เชียงใหม่-นำชมวัดดาราภิมุข (วัดบ่อปุ๊) วัดที่สร้างเพื่อแสดงกตัญญูกตเวทิตาต่อแม่นมของพระราชชายาเจ้าดารารัศมีฯ


วัดดาราภิมุข ตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๐ หมู่ที่ ๑ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
หากจะเดินทางไปวัดดาราภิมุข จะเป็นเส้นทางสายเข้าเมืองเชียงใหม่ บนเส้นทางสายที่ไปแม่ริมนั่นแหละครับ

เส้นทางวิ่งเข้าเมืองก็ต้องชิดซ้าย และหมั่นสังเกตป้ายบอก ไม่เช่นนั้น เลยแน่นอนครับ

เรียกว่าเห็นป้ายวัด ก็ต้องรีบเลี้ยวกันทันที ทางเข้าเป็นถนน 2 เลน แบบหมู่บ้าน ซึ่งต้องใช้ความเร็วอย่างระมัดระวังครับ

เข้ามาไม่ไกลนัก ก็จะเห็นรั้ววัดแล้วครับ

ทางเข้าวัดก็จะเห็นอุโบสถและวิหารงามเด่นเป็นสง่ากันเลยทีเดียวครับ

มีบริเวณกว้างสำหรับจอดรถ มองไปด้านหน้าจะเห็นพระตำหนักจำลอง และวิหารพระเจ้าทันใจครับ

วัดนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๗ ทรงสร้างให้บุตรี 
คือ เจ้าดารารัศมี พระราชชายาในสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ในราวปีจุลศักราช ๑๒๔๗ หรือตรงกับพุทธศักราช ๒๔๒๘

บริเวณโดยรอบของวัดกว้างขวาง สะอาด สบายตามากครับ

การสร้างวัดดาราภิมุขขึ้นนี้เป็นดำริของเจ้าดารารัศมี 
เพื่อเป็นการตอบแทนกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อแม่นางกัลยารักษ์ (นางเต็ม ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นแม่นมของพระองค์
โดยมีบ้านอยู่ในเขตบ้านบ่อปุ๊ หมู่ที่ ๑ ในปัจจุบัน 
(จากคำบอกเล่าของ พ่อหลวงบุญสม ณ เชียงใหม่ อดีตผู้ใหญ่บ้าน สายสกุล ณ เชียงใหม่)

หลังจากเข้ามาในวัดแล้ว มองรอบๆ วัด สิ่งแรกที่เราควรปฏิบัติ ก็คือการกราบสักการะเจ้าดารารัศมีฯ
และเข้าชมพระตำหนักจำลอง

ภายในพระตำหนักจำลอง จะมีตู้โชว์ ซึ่งจะมีภาพต่างๆ แต่เนื่องจากกระจกของตู้ในวันที่ไปถ่ายภาพนั้น
ค่อนข้างมัวมาก ทำให้ภาพถ่ายออกมามัวไปด้วย จึงมิได้นำมาแสดงไว้ในกระทู้นะครับ

วัดดาราภิมุขมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วัดบ่อปุ๊" ที่มีชื่อเรียกอย่างนี้ เพราะเรียกตามชื่อหมู่บ้าน
เพราะภายในหมู่บ้านห่างจากวัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะมีบ่อน้ำขนาดใหญ่
มีความกว้างประมาณ ๔ เมตร ซึ่งเป็นบ่อน้ำแร่ที่ผุดขึ้นเองตามธรรมชาติ
มีความสะอาดสามารถดื่มกินได้
ด้วยน้ำบ่อที่ผุดขึ้นมาซึ่งภาษาเหนือเรียกว่า "ปุ๊" จึงเป็นชื่อหมู่บ้าน และวัดในเขตหมู่บ้านนี้ว่า "บ่อปุ๊"

ออกจากพระตำหนักจำลอง เราก็มากราบสักการะพระอุปคุตกันก่อน


จากนั้นเราจะไปชมวิหาร และพระพุทธรูปภายในวิหารกันครับ

สัตตภัณฑ์ที่วัดนี้สวยงามแปลกตามากๆ ครับ ลักษณะไม่ค่อยซ้ำกับวัดอื่นๆ นัก


และสุดท้ายเราจะไปชมอุโบสถปิยะดารา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่อนุญาตให้สตรีเข้าไปนะครับ
ก็เลยถือโอกาสชมภาพในกระทู้นี้แทนก็แล้วกันครับ

เป็นที่น่าเสียดายที่ พ.ศ. ๒๕๐๒ ได้เกิดอัคคีภัยครั้งใหญ่ 
เผาผลาญกุฏิสงฆ์ซึ่งทำด้วยไม้ทั้งหลัง พร้อมกับวัตถุมีค่าอันเป็นสมบัติที่เจ้าดารารัศมีมอบถวายเป็นพุทธบูชา
เช่น ดอกไม้ทองคำ เงิน-แหวน พระพุทธรูปที่ทำด้วยทองคำ เงิน นาค สัมฤทธิ์
แต่ยังคงมี พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ กลองยาว ธรรมาสน์โบราณ อายุกว่า 100 ปี ที่ยังหลงเหลืออยู่
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่