[ความเดิม] ในอดีต หลังจากตกลงกลางช่องปาก ของตัวซาลักก์, กระทาชายนายโบบ้า เฟตต์ ได้ทำการตะเกียกตะกาย เอาตัวรอดจนสำเร็จ
ขณะหมดแรงนอนแผ่หลาสองสลึง อยู่กลางผืนทราย, เขาถูกพวกหัวขโมยเปลื้องเกราะ, ถอดชุดรบออกจากร่างซะเกลี้ยง
โบบ้า เฟตต์ที่ไม่เหลือสิ่งใดไว้ปกป้องตัวเอง, โดนมนุษย์ทราย (ทัสเคน เรดเดอร์) เผ่านึงช่วยเหลือ
เมื่อชาวเผ่าถูกข่มเหงโดยขบวนรถไฟ ขององค์กรอาชญากรรมไพค์ (Pyke Syndicate)
ที่ยิงปืนใส่ทัสเคนไม่ยั้งตอนวิ่งผ่าน เพราะจะปกป้องเส้นทางขนสารเสพติด
โบบ้าจึงชี้นำวิธีสู้กับอาวุธสุดทันสมัย แก่มนุษย์โบราณ...
พวกเขาทำการหยุดขบวนยานยาวสำเร็จ และแจ้งไพค์ว่าจากนี้จะเรียกเก็บค่าผ่านทาง
ส่วนฟากปัจจุบัน, โบบ้า เฟตต์กับสาวกหญิง (เฟนเนก แชนด์) ยึดบัลลังก์เก่าของจั๊บบ้า เดอะ ฮัตต์
ต่อจากนายบิ๊บ ฟอร์ทูน่า (หัวหน้าพ่อบ้านของจั๊บบา) อีกที
โบบ้าหวังครองตำแหน่งไดเมียวแห่งมอส เอสป้า (เมืองท่าดาวทาทูอิน) ด้วยความเคารพยำเกรง
ทว่านายกเทศมนตรี 'มอค ไชซ์' (Mok Shaiz) มิยอมส่งเครื่องบรรณาการ
โดยอ้างว่าฝาแฝดตระกูลฮัตต์ (ญาติของจั๊บบ้า) ก็ประกาศศักดา เหนืออาณาเขตเดียวกัน
แถมพวกนั้นจ้างวู้กกี้ขนสีดำ ผู้เป็นนักล่าค่าหัวสุดโหด อย่างคราซซานทาน (Krrsantan) มาไว้ข้างกายด้วย
[สปอยล์] โบบ้า เฟตต์คิดจะวางแผนบริหาร เขตอำนาจเก่าของจั๊บบ้า (สักที)
เขาตรวจข้อมูลดูและพบว่า เพราะบิ๊บ ฟอร์ทูนาด้อยความสามารถ
เขตปกครองเหนือมอส เอสป้าที่ควรเป็นหนึ่ง, บัดนี้กลับถูกแบ่งแยกออกเป็น 3 ส่วน
และยิ่งเมื่อเปลี่ยนผู้ปกครองอีกรอบ, ตอนนี้แต่ละส่วนก็ยิ่งรู้สึกกระด้างกระเดื่อง
ต่ออำนาจเบื้องบนมากขึ้น จนถึงขั้นแทบเมินเฉย
ระหว่างตรวจข้อมูล ผู้จำหน่ายน้ำดื่มลอร์ธ่า พีล (Lortha Peel) ติดต่อขอพบ
เมื่ออนุมัติ, ลอร์ธาร้องเรียนว่าเกิดเหตุขโมยวารีของเขา ส่งผลเสียอย่างหนักต่อกิจการ
จึงวานไดเมียวแสดงอำนาจ และแก้ปัญหาให้หน่อย, หากจัดการได้เรียบร้อยจะส่งส่วยเพิ่มเป็น 2 เท่า
โบบ้ากับคนคุ้มกันลงพื้นที่ ไปพบเหล่าชายหญิงแก๊งค์ไซบอร์ก (ร่างกายบางส่วนคือเครื่องจักร)
แต่พอสอบถามพวกเขา สถานการณ์ที่เหล่าไซบอร์กเล่า คือแทบจะคนละเรื่องกะลอร์ธา
พวกเขาว่า นายลอร์ธาขายวารีด้วยราคามหาโหด, และแถบนี้เศรษฐกิจก็ย่ำแย่ จนไม่มีงานใดให้ทำ
โบบ้าลองเชิงด้วยการข่มขู่ไปพลาง สอบถามไปพลาง
จึงมั่นใจว่าฝ่ายที่พูดความจริง คือกลุ่มคนขโมยน้ำ, แถมพวกนี้ใจกล้าไม่หวาดกลัวคนถือปืนในมือ
เลยถูกใจ, ยอมจ่ายค่าน้ำแทนพวกไซบอร์ก แค่ประมาณราคาที่ควรจ่ายจริง
แล้วว่าจ้างกลุ่มไซบอร์กขาซิ่ง (มีมอเตอร์ไซค์สวยเก๋ขี่กัน) ให้มาทำงานกับไดเมียวอย่างเขาซะ
โบบ้าเข้านอน ในแท๊งค์เยียวยาเช่นเคย (ท่าทางบาดเจ็บเรื้อรังไรสักอย่าง)
และฝันถึงอดีตเมื่อคราว ไปทวงค่าผ่านทางจากไพค์ ให้ชาวทัสเค่น
แต่ไพค์แจ้งว่าไม่จ่ายอ้ะ, เพราะแก๊งค์สิงห์นักบิดนิคโต้ (Nikto) เรียกเก็บตังค์ จากพื้นที่แถบนั้นเหมือนกัน
เราจะจ่ายแค่เจ้าเดียวเท่านั้น, พวกเอ็งไปเคลียร์กันเองซะ ว่าใครคือจ้าวถิ่นของแท้
โบบ้าตั้งใจจะเคลียร์กับนิคโต้แหละ แต่บ่ายหน้ากลับไปแจ้งข่าวทัสเคนก่อน
ทว่าพอถึงจุดพำนักมนุษย์ทราย ดันกลายเป็นพบฉากสลด
เพราะชาวทัสเคนโดนนิคโต้ ฆ่าล้างบางยกเผ่าเรียบร้อย
โบบ้าถูกกระชากให้ตื่น ย้อนคืนสู่การรับรู้สถานการณ์ปัจจุบัน
เพราะคราซซานทานโผล่มาลอบสังหาร ตอนกลางคืน
วู้กกี้ดำจอมเถื่อน เหวี่ยงโบบ้ากระแทกโน่นนี่, จนน่าจะสะเทือนถึงเครื่องในหลายครั้ง
แต่โบบ้ายังอึดสู้ยิบตาเพื่อป้องกันตัว... คราซซานทานเสียเวลามากกว่าที่ควร
เหล่าบริวารของไดเมียว ทั้งปาร์ตี้ไซบอร์ค, องครักษ์หมูป่า และเฟนเนคจึงมาสมทบกันครบ
คราซซานทานโหดสลัด จนคนของไดเมียวทั้งหมดเอาไม่ลง
แต่สุดท้ายเสียท่า เพราะเจอกับดักที่ส่งลงกรงขังแรนคอร์
เมื่อมือสังหารโดนจับกุม, ฝาแฝดก็ตระหนักว่าพลาดถนัด
ตอนกลางวันเลยเข้าพบ และส่งตัว 'แรนคอร์' ของแท้ (พร้อมผู้ฝึกสอน) ให้โบบ้า, เพื่อขอขมา
ฝาแฝดบอกว่าถูกนายกฯ ไชซ์หลอก ให้ส่งคราซซานทานมาลอบสังหาร
พวกเขาไม่อยากขัดแย้งกับใครมากกว่านี้ เพราะสนธุรกิจยิ่งกว่าเรื่องอำนาจ
จึงคิดถอนตัวออกจากเกม ออฟ โทรนส์บนทาทูอีน, ดำริจะเดินทางออกไปโดยไว
และแนะนำให้โบบ้าทำตาม, เนื่องจากอีกมิช้านาน ดาวนี้มันจะไม่เหลืออะไร ให้พวกเราแล้วหนา
โบบ้าไม่เชื่อคำพูดฝาแฝด แต่ก็ปล่อยคราซซานทานเป็นอิสระ
เขารับแรนคอร์มา และเมื่อมาเชเต้... เอ่อ, ผู้ฝึกอสูรสอนว่า
แรนคอร์มันขึ้นชื่อเรื่องความร้ายกาจน่ะใช่ แต่จะเชื่องกับคนที่ถูกใจน่าดูนาเหวย
โบบ้าจึงคิดจะฝึกแรนคอร์ให้เชื่องกับตน เพราะอนาคตอยากขึ้น "ขี่" เจ้าสัตว์ใหญ่ออกศึก
จากนั้นโบบ้าพยายามเข้าพบนายกฯ, ทว่าดันเจอผู้ช่วยของมอค ไชซ์ ขึ้นขับรถ (สปีดเดอร์) เพื่อเผ่น
การไล่ล่าบนท้องถนนคับแคบ แบบไม่สนว่าควรจำกัดความเร็ว ในเขตชุมชน, จึงเริ่มต้น
กลุ่มไซบอร์กขาซิ่งทั้งต้อน ทั้งดักอ้อม, จนกระทั่งผู้ช่วยพ่อเมืองพลาดท่า ไม่อาจขับหนีต่อ
เมื่อถามเหตุผลว่า ข้าแค่ขอพบนายกฯ เอ็งจะชิ่งหนีทำไมไม่ทราบ ?
คำตอบที่ได้คือ เพราะนายกฯ ทำงานให้ 'พวกไพค์' ตอนนี้ไม่ยอมอยู่บริหารเมือง, หายหัวไปซะละ
สมาชิกปาร์ตี้ไซบอร์คคนนึงจึงสืบข่าวให้, ก่อนจะรายงานไดเมียวว่าไพค์โขยงใหญ่, ยกพลมาลงมอส เอสป้าละจ้า
โบบ้า เฟตต์ตระหนักทันทีว่า 'กำลังจะเกิดสงคราม'
[วิจารณ์] หลังบ่นไปตอนก่อนว่าพาร์ทปัจจุบันขยับช้า เนื้อหาน้อย
บทที่ 3 ก็จัดให้เต็มพิกัด ราวกับเป็นการชดเชย
แม้ตอนนี้สั้นแค่ราว 30 นาทีกว่า แต่นี่คือครั้งแรกที่ดูจบแล้วรู้สึกอิ่ม
บทที่ 3 ลงรายละเอียดสังคม, ความแย่งกันลงจิกหาผลประโยชน์ ของเหล่ามาเฟียราวกับฝูงแร้ง
ในช่วงเวลาแสนลำเค็ญ สำหรับชาวบ้านตาดำๆ แบบได้น้ำได้เนื้อ (มีมากกว่าที่พิมพ์สปอยล์มาลงนี่)
เชื่อว่าถ้าใครมองแฟรนไชส์ Star Wars เป็นเพียงการต่อสู้ของเจไดกับซิธ
หรือเรื่องราวของตระกูลสกายวอล์คเกอร์, อาจเปลี่ยนความคิด
แต่ก็นั่นแหละ, ผู้ดำริเช่นนั้นคงไม่ชายตามอง
ซีรีส์ภาคแยกของเนื้อหาเสริมอีกที แบบนี้หรอกมั้ง
ฉากขับรถไล่ล่าคือดาดๆ มาก ถ้าไม่ใส่องค์ประกอบสไตล์สตาร์วอร์สลงไป
แต่หากมองว่าในสงครามดวงดาวฉบับคนแสดง เราแทบไม่เคยเห็นอะไรแนวนี้ (นอกจากที่หนัง Solo)
ก็คือโดนใจดี แถมมีมุกตลกเฉพาะตัวแทรก
อีกอย่างที่แบบว่าได้ คือการต่อสู้กับคราซซานทาน, ถึงแม้พี่ท่านจะเอาแต่ โยนคนอื่นไปมาซะส่วนใหญ่
และแน่นอนว่า ถึงเนื้อหาหลักเดินหน้าเต็มตัวแล้ว, ซีรีส์ก็ยังไม่ถึงจุดตื่นเต้น (เพราะความที่เพิ่งเริ่มเอาจริง ตอนบท 3 เนี่ย)
แต่การยั่วว่าเดี๋ยวเจอสงคราม กับแก๊งค์มหาอำนาจใต้ดินนะ
และท้ายๆ เรื่องยามโบบ้าได้ขี่แรนคอร์ มันต้องเจ๋งแหง
ถือว่าสร้างแรงจูงใจได้มากพอ ให้ติดตามต่อจนครบ, ในอีก 4 ตอนที่เหลือ
[ปล.1] ไม่ได้สนใจก่อนหน้า แต่คุณแดนนี่ เทรโฮ ซึ่งร่วมงานกับผกก.ตอนนี้ (โรเบิร์ต รอดริเกซ)
ในหนังเรื่อง Machete, แกตามมาร่วมงานกันต่อด้วยแฮะ
[ปล.2] สิ่งที่คล้ายแมงมุมในฉากเปิดตอน คือนักบวชนิกายโบมาร์ (B'omarr monks)
พวกนี้เชื่อว่ากายหยาบ คือตัวขัดขวางการค้นหาความลับของจักรวาล
จึงแยกเอาสมองของพวกตนใส่โหล และให้หุ่นยนต์คล้ายแมงมุมหิ้ว
ความจริงสถานที่พำนัก ของท่านไดเมียวโบบ้า, แรกเริ่มคืออารามของศาสนาโบมาร์
ก่อนจั๊บบ้าจะมายึด แต่ยังยอมให้พวกโบมาร์ อาศัยอยู่ด้วย
[Spoil+Review] The Book of Boba Fett Ep.3 >>ควรจำกัดความเร็ว ในเขตชุมชน
ขณะหมดแรงนอนแผ่หลาสองสลึง อยู่กลางผืนทราย, เขาถูกพวกหัวขโมยเปลื้องเกราะ, ถอดชุดรบออกจากร่างซะเกลี้ยง
โบบ้า เฟตต์ที่ไม่เหลือสิ่งใดไว้ปกป้องตัวเอง, โดนมนุษย์ทราย (ทัสเคน เรดเดอร์) เผ่านึงช่วยเหลือ
เมื่อชาวเผ่าถูกข่มเหงโดยขบวนรถไฟ ขององค์กรอาชญากรรมไพค์ (Pyke Syndicate)
ที่ยิงปืนใส่ทัสเคนไม่ยั้งตอนวิ่งผ่าน เพราะจะปกป้องเส้นทางขนสารเสพติด
โบบ้าจึงชี้นำวิธีสู้กับอาวุธสุดทันสมัย แก่มนุษย์โบราณ...
พวกเขาทำการหยุดขบวนยานยาวสำเร็จ และแจ้งไพค์ว่าจากนี้จะเรียกเก็บค่าผ่านทาง
ส่วนฟากปัจจุบัน, โบบ้า เฟตต์กับสาวกหญิง (เฟนเนก แชนด์) ยึดบัลลังก์เก่าของจั๊บบ้า เดอะ ฮัตต์
ต่อจากนายบิ๊บ ฟอร์ทูน่า (หัวหน้าพ่อบ้านของจั๊บบา) อีกที
โบบ้าหวังครองตำแหน่งไดเมียวแห่งมอส เอสป้า (เมืองท่าดาวทาทูอิน) ด้วยความเคารพยำเกรง
ทว่านายกเทศมนตรี 'มอค ไชซ์' (Mok Shaiz) มิยอมส่งเครื่องบรรณาการ
โดยอ้างว่าฝาแฝดตระกูลฮัตต์ (ญาติของจั๊บบ้า) ก็ประกาศศักดา เหนืออาณาเขตเดียวกัน
แถมพวกนั้นจ้างวู้กกี้ขนสีดำ ผู้เป็นนักล่าค่าหัวสุดโหด อย่างคราซซานทาน (Krrsantan) มาไว้ข้างกายด้วย
[สปอยล์] โบบ้า เฟตต์คิดจะวางแผนบริหาร เขตอำนาจเก่าของจั๊บบ้า (สักที)
เขาตรวจข้อมูลดูและพบว่า เพราะบิ๊บ ฟอร์ทูนาด้อยความสามารถ
เขตปกครองเหนือมอส เอสป้าที่ควรเป็นหนึ่ง, บัดนี้กลับถูกแบ่งแยกออกเป็น 3 ส่วน
และยิ่งเมื่อเปลี่ยนผู้ปกครองอีกรอบ, ตอนนี้แต่ละส่วนก็ยิ่งรู้สึกกระด้างกระเดื่อง
ต่ออำนาจเบื้องบนมากขึ้น จนถึงขั้นแทบเมินเฉย
เมื่ออนุมัติ, ลอร์ธาร้องเรียนว่าเกิดเหตุขโมยวารีของเขา ส่งผลเสียอย่างหนักต่อกิจการ
จึงวานไดเมียวแสดงอำนาจ และแก้ปัญหาให้หน่อย, หากจัดการได้เรียบร้อยจะส่งส่วยเพิ่มเป็น 2 เท่า
โบบ้ากับคนคุ้มกันลงพื้นที่ ไปพบเหล่าชายหญิงแก๊งค์ไซบอร์ก (ร่างกายบางส่วนคือเครื่องจักร)
แต่พอสอบถามพวกเขา สถานการณ์ที่เหล่าไซบอร์กเล่า คือแทบจะคนละเรื่องกะลอร์ธา
พวกเขาว่า นายลอร์ธาขายวารีด้วยราคามหาโหด, และแถบนี้เศรษฐกิจก็ย่ำแย่ จนไม่มีงานใดให้ทำ
โบบ้าลองเชิงด้วยการข่มขู่ไปพลาง สอบถามไปพลาง
จึงมั่นใจว่าฝ่ายที่พูดความจริง คือกลุ่มคนขโมยน้ำ, แถมพวกนี้ใจกล้าไม่หวาดกลัวคนถือปืนในมือ
เลยถูกใจ, ยอมจ่ายค่าน้ำแทนพวกไซบอร์ก แค่ประมาณราคาที่ควรจ่ายจริง
แล้วว่าจ้างกลุ่มไซบอร์กขาซิ่ง (มีมอเตอร์ไซค์สวยเก๋ขี่กัน) ให้มาทำงานกับไดเมียวอย่างเขาซะ
และฝันถึงอดีตเมื่อคราว ไปทวงค่าผ่านทางจากไพค์ ให้ชาวทัสเค่น
แต่ไพค์แจ้งว่าไม่จ่ายอ้ะ, เพราะแก๊งค์สิงห์นักบิดนิคโต้ (Nikto) เรียกเก็บตังค์ จากพื้นที่แถบนั้นเหมือนกัน
เราจะจ่ายแค่เจ้าเดียวเท่านั้น, พวกเอ็งไปเคลียร์กันเองซะ ว่าใครคือจ้าวถิ่นของแท้
โบบ้าตั้งใจจะเคลียร์กับนิคโต้แหละ แต่บ่ายหน้ากลับไปแจ้งข่าวทัสเคนก่อน
ทว่าพอถึงจุดพำนักมนุษย์ทราย ดันกลายเป็นพบฉากสลด
เพราะชาวทัสเคนโดนนิคโต้ ฆ่าล้างบางยกเผ่าเรียบร้อย
โบบ้าถูกกระชากให้ตื่น ย้อนคืนสู่การรับรู้สถานการณ์ปัจจุบัน
เพราะคราซซานทานโผล่มาลอบสังหาร ตอนกลางคืน
วู้กกี้ดำจอมเถื่อน เหวี่ยงโบบ้ากระแทกโน่นนี่, จนน่าจะสะเทือนถึงเครื่องในหลายครั้ง
แต่โบบ้ายังอึดสู้ยิบตาเพื่อป้องกันตัว... คราซซานทานเสียเวลามากกว่าที่ควร
เหล่าบริวารของไดเมียว ทั้งปาร์ตี้ไซบอร์ค, องครักษ์หมูป่า และเฟนเนคจึงมาสมทบกันครบ
คราซซานทานโหดสลัด จนคนของไดเมียวทั้งหมดเอาไม่ลง
แต่สุดท้ายเสียท่า เพราะเจอกับดักที่ส่งลงกรงขังแรนคอร์
เมื่อมือสังหารโดนจับกุม, ฝาแฝดก็ตระหนักว่าพลาดถนัด
ตอนกลางวันเลยเข้าพบ และส่งตัว 'แรนคอร์' ของแท้ (พร้อมผู้ฝึกสอน) ให้โบบ้า, เพื่อขอขมา
พวกเขาไม่อยากขัดแย้งกับใครมากกว่านี้ เพราะสนธุรกิจยิ่งกว่าเรื่องอำนาจ
จึงคิดถอนตัวออกจากเกม ออฟ โทรนส์บนทาทูอีน, ดำริจะเดินทางออกไปโดยไว
และแนะนำให้โบบ้าทำตาม, เนื่องจากอีกมิช้านาน ดาวนี้มันจะไม่เหลืออะไร ให้พวกเราแล้วหนา
โบบ้าไม่เชื่อคำพูดฝาแฝด แต่ก็ปล่อยคราซซานทานเป็นอิสระ
เขารับแรนคอร์มา และเมื่อมาเชเต้... เอ่อ, ผู้ฝึกอสูรสอนว่า
แรนคอร์มันขึ้นชื่อเรื่องความร้ายกาจน่ะใช่ แต่จะเชื่องกับคนที่ถูกใจน่าดูนาเหวย
โบบ้าจึงคิดจะฝึกแรนคอร์ให้เชื่องกับตน เพราะอนาคตอยากขึ้น "ขี่" เจ้าสัตว์ใหญ่ออกศึก
จากนั้นโบบ้าพยายามเข้าพบนายกฯ, ทว่าดันเจอผู้ช่วยของมอค ไชซ์ ขึ้นขับรถ (สปีดเดอร์) เพื่อเผ่น
การไล่ล่าบนท้องถนนคับแคบ แบบไม่สนว่าควรจำกัดความเร็ว ในเขตชุมชน, จึงเริ่มต้น
กลุ่มไซบอร์กขาซิ่งทั้งต้อน ทั้งดักอ้อม, จนกระทั่งผู้ช่วยพ่อเมืองพลาดท่า ไม่อาจขับหนีต่อ
เมื่อถามเหตุผลว่า ข้าแค่ขอพบนายกฯ เอ็งจะชิ่งหนีทำไมไม่ทราบ ?
คำตอบที่ได้คือ เพราะนายกฯ ทำงานให้ 'พวกไพค์' ตอนนี้ไม่ยอมอยู่บริหารเมือง, หายหัวไปซะละ
สมาชิกปาร์ตี้ไซบอร์คคนนึงจึงสืบข่าวให้, ก่อนจะรายงานไดเมียวว่าไพค์โขยงใหญ่, ยกพลมาลงมอส เอสป้าละจ้า
โบบ้า เฟตต์ตระหนักทันทีว่า 'กำลังจะเกิดสงคราม'
บทที่ 3 ก็จัดให้เต็มพิกัด ราวกับเป็นการชดเชย
แม้ตอนนี้สั้นแค่ราว 30 นาทีกว่า แต่นี่คือครั้งแรกที่ดูจบแล้วรู้สึกอิ่ม
บทที่ 3 ลงรายละเอียดสังคม, ความแย่งกันลงจิกหาผลประโยชน์ ของเหล่ามาเฟียราวกับฝูงแร้ง
ในช่วงเวลาแสนลำเค็ญ สำหรับชาวบ้านตาดำๆ แบบได้น้ำได้เนื้อ (มีมากกว่าที่พิมพ์สปอยล์มาลงนี่)
เชื่อว่าถ้าใครมองแฟรนไชส์ Star Wars เป็นเพียงการต่อสู้ของเจไดกับซิธ
หรือเรื่องราวของตระกูลสกายวอล์คเกอร์, อาจเปลี่ยนความคิด
แต่ก็นั่นแหละ, ผู้ดำริเช่นนั้นคงไม่ชายตามอง
ซีรีส์ภาคแยกของเนื้อหาเสริมอีกที แบบนี้หรอกมั้ง
ฉากขับรถไล่ล่าคือดาดๆ มาก ถ้าไม่ใส่องค์ประกอบสไตล์สตาร์วอร์สลงไป
แต่หากมองว่าในสงครามดวงดาวฉบับคนแสดง เราแทบไม่เคยเห็นอะไรแนวนี้ (นอกจากที่หนัง Solo)
ก็คือโดนใจดี แถมมีมุกตลกเฉพาะตัวแทรก
อีกอย่างที่แบบว่าได้ คือการต่อสู้กับคราซซานทาน, ถึงแม้พี่ท่านจะเอาแต่ โยนคนอื่นไปมาซะส่วนใหญ่
แต่การยั่วว่าเดี๋ยวเจอสงคราม กับแก๊งค์มหาอำนาจใต้ดินนะ
และท้ายๆ เรื่องยามโบบ้าได้ขี่แรนคอร์ มันต้องเจ๋งแหง
ถือว่าสร้างแรงจูงใจได้มากพอ ให้ติดตามต่อจนครบ, ในอีก 4 ตอนที่เหลือ
[ปล.1] ไม่ได้สนใจก่อนหน้า แต่คุณแดนนี่ เทรโฮ ซึ่งร่วมงานกับผกก.ตอนนี้ (โรเบิร์ต รอดริเกซ)
ในหนังเรื่อง Machete, แกตามมาร่วมงานกันต่อด้วยแฮะ
[ปล.2] สิ่งที่คล้ายแมงมุมในฉากเปิดตอน คือนักบวชนิกายโบมาร์ (B'omarr monks)
พวกนี้เชื่อว่ากายหยาบ คือตัวขัดขวางการค้นหาความลับของจักรวาล
จึงแยกเอาสมองของพวกตนใส่โหล และให้หุ่นยนต์คล้ายแมงมุมหิ้ว
ก่อนจั๊บบ้าจะมายึด แต่ยังยอมให้พวกโบมาร์ อาศัยอยู่ด้วย