ปัญหาการเรียนปริญญาเอก ที่เข้าไม่ได้กับรูปแบบการเรียนการสอนของคณะที่เข้าไปใหม่

สวัสดีครับ

ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่านี่เป็นเพียงกระทู้เพื่อปรึกษาว่าถ้าเป็นท่านอื่นจะต้ดสินใจอย่างไรกันบ้าง ด้วยความที่การพบปะคนรู้จักในเวลามันยากเสียเหลือเกิน แต่การโพสต์ใน Facebook ก็ทำให้ traceback ไปหาตัวตนได้ง่าย เลยตัดสินใจว่า pantip ก็เป็นช่องทางที่น่าสนใจ

ภูมิหลัง

คือตอนนี้ผมกำลังเรียนปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยหนึ่ง แต่ทั้งนี้ผมจบปริญญาตรีและโทมาจากอีกมหาวิทยาลัยหนึ่ง โดยทั้งสองมหาวิทยาลัยก็จัดเป็นแนวหน้าในไทยทั้งคู่ ในส่วนของสาขาที่เรียน ตรีกับโทเรียนสาขาเดียวกัน แต่ ป.เอก ด้วยความที่จับพลัดจับผลูได้ทุนเข้ามาทำวิจัยในอีกสาขาที่ตัวเองก็สนใจอยู่พอดี ซึ่งก็จัดเป็นญาติสนิทกันกับสาขาที่เรียนมาตอน ป.ตรีและโท

ในเรื่องการทำวิจัยนั้นมีความสุขมากๆ อาจารย์ในแลปก็เก่งและใจดีมากๆ น้องๆในแลปเดียวกันก็เก่งๆกันทั้งนั้น ได้เรียนรู้อะไรต่างๆมาเยอะมาก

ถ้าถามว่าทำไมผมถึงอยากเรียนให้ถึงปริญญาเอก คำตอบคือผมอยากสอนระดับมหาวิทยาลัยครับ และชอบการทำวิจัยในเชิงทฤษฎีด้วย (แต่ก็ไม่ได้ดูแคลนทักษะเชิง Practical แต่คิดว่าเป็นสิ่งที่สามารถฝึกกันเองได้ถ้าสนใจจริง ไม่จำเป็นต้องเรียนปริญญาโทเพิ่มด้วยซ้ำ ผมเองก็ฝึกผ่านคอร์สออนไลน์ใน coursera เหมือนกัน)

ปัญหาที่พบเจอ
ก่อนเข้าเรียน ผมคาดฝันไว้เยอะมากว่าเปลี่ยนสายมาแล้ว เราจะต้องเรียนให้หนักมากๆ ไม่ใช่แค่เรียนเฉพาะวืชาบังคับของ ป.เอก แต่วิชาของ ป.โท ก็จะเรียนให้เยอะๆ ถึงเสียเงินเพิ่มเองก็ยอม เพื่อเก็บรวบรวมความรู้ทั้งนอกสายวิจัยและในสายวิจัยให้ได้มากที่สุดเพื่อที่ในอนาคตเราจะสามารถส่งต่อความรู้ให้เด็กๆ ที่จะเป็นอนาคต
ให้ประเทศ ซึ่งผมเองเป็นคนที่ชอบการเรียนผ่านการมีผู้สอนมากๆ เพราะผมจะชอบยึดรูปแบบที่ตัวเองได้เรียนมาที่เห็นว่าดีมาใช้เป็น role model ในการสอนของตัวเอง 

แต่เมื่อเวลาจริงมาถึง ผมกลับพบว่าคณะที่ผมเข้าเรียนนั้นมีรูปแบบการสอนและการวางหลักเนื้อหาการสอนที่ไม่ตอบโจทย์ตัวผม ทั้งในส่วนการสอน และการฝึกเด็ก Ph.D. ในสายงานวิชาการในคณะ (ผมจะคุ้นชินกับรูปแบบการเป็น TA ของที่เก่าที่ส่วนใหญ่จะให้เด็กทำ TA กันหมดไม่ว่าจะวิชาทฤษฎีหรือวิชาปฏิบัติก็ตาม แต่กับที่ใหม่มองเหมือนว่าจะจ้างก็ต่อเมื่อจำเป็นต้องใช้งานจริงๆ เท่านั้น)

ผมขอเล่ารูปแบบคณะนะครับ แต่ขอไม่เอ่ยถึงกว่าคณะอะไร: คณะที่ผมเรียนเป็นคณะที่ถ้าดูจากระดับปริญญาตรี (ซึ่งใช้ชื่อหลักสูตรคนละชื่อกับ ป.โท และ ป.เอก) จะเน้นการผลิตแรงงานเข้าสู่สายอุตสาหกรรมและธุรกิจมากกว่าสายวิชาการ แต่ก็ respect เลยครับว่าใน ป.ตรี นั้น เขาทำชื่อเสียงไว้ได้ดีตาม objective ที่เขาตั้งไว้จริงๆ จึงทำให้เหล่าบุคคลที่เข้ามาเรียน ป.โท (และรวมถึง ป.เอก บางคน) มีรูปแบบและเป้าหมายคือเพื่อใช้ทำงาน รวมถึงอย่างแย่คือเพื่อเพิ่มเงินเดือน และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง (มีทั้ง ป.โท และ ป.เอก) ซึ่งผมที่มาจากสายวิชาการและการสอนจ๋าๆ มาจากกลุ่มที่คนเรียน Postgrad (จากนี้ไปคำว่า Postgrad จะหมายถึงเรียกรวม ป.โท และ ป.เอก นะครับ) ทั้งหมดคือเรียนต่อเพื่ออยากเป็นอาจารย์มหาลัยกันเกือบ 100% ได้ฟังครั้งแรกก็แอบตกใจเหมือนกัน แต่ยังโชคดีที่หลายคนในปริญญาเอกเรียนเพื่ออยากทำอาชีพนักวิจัย

อีกทั้งกลุ่มคนเรียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนเรียนหลักสูตรนอกเวลา a.k.a หลักสูตรพิเศษ มีส่วนน้อยที่เรียนแบบ full-time จึงทำให้คณะต้องจัดเวลาเรียนให้ผู้เรียน full-time เรียนรวมกับ part-time students ซึ่ง expectation จากการเรียน รวมถึงระดับความลึกของเนื้อหาจากข้อจำกัดด้านเวลาของผู้เรียนต่างกันอย่างมากๆ (มารับรู้ได้จากการได้เรียนเอง)....ปล. แต่หลักสูตรปกติกับหลักสูตรนอกเวลาเสียค่าเรียนเท่ากันนะครับ

จากการที่เราต้องลงไปเรียนกับกลุ่ม part-time student ทำให้อาจารย์ผู้สอนไม่สามารถลงลึกเนื้อหาได้ลึกและยากอย่างที่มันควรเป็น (เน้นว่าอย่างที่มันควรจะเป็น เปรียบเทียบจากมหาวิทยาลัยเก่าที่ผมจบมา เขาสามารถสอนลงลึกและครบถ้วนได้ไม่แพ้เนื้อหา ป.ตรีของ MIT, Stanford, oxford,Toronto,alberta....ผมกล้ายืนยันกับมหาวิทยาลัยเหล่านี้เพราะผมมีลูกศิษย์ที่ผมสอนพิเศษในรายวิชาที่ผมจบ ป.โท รวมถึงรายวิชาที่กำลังเรียนใน ป.เอก ของมหาวิทยาลัยเหล่านี้ด่วยตัวเอง) ถึงเวลามีสอบและควิซ คะแนนก็จะแบ่ง cluster กันได้อย่างชัดเจนว่า cluster ของกลุ่ม full-time และ cluster ของกลุ่ม part-time หรือแมกระทั่งในรายวิชาที่ผมกำลังเรียนในเทอมนี้ เขากลับสอนแบบง่ายมากจนเกินไป และไม่ตรงกับหนังสือ text ดังๆที่ใช้ชื่อเดียวกันกับวืชาด้วยซ้ำ....แถมง่ายกว่าวิชาที่ชื่อเดียวกันแต่สอนให้เด็ก ป.ตรี ในคณะฯเขาด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ ผม respect ในความสามารถของอาจารย์ทุกท่านในคณะมากๆ ผมมั่นใจว่าทุกท่านเก่งมาก และสามารถสอนได้เต็มที่กว่านี้ถ้า policy ของคณะเปลี่ยนไป

สิ่งที่ผมกังวลคือ ผมจะจบ Ph.D. จากคณะนี้โดยมีความรู้ที่จะไปสอนเด็กๆ ในอนาคตไม่เพียงพอ ถึงแม้ผมจะมั่นใจในความรู้ในส่วนที่ผมทำวิจัยอยู่ก็ตาม แต่มันก็จัดว่าแคบมากๆ ถ้ามองในมุมมองของสาขาเก่าที่จบมา ผมก็ประเมินตัวเองว่าไม่มีคุณสมบัติมากพอจะมาสอนได้

ผมได้ feedback เรื่องนี้ไปหลายรอบ แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก เพราะยังไงเงินจากกลุ่มใหญ่ก็ต้องมาก่อน

ทำให้ในช่วงนี้ผมรู้สึกหมดอาลัยตายอยากกับการเรียนของตัวเองมาก จากที่เคยเรียนมาจากสภาพแวดล้อมที่นักเรียนต้อง push-up ตัวเองให้ถึงมาตรฐานที่ภาควิชากำหนดไว้ ต้องมาเจอสภาพที่เรียนง่ายเกินไป ทำให้ไม่สามารถพัฒนาตัวเองจากการเรียนได้ในห้องเรียนได้เลย (ในขณะที่ส่วนเนื้อหาที่ทำวิจัยของตัวเองพัฒนาได้เร็วมาก เพราะมี advisor ที่ดีที่สามารถ drive ตัวเราได้อย่างถูกทาง)

สิ่งที่ผมคิดอยู่คือ ผมไม่อยากทิ้งอนาคตของตัวเองไว้กับคณะนี้ที่ดูแล้วไม่ได้ drive เด็ก Ph.D. ของตัวเองให้เข้าสู่งานสอนมากนัก รวมถึง provide course ความรู้เชิงลึกให้เด็ก postgrad ไม่มากพอ (คอร์ส ป.เอก มีวิชาบังคับ 2 ตัว ซึ่งลึกมากๆ ครับ respect เลย ผมเองก็สนุกกับการได้เรียนวิชาพวกนี้ แต่กับวิชาเลือกที่ต้องเรียนรวมกับ ป.โท ก็เป็นไปตามที่เล่าไป)

สิ่งที่อยากถามผู้ที่ให้ความกรุณาอ่านมาจนถึงจุดนี้คือ 
(1) ผมต้องควรปรับทัศนคติตัวเองให้เข้ากับคณะ หรือทัศนคติผมไม่ได้มีปัญหา 
(2) คิดเห็นอย่างไรกับการเรียนที่ง่ายเกินไป หรือจริงๆ อล้วการเรียนยากๆ(อย่างที่ใันควรเป็น) จะไม่ตอบโจทย์
(3) คิดเห็นอย่างไรกับการที่คณะเลือกจะปรับตัวหากลุ่มธุรกิจมากกว่ากลุ่มวิชาการ
(4) ผมกำลังแพลนว่าจะขอคณะลดระดับดีกรีที่เรียนของตัวเองเหลือเพียงปริญญาโท เพื่อจบเป็นปริญญาโทใบที่สองและพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหาทุนเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศที่ไเ้รับการยอมรับอีกสักตั้ง จะดูเป็นเรื่องประหลาดไหม
(5) ถ้าชี้ประเด็นอะไรที่ผมอาจมองตกหล่นไปจะเป็นความกรุณาอย่างมากครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่