ซ้ำเติมหมูแพง! ไก่สดปรับราคาพุ่ง 80 บาทต่อกิโลกรัม
https://ch3plus.com/news/program/273834
จากการที่เนื้อหมูมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อประชาชน และพ่อค้า แม่ค้า ต้องซื้อหมูในราคาที่แพง ในขณะที่ประชาชนก็ขาดกำลังซื้อ จึงหันมาซื้อไก่สดแทนเนื้อหมู เนื่องจากจะมีราคาถูกกว่าเนื้อหมู และยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวอีกด้วย
โดยวันนี้ 10 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงสำรวจภายในเขตเทศบาลนครตรัง นางประคองจิต เพชรเรือนทอง แม่ค้าไก่สดในตลาดสด เปิดเผยว่า ไก่สดได้มีการปรับราคาขึ้น ครั้งละ 1 - 2 บาท จนปัจจุบันราคาไก่อยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม เครื่องในกิโลกรัมละ 100 บาท น่องกิโลกรัมละ 90 บาท ปีกไก่ กิโลกรัมละ 90 บาท หน้าอกไก่ กิโลกรัมละ 100 บาท ตีนไก่ กิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งยอดการจำหน่ายไก่ก็ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าจะราคาถูกกว่าเนื้อหมู
ทั้งนี้เป็นผลมาจากเศรษฐกิจมากกว่า ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย คาดว่าไก่สดจะขายดีอีกครั้งในช่วงเทศกาลตรุษจีนช่วงปลายเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ และยังคาดว่าราคาน่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างแน่นอน เนื่องจากประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนจะมาซื้อไก่และเครื่องเซ่นไหว้ไปไหว้บรรพบุรุษ
ภาคีคณะสัตวแพทยศาสตร์ 14 สถาบัน จี้กรมปศุสัตว์ ยอมรับ มีเชื้อ ASF ในซากสุกร
https://www.nationtv.tv/news/378859835
จากสถานการณ์ที่ราคาหมูแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นราคาที่แพงที่สุดในรอบ 10 ปี และมีแนวโน้มจะทะยานพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายองค์กรออกมาเคลื่อนไหว ท้วงถามถึงการรับผิดชอบจากหน่วยงานของรัฐบาล
นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ ว่า
ภาคีคณะสัตวแพทยศาสตร์ 14 สถาบัน ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์ โดยยืนยันว่า ได้ตรวจพบเชื้อ ASF ในซากสุกรที่ส่งชันสูตร และรายงานให้กรมปศุสัตว์ทราบมาโดยตลอด และเรียกร้องให้กรมปศุสัตว์ ยอมรับข้อเท็จจริง และดำเนินการการควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน ขนาดนี้แล้ว ยังจะไม่ยอมรับอีกหรือครับ
โดยในหนังสือ มีข้อความ ดังนี้
เรื่อง ข้อห่วงใยต่อสถานการณ์โรคระบาคและการควบคุมโรคในสุกร
เรียน อธิบดีกรมปศุสัตว์
ตามที่ปรากฏการตายเป็นจำนวนมากของสุกรในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทยมาระยะหนึ่ง ก่อให้เกิดความสูญเสียแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรขนาดกลางและขนาดเล็ก
ภาคีคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ในประเทศไทยทั้ง 14 สถาบัน มีความกังวลกับสถานการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับได้รับคำถามเป็นจำนวนมากจากเกษตรกรและประชาชน ถึงสาเหตุและแนวทางในการแก้ไข
ทั้งนี้ จากการตรวจวินิจฉัยโรคโดยหน่วยงานของสถาบันการศึกษาสัตวแพทยศาสตร์ในประเทศไทย พบเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican SwineFever. ASF) ในซากสุกรที่ส่งชันสูตรโรค และได้รายงานการตรวจพบโรคต่อกรมปศุสัตว์ตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 แล้วนั้น ภาคีคณบดีคณะสัตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย
จึงขอให้กรมปศุสัตว์พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อการควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน เพื่อมีให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นแก่เกษตรกรและอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรในประเทศไทย และพร้อมสนับสนุนทางวิชาการแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีของวิชาชีพสัตวแพทย์ของประเทศไทย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ น.สพ.ดร.คงศักดิ์ เที่ยงธรรม)
ประธานภาคีคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย
https://twitter.com/wirojlak/status/1480177028892479489
โควิดภูเก็ตพุ่ง 742 ราย แนวโน้มสูงต่อเนื่อง-เตียงเริ่มไม่พอ
https://www.matichon.co.th/region/news_3123983
โควิดภูเก็ตพุ่ง 742 ราย แนวโน้มสูงต่อเนื่อง-เตียงเริ่มไม่พอ
วันที่ 10 มกราคม นายแพทย์
กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดภูเก็ต ประจำวันที่ 9 มกราคม 2565 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 513 ราย ต่างประเทศ 2 ราย Phuket Sandbox 133ราย Test&Go 94 ราย รวม 742 ราย
จากการประเมินสถานการณ์ประเทศไทย มีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้น จังหวัดภูเก็ตมีอัตราการพบเชื้อเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังเท่ากับ 340 รายและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมาก พบผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบ Test&Go และ Phuket Sandbox รวมทั้งการติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดเพิ่มสูงขึ้น อัตราครองเตียงรักษาผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก เริ่มไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วย อัตราการเสียชีวิตแนวโน้มลดลง ผู้ติดเชื้อมีประวัติเสี่ยงส่วนใหญ่เป็นการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย การมีกิจกรรมร่วมกัน อาชีพสัมผัสนักท่องเที่ยว ทำงานในแหล่งท่องเที่ยวและมีความเชื่อมโยงการระบาดในกลุ่ม Test&Go
จากการสุ่มตรวจสายพันธุ์ตัวอย่างในจังหวัดพบเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 66.3 สถานที่ LQ สำหรับกักกัน HRC เริ่มไม่เพียงพอ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข ปรับระดับการเตือนภัยโรคโควิด-19 สำหรับประชาชนและสถานประกอบการเป็นระดับ 4 งดเข้าสถานที่เสี่ยง สถานที่ระบบปิด สถานที่แออัด เช่น ร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งมีระบบระบายอากาศไม่ดี เน้นสื่อสารประชาชนกลับจากต่างจังหวัดให้เฝ้าสังเกตอาการตนเองอย่างน้อย 14 วัน, WFH, งดเข้าสถานที่เสี่ยง, และเร่งไปฉีดวัคซีนตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ หากพบการติดเชื้อ โทร.1330 สปสช. เพื่อลงทะเบียนรักษาแบบแยกกักที่บ้าน (Home Isolation)ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด หรือไปต่างประเทศหากไม่จำเป็น และกำหนดให้สถานประกอบการ ปฏิบัติตามมาตรการ Covid-Free Setting อย่างเคร่งครัด หากพบผู้ติดเชื้อให้ทำ Bubble & Seal ในโรงงาน
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขเร่งรัดดำเนินการ 4 มาตรการ เปิดประเทศ ได้แก่ Vaccine, Universal Prevention, COVID Free Setting, ATK เตรียมแผนเผชิญเหตุรองรับการเปิดประเทศ แผนปฏิบัติการรองรับการระบาดในพื้นที่ จัดเตรียมระบบการรักษาผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วน รพ., รพ.สนาม, CI, Hospitel, AQ, Hotel Isolation, Home Isolation เพิ่มมาตรการชะลอการระบาดเป็นวงกว้าง โดยเฝ้าระวัง Event-based Surveillance และตรวจเชิงรุกด้วย ATK เร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็ม 3, เข็มที่ 4 โดยเฉพาะกลุ่ม 608 กลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ
ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้กำชับให้ติดตามประเมินสถานการณ์การติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมทรัพยากร ทั้งด้านเตียง ยาและเวชภัณฑ์ รองรับโดยให้เน้นการจัดระบบการรักษาที่บ้านหรือชุมชน (Home Isolation : HI, Community Isolation : CI) เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย พร้อมมีระบบติดตามอาการ และสื่อสารเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ติดเชื้อและครอบครัว ทั้งนี้ เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถรองรับการรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและแดง รวมถึงให้บริการผู้ป่วยอื่นๆ ได้ตามปกติ และ ให้เพิ่มการจัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุดให้มีการจัดตั้งศูนย์คลินิกอุ่นใจในทุกอําเภอเพื่อดูแลประชาชนได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง
JJNY : ซ้ำหมูแพง! ไก่สดปรับราคา│จี้ปศุสัตว์รับมีเชื้อASF ในซากสุกร│โควิดภูเก็ตพุ่ง เตียงเริ่มไม่พอ│‘เพชร’รุดติดตามไฟไหม้
https://ch3plus.com/news/program/273834
โดยวันนี้ 10 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงสำรวจภายในเขตเทศบาลนครตรัง นางประคองจิต เพชรเรือนทอง แม่ค้าไก่สดในตลาดสด เปิดเผยว่า ไก่สดได้มีการปรับราคาขึ้น ครั้งละ 1 - 2 บาท จนปัจจุบันราคาไก่อยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม เครื่องในกิโลกรัมละ 100 บาท น่องกิโลกรัมละ 90 บาท ปีกไก่ กิโลกรัมละ 90 บาท หน้าอกไก่ กิโลกรัมละ 100 บาท ตีนไก่ กิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งยอดการจำหน่ายไก่ก็ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าจะราคาถูกกว่าเนื้อหมู
ทั้งนี้เป็นผลมาจากเศรษฐกิจมากกว่า ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย คาดว่าไก่สดจะขายดีอีกครั้งในช่วงเทศกาลตรุษจีนช่วงปลายเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ และยังคาดว่าราคาน่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างแน่นอน เนื่องจากประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนจะมาซื้อไก่และเครื่องเซ่นไหว้ไปไหว้บรรพบุรุษ
ภาคีคณะสัตวแพทยศาสตร์ 14 สถาบัน จี้กรมปศุสัตว์ ยอมรับ มีเชื้อ ASF ในซากสุกร
https://www.nationtv.tv/news/378859835
จากสถานการณ์ที่ราคาหมูแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นราคาที่แพงที่สุดในรอบ 10 ปี และมีแนวโน้มจะทะยานพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายองค์กรออกมาเคลื่อนไหว ท้วงถามถึงการรับผิดชอบจากหน่วยงานของรัฐบาล
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ ว่า
ภาคีคณะสัตวแพทยศาสตร์ 14 สถาบัน ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์ โดยยืนยันว่า ได้ตรวจพบเชื้อ ASF ในซากสุกรที่ส่งชันสูตร และรายงานให้กรมปศุสัตว์ทราบมาโดยตลอด และเรียกร้องให้กรมปศุสัตว์ ยอมรับข้อเท็จจริง และดำเนินการการควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน ขนาดนี้แล้ว ยังจะไม่ยอมรับอีกหรือครับ
โดยในหนังสือ มีข้อความ ดังนี้
เรื่อง ข้อห่วงใยต่อสถานการณ์โรคระบาคและการควบคุมโรคในสุกร
เรียน อธิบดีกรมปศุสัตว์
ตามที่ปรากฏการตายเป็นจำนวนมากของสุกรในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทยมาระยะหนึ่ง ก่อให้เกิดความสูญเสียแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรขนาดกลางและขนาดเล็ก
ภาคีคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ในประเทศไทยทั้ง 14 สถาบัน มีความกังวลกับสถานการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับได้รับคำถามเป็นจำนวนมากจากเกษตรกรและประชาชน ถึงสาเหตุและแนวทางในการแก้ไข
ทั้งนี้ จากการตรวจวินิจฉัยโรคโดยหน่วยงานของสถาบันการศึกษาสัตวแพทยศาสตร์ในประเทศไทย พบเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican SwineFever. ASF) ในซากสุกรที่ส่งชันสูตรโรค และได้รายงานการตรวจพบโรคต่อกรมปศุสัตว์ตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 แล้วนั้น ภาคีคณบดีคณะสัตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย
จึงขอให้กรมปศุสัตว์พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อการควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน เพื่อมีให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นแก่เกษตรกรและอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรในประเทศไทย และพร้อมสนับสนุนทางวิชาการแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีของวิชาชีพสัตวแพทย์ของประเทศไทย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ น.สพ.ดร.คงศักดิ์ เที่ยงธรรม)
ประธานภาคีคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย
https://twitter.com/wirojlak/status/1480177028892479489
โควิดภูเก็ตพุ่ง 742 ราย แนวโน้มสูงต่อเนื่อง-เตียงเริ่มไม่พอ
https://www.matichon.co.th/region/news_3123983
โควิดภูเก็ตพุ่ง 742 ราย แนวโน้มสูงต่อเนื่อง-เตียงเริ่มไม่พอ
วันที่ 10 มกราคม นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดภูเก็ต ประจำวันที่ 9 มกราคม 2565 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 513 ราย ต่างประเทศ 2 ราย Phuket Sandbox 133ราย Test&Go 94 ราย รวม 742 ราย
จากการประเมินสถานการณ์ประเทศไทย มีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้น จังหวัดภูเก็ตมีอัตราการพบเชื้อเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังเท่ากับ 340 รายและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมาก พบผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบ Test&Go และ Phuket Sandbox รวมทั้งการติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดเพิ่มสูงขึ้น อัตราครองเตียงรักษาผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก เริ่มไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วย อัตราการเสียชีวิตแนวโน้มลดลง ผู้ติดเชื้อมีประวัติเสี่ยงส่วนใหญ่เป็นการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย การมีกิจกรรมร่วมกัน อาชีพสัมผัสนักท่องเที่ยว ทำงานในแหล่งท่องเที่ยวและมีความเชื่อมโยงการระบาดในกลุ่ม Test&Go
จากการสุ่มตรวจสายพันธุ์ตัวอย่างในจังหวัดพบเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 66.3 สถานที่ LQ สำหรับกักกัน HRC เริ่มไม่เพียงพอ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข ปรับระดับการเตือนภัยโรคโควิด-19 สำหรับประชาชนและสถานประกอบการเป็นระดับ 4 งดเข้าสถานที่เสี่ยง สถานที่ระบบปิด สถานที่แออัด เช่น ร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งมีระบบระบายอากาศไม่ดี เน้นสื่อสารประชาชนกลับจากต่างจังหวัดให้เฝ้าสังเกตอาการตนเองอย่างน้อย 14 วัน, WFH, งดเข้าสถานที่เสี่ยง, และเร่งไปฉีดวัคซีนตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ หากพบการติดเชื้อ โทร.1330 สปสช. เพื่อลงทะเบียนรักษาแบบแยกกักที่บ้าน (Home Isolation)ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด หรือไปต่างประเทศหากไม่จำเป็น และกำหนดให้สถานประกอบการ ปฏิบัติตามมาตรการ Covid-Free Setting อย่างเคร่งครัด หากพบผู้ติดเชื้อให้ทำ Bubble & Seal ในโรงงาน
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขเร่งรัดดำเนินการ 4 มาตรการ เปิดประเทศ ได้แก่ Vaccine, Universal Prevention, COVID Free Setting, ATK เตรียมแผนเผชิญเหตุรองรับการเปิดประเทศ แผนปฏิบัติการรองรับการระบาดในพื้นที่ จัดเตรียมระบบการรักษาผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วน รพ., รพ.สนาม, CI, Hospitel, AQ, Hotel Isolation, Home Isolation เพิ่มมาตรการชะลอการระบาดเป็นวงกว้าง โดยเฝ้าระวัง Event-based Surveillance และตรวจเชิงรุกด้วย ATK เร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็ม 3, เข็มที่ 4 โดยเฉพาะกลุ่ม 608 กลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ
ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้กำชับให้ติดตามประเมินสถานการณ์การติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมทรัพยากร ทั้งด้านเตียง ยาและเวชภัณฑ์ รองรับโดยให้เน้นการจัดระบบการรักษาที่บ้านหรือชุมชน (Home Isolation : HI, Community Isolation : CI) เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย พร้อมมีระบบติดตามอาการ และสื่อสารเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ติดเชื้อและครอบครัว ทั้งนี้ เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถรองรับการรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและแดง รวมถึงให้บริการผู้ป่วยอื่นๆ ได้ตามปกติ และ ให้เพิ่มการจัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุดให้มีการจัดตั้งศูนย์คลินิกอุ่นใจในทุกอําเภอเพื่อดูแลประชาชนได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง