทำให้ผมเสียวๆ ได้ ซึ่งถ้าคนไม่กลัวความสูงจะบอกว่า เหมือนเดินสวนหลังบ้าน แต่ผมกลัวไง 555+ ความสูงประมาณตึก 30 ชั้น เห็นจะได้ โดยเจ้าสกายวอล์คนี้ตั้งอยู่ที่ ภูคกงิ้ว ด้านบนมีประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร สวยงาม


นอกจากสกายวอล์คแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมสันทนาการเล็กๆ ด้านล่าง คือดูการแสดงช้าง ขับรถ ATV อะไรแบบนี้ โดยส่วนตัวคิดว่าสงสารข้าง ไม่แน่ใจว่าน้องมีความสุขมั้ย T T อ่อ ค่าบริการเข้าชมสกายวอล์ค 80 บาท รวมค่าถุงเท้าสำหรับเดินบริเวณกระจก ค่าประกัน ไว้แล้วด้วย พอเสร็จตรงนี้เราก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่อำเภอเขาค้อ


สถานที่เรามาต่อคือ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เป็นวัดที่ผมมารอบที่สองแล้ว ครั้งแรกจะยังไม่เสร็จดี โดยวัดจะตั้งอยู่บริเวณหุบเขา มองเห็นได้แต่ไกลเลย นอกจากนี้ด้านในวัดจะมีพระพุทธรูปสวยๆ เยอะเลย มีพื้นที่สำหรับปฏิบัติธรรมด้วยนะ

!!! กันดราม่า !!! บริเวณวัดจะไม่ให้บินโดรน เนื่องจากคนเยอะ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ ผมไปถามโฆษกที่ประกาศๆ เขาบอกห้ามบิน แต่ภาพนี้ ผมเดินออกมาบริเวณที่จอดรถ ที่เป็นของเอกชน และใช้เป็นภาพมุมกว้างเอา 


เสร็จจากวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ก็มาเข้าที่พัก (สักที) ที่ ภูรับหมอกรีสอร์ท ที่อยู่ด้านล่างสุดบริเวณอ่างเก็บน้ำ จะมองเห็นทิวทัศน์ได้ไม่กว้างเท่าด้านบน แต่ก็สงบเงียบ ดี


วันที่ 27กุมภา (ก่อนกลับ ขอแวะชมไร่ดอกไม้ และกังกันใหญ่บนภูเขา)

วันนี้ก่อนกลับกรุงเทพฯ ผมได้แวะไปที่บริเวณ ทุ่งกังหันลมเขาค้อ ซึ่งใหญ่โตมากกก เห็นเขาถ่ายภาพออกมาสวยๆ ดูภาพเราสิ ง่อยมาก 555


ไม่เป็นไร เราคงคอนเซปต์ 555+ ไม่เน้นสวย เน้นขัดหูขัดตา นอกจากนั้น เราก็แวะไปเดินชมไร่ GB ที่มีดอกไม้สวยๆ เสียค่าเข้า 20 บาท สาวๆ ไปเดินถ่ายรูปเล่นก็คุ้มแระ


โดยรวมทริปนี้โชคดีหลายจุด ที่ได้ไปเจอหมอกจุกๆ หลายแห่ง รวมถึงอากาศหนาวเย็นที่ถวิลหา วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกัน ไว้ถ้าได้ไปไหนอีกจะมาอัปให้เพื่อนๆ ดูเรื่อยๆ นะ ใครชอบก็ฝากกดหัวใจให้ด้วยนะ Share ด้วยก็จะดีมากกก

ขอบพระโคจ้าาา
ชื่อสินค้า:   เชียงคาน เขาค้อ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่