สวัสดีค่ะ กระทู้นี้จะขอเล่าประสบการณ์การเจอก้อนในเต้านมและการรักษา เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะคะ
ย้อนกลับไปประมาณเดือนกันยายน ปี2563 ตอนนั้นเราอายุ 20 ปี ได้อ่านวิธีการเช็คก้อนในเต้านมด้วยตัวเอง เลยลองเช็คดู ผลปรากฏว่าเจอก้อน 1 ก้อนค่ะ ที่ทราบเพราะจับเทียบสองข้างแล้วมีความแตกต่างกัน ข้างที่เจอก้อน จับแล้วจะรู้สึกถึงก้อนที่นูนๆ แต่อีกข้างไม่มีค่ะ
พอทราบแล้วว่าเต้านมมีก้อน จึงไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลค่ะ คุณหมอซักประวัติแล้วก็จับตรงก้อนที่เราเจอ สรุปว่าเป็นก้อนเนื้อที่มีความหยุ่นและขยับไปมาได้ คิดว่าไม่อันตราย (แต่ตอนเราจับเองเราคิดว่ามันแข็ง ๆ ไม่แน่ใจว่าขยับได้ไหม ดังนั้นคนที่จับเจอก้อน รีบไปหาหมอดีที่สุดค่ะ เพราะคุณหมอเขาทราบว่าแบบใดเป็นลักษณะที่ดูเป็นอันตรายค่ะ) จึงนัดอัลตราซาวด์ในเดือนธันวาคมค่ะ
ต่อมาก็นัดอัลตราซาวด์และฟังผล คุณหมอก็บอกว่าไม่อันตราย จึงนัดมา Follow Up ใน 6 เดือนข้างหน้าค่ะ
แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด เมื่อถึงเวลา Follow Up ในเดือนมิถุนายน 2564 เรากลับมาอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถเดินทางไปที่โรงพยาบาลเดิมได้ จึงไปหาคุณหมอที่คลินิกในจังหวัดค่ะ ท่านก็ให้ไปอัลตราซาวด์ที่คลินิกใกล้ๆ ครั้งนี้ดูน่ากลัวมากค่ะ เพราะคุณหมอที่อัลตราซาวด์บอกว่าควรไปเจาะชิ้นเนื้อดู เพราะก้อนมีขนาด 2 cm และผิวของก้อนดูไม่เรียบค่ะ ตอนนั้นตกใจมาก คิดไปต่าง ๆ นาๆ กลัวไปทุกอย่างเลยค่ะ
สรุปก็นัดคิวเจาะชิ้นเนื้อ ใครที่ต้องเจาะชิ้นเนื้อเหมือนกัน ทำใจให้สบายนะคะ ไม่ต้องกังวล คุณหมอจะฉีดยาชา ซึ่งตอนฉีดไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ค่ะ และจะใช้เครื่องมือเจาะลงไป เจ้าเครื่องนี้เวลาดึงชิ้นเนื้อเราออกมาจะเสียงดังทำให้ตกใจหน่อยค่ะ แต่ไม่ได้เจ็บมากนะคะ เพราะมียาชาช่วย และการเจาะชิ้นเนื้อ ก็จะต้องเจาะหลาย ๆ มุมค่ะ ก็ต้องอดทนฟังเจ้าเครื่องนี้ดึงชิ้นเนื้อเราออกไปหลาย ๆ ครั้ง หลังจากเจาะชิ้นเนื้อเสร็จ ยาชาหมดฤทธิ์ก็ปวด ๆ ค่ะ แต่ไม่ได้ถึงขั้นทนไม่ได้ แผลก็ใช้เวลาหลายวันหน่อยกว่าจะหายดี ระหว่างนี้ก็ห้ามโดนน้ำค่ะ ขอเล่าเพิ่มเติมว่าตอนเจาะชิ้นเนื้อ เรากลัวมาก ๆ อยากร้องไห้เลยค่ะแต่พี่พยาบาลและคุณหมอให้กำลังใจดีมากค่ะ พี่พยาบาลบอกว่าพี่เขาก็เป็นแบบนี้และต้องเจาะไปตรวจเช่นกันสุดท้ายก็เป็นก้อนเนื้อที่ไม่อันตราย หรือถ้าเกิดแย่ที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้เป็นเนื้อร้ายจริง ๆ การที่เรารีบมาหาหมอ รีบรักษาทำให้โอกาสหายดีมีเยอะมากเลยค่ะ พี่เขาพูดติดตลกว่ามะเร็งเต้านมนี้สำหรับคุณหมอถือว่าจิ๊บจ๊อยค่ะ ถ้าเทียบกับชนิดอื่นที่อันตรายกว่ามาก ฟังแล้วรู้สึกดีมากจริง ๆ ค่ะ ต้องกราบขอบพระคุณพี่พยาบาลและคุณหมอในวันนั้น
เมื่อถึงวันฟังผล คุณหมอแจ้งว่าก้อนในเต้านมเราเป็น Fibroadenoma ซึ่งพบได้เยอะในวัยรุ่นและไม่อันตรายค่ะ ฟังแล้วโล่งใจมาก แต่ท่านใดที่ไม่ใช่วัยรุ่นไม่ต้องเครียดไปนะคะ ยังมีก้อนเนื้อที่ไม่เป็นอันตรายอีกหลายแบบ และเกิดได้ในทุกวัยค่ะ อย่างคุณแม่ของเรา อายุเกือบ 50 ก็มีทั้งก้อนที่เป็น Fibroadenoma และก้อนที่เป็น Lipoma (เนื้องอกไขมัน) ค่ะ
ล่าสุดเราเพิ่งมา Follow Up ในเดือนนี้ ก้อนในเต้านมมีขนาดเล็กลงเป็น 1.5 cm ค่ะ คุณหมอบอกว่าฮอร์โมนมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ถ้าภายในสองปีไม่โตขึ้น ก็สบายใจได้ค่ะ
สุดท้ายนี้อยากเชิญชวนให้ผู้หญิงทุกคนคลำเต้านมทุกเดือนค่ะ ถ้าเป็นโรคอะไร ยิ่งเจอเร็วยิ่งเป็นประโยชน์ต่อตัวเรามาก ๆ ค่ะ อย่าคิดว่าตัวเราจะไม่เสี่ยงนะคะ เพราะแค่เป็นผู้หญิงก็มีความเสี่ยงแล้วค่ะ หากเจออะไรผิดปกติ อย่าลังเลที่จะไปหาหมอนะคะ บางคนอาจจะคิดมากเรื่องต้องไปตรวจกับคุณหมอผู้ชาย แต่จากการที่เราตรวจกับคุณหมอผู้ชายมาแล้วสองคน ไม่มีอะไรแตกต่างกับการตรวจกับคุณหมอผู้หญิงค่ะ ทั้งคุณหมอผู้ชายที่เป็นเจ้าของเคสเราใจดีมาก ๆ กรุณาเรียกว่าเราลูก ทั้งปลอบใจว่าไม่ต้องกลัวนะลูก ต้องขอบพระคุณมากจริง ๆ ค่ะ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังมีความกังวลในเรื่องนี้นะคะ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ปลอดภัยแข็งแรงค่ะ
ประสบการณ์เจอก้อนในเต้านม
ย้อนกลับไปประมาณเดือนกันยายน ปี2563 ตอนนั้นเราอายุ 20 ปี ได้อ่านวิธีการเช็คก้อนในเต้านมด้วยตัวเอง เลยลองเช็คดู ผลปรากฏว่าเจอก้อน 1 ก้อนค่ะ ที่ทราบเพราะจับเทียบสองข้างแล้วมีความแตกต่างกัน ข้างที่เจอก้อน จับแล้วจะรู้สึกถึงก้อนที่นูนๆ แต่อีกข้างไม่มีค่ะ
พอทราบแล้วว่าเต้านมมีก้อน จึงไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลค่ะ คุณหมอซักประวัติแล้วก็จับตรงก้อนที่เราเจอ สรุปว่าเป็นก้อนเนื้อที่มีความหยุ่นและขยับไปมาได้ คิดว่าไม่อันตราย (แต่ตอนเราจับเองเราคิดว่ามันแข็ง ๆ ไม่แน่ใจว่าขยับได้ไหม ดังนั้นคนที่จับเจอก้อน รีบไปหาหมอดีที่สุดค่ะ เพราะคุณหมอเขาทราบว่าแบบใดเป็นลักษณะที่ดูเป็นอันตรายค่ะ) จึงนัดอัลตราซาวด์ในเดือนธันวาคมค่ะ
ต่อมาก็นัดอัลตราซาวด์และฟังผล คุณหมอก็บอกว่าไม่อันตราย จึงนัดมา Follow Up ใน 6 เดือนข้างหน้าค่ะ
แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด เมื่อถึงเวลา Follow Up ในเดือนมิถุนายน 2564 เรากลับมาอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถเดินทางไปที่โรงพยาบาลเดิมได้ จึงไปหาคุณหมอที่คลินิกในจังหวัดค่ะ ท่านก็ให้ไปอัลตราซาวด์ที่คลินิกใกล้ๆ ครั้งนี้ดูน่ากลัวมากค่ะ เพราะคุณหมอที่อัลตราซาวด์บอกว่าควรไปเจาะชิ้นเนื้อดู เพราะก้อนมีขนาด 2 cm และผิวของก้อนดูไม่เรียบค่ะ ตอนนั้นตกใจมาก คิดไปต่าง ๆ นาๆ กลัวไปทุกอย่างเลยค่ะ
สรุปก็นัดคิวเจาะชิ้นเนื้อ ใครที่ต้องเจาะชิ้นเนื้อเหมือนกัน ทำใจให้สบายนะคะ ไม่ต้องกังวล คุณหมอจะฉีดยาชา ซึ่งตอนฉีดไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ค่ะ และจะใช้เครื่องมือเจาะลงไป เจ้าเครื่องนี้เวลาดึงชิ้นเนื้อเราออกมาจะเสียงดังทำให้ตกใจหน่อยค่ะ แต่ไม่ได้เจ็บมากนะคะ เพราะมียาชาช่วย และการเจาะชิ้นเนื้อ ก็จะต้องเจาะหลาย ๆ มุมค่ะ ก็ต้องอดทนฟังเจ้าเครื่องนี้ดึงชิ้นเนื้อเราออกไปหลาย ๆ ครั้ง หลังจากเจาะชิ้นเนื้อเสร็จ ยาชาหมดฤทธิ์ก็ปวด ๆ ค่ะ แต่ไม่ได้ถึงขั้นทนไม่ได้ แผลก็ใช้เวลาหลายวันหน่อยกว่าจะหายดี ระหว่างนี้ก็ห้ามโดนน้ำค่ะ ขอเล่าเพิ่มเติมว่าตอนเจาะชิ้นเนื้อ เรากลัวมาก ๆ อยากร้องไห้เลยค่ะแต่พี่พยาบาลและคุณหมอให้กำลังใจดีมากค่ะ พี่พยาบาลบอกว่าพี่เขาก็เป็นแบบนี้และต้องเจาะไปตรวจเช่นกันสุดท้ายก็เป็นก้อนเนื้อที่ไม่อันตราย หรือถ้าเกิดแย่ที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้เป็นเนื้อร้ายจริง ๆ การที่เรารีบมาหาหมอ รีบรักษาทำให้โอกาสหายดีมีเยอะมากเลยค่ะ พี่เขาพูดติดตลกว่ามะเร็งเต้านมนี้สำหรับคุณหมอถือว่าจิ๊บจ๊อยค่ะ ถ้าเทียบกับชนิดอื่นที่อันตรายกว่ามาก ฟังแล้วรู้สึกดีมากจริง ๆ ค่ะ ต้องกราบขอบพระคุณพี่พยาบาลและคุณหมอในวันนั้น
เมื่อถึงวันฟังผล คุณหมอแจ้งว่าก้อนในเต้านมเราเป็น Fibroadenoma ซึ่งพบได้เยอะในวัยรุ่นและไม่อันตรายค่ะ ฟังแล้วโล่งใจมาก แต่ท่านใดที่ไม่ใช่วัยรุ่นไม่ต้องเครียดไปนะคะ ยังมีก้อนเนื้อที่ไม่เป็นอันตรายอีกหลายแบบ และเกิดได้ในทุกวัยค่ะ อย่างคุณแม่ของเรา อายุเกือบ 50 ก็มีทั้งก้อนที่เป็น Fibroadenoma และก้อนที่เป็น Lipoma (เนื้องอกไขมัน) ค่ะ
ล่าสุดเราเพิ่งมา Follow Up ในเดือนนี้ ก้อนในเต้านมมีขนาดเล็กลงเป็น 1.5 cm ค่ะ คุณหมอบอกว่าฮอร์โมนมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ถ้าภายในสองปีไม่โตขึ้น ก็สบายใจได้ค่ะ
สุดท้ายนี้อยากเชิญชวนให้ผู้หญิงทุกคนคลำเต้านมทุกเดือนค่ะ ถ้าเป็นโรคอะไร ยิ่งเจอเร็วยิ่งเป็นประโยชน์ต่อตัวเรามาก ๆ ค่ะ อย่าคิดว่าตัวเราจะไม่เสี่ยงนะคะ เพราะแค่เป็นผู้หญิงก็มีความเสี่ยงแล้วค่ะ หากเจออะไรผิดปกติ อย่าลังเลที่จะไปหาหมอนะคะ บางคนอาจจะคิดมากเรื่องต้องไปตรวจกับคุณหมอผู้ชาย แต่จากการที่เราตรวจกับคุณหมอผู้ชายมาแล้วสองคน ไม่มีอะไรแตกต่างกับการตรวจกับคุณหมอผู้หญิงค่ะ ทั้งคุณหมอผู้ชายที่เป็นเจ้าของเคสเราใจดีมาก ๆ กรุณาเรียกว่าเราลูก ทั้งปลอบใจว่าไม่ต้องกลัวนะลูก ต้องขอบพระคุณมากจริง ๆ ค่ะ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังมีความกังวลในเรื่องนี้นะคะ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ปลอดภัยแข็งแรงค่ะ