ปภ.แนะเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย...ท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวปลอดภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะประชาชนท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวอย่างปลอดภัย โดยเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถผ่านเส้นทางขึ้น – ลงเขา เมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่หมอกควันปกคลุมให้เปิดไฟหน้ารถและไฟตัดหมอก กางเต็นท์พักแรมในบริเวณที่ปลอดภัย รวมทั้งห้ามจุดตะเกียง เทียน หรือสูบบุหรี่ภายในเต็นท์ ไม่ก่อกองไฟใกล้เต็นท์พักแรม และหลีกเลี่ยงการถ่ายรูปหรือชมวิวบริเวณเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปีประชาชนมักนิยมเดินทางท่องเที่ยวตามยอดดอย ยอดภู หรือเชิงดอย ในช่วงฤดูหนาว หากขาดความระมัดระวังหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติในการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวอย่างปลอดภัย ดังนี้ การใช้รถใช้ถนน ควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับรถขึ้น – ลงเขา โดยใช้เกียร์และความเร็วให้เหมาะกับสภาพเส้นทาง เมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่มีหมอกควันปกคลุม ให้เปิดไฟหน้ารถและไฟตัดหมอก รวมถึงไม่จอดรถริมข้างทาง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ การกางเต็นท์พักแรม ไม่กางเต็นท์ใกล้ต้นไม้ที่ยืนต้นตายหรือกิ่งไม้แห้ง เพื่อป้องกันต้นไม้ล้มทับหรือกิ่งไม้ตกใส่ ทำความสะอาดพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายจากแมลงและสัตว์มีพิษ รวมทั้งห้ามจุดตะเกียง เทียน หรือสูบบุหรี่ภายในเต็นท์ เพื่อป้องกันเพลิงไหม้และการขาดอากาศหายใจ การก่อกองไฟ ไม่ก่อกองไฟใกล้เต็นท์พักแรม เพราะไฟอาจลุกลามไหม้เต็นท์ รวมทั้งไม่ก่อกองไฟบริเวณพงหญ้าแห้งหรือวัสดุติดไฟง่าย และดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อป้องกันไฟไหม้ที่พักลุกลามเป็นไฟป่า การใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ควรเปิดพัดลมระบายอากาศทุกครั้งที่อาบน้ำ เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก หากได้กลิ่นแก๊สขณะอาบน้ำ ให้รีบปิดเครื่องทำน้ำอุ่น และออกจากห้องน้ำทันที การถ่ายรูปหรือชมวิว หลีกเลี่ยงการถ่ายรูปหรือชมวิวบริเวณจุดเสี่ยงอันตราย เพื่อป้องกันการพลัดตก และไม่ถ่ายรูปบริเวณที่เสี่ยงอันตราย โดยเฉพาะริมหน้าผา กลางถนน หรือบริเวณที่มีหมอกหนา ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยได้ที่ Facebook กรมป้องกัน
และบรรเทาสาธารณภัย X @DDPMNews Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ///
ปภ.แนะเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย...ท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวปลอดภัย
ปภ.แนะเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย...ท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวปลอดภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะประชาชนท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวอย่างปลอดภัย โดยเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถผ่านเส้นทางขึ้น – ลงเขา เมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่หมอกควันปกคลุมให้เปิดไฟหน้ารถและไฟตัดหมอก กางเต็นท์พักแรมในบริเวณที่ปลอดภัย รวมทั้งห้ามจุดตะเกียง เทียน หรือสูบบุหรี่ภายในเต็นท์ ไม่ก่อกองไฟใกล้เต็นท์พักแรม และหลีกเลี่ยงการถ่ายรูปหรือชมวิวบริเวณเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปีประชาชนมักนิยมเดินทางท่องเที่ยวตามยอดดอย ยอดภู หรือเชิงดอย ในช่วงฤดูหนาว หากขาดความระมัดระวังหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติในการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวอย่างปลอดภัย ดังนี้ การใช้รถใช้ถนน ควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับรถขึ้น – ลงเขา โดยใช้เกียร์และความเร็วให้เหมาะกับสภาพเส้นทาง เมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่มีหมอกควันปกคลุม ให้เปิดไฟหน้ารถและไฟตัดหมอก รวมถึงไม่จอดรถริมข้างทาง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ การกางเต็นท์พักแรม ไม่กางเต็นท์ใกล้ต้นไม้ที่ยืนต้นตายหรือกิ่งไม้แห้ง เพื่อป้องกันต้นไม้ล้มทับหรือกิ่งไม้ตกใส่ ทำความสะอาดพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายจากแมลงและสัตว์มีพิษ รวมทั้งห้ามจุดตะเกียง เทียน หรือสูบบุหรี่ภายในเต็นท์ เพื่อป้องกันเพลิงไหม้และการขาดอากาศหายใจ การก่อกองไฟ ไม่ก่อกองไฟใกล้เต็นท์พักแรม เพราะไฟอาจลุกลามไหม้เต็นท์ รวมทั้งไม่ก่อกองไฟบริเวณพงหญ้าแห้งหรือวัสดุติดไฟง่าย และดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อป้องกันไฟไหม้ที่พักลุกลามเป็นไฟป่า การใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ควรเปิดพัดลมระบายอากาศทุกครั้งที่อาบน้ำ เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก หากได้กลิ่นแก๊สขณะอาบน้ำ ให้รีบปิดเครื่องทำน้ำอุ่น และออกจากห้องน้ำทันที การถ่ายรูปหรือชมวิว หลีกเลี่ยงการถ่ายรูปหรือชมวิวบริเวณจุดเสี่ยงอันตราย เพื่อป้องกันการพลัดตก และไม่ถ่ายรูปบริเวณที่เสี่ยงอันตราย โดยเฉพาะริมหน้าผา กลางถนน หรือบริเวณที่มีหมอกหนา ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยได้ที่ Facebook กรมป้องกัน
และบรรเทาสาธารณภัย X @DDPMNews Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ///