คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 110
ถึงผมจะเห็นด้วย กับทุกคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ เรื่องจะไปจูงใจคนที่ไม่อยากมีลูกไปเพื่ออะไร โดยเฉพาะเพื่อให้บรรพบุรูที่ล่วงลับไปแล้วมีความสุข
แต่จะลองช่วยคิดละกัน
การจูงใจ ในฐานะที่คุณไม่เคยมีลูกมาก่อน แล้วมามีลูก คุณน่าจะรู้ดีที่สุด ว่าการมีลูก ดีกว่าการไม่มีลูกอย่างไร และอะไรเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหามาทดแทนได้ เช่น
เริ่มจาก ให้ก๋งที่ล่วงลับไปแล้วสบายใจ คุณใช้ข้อนี้ได้ ถ้าคุณมั่นใจว่า น้องของคุณมีความรักก๋งและเชื่อถือเช่นเดียวกับคุณ (คือเชื่อว่าก๋งจะมีสุขในโลกหลังความตาย ถ้าลูกหลานทำสิ่งที่ก๋งปรารภไว้ก่อนตายให้) และความอยากให้ก๋งมีความสุขนั้น มากพอจนชนะความไม่อยากมีและความลำบากของการมีที่จะตามมาของเค้า
หรือ มีลูกไว้ดูแลยามแก่เฒ่า คุณใช้ข้อนี้ได้ ถ้าน้องคุณมีความกังวลชีวิตยามชราอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม สมัยนี้เองมีความเชื่อชุดใหม่ ที่มีเหตุผลของการอย่าคาดหวังให้ลูกหลานมาดูแลยามแก่เฒ่ามากมาย เบสิคสุดเช่น ถ้าลูกพิการหรือเสียชีวิตไปก่อน ลูกไม่มีศักยภาพดูแลผู้อื่นนอกจากตัวเอง ลูกย้ายที่อยุ่อาศัยไปเติบโตที่อื่น ฯลฯ ถ้าน้องคุณเชื่อเช่นนี้ และหาทางออกไว้แล้ว ก็คงจูงใจไม่ได้ครับ
มีลูกไว้สืบทอดมรดก ทั้งทรัพย์สินหรือองค์ความรู้ (ส่วน DNA คงไม่จำเป็น ในเมื่อคุณมีลูกไปตั้ง 3 คนแล้ว) อันนี้จะใช้ได้ ถ้าน้องคุณมีมรดกจะมอบให้ และอยากให้มรดกอยู่ในวงศ์ตระกูลมากกว่า แต่เค้าอาจจะตอบว่ายินดียกให้ลูกคุณก็ได้นะ
เลี้ยงไม่ไหว ไม่อยากดูแล อันนี้คุณต้องใช้ประสบการณืความเป็นพ่อของคุณ ในการ convince ละกัน ว่ามันไม่ยากอย่างที่กังวลอย่างไร มีอะไรมาทดแทนความเหนื่อยยากนั้น รวมถึง อาจ offer ช่วยเลี้ยงดู ดูแล แต่ถ้าน้องคุณเชื่อว่า ใครดูแลก็ไม่เหมือนพ่อแม่ดูแล การ offer ช่วยดูแลอาจช่วยไม่ได้มาก เอาจริง ถ้าน้องถามว่า งั้นพี่เอาลูกพี่มาให้ผมดูแลซักคน แล้วพี่ไปมีอีกคนเองสิ (เพื่อเทียบให้เห็นว่า คนเป็นพ่อยอมยกลูกไปให้คนอื่นเลี้ยงง่ายๆหรอ) คุณจะตอบอย่างไรครับ
ประมาณนี้แหละครับ ซึ่งถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ จะพบว่า การที่คุณจะจูงใจน้องคุณได้นั้น คุณต้องมีความเข้าใจในตัวเค้ามากๆก่อนครับ และต้องหาเหตุผลที่ดีพอ เพื่อขจัดข้อกังวลต่างๆของเค้า ในเรื่องที่คุณจะยกไปจูงใจเค้าครับ
แต่ย้ำอีกครั้ง จูงใจแล้วเค้าไม่อยากมี ก็คือไม่อยากมีนะครับ เรื่องก๋งจะไม่สบายใจ อาจเป็นความเชื่อของคุณคนเดียว อย่าบังคับให้น้องเชื่อเช่นคุณ เพราะคุณก็คงไม่อยากให้น้องมาทำให้คุณเชื่อว่า ตอนนี้ก๋งสุขสบายอยู่แล้ว ตอนก๋งมีชีวิตก็ทำดีครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพื่อก๋งเพิ่มแล้วล่ะ ใช่มั้ยครับ
แต่จะลองช่วยคิดละกัน
การจูงใจ ในฐานะที่คุณไม่เคยมีลูกมาก่อน แล้วมามีลูก คุณน่าจะรู้ดีที่สุด ว่าการมีลูก ดีกว่าการไม่มีลูกอย่างไร และอะไรเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหามาทดแทนได้ เช่น
เริ่มจาก ให้ก๋งที่ล่วงลับไปแล้วสบายใจ คุณใช้ข้อนี้ได้ ถ้าคุณมั่นใจว่า น้องของคุณมีความรักก๋งและเชื่อถือเช่นเดียวกับคุณ (คือเชื่อว่าก๋งจะมีสุขในโลกหลังความตาย ถ้าลูกหลานทำสิ่งที่ก๋งปรารภไว้ก่อนตายให้) และความอยากให้ก๋งมีความสุขนั้น มากพอจนชนะความไม่อยากมีและความลำบากของการมีที่จะตามมาของเค้า
หรือ มีลูกไว้ดูแลยามแก่เฒ่า คุณใช้ข้อนี้ได้ ถ้าน้องคุณมีความกังวลชีวิตยามชราอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม สมัยนี้เองมีความเชื่อชุดใหม่ ที่มีเหตุผลของการอย่าคาดหวังให้ลูกหลานมาดูแลยามแก่เฒ่ามากมาย เบสิคสุดเช่น ถ้าลูกพิการหรือเสียชีวิตไปก่อน ลูกไม่มีศักยภาพดูแลผู้อื่นนอกจากตัวเอง ลูกย้ายที่อยุ่อาศัยไปเติบโตที่อื่น ฯลฯ ถ้าน้องคุณเชื่อเช่นนี้ และหาทางออกไว้แล้ว ก็คงจูงใจไม่ได้ครับ
มีลูกไว้สืบทอดมรดก ทั้งทรัพย์สินหรือองค์ความรู้ (ส่วน DNA คงไม่จำเป็น ในเมื่อคุณมีลูกไปตั้ง 3 คนแล้ว) อันนี้จะใช้ได้ ถ้าน้องคุณมีมรดกจะมอบให้ และอยากให้มรดกอยู่ในวงศ์ตระกูลมากกว่า แต่เค้าอาจจะตอบว่ายินดียกให้ลูกคุณก็ได้นะ
เลี้ยงไม่ไหว ไม่อยากดูแล อันนี้คุณต้องใช้ประสบการณืความเป็นพ่อของคุณ ในการ convince ละกัน ว่ามันไม่ยากอย่างที่กังวลอย่างไร มีอะไรมาทดแทนความเหนื่อยยากนั้น รวมถึง อาจ offer ช่วยเลี้ยงดู ดูแล แต่ถ้าน้องคุณเชื่อว่า ใครดูแลก็ไม่เหมือนพ่อแม่ดูแล การ offer ช่วยดูแลอาจช่วยไม่ได้มาก เอาจริง ถ้าน้องถามว่า งั้นพี่เอาลูกพี่มาให้ผมดูแลซักคน แล้วพี่ไปมีอีกคนเองสิ (เพื่อเทียบให้เห็นว่า คนเป็นพ่อยอมยกลูกไปให้คนอื่นเลี้ยงง่ายๆหรอ) คุณจะตอบอย่างไรครับ
ประมาณนี้แหละครับ ซึ่งถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ จะพบว่า การที่คุณจะจูงใจน้องคุณได้นั้น คุณต้องมีความเข้าใจในตัวเค้ามากๆก่อนครับ และต้องหาเหตุผลที่ดีพอ เพื่อขจัดข้อกังวลต่างๆของเค้า ในเรื่องที่คุณจะยกไปจูงใจเค้าครับ
แต่ย้ำอีกครั้ง จูงใจแล้วเค้าไม่อยากมี ก็คือไม่อยากมีนะครับ เรื่องก๋งจะไม่สบายใจ อาจเป็นความเชื่อของคุณคนเดียว อย่าบังคับให้น้องเชื่อเช่นคุณ เพราะคุณก็คงไม่อยากให้น้องมาทำให้คุณเชื่อว่า ตอนนี้ก๋งสุขสบายอยู่แล้ว ตอนก๋งมีชีวิตก็ทำดีครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพื่อก๋งเพิ่มแล้วล่ะ ใช่มั้ยครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
เราไม่ชอบคนแบบคุณเลย เผือกกับชีวิตคนอื่น เอาเรื่องของคนตายไปแล้วมาให้คนเป็นแบกไว้ บุญคุณทดแทนกันตอนมีชีวิตค่ะ คนเสียไปแล้วคุณจะเผากระดาษ ไหว้บรรพบุรุษ หรือคุณจะมีลูกหลานเป็นร้อยคน คุณทำแล้วสบายใจคุณก็ทำไป แต่อย่าไปยุ่งกับชีวิตของคนอื่นเลย เด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ปกติ ไม่สมบูรณ์ ไม่ได้มาจากความรัก มีโอกาสมีปห.ค่ะ เลี้ยงเด็กไม่ได้ใช้แต่เงินนะคะ
ความคิดเห็นที่ 15
อย่าเลยค่ะ สงสารน้อง สงสารหลาน
นี่เป็นคนนึงที่ไม่อยากมีลูก และถ้าใครมาจูงใจ เราจะตอบไปแรงๆ ในความหมายว่าไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตเรา
ในมุมมองของคนไม่อยากมีลูกอย่างเรา ชีวิตเราไม่ได้เป็นของบรรพบุรุษค่ะ เรามีชีวิตเป็นของตัวเราเองที่ไม่มีใครควรจะบังคับเราเหมือนกันว่าต้องทำนั่นทำนี่เพื่อบรรพบุรุษ
ปล. เดวนี้พันทิปเซนซิทิฟ พิมอะไรแรงๆ เดวโดนแจ้งแบน
นี่เป็นคนนึงที่ไม่อยากมีลูก และถ้าใครมาจูงใจ เราจะตอบไปแรงๆ ในความหมายว่าไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตเรา
ในมุมมองของคนไม่อยากมีลูกอย่างเรา ชีวิตเราไม่ได้เป็นของบรรพบุรุษค่ะ เรามีชีวิตเป็นของตัวเราเองที่ไม่มีใครควรจะบังคับเราเหมือนกันว่าต้องทำนั่นทำนี่เพื่อบรรพบุรุษ
ปล. เดวนี้พันทิปเซนซิทิฟ พิมอะไรแรงๆ เดวโดนแจ้งแบน
แสดงความคิดเห็น
ทำยังไงจะให้จูงใจให้น้องชายที่เป็นเกย์มีลูก
ผมไม่แน่ใจน้องชายเป็นเกย์รึเปล่า แต่จำได้ว่าตอนวัยรุ่นน้องชายเคยเอาหนังเกย์สุดๆมาให้ดู ผมเสียใจที่ดูไปหน่อย พอค้นพบว่ามันเป็นหนังชายรักชายรีบทิ้งลงถังขยะ ไม่คืนน้อง
ทำยังไงถึงจะให้คนเป็นเกย์มีลูกครับ เพื่อบรรพบุรุษของผมจะได้มีความสุขในโลกหลังความตาย
ปล. อย่าพูดเรื่องวิทยาศาสตร์นะครับ เดี๋ยวคุณจะเปิดเผยตัวเองว่าไม่เข้าใจscientific methodสำหรับปัญหาexistance