เกิดเคสที่ผมไม่ชอบใจในบริการหลังการขาย 3 ราย ในธุรกิจที่ต่างกัน
1. เคสเกิดกับธุรกิจตู้เครื่องดื่มเต่าบิน (TAOBIN) ผมเริ่มใช้บริการเพราะมีตั้งตู้บริการใต้คอนโด สะดวกดีและอร่อยใช้ได้ ทุกอย่างดูไปได้ดี แต่เมื่อผมสังเกตุเห็นการสะสมแต้มผ่านเบอร์มือถือเพื่อแลกกระดองเต่า ทำไมยอดกระดองไม่สอดคล้องกับที่ผมซื้อ จึงติดต่อ admin ดูแลระบบไป admin บริการตอบแบบตอบๆหายๆ (ข้ามวันข้ามคืน) สุดท้าย admin ตอบว่าก็ได้กระดองแค่นี้ละครับระบบบันทึกการซื้อแค่นี้ .... แต่ผมมีหลักฐานส่งไปนะว่าผมซื้อวันอื่นๆด้วย แต่ยอดคะแนนสะสมไม่ขึ้น ---> สุดท้ายได้คำตอบแบบนี้ จึงเลิกใช้บริการไป
2. เคสเกิดกับธุรกิจธนาคารกรุงไทย โดยผมทำธุรกรรมโอนเงินผ่าน Krungthai Next โดยโอนเงินค่าน้ำประปาให้กับนิติคอนโด โดยในวันที่โอนในช่วงสุดท้ายที่ให้ใส่รหัสเพื่อยืนยันการโอน แอพ Krungthai Next ขึ้นข้อความว่า ระบบเชื่อมต่อล้มเหลว และได้กระเด้งกลับมาให้ใส่รหัสใหม่ ผมจึงไปดู slip โอนเงินพบว่ายังไม่มี slip ยืนยันการโอนเงิน ผมจึงทำการใส่รหัสซ้ำ โดยเกิดแบบนี้ 3 ครั้งจึงทำการโอนสำเร็จ (ซึ่งผมก็ยอมรับว่าส่วนหนึ่งผมก็ประมาทที่ไม่ได้เช็คยอดการวิ่งของเงินในแอพ) ผมจึงทำใจก่อนไปถามที่สาขาธนาคารกรุงไทยแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นความผิดพลาดของแอพ ต้องไปแจ้งให้ปลายทางโอนคืนเอง หากปลายทางไม่โอนคืนก็แจ้งความ .... ผมจึงทวนกับเจ้าหน้าที่ว่า แบบนี้คือแอพมีปัญหาใช่มั้ยครับ เจ้าหน้าที่ตอบว่าใช่ เพราะปกติต้องมี slip ครบทุกครั้ง และหากมีการโอนเงินในบัญชีเดิมซ้ำๆในเวลาติดๆกัน แอพจะมีข้อความแจ้งเตือน .... ผมจึงสอบถามว่าผมขอร้องเรียนได้มั้ย เจ้าหน้าที่ตอบว่าจะร้องเรียนต้องไปร้องเรียนส่วนกลางเอง ---> สุดท้าย ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนทำให้ผมอึดอัดใจ จึงวางแผนว่าจะเลิกการใช้บริการ
3. เคสเกิดกับธุรกิจขายมือถือและคอมพิวเตอร์ของ Studio 7 ของบริษัทคอม เซเว่น ผมไปซื้อกระเป๋าใส่ Macbook Pro แต่เนื่องจากยอดซื้อช็อปดีมีคืนของผมเต็มแล้วจึงจะใช้ชื่อแฟน ซึ่งผมก็ให้รายละเอียดบัตรประชาชนไปแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องสมัครสมาชิกซึ่งต้องใช้เบอร์มือถือและอีเมล์เพื่อสมัครและต้องเข้าไป activate สมาชิกด้วยจึงจะออกใบกำกับภาษีให้ได้ ผมจึงบอกว่าแฟนผมไม่สะดวกให้ (แฟนผมจะบ่นหากมีอีเมล์แปลกๆเด้งเข้ามารบกวน) .... เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่างั้นก็ออกใบกำกับภาษีให้ไม่ได้ ..... ผมเลยงงว่าผมซื้อสินค้าและมีบัตรประชาชนให้ออกใบกำกับภาษี ร้านค้าปฏิเสธการออกใบกำกับภาษีได้ด้วยหรือ? และหากบังคับให้ต้องมอบข้อมูลในการสมัครสมาชิกก่อนจึงจะออกใบกำกับภาษีให้ได้ จะผิดตามกฎหมาย PDPA หรือไม่? --> สุดท้ายเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าระบบของ studio 7 หากไม่ใช่สมาชิกก็ไม่ออกใบกำกับภาษีให้ --> สุดท้ายผมจึงไม่รับใบกำกับภาษีเพราะยอดก็แค่ไม่กี่พันบาท แต่ที่ค้างคาใจผมคือผมเสมือนถูกบังคับใจที่ต้องให้ข้อมูลและบังคับให้สมัครสมาชิก ทั้งๆที่มันเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของผมที่จะได้ใบกำกับภาษีไม่ใช่หรือ? สุดท้ายของท้ายสุดก็บอกตัวเองแล้วว่าจะไม่ไปใช้บริการของ studio7 อีก
ทั้ง 3 เคสที่เล่ามาเพื่ออยากแชร์ความรู้สึกที่มีต่อบริการหลังการขายของธุรกิจต่างๆ ในปัจจุบันซึ่งเปลี่ยนไปมากจริงๆ
เดี๋ยวนี้บริการหลังการขายของธุรกิจต่างๆแย่ลง บ่นๆให้ฟัง 3 เคส
1. เคสเกิดกับธุรกิจตู้เครื่องดื่มเต่าบิน (TAOBIN) ผมเริ่มใช้บริการเพราะมีตั้งตู้บริการใต้คอนโด สะดวกดีและอร่อยใช้ได้ ทุกอย่างดูไปได้ดี แต่เมื่อผมสังเกตุเห็นการสะสมแต้มผ่านเบอร์มือถือเพื่อแลกกระดองเต่า ทำไมยอดกระดองไม่สอดคล้องกับที่ผมซื้อ จึงติดต่อ admin ดูแลระบบไป admin บริการตอบแบบตอบๆหายๆ (ข้ามวันข้ามคืน) สุดท้าย admin ตอบว่าก็ได้กระดองแค่นี้ละครับระบบบันทึกการซื้อแค่นี้ .... แต่ผมมีหลักฐานส่งไปนะว่าผมซื้อวันอื่นๆด้วย แต่ยอดคะแนนสะสมไม่ขึ้น ---> สุดท้ายได้คำตอบแบบนี้ จึงเลิกใช้บริการไป
2. เคสเกิดกับธุรกิจธนาคารกรุงไทย โดยผมทำธุรกรรมโอนเงินผ่าน Krungthai Next โดยโอนเงินค่าน้ำประปาให้กับนิติคอนโด โดยในวันที่โอนในช่วงสุดท้ายที่ให้ใส่รหัสเพื่อยืนยันการโอน แอพ Krungthai Next ขึ้นข้อความว่า ระบบเชื่อมต่อล้มเหลว และได้กระเด้งกลับมาให้ใส่รหัสใหม่ ผมจึงไปดู slip โอนเงินพบว่ายังไม่มี slip ยืนยันการโอนเงิน ผมจึงทำการใส่รหัสซ้ำ โดยเกิดแบบนี้ 3 ครั้งจึงทำการโอนสำเร็จ (ซึ่งผมก็ยอมรับว่าส่วนหนึ่งผมก็ประมาทที่ไม่ได้เช็คยอดการวิ่งของเงินในแอพ) ผมจึงทำใจก่อนไปถามที่สาขาธนาคารกรุงไทยแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นความผิดพลาดของแอพ ต้องไปแจ้งให้ปลายทางโอนคืนเอง หากปลายทางไม่โอนคืนก็แจ้งความ .... ผมจึงทวนกับเจ้าหน้าที่ว่า แบบนี้คือแอพมีปัญหาใช่มั้ยครับ เจ้าหน้าที่ตอบว่าใช่ เพราะปกติต้องมี slip ครบทุกครั้ง และหากมีการโอนเงินในบัญชีเดิมซ้ำๆในเวลาติดๆกัน แอพจะมีข้อความแจ้งเตือน .... ผมจึงสอบถามว่าผมขอร้องเรียนได้มั้ย เจ้าหน้าที่ตอบว่าจะร้องเรียนต้องไปร้องเรียนส่วนกลางเอง ---> สุดท้าย ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนทำให้ผมอึดอัดใจ จึงวางแผนว่าจะเลิกการใช้บริการ
3. เคสเกิดกับธุรกิจขายมือถือและคอมพิวเตอร์ของ Studio 7 ของบริษัทคอม เซเว่น ผมไปซื้อกระเป๋าใส่ Macbook Pro แต่เนื่องจากยอดซื้อช็อปดีมีคืนของผมเต็มแล้วจึงจะใช้ชื่อแฟน ซึ่งผมก็ให้รายละเอียดบัตรประชาชนไปแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องสมัครสมาชิกซึ่งต้องใช้เบอร์มือถือและอีเมล์เพื่อสมัครและต้องเข้าไป activate สมาชิกด้วยจึงจะออกใบกำกับภาษีให้ได้ ผมจึงบอกว่าแฟนผมไม่สะดวกให้ (แฟนผมจะบ่นหากมีอีเมล์แปลกๆเด้งเข้ามารบกวน) .... เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่างั้นก็ออกใบกำกับภาษีให้ไม่ได้ ..... ผมเลยงงว่าผมซื้อสินค้าและมีบัตรประชาชนให้ออกใบกำกับภาษี ร้านค้าปฏิเสธการออกใบกำกับภาษีได้ด้วยหรือ? และหากบังคับให้ต้องมอบข้อมูลในการสมัครสมาชิกก่อนจึงจะออกใบกำกับภาษีให้ได้ จะผิดตามกฎหมาย PDPA หรือไม่? --> สุดท้ายเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าระบบของ studio 7 หากไม่ใช่สมาชิกก็ไม่ออกใบกำกับภาษีให้ --> สุดท้ายผมจึงไม่รับใบกำกับภาษีเพราะยอดก็แค่ไม่กี่พันบาท แต่ที่ค้างคาใจผมคือผมเสมือนถูกบังคับใจที่ต้องให้ข้อมูลและบังคับให้สมัครสมาชิก ทั้งๆที่มันเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของผมที่จะได้ใบกำกับภาษีไม่ใช่หรือ? สุดท้ายของท้ายสุดก็บอกตัวเองแล้วว่าจะไม่ไปใช้บริการของ studio7 อีก
ทั้ง 3 เคสที่เล่ามาเพื่ออยากแชร์ความรู้สึกที่มีต่อบริการหลังการขายของธุรกิจต่างๆ ในปัจจุบันซึ่งเปลี่ยนไปมากจริงๆ