คำแนะนำในการทำให้มีพระภิกษุที่ดีๆ เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา

กระทู้สนทนา
คำว่าพระภิกษุที่ดี หมายถึงพระภิกษุที่ปฏิบัติตัวตามพระวินัย ซึ่งพระภิกษุที่สามารถปฏิบัติตัวตามพระวินัยได้นั้น มีเหตุผลเดียวคือบวชเพื่อละกิเลส เพื่อพ้นทุกข์ เพื่อบรรลุธรรม (บวชเพื่อให้ได้เป็นพระสงฆ์)

พระที่บวชเพื่อเรียนหนังสือ บวชเพื่อหนีความจน บวชเพื่อหารายได้ หรือก็คือ ไม่ได้บวชเพื่อละกิเลสจริงๆ จะไม่มีทางเลยที่จะปฏิบัติตัวให้ตรงตามพระวินัยได้

แต่ก็พอมีข้อยกเว้น เช่น ผู้ที่บวชระยะสั้น 5 วัน 7 วัน 3 เดือน 6 เดือน ฯลฯ แบบนี้น่าจะพอฝืนได้ (หมายถึงไม่ได้ตั้งใจบวชเพื่อละกิเลสหรือมีความคิดอยากบรรลุธรรม) แต่ถ้านานกว่านี้ไม่สามารถทำได้แน่ อัตตาจะสูงมากเพราะมีแต่คนเข้ามากราบไหว้ มาให้ความเคารพ

ผมขอเกริ่นเท่านี้ เพราะถ้ามากกว่านี้จะถูกโยงกลายเป็นเรื่องอื่น (แต่ก็ขอให้เอาบุคคลหรือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้เป็นตัวอย่าง ว่าพระที่ไม่ปฏิบัติตัวตามพระวินัยจะสร้างผลเสียอะไรขึ้นบ้าง)

ก่อนที่จะพูดถึงสิ่งที่ผมจะแนะนำ ผมขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงก่อน เมื่อหลายวันที่แล้ว ผมได้มีโอกาสดูคลิปๆ หนึ่ง เป็นคลิปรายการของหมอปลา ผมจำชื่อรายการไม่ได้แล้ว (ที่จริงคือไม่ได้จำ คลิปมันขึ้นมาเอง) เป็นการวางแผนจับพระอลัชชีที่กำลังจะข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งพระอลัชชีผู้นี้ไปทักผู้หญิงคนนั้นว่าโดนผีเข้าหรืออะไรสักอย่าง และพยายามตามตื้อหลายครั้ง จนสุดท้ายก็วางแผนและติดกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นหลักฐาน

และในที่สุด พระอลัชชีผู้นั้นก็ถูกจับได้ โดยในภาพวงจรปิดมีการพยายามถอดเสื้อผ้า ถอดกางเกง ล้วงเข้าไปข้างใน และกำลังจะทำอะไรมากกว่านั้น สุดท้ายก็ถูกจับกุม ผู้ที่จับกุมน่าจะเป็นตำรจนอกเครื่องแบบ

ที่ผมยกเรื่องนี้มาพูดถึง เพราะขนาดมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ คนที่เข้าไปจับกุมซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นตำรวจหรือเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่น ยังยกมือไหว้แล้วเรียกอลัชชีนั้นว่าหลวงพ่อ แม้อลัชชีจะโวยวาย พูดคำหยาบ ท้าชก แต่งตัวไม่เรียบร้อย ก็ยังยกมือไหว้ ยังเรียกหลวงพ่ออยู่อีก (ส่วนหมอปลาไม่ต้องพูดถึง ถึงผมจะไม่สนับสนุนให้ใช้คำหยาบ แต่สรรพนามที่หมอปลาใช้กับอลัชชีผู้นั้นเหมาะสมแล้ว ซึ่งผมคงไม่ต้องบอกว่าใช้สรรพนามว่าอะไร)

อีกคลิปหนึ่ง ผมเห็นเมื่อหลายปีที่แล้ว มีคนถ่ายคลิปพระไปสั่งเหล้าและสั่งก๋วยเตี๋ยวด้วย ซึ่งเป็นเวลาเย็นแล้ว เด็กที่เอามาเสริฟก็ยังยกมือไหว้ เอาเหล้ามาเสริฟพระแล้วยกมือไหว้ด้วย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

ตัวอย่างที่ผมยกมา เพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่รู้ไม่เข้าใจของชาวพุทธ ซึ่งอาจจะถูกปลูกฝังมาว่าเวลาที่เห็นผ้าเหลืองให้ยกมือไหว้ ให้เคารพ ไม่ว่าพระรูปนั้นจะประพฤติตัวดีหรือไม่ดีก็อย่าไปว่า อย่าไปตำหนิ ถ้าเห็นพระหรือเห็นจีวรสีเหลืองให้ไหว้อย่างเดียว ไม่อย่างนั้นจะเป็นบาป ถ้าไหว้แล้วจะได้บุญ

ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมหันต์ นอกจากจะไม่ได้บุญแล้ว ยังเป็นบาปด้วย เป็นการช่วยทำลายพระพุทธศาสนาทางตรงเลย

สิ่งที่ผมจะแนะนำเพื่อช่วยให้พระพุทธศาสนามีแต่พระภิกษุดีๆ เข้ามาบวช นั่นคือ เวลาที่เราเจอพระที่ประพฤติตัวไม่ดี แค่เดินก็ไม่สำรวม พูดจาไม่เพราะ เสียงดังโวยวาย หรืออะไรก็ตามที่คนมีการศึกษาไม่ทำกัน (พระที่ปฏิบัติตัวตามพระวินัย จะเหมือนคนที่มีสมบัติผู้ดี เพราะพระวินัยหลายข้อเน้นเรื่องกริยามารยาท เพราะพระพุทธเจ้าให้ความสำคัญเรื่องความน่าเลื่อมใส พระภิกษุต้องทำตัวให้น่าเลื่อมใส ถ้าทำตัวน่าเลื่อมใสอยู่แล้วก็ทำให้น่าเลื่อมใสมากยิ่งขึ้น นั่นคือความประสงค์ของพระพุทธเจ้า) เราไม่ต้องไปแสดงความเคารพหรือเกรงใจ เรื่องยกมือไหว้ตัดทิ้งไปเลย ผมอยากจะใช้คำรุนแรงเพื่อให้เห็นภาพว่าเหมือนมองสัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งก็จะดูขาดความเมตตา แต่อย่าไปให้ค่าพระแบบนี้

สมมุติว่ามีเพื่อนในกลุ่มๆ หนึ่งเข้ามาบวช ซึ่งปกติเป็นกลุ่มที่นิสัยไม่ค่อยดี เกเร ชอบสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เมื่อบวชแล้วก็ยังทำตัวไม่ดี หรือถึงขนาดกินเหล้า ดูหนังโป๊ เสพยา ฯลฯ แต่กลับมีคนมากราบไหว้ มาบูชา เพื่อนคนอื่นในแกงค์เห็นก็อยากเข้ามาบวชบ้าง

แต่ถ้าต้องมาปฏิบัติตัวตามพระวินัย เวลาเดินก็ต้องสำรวม พูดจาก็สำรวม มีมารยาท ฯลฯ เพื่อนคนอื่นถ้าไม่ได้อยากจะบวชจริงๆ ไม่มีความคิดเรื่องบรรลุธรรม คงไม่คิดที่จะเข้ามาบวชแน่ๆ (เพราะทำตัวแบบนั้นไม่ได้)

ถ้าทุกคนร่วมมือกัน ที่จริงก็ไม่มีอะไรมาก ยึดถือเอาพระวินัยเป็นหลัก ถ้าใครคิดจะบวชเป็นพระแล้วไม่รักษาพระวินัย ไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย (ยกตัวอย่างกรณีทิดทั้ง 2 ผิดพระวินัยนับไม่ถ้วน ทุกคลิป เรียกว่าไม่สนใจพระวินัยเลย พระพุทธเจ้าห้ามอะไรก็จะทำ) แบบนี้ไม่ควรไปสนับสนุน (ต้องไม่สนับสนุนเลย) ส่วนจะตำหนิติเตียนหรือไม่ก็แล้วแต่กรณี แล้วแต่ตัวบุคคล

ถ้าเราทำได้ ต่อไปพระที่ไม่ดีจะไม่กล้าออกมาเดินตามท้องถนน หรือถ้าต้องออกมาบิณฑบาตก็จะทำตัวสำรวม น่าเลื่อมใส (ถึงตัวจริงจะเป็นคนไม่ดี แต่เวลาที่เจอชาวบ้านทำตัวดี ปฏิบัติตามพระวินัย แบบนี้ยกมือไหว้ได้ แม้จะเป็นพระปลอมก็ตาม แต่เราไม่รู้ ก็ยังได้บุญ)

ผมเขียนมายืดยาว แต่เนื้อหาหลักๆ มีไม่มาก หวังว่าจะพอจับใจความหรือจับประเด็นที่สำคัญได้

(ที่จริง สิ่งที่ผมคาดหวังอยากให้เกิดขึ้นในอนาคตคือ เวลาพระสวดปาติโมกข์ ซึ่งจะมีขึ้นทุกเดือน เดือนละ 1-2 ครั้ง เปลี่ยนจากการสวดภาษาบาลีเป็นสวดภาษาไทย เพราะพระส่วนใหญ่หรือทั้งหมดฟังพระวินัยกันนับครั้งไม่ถ้วน แต่ฟังเป็นภาษาบาลี ไม่เข้าใจความหมาย บางทีสึกออกมายังไม่รู้เลยว่าพระวินัยมีอะไรบ้าง หรืออาจจะไม่รู้ด้วยว่าที่ฟังสวดปาติโมกข์ทุกเดือนๆ นั่นคือพระวินัย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่