คึกฤทธิ์นั้น ไม่ได้เรียนภาษาบาลี เมื่อคัดพุทธวจนะจากพระไตรปิฎก เลยเลือกคัดจากคำแปลฉบับไทย
ส่วนท่านพุทธทาสภิกขุ แปลจากฉบับบาลี (พระไตรปิฎกสยามรัฐ)โดยตรง
สรุปคือ ทำให้เห็นข้อแตกต่างชัดเจน
กรณี คำสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎกนั้น บางเรื่องก็มี “บริบท” หรือ สภาพแวดล้อมช่วยให้เข้าใจดีขึ้น หลายคำสอนมีเหตุการณ์เกิดขึ้น จึงมีการตรัส ช่วยให้เข้าใจคำสอนมากขึ้น
การอ่านพระไตรปิฎกทั้งชุด ตั้งเรื่องราวและคำสอนต่างๆ จึงยังจำเป็น ต้องใช้การเรียนบาลีตามหลักสูตรบาลี เช่น สมัยที่ยังไม่มีพระไตรปิฎกฉบับแปลไทย การแปลต้องอาศัยคัมภีร์อรรถกถาช่วยเป็นอย่างมาก เพราะข้อความหรือธรรมบางเรื่องเข้าใจได้ยาก ถ้าไม่อาศัยอรรถกถา ก็อาจจะคิดแปลเอาเองตามใจชอบ...
ความผิดพลาดของภิกขุคึกฤทธิ์นั้น คือไม่ยอมเรียนภาษาบาลี อย่างท่านพุทธทาสภิกขุ (ปธ.3)
ส่วนท่านพุทธทาสภิกขุ แปลจากฉบับบาลี (พระไตรปิฎกสยามรัฐ)โดยตรง
สรุปคือ ทำให้เห็นข้อแตกต่างชัดเจน
กรณี คำสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎกนั้น บางเรื่องก็มี “บริบท” หรือ สภาพแวดล้อมช่วยให้เข้าใจดีขึ้น หลายคำสอนมีเหตุการณ์เกิดขึ้น จึงมีการตรัส ช่วยให้เข้าใจคำสอนมากขึ้น
การอ่านพระไตรปิฎกทั้งชุด ตั้งเรื่องราวและคำสอนต่างๆ จึงยังจำเป็น ต้องใช้การเรียนบาลีตามหลักสูตรบาลี เช่น สมัยที่ยังไม่มีพระไตรปิฎกฉบับแปลไทย การแปลต้องอาศัยคัมภีร์อรรถกถาช่วยเป็นอย่างมาก เพราะข้อความหรือธรรมบางเรื่องเข้าใจได้ยาก ถ้าไม่อาศัยอรรถกถา ก็อาจจะคิดแปลเอาเองตามใจชอบ...