ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR &การตรวจ ATK ด้วยตัวเอง ต่างกันอย่างไร?



ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR & การตรวจ ATK (ด้วยตัวเอง) ต่างกันอย่างไร?



อย่างที่เราทราบกันว่าโควิด-19 กำลังกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งในประเทศไทย โดยผู้ติดเชื้อล่าสุดส่วนใหญ่พบว่ามาจากการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ติดต่อง่ายและแพร่กระจายเร็วได้กว่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา การตรวจหาเชื้อโควิด-19 จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย หรือผู้ที่เริ่มมีอาการต้องสงสัย ควรเข้ารับการตรวจโควิด-19 ทันทีด้วยวิธีที่เหมาะสม



วิธีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

* ตรวจด้วยวิธี RT-PCR (realtime, reverse transcriptase-PCR)
* ตรวจด้วยตัวเอง Antigen Test Kit (ATK) หรือ Rapid Antigen Test



โดยการตรวจด้วยวิธี RT-PCR เป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสด้วยการเก็บตัวอย่างเชื้อจากสารคัดหลั่งบริเวณลำคอและหลังโพรงจมูก แล้วนำเชื้อไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลหรือสถานที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เท่านั้น จึงมีระยะเวลารอผลอย่างน้อย 24 ชั่วโมง การตรวจด้วยวิธีนี้มีความแม่นยำสูงถึงแม้เชื้อในร่างกายจะมีปริมาณน้อยก็สามารถตรวจพบเชื้อได้สามารถนำผลตรวจไปใช้ยืนยันการทำงานหรือการเดินทางได้
 


ส่วนการตรวจด้วย Antigen Test Kit หรือ Rapid Antigen Test เป็นวิธีการตรวจโควิด-19 ที่สะดวกและรวดเร็ว รู้ผลภายใน 15-30 นาที ทุกวันนี้มีชุดตรวจ ATK แบบ Home use หรือ Self-test สำหรับให้ผู้ตรวจซื้อมาตรวจเองที่บ้านได้ กับชุดตรวจแบบ Professional use สำหรับตรวจที่โรงพยาบาลคลินิกเวชกรรมและคลินิกเทคนิคการแพทย์ การตรวจ ATK เป็นการตรวจหาชิ้นส่วนโปรตีนของเชื้อไวรัสด้วยการเก็บตัวอย่างเชื้อจากสารคัดหลั่งบริเวณหลังโพรงจมูก ลำคอและน้ำลาย นำมาหยอดน้ำยาในตลับตรวจเพื่อหาเชื้อเบื้องต้น ซึ่งหากตรวจด้วยขั้นตอนและชุดตรวจที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อนได้ (ควรใช้ชุดตรวจที่ผ่านมาตรฐานขึ้นทะเบียนกับทาง อย. แล้วเท่านั้น) และอาจตรวจไม่พบเชื้อหากเชื้อในร่างกายมีปริมาณน้อยซึ่งต้องรอ 3-5 วันก่อนตรวจหลังจากสัมผัสเชื้อ

* กรณีที่ตรวจแบบ ATK ด้วยตัวเองและผลเป็นบวก (พบเชื้อโควิด-19) จะต้องทำการตรวจแบบ RT-PCR เพื่อยืนยันผลอีกครั้ง



** แม้จะตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่เราก็ไม่ควรประมาท ให้ระมัดระวังป้องกันตัวเองอยู่เสมอด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ เจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ เลี่ยงการไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่มีคนอยู่เยอะๆ และที่สำคัญอยากแนะนำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดส หรือ 2 เข็มแล้ว ฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือ Booster Dose กันด้วย เท่านี้ก็ช่วยป้องกันไม่ให้เราติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้แล้วค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่