คนที่ทำงานไกลกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน นานๆเจอกันที ชีวิตคู่รอดไหม??

สวัสดีค่ะ อยากจะปรึกษากับพี่ๆน้องๆหรือเพื่อนๆที่มีประสบการณ์รักทางไกลค่ะ ว่าแต่ละคู่โอเคมั้ยกับความสัมพันธ์นี้

ต้องเท้าความก่อนว่าเรากับแฟนคบกันตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันค่ะ คบกันตั้งแต่ปี 1 จนออกมาทำงานได้ 2 ปีแล้ว รวมๆ 5 ปี ทางผู้ใหญ่รับรู้ว่าคบกันแต่ยังไม่ได้มีแพลนจะแต่งงานกันเพราะเพิ่งเริ่มทำงานและสร้างตัว เก็บเงิน

แฟนเรามีอาชีพเป็นวิศวะค่ะ เราเองก็ทำงานเกี่ยวกับการตลาด เดิมแฟนทำงานอยู่ที่ไซด์งานอยู่ที่ปทุมธานี เราทำงานอยู่สุพรรณบุรี บังเอิญได้งานที่บ้านเกิดตัวเองและอยู่ใกล้ๆครอบครัว/เพื่อนสมัยเรียนที่สนิทกันตอนมหาล้ย พวกเราจะสลับกันไปหาอีกฝ่ายอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ถ้าเป็นวันหยุดก็จะได้อยู่ด้วยกันนานหน่อย

แต่เค้าไม่โอเคกับงานที่ทำเพราะนายจ้างอารมณ์ร้าย แถมเงินเดือนน้อยผ่านโปรแล้วก็ยังได้แค่ 15k เราก็เลยสนับสนุนให้เค้าลาออกหาที่ทำงานใหม่ สมัครไปหลายที่ก็ได้ที่ใหม่เป็นบริษัทติดตั้งเสาไฟฟ้าชื่อดังเจ้าหนึ่งที่เพิ่งเปิดรับแผนกใหม่ แฟนเราเป็นคนแรกและคนเดียวในแผนกนั้น

พอช่วงที่ได้งานแฟนก็ออกรถค่ะ เพราะงานใหม่จำเป็นต้องใช้รถ งานแผนกใหม่จะเป็นวิศวะคุมไซต์งานก่อตั้งเสาไฟฟ้าที่ต้องเดินทางไปดูงาน/คุยกับผู้รับเหมา ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ๆบริษัทให้ไป

งานใหม่เค้าอยู่ที่สมุทรสาครค่ะ ถ้าถามว่าทำไมไม่มาใกล้ๆสุพรรณก็คือไม่มีงานวิศวะให้สมัครเลยค่ะ และตัวเราเองก็ไม่ได้มี connection อะไรด้วย +กับเงินเดือนที่ไม่สูงถ้าเทียบกับทำงานในแหล่งอุตสาหกรรม

ตั้งแต่ทำงานใหม่แรกๆ ที่ทำงานยังให้ฝึกงานยังไม่ออกนอกสถานที่ไปไหนไกล เค้าก็มาหาเราทุกอาทิตย์ค่ะ เพราะเค้าหยุด ส-อ แถมออกรถยนต์มาแล้วก็สะดวกขึ้นมาก เราได้เจอกันบ่อยขึ้นกว่าเดิมเยอะ มีเวลาไปเที่ยวด้วยกันบ่อยขึ้น อาจมีบางอาทิตย์ที่เค้าติดทำงานชดเชยก็จะไม่ได้มา

อย่างที่บอกงานของเขาคืองานวิ่งรถไปคุมงานที่ ตจว. ตามที่เค้าให้ไป ส่วนมากจะเป็นพื้นที่แถบอีสานค่ะ ไปครั้งนึงกี่วันก็แล้วแต่ทางบริษัท เคยไปมากสุดเกือบเดือน พอกลับมาแล้วก็ต้องไปต่ออีกงาน เป็นแบบนี้มาก็ประมาณครึ่งปีแล้วค่ะ

แรกๆเราพยายามเข้าใจเขา แต่เราก็หงุดหงิดตรงไม่มีความมั่นคงความชัดเจนอะไรเลย เพราะบริษัทก็เพิ่งทำแผนกใหม่เลยไม่เคยรู้กำหนดการที่แน่ชัด เค้าเองก็ตอบเราไม่ได้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไร บางทีพอได้วันกลับแล้วโดนเลื่อนวันก็มีค่ะ ส่วนวันหยุดของเค้าก็นำไปหยุดชดเชยทีหลังเอา

บางทีเรานัดไปเที่ยวแล้วไรงี้ ล่วงหน้าเป็นเดือน เค้าก็ให้คำตอบเราไม่ได้ว่าจะว่างมั้ย เราก็รอเค้าลางาน หัวหน้าเค้าเองก็ไม่อยากให้ลาเหมือนกันเพราะไม่รู้ว่าจะมีงานเข้ามั้ย บางทีใกล้วันแบบมากๆแล้วเพิ่งจะมาเซนต์ให้ทั้งๆที่แฟนยื่นให้เซนต์เป็นอาทิตย์แล้ว

บอกก่อนเลยว่าหัวหน้าแฟนเป็นหัวหน้าที่ดีสำหรับแฟนเรา เค้าใจดีและพยายามช่วยงานแฟนเราอย่างเต็มที่ แต่ก็จริงจังกับเรื่องงานมากๆ ด้วยความที่มีแฟนเราแค่คนเดียวในแผนกจึงไม่มีคนที่จะไปแทน ต้องไปเองตลอด เค้าบอกว่าจะหาคนเพิ่มแต่ปัจจุบันก็ไม่ได้หาสักที

เราเองก็เคยคุยกับแฟนว่าถ้าแต่งงานไปแล้วต้องแยกกันอยู่มันจะโอเคหรอ เค้าก็บอกให้เราลาออกแล้วไปกับเขา เราเองก็ไม่อยากลาออก เราไม่อยากแบกรับความเสี่ยง แล้วก็ไม่อยากให้เขามีภาระ กลายเป็นว่าจากมาหาทุกเสาร์-อาทิตย์ ตอนนี้เราต้องมาลุ้นว่าเค้าจะไปทำงานเมื่อไร แล้วหาวันมาชดเชยได้เมื่อไร ซึ่งบางทีเราจะแพลนไปไหนก็ไม่ได้ ต้องดูงานเค้าตลอด

เราเคยแพลนไว้ว่าจะไปหาที่ทำงานใหม่ใกล้ๆที่ทำงานเค้า แต่คิดว่ามันก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมากเพราะเค้าเองก็แทบไม่ได้กลับที่พักของตัวเอง ต้องไปพักแรมที่ต่างจังหวัดตลอด และเราเองก็คงต้องอยู่คนเดียวเพราะไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อนฝูง กลัวเวลาเป็นอะไรขึ้นมา ไม่มีใครคอยช่วยเหลือ ไม่มีใครรู้ข่าวคราวของเรา แล้วก็คงเหงา/กลัวด้วย เราเคยฝึกงานอยู่ใน กทม.อยู่คนเดียวแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย ต้องนอนสวดมนต์ทุกคืนเลยค่ะ

ปัจจุบันเราก็ยังทำงานที่เดิม แต่แพลนไว้ว่าจะลาออกและเก็บเงินสักก้อนก่อนออกไปเพราะงานที่ทำไม่มั่นคง ค่อนข้างเอาเปรียบ พนง ในหลายๆด้าน +อายุยังน้อยอยากหาประสบการณ์เพิ่มกว่านี้ ส่วนแฟนก็ยังทำงานวิ่งไซด์เหมือนเดิม เพิ่มเติมคืองานเยอะขึ้นเพราะบริษัทเริ่มคล่องตัวกับงานแล้ว แต่แฟนเองเค้าก็โอเคกับงาน เค้าบอกว่างานมันสบาย หนักขับรถทางไกล แล้วก็ได้เบี้ยเลี้ยงเพิ่ม

ส่วนปัญหาจริงๆของเราคือเราก็เคยทะเลาะเรื่องงานกันรุนแรงค่ะ เค้าเคยประชดว่าจะให้ลาออกเลยมั้ยแต่เราบอกไม่ให้ออก เราค่อนข้างหงุดหงิดที่แพลนต่างๆต้องมาล่มเพราะหัวหน้าเค้าเพิ่มงาน และก็ต้องอยู่ยาวขึ้น บวกกับพอไกลแล้ว เราเกิดความระแวงค่ะ (ความจริงเราเป็นคนขี้ระแวงอยู่แล้ว) เราพยายามเชื่อใจเค้านะคะเพราะเค้าก็ไม่เคยนอกใจเราตลอดเวลาที่คบกันมา แต่ชอบขี้หึงในบางเรื่องกับนิสัยของเขาคือเค้าเป็นคนเฟรนด์ลี่ค่ะ เป็นคนที่เข้ากับคนง่าย ต่างกับเรา เราเข้ากับคนยาก แล้วเค้าก็คุยกับผู้หญิงไรงี้ เค้าอาจไม่คิดอะไร แต่เราไม่ค่อยชอบค่ะ

บางทีเค้าก็ติดสกินชิพกับคนอื่นๆด้วยแบบเพื่อนเรา บางทีเค้าก็แกล้งแหย่ ลูบหัว ลูบผมไรงี้และเราก็บอกเค้าไปแล้วว่าเราไม่ชอบ เค้าก็โอเคเข้าใจและไม่ทำ แล้วก็อีกเรื่องที่ทำให้ระแวงคือเค้าเคยโดนผู้รับเหมาชวนไปอาบอบนวดด้วย เราก็พอรู้ว่ามันมีอะไรแบบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแย่คือเค้าบอกว่าถ้าเป็นงาน เป็นคนใหญ่คนโตเค้าเองก็คงปฏิเสธไม่ได้ เราก็เลยสวดชุดใหญ่เลยค่ะ ถึงเรื่องสิทธิที่เราจะปฏิเสธ เค้าก็บอกว่าโอเคเค้าจะไม่ไป

แล้วอีกอย่างคือทัศนคติบางอย่างของเขา ค่อนข้างแปลกสำหรับเราค่ะ หรือจริงๆเราคงมีความคิดคนละแบบ ตอนมหาลัยเค้าเองบอกว่าเกลียดการนอกใจนอกกายมาก เค้าบอกถ้าจับได้คือเลิกไม่ฟังอะไรทั้งนั้น และเค้าก็จะรักเราคนเดียวเหมือนกัน เราเองก็โอเคเพราะเราก็ไม่ชอบการนอกใจอยู่แล้ว แต่พอมาตอนนี้เค้ากลับมีทัศนคติที่ดูค่อนข้างเปลี่ยนคือเค้าบอกว่าผู้ชายทุกคนอยากไปอาบ อบนวด ไปลองอะไรใหม่ๆอยู่แล้วแต่ถ้าแฟนไม่ชอบก็ไม่ทำ เราก็เลยงงว่าตกลงคืออยากไปแหละแต่เพราะมีแฟนเลยไม่ได้ไป เพราะแฟนไม่ชอบ กลับกันเราบอกว่า เราชอบไปบาร์โฮสต์นะ แต่ถ้าแฟนไม่ชอบก็ไม่ไปไรงี้ เหมือนเค้าก็จะดูงอน และเราก็บอกว่าจริงๆคือเราไม่ชอบ เราแค่พูดเพื่อดูอาการเค้า เราทั้ง 2 คนเป็นคนขี้หึงทั้งคู่ แต่เราจะแสดงอาการเยอะกว่าเพราะเราไม่ค่อยคุยกับผู้ชายอยู่แล้วเพราะคุยไม่เก่ง แต่เค้าคุยเก่ง บางทีคุยกับผู้หญิงแบบสนิทสนมเกินเราก็หึงค่ะ 

เราเองค่อนข้างกลัวอะไรหลายๆอย่าง ทั้งความสัมพันธ์ที่ห่างไกลขึ้น เค้าเองก็มีเงินมากขึ้น ดูภูมิฐาน ซึ่งเราก็นึกถึงคำคมอันนึงว่าดูผู้ชายให้ดูตอนรวย ดูผู้หญิงให้ดูตอนจน การที่จะมีผู้หญิงเข้ามาคุยมันไม่แปลกเลย เรากลัวว่าวันนึง เค้าจะแอบไปมีใครโดยที่เราไม่รู้ และสถานการณ์มันมีช่องโหว่เยอะมากที่เค้าจะมีคนอื่น ไม่มีคนรู้จักคอยดูด้วยเพราะอยู่ทางไกล และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเค้าเองจะต้องทำงานแบบนี้ตลอดเลยมั้ย อนาคตจะเป็นยังไง ขอคำปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์คล้ายๆกันหน่อยค่ะ

ปล.ด่าได้แต่อย่าด่าแรงมากนะคะ เราทุกคนถ้ามีความรักแล้วบางทีไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำสิ่งที่ดีหรือผิด อาจมีความบ้งในตัวเองโดยไม่รู้ตัว ยกเว้นมีชู้ ผิดลูกผิดเมีย นอกใจ ทำร้ายกันรุนแรง อันนี้คือผิดค่ะ ไม่รวมนะคะ555

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่