สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
สื่อสารกับลูก คุยกับด้วยความจริง ไม่เอามายาคติ หรืออคติมาพูดเด็ดขาด
บอกลูกตามนี้คือ
1. การมีเซ็กส์กับผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 18ปี, ลูกชายมีสิทธิโดนคดีอาญา
แม้ลูกชายก็อายุต่ำกว่า 18 ปีเช่นกัน แต่ในทางคดีต่างคนต่างพราก ฝ่ายหญิงมีภาษีเหนือกว่าในคดีพราก
และการเกิดเหตุในบ้านฝ่ายชาย อาจถูกมองว่า ฝั่งชายสนับสนุนการพรากฯ
ลูกต้องรู้ และลูกต้องรับความเสี่ยงเอาเอง เพราะแม่ชี้ข้อเท็จจริงแล้ว
2. ลูกต้องสวมถุง และลูกควรแนะนำให้แฟนไปฝังเข็มคุมกำเนิด
ข้อเท็จจริงประการที่2 คือการสวมถุงมิได้ป้องกันการท้อง 100%
และเป็นข้อเท็จจริงที่ว่า หากฝ่ายหญิงท้อง ตามสถิติมักจบไม่สวย ทั้งการทำแท้ง
หรือการท้องแล้วส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงและชาย(แม่และพ่อ)ต้องสูญโอกาสทางการศึกษา
และโอกาสสูงมากที่ทารกที่ท้องจากพ่อแม่ที่ไม่พร้อม จะด้อยทั้งโอกาสและพัฒนาการ
3. มีโอกาสสูงมากที่การมีเซ้กส์จะเบียดบังความสนใจทางวิชาการ
พูดง่ายๆ คือเรื่องเซ็กส์เสพติดได้ง่ายการเรื่องเรียน ถ้าลูกคิดว่าพร้อมที่จะมีเซ็กส์
ก็ควรพร้อมอย่างมีคุณภาพ คือก็ต้องไม่ให้เรื่องเซ็กส์มาเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาการแสวงหาความรู้ของตนเอง
ตอนนี้ การห้ามก็เหมือนก็เหมือนการเอาเรือไปขวางน้ำเชี่ยว
แต่การเตือน หรือถ่ายทอดความจริงให้ลูกรู้ เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่พึงกระทำ
บอกลูกตามนี้คือ
1. การมีเซ็กส์กับผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 18ปี, ลูกชายมีสิทธิโดนคดีอาญา
แม้ลูกชายก็อายุต่ำกว่า 18 ปีเช่นกัน แต่ในทางคดีต่างคนต่างพราก ฝ่ายหญิงมีภาษีเหนือกว่าในคดีพราก
และการเกิดเหตุในบ้านฝ่ายชาย อาจถูกมองว่า ฝั่งชายสนับสนุนการพรากฯ
ลูกต้องรู้ และลูกต้องรับความเสี่ยงเอาเอง เพราะแม่ชี้ข้อเท็จจริงแล้ว
2. ลูกต้องสวมถุง และลูกควรแนะนำให้แฟนไปฝังเข็มคุมกำเนิด
ข้อเท็จจริงประการที่2 คือการสวมถุงมิได้ป้องกันการท้อง 100%
และเป็นข้อเท็จจริงที่ว่า หากฝ่ายหญิงท้อง ตามสถิติมักจบไม่สวย ทั้งการทำแท้ง
หรือการท้องแล้วส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงและชาย(แม่และพ่อ)ต้องสูญโอกาสทางการศึกษา
และโอกาสสูงมากที่ทารกที่ท้องจากพ่อแม่ที่ไม่พร้อม จะด้อยทั้งโอกาสและพัฒนาการ
3. มีโอกาสสูงมากที่การมีเซ้กส์จะเบียดบังความสนใจทางวิชาการ
พูดง่ายๆ คือเรื่องเซ็กส์เสพติดได้ง่ายการเรื่องเรียน ถ้าลูกคิดว่าพร้อมที่จะมีเซ็กส์
ก็ควรพร้อมอย่างมีคุณภาพ คือก็ต้องไม่ให้เรื่องเซ็กส์มาเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาการแสวงหาความรู้ของตนเอง
ตอนนี้ การห้ามก็เหมือนก็เหมือนการเอาเรือไปขวางน้ำเชี่ยว
แต่การเตือน หรือถ่ายทอดความจริงให้ลูกรู้ เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่พึงกระทำ
แสดงความคิดเห็น
ลูกชายวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์แล้ว แม่ควรทำอย่างไรดี
ดิฉันเป็นม่ายอายุ 35 สามีเสียไป 5 ปีแล้วตั้งแต่ลูกยังเพิ่งเข้าวัยรุ่น เลยต้องดูแลลูกชายคนเดียว และทำงานด้วย ที่ผ่านมาเลยอาจจะไม่ได้ใส่ใจลูกเท่าที่ควร
ลูกชายตอนนี้อายุ 16 เรียนสายอาชีพ ตั้งแต่ย้ายไปเรียนวิทยาลัยปวชที่ไกลบ้านหน่อยลูกก็ต้องเดินทางเลยกลับดึกขึ้น เลยไม่ได้เอะใจอะไร ลูกพอเปลี่ยนมาเรียนสายอาชีพเขาก็ดูชอบ ดูมีความสุขดีกว่าสมัยมัธยมต้น ปัญหาพฤติกรรมไม่ดีก็ไม่มี ตอนแรกแม่ก็วางใจ
แต่เร็วๆนี้กลับบ้านมาเร็วกว่าปกติ เปืดมา ตกใจเจอเด็กผู้หญิงเดินออกมาจากห้องลูก สภาพหัวเหอยุ่งเสื้อยับ ก็รู้ได้ว่าคงทำกิจกรรมอะไรกันมา เด็กผู้หญิงก็มาสวัสดี ไม่ได้เขินอะไรเลย ลูกชายก็ตกใจ รีบไปส่งเด็กสาว กลับมาคุยกัน ลูกยอมรับว่าคบมาหลายเดือน เด็กหญิงจากวิทยาลัยเดียวกัน มีกิจกรรมกันหลายครั้งแล้ว ยืนยันว่าป้องกันใส่ถุงยาง ถามว่าห้ามได้มั้ย ให้เรียนให้จบก่อน ก็ดราม่ากันไป แต่เหมือนจะห้ามไม่ได้ วันหยุดเลยใช้ลูกให้ช่วยงานบ้านเผื่อจะได้เลิกหมกมุ่น ปรากฏเด็กผู้หญิงมาตามเองถึงบ้าน พูดไม่ออกเลย
ในสถานการณ์แบบนี้ ควรทำอย่างไรดีคะ สายเกินไปที่จะห้ามหรือเปล่า หรือควรเข้าใจวัยรุ่นปล่อยเขาไปแต่กำชับเรื่องการป้องกันและไม่ให้ละเลยการเรียน
ถ้าห้ามก็กลัวลูกจะหนีไปเที่ยวมั่วสุม กลายเป็นไม่กลับบ้าน ติดยา ตอนนี้เขาก็ยังดีที่ไม่กลับดึก ไม่ไปเที่ยวมั่วสุมไกลๆ แค่ติดสาว
ถ้าปล่อยให้ทำ ก็กลัวจะมีปัญหากับบ้านเด็กผู้หญิง กลัวพลาดทำเขาท้อง ฝ่ายหญิงลูกบอกอายุ 17 ค่ะ
ก็เหมือนเป็นเวรกรรม ตัวแม่เองจริงๆก็พลาดท้องตอนอายุ 19 จะว่าไปก็เข้าใจวัยรุ่น แต่มาเจอเองในฐานะแม่ก็คิดไม่ออกเหมือนกันค่ะ ขอถามความเห็น