[CR] เที่ยวภูเก็ต - เสม็ดนางชี - บาน่านาบีช

สวัสดีค่ะflowerflowerflower
 ทริปนี้เป็นการรีวิวการไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ตครั้งล่าสุดของครอบครัวเรา แต่เดิมวางแผนเดินทางกันตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 เพราะอยากจะไปภูเก็ตในช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่เข้ามา ธรรมชาติกลับมางดงามเหมือนที่เห็นหลายๆคนรีวิวในช่วงนั้น และโรงแรมที่พักก็จัดโปรโมชั่นกันมากมายจะได้ไปอุดหนุนช่วยเหลือกัน แต่ไม่คาดคิดว่าเจ้าโควิดสายพันธุ์เดลต้าจะระบาดจนไม่สามารถเดินทางได้ ต้องเลื่อนกันมาเรื่อยจนมาลงเอยที่ 29 ตค. – 1 พย. 2564 
 Day1
 เราเดินทางขาไปโดยเครื่องบินสายการบินไทยสมายล์ และกลับด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย การเดินทางในตอนนั้นก็ติดตามประกาศจังหวัดภูเก็ตและพังงาว่าต้องมีหลักฐานอะไรบ้างเพื่อควบคุมโรคโควิด19 ครอบครัวเราเดินทาง 3 คน พ่อ แม่ ลูก(11ปี) ซี่งพ่อกับแม่รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วสามารถเดินทางเข้าได้เลยไม่ต้องตรวจอะไรเพิ่ม ส่วนลูกยังไม่ได้ฉีดก็ต้องพาไปตรวจ RT PCR หรือ ATK  ก่อนก็ได้ แล้วปรินท์เอกสารของทุกคนไว้เลย ตอนเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิเจ้าหน้าที่ไทยสมายล์ก็ตรวจเอกสารของทุกคนตั้งแต่ตอนนั้นเลย แล้วก็ขึ้นเครื่องตามปกติ เมื่อไปถึงปลายทางที่ภูเก็ตก็ไม่ได้มีตรวจอะไรอีก  ส่วนขากลับจากภูเก็ตมากรุงเทพไม่ต้องใช้เอกสารอะไรค่ะ

  ทุกอย่างที่สนามบินดูราบรื่นดี แต่ตัวเราเองระหว่างจะเดินไปขี้นรถเพื่อไปขี้นเครื่องบินที่ลานจอด ก็เกิดสะดุดหกล้มอย่างแรง ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นอะไรมาก แต่พอไปนั่งบนเครื่องบินแล้วเปิดหัวเข่าขึ้นมาดูถึงเพิ่งเห็นว่ามันบวมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว บวมมากด้วย พอเครื่องขึ้นเรียบร้อยก็เลยขอน้ำแข็งกับน้องแอร์โฮสเตสมาประคบไว้ก่อนจะได้ไม่บวมไปมากกว่านี้ น้องก็ไปจัดหามาให้ ระหว่างอยู่บนเครื่องจะไม่มีการบริการอาหารและเครื่องดื่มแต่ทางสายการบินจะแจกให้ตอนจะลงจากเครื่องค่ะ ซึ่งตอนที่เราไปรับอาหารน้องแอร์ก็การเขียนโน๊ตเล็กๆให้หายเจ็บขาเร็วๆ ขอบคุณนะคะ เป็นความทรงจำดีๆที่น่ารักมากค่ะ สำหรับอาหารก็เป็นข้าวผัดปลาสลิด อร่อยดีค่ะ
วันนี้เมฆน่ารักเรียงกันเป็นแถวเป็นแนวเลย
 เมื่อมาถึงสนามบินภูเก็ต เราก็ออกมารับรถที่เช่าไว้ คราวนี้เราเช่ากับ AVIS โดยมีโปรโมชันแถมประกันแบบไม่ต้องจ่ายเพิ่มหากเกิดอุบัติเหตุค่ะ จากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อกันไปที่จุดหมายแรก นั่นคือ เสม็ดนางชี ที่จังหวัดพังงา ตอนขาออกจากภูเก็ตไปพังงาไม่มีตรวจอะไรนะคะ ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงแล้วค่ะ จุดที่เราเห็นรูปและรีวิวบ่อยๆ เป็นจุดที่มีเสม็ดนางชีบูทีค แต่เราตั้งกูเกิลแมพไว้ที่จุดชมวิวเสม็ดนางชีเฉยๆ ก็เลยได้มาตรงจุดชมวิวดั้งเดิม ที่จริงทางขึ้นก็อยู่ใกล้ๆกันแหละค่ะ แต่เราก็ขึ้นที่จุดดั้งเดิมนี้ค่ะ ซึ่งต้องไปขึ้นรถที่จัดไว้สำหรับรับส่งโดยเฉพาะ ไม่อนุญาติให้ขับรถขึ้นไปเอง เพราะทางชันมากและค่อนข้างอันตรายหากไม่ชินทาง ค่ารถขึ้น – ลง คนละ 90 บาทค่ะ โดยขึ้นไปแล้วจะลงรถเที่ยวไหนก็ได้ เพราะรถจะมีขึ้นลงอยู่ตลอดค่ะ
 ขาขี้นจะวิบากหน่อย เกาะกันแน่นๆนะคะ จะไหลลงตลอดเลยค่ะ 55 พอขึ้นไปถึง ก็ไม่ผิดหวังเลย วิวพาโนรามามากๆ และก็มีพรอพต่างๆเอาไว้ให้ถ่ายรูปสวยๆ มีต้นไม้สูงที่มีบันไดให้ขึ้นไปถ่ายรูปด้านบนด้วย แต่เราไม่ได้ปีนขึ้นไป มันสูงเหมือนกันก็เสียวๆอยู่ และไม่เห็นใครปีนขึ้นเลยค่ะ ในวันที่เราไปจุดนี้คนน้อยมาก เรียกว่าวิวเป็นของเราเลยค่ะ แต่ละคนสามารถอยู่แต่ละจุดถ่ายรูปได้เท่าที่ต้องการเลย ถือว่าโชคดีมากค่ะ อยู่ชมวิวจนหนำใจเราก็กลับลงมา ขาลงก็เกาะแน่นๆเหมือนเดิมนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 แล้วเราก็ขับรถกลับภูเก็ตกันค่ะ หนนี้ที่พังงาเราตั้งใจมาเสม็ดนางชีที่เดียว โอกาสหน้าจะเที่ยวแบบเต็มๆเลยค่ะ ขากลับเข้าภูเก็ต ก็จะมีด่านตรวจค่ะ เราก็ยื่นเอกสารการรับวัคซีนและผลตรวจของลูกให้เจ้าหน้าที่ก็ผ่านตลอดค่ะ
  
 ที่พักในคืนแรกของเราในวันนี้ก็คือ “บ้านลุงหมอ”ค่ะ เนื่องจากเราติดตามเพจ ลุงหมอขอพักร้อน มาตั้งแต่ก่อนโควิดซึ่งในเพจจะเกี่ยวกับการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่พอมามีโควิดลุงหมอก็หันมาเลี้ยงแมว เลี้ยงหลายตัวมาก การตั้งชื่อแมวแต่ละตัวจะเกี่ยวข้องกับจังหวัดภุเก็ตทั้งสิ้น ส่วนใหญ่ก็มักเป็นชื่ออาหาร ซึ่งครอบครัวเราชอบแมวมากก็เลยจะอินเป็นพิเศษ และลุงหมอก็มีบ้านพักให้เช่าพักได้ในเมืองภูเก็ต ซึ่งบ้านพักอยู่ในหมู่บ้านโมโน ซี่งเป็นแนว Japanese loft และการตกแต่งบ้านของลุงหมอก็จะเป็นแนวญี่ปุ่น จะมีบ้านแมวเนโกะ บ้านหมาชิบะ บ้านโตโตโร่ บ้านเราเลือกบ้านแมวเนโกะ ซึ่งลูกสาวชอบมาก ภายในบ้านตกแต่งเป็นสีชมพู เปียโน กีตาร์ ก็ยังเป็นสีชมพูเลย รายละเอียดต่างๆเป็นแบบญี่ปุ่น น่ารักไปหมด  ในบ้านมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เหมือนบ้านปกติ มีตู้เย็น เครื่องปิ้งขนมปัง กาน้ำร้อน ให้ปกติค่ะ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการได้พักบ้านทั้งหลัง บ้านเรามีแค่ 3 คน ก็จะนอนแค่ห้องเดียวค่ะ แต่ถ้าใครมาเป็นครอบครัวใหญ่ก็ถือว่าคุ้มมากๆค่ะ การจองก็จองผ่านเพจลุงหมอขอพักร้อนค่ะ พอใกล้ถึงวันเข้าพักทางบ้านลุงหมอก็ส่งแผนที่และวิธีการเข้าบ้านมาให้ เหมือน airbnb ค่ะ เราจะไม่ได้เจอเจ้าของบ้านหรือเจ้าหน้าที่เลย แต่ติดต่อทางแชทได้ตลอดค่ะ
 หลังจากสำรวจบ้านพักกันแล้ว เราก็ออกมาทานอาหารเย็นกันที่ร้าน”วันจันทร์”ค่ะ ซึ่งเราโทรมาจองไว้ตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วเพราะกลัวว่าตอนเย็นคนจะเยอะค่ะ ร้านวันจันทร็เป็นร้านอาหารไทยสไตล์ภูเก็ตและเป็นหลานของร้านระย้า ทำให้สูตรอาหารหลายๆอย่างก็เป็นสูตรเดียวกัน เราได้คำแนะนำจากเพื่อนให้มาทดลอง ก็ไม่ผิดหวังค่ะ อร่อยมาก โดยเฉพาะน้ำพริกกุ้งเสียบสุดยอดเลยค่ะ มื้อนี้ทานกันเกลี้ยงเลย แล้วไปต่อด้วยโอ้เอ๋วเป็นของหวานก่อนกลับที่พัก นอนหลับสบาย ตอนเช้าตื่นมาลูกสาวไม่อยากออกจากที่พักเลยค่ะ
เส้นหมี่น้ำยาปู มาเสิร์ฟปุ๊บชิมปั๊บเกือบถ่ายรูปไม่ทันเลย
โอ้เอ๋ว ที่ร้านริมถนนเย็นชื่นใจค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   เสม็ดนางชี ภูเก็ต บานาน่าบีช เกาะเฮ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่