ส.ส.เชียงใหม่ จี้แก้ปัญหาค่าครองชีพเร่งด่วน ชี้ ยุคข้าวยากหมากแพง ซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3121811
เมื่อวันที่ 8 มกราคม น.ส.
ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความแสดงความเห็นปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะหมูแพง โดย ระบุว่า
หมูแพงค่าแรงถูก กุ้งได้มีโอกาสลงพื้นที่ตลาดธานินทร์ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีเนื้อหมูมีราคาแพง จากการลงพื้นที่กุ้งได้รับข้อมูลว่าปัญหาราคาหมูแพงนั้น กระทบคนไทยตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ กระทบเกษตรกรเลี้ยงหมูรายย่อย พ่อค้าแม่ขายเขียงหมู ร้านอาหารตามสั่ง ไปจนถึงร้านขายของฝากสุดฮิตจากภาคเหนืออย่างแคบหมู
ราคาเนื้อหมูที่สูงขึ้นทำให้ยอดขายเนื้อหมูหน้าเขียงลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน แม่ค้ารายหนึ่งบอกว่ายอดขายเนื้อหมูลดลงกว่า 50% หลายคนอาจคิดว่าหากเนื้อหมูแพงก็หันไปกินเนื้อไก่หรือเนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทนสิ จากการลงพื้นที่กุ้งยังพบว่า ไม่ใช่เพียงแค่เนื้อหมูเท่านั้นที่มีราคาสูงขึ้น แต่ราคาเนื้อไก่และราคาปลาก็มีราคาสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำของคนไทยไม่กระเตื้องมาหลายปีแล้ว และยังต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่เพียงวันละ 300 กว่าบาท ในขณะที่เนื้อหมู 1 กิโลกรัม กำลังมีราคาสูงขึ้นเกือบแตะ 300 บาทแล้ว และค่าครองชีพของคนไทยก็สูงขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา ในจะข่าวการขึ้นราคาของน้ำมันการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม การขึ้นราคาค่าไฟฟ้า ข่าวผักมีราคาแพง ทั้งหมดนี้ล้วนกระทบค่าครองชีพของประชาชนและกระทบชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันของประชาชน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้คนเงินหดรายได้หาย หลายคนตกงาน กลับต้องมาเจอภาวะข้าวยากหมากแพงซ้ำเติมพวกเขายิ่งขึ้น
ท่านนายกฯคะ ท่านควรลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชน จะได้เข้าใจปัญหาที่แท้จริงของประชาชน มากกว่ารอรับรายงานอยู่ในห้องแอร์ไปวันๆ ตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนมากค่ะ ท่านนายกต้องรีบแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชนอย่างเร่งด่วน ถ้าหากวันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะเร่งแก้ไขปัญหานี้ให้กับพี่น้องประชาชน เราจะไม่ปล่อยให้ประชาชนเป็นไปตามยถากรรมอย่างแน่นอนค่ะ
กุ้งรับปากและสัญญากับพี่น้องประชาชนว่าทุกปัญหาที่พี่น้องประชาชนได้สะท้อนมาในวันนี้ กุ้งจะนำไปเข้าสู่กระบวนการของสภาเพื่อนำมาสู่การแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนต่อไปค่ะ
https://www.facebook.com/TussaneeBuranupakorn/posts/2360232444143099
ไวรัสระบาด ทำหมูตายยกฟาร์ม เจ้าของขาดทุนกว่า 4 ล้าน
https://www.one31.net/news/detail/52302
เจ้าของฟาร์มหมูเพชรบูรณ์ ขาดทุนกว่า 4 ล้านบาท หลังหมูเลี้ยงไว้กว่า 600 ตัวตายยกฟาร์ม จากไวรัสระบาด...
วันที่ 8 มกราคม 2565 นาย
มนัส กึนขุนทด อายุ 72 ปี เจ้าของมนัสฟาร์ม จังหวัดเพชรบูรณ์ ต้องประสบปัญหาขาดทุน จากการเลี้ยงสุกร หลังที่ฟาร์มพบการระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งหมูที่เลี้ยงเอาไว้ จำนวน 660 ตัว เป็นหมูแม่พันธุ์จำนวน 60 ตัว หมูขุน 400 ตัว หมูอนุบาลอีก 200 ตัว มีการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร โดยเริ่มพบการระบาด มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้หมูที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มตายลงทั้งหมด ทำให้นาย
มนัส ต้องประสบปัญหาขาดทุน มากกว่า 4 ล้านบาท แถมยังมีหนี้สินที่เป็นค่าอาหารสุกร และค่าหนี้สินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่ยังไม่ได้ชำระ โดยที่เจ้าตัวเองถึงแม้ว่าอยากจะกลับมาเริ่มเลี้ยงสุกรใหม่ แต่ปัญหาในเรื่องเงินที่จะลงทุนก็หมดไปกับหมูที่ตายลง
ซึ่งวันนี้ นาย
สมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอบึงสามพัน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ในเรื่องของการระบาดของโรค พบว่าในพื้นที่อำเภอบึงสามพัน มีฟาร์มเลี้ยงหมู จำนวน 15 ฟาร์ม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร พร้อมทั้งเร่งสั่งการปศุสัตว์อำเภอบึงสามพัน ลงพื้นที่ทำการสอบสวนโรค และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไปยังฟาร์มหมู อื่น ๆ อีก
จากการสอบถาม นาย
มนัส กึนขุนทด อายุ 72 ปี เจ้าของฟาร์มหมู กล่าวว่า ตอนที่โรคระบาดรักษาไม่ทัน ตัวไหนที่ไม่เป็นก็ได้แจกจ่ายชาวบ้านไปกิน ส่วนตัวที่เป็นโรคก็ฝังดิน เผา ซึ่งเบื้องต้นตนนั้นคิดว่าสุกรที่ป่วยคาดว่าเกิดจากโรคอหิวาต์สุกร แต่ทำไมครั้งนี้กลับระบาดรุนแรง ซึ่งทุกปีจะเป็นแบบนี้ปกติ แต่ตนนั้นจะซื้อยาป้องกันไว้อยู่แล้ว แต่มาครั้งนี้กลับกลายเป็นว่า ฉีดยาเข้าไปเหมือนฉีดน้ำเข้าไป เหมือนยาที่ฉีดกลับรักษาไม่หายเหมือนแต่ก่อน โดยแต่ก่อนเวลาที่เป็นโรคช่วงนี้พ่อแม่พันธุ์หมูจะไม่เป็น จะเป็นเฉพาะหมูขุน มีอาการไอเล็กๆ น้อยๆ พอฉีดยาก็จะหาย
ด้าน นาย
สมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภบึงสามพัน กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบหมูของพี่น้องประชาชนนั้นได้มีการเสียชีวิตจำนวนมาก ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งตรงนี้ได้มีการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ของปศุสัตว์อำเภอว่า โรคที่เกิดขึ้นนั้นเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นเชื้อไวรัส มีการระบาดในพื้นที่ช่วงรอยต่อ ของอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ เข้ามายังอำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาสุกรเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นได้ประสานงานกับปศุสัตว์อำเภอในเรื่องนี้แล้ว ให้มาตรวจสอบและสอบสวนโรคเพื่อที่จะควบคุมการแพร่ระบบให้เกษตรกร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป.
เปรูพบเหยื่อฟลูโรนาดับ 1 ศพ รายแรกของ ปท. จี้ฉีดวัคซีนโควิด-ไข้หวัดใหญ่ ลดเสี่ยงตาย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3122175
เปรูพบเหยื่อฟลูโรนาดับ 1 ศพ รายแรกของ ปท. จี้ฉีดวัคซีนโควิด-ไข้หวัดใหญ่ ลดเสี่ยงตาย
กระทรวงสาธารณสุขเปรูแถลงเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กับไข้หวัดใหญ่พร้อมกัน ที่เรียกว่า “
ฟลูโรนา” เสียชีวิตเป็นรายแรกของประเทศ โดยเป็นผู้ป่วยอายุ 87 ปี ที่มีโรคประจำตัวอยู่ด้วย และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด
ดอกเตอร์
ซีซาร์ มูเนย์โก นักวิจัยจากศูนย์ระบาดวิทยา การป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขเปรู เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตจากฟลูโรนาเป็นรายแรกของเปรู เป็น 1 ใน 3 ผู้ป่วยโรคฟลูโรนา ที่พบในภูมิภาคแอมะซอน ทางตอนเหนือของเปรู โดยผู้ป่วยอีก 2 ราย รายหนึ่งนั้นยังเป็นผู้เยาว์ และอีกรายมีอายุ 40 ปี ซึ่งทั้งสองฉีดวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว โดยผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้มีอาการไอ เจ็บคอ และอาการไข้ทั่วไป
“เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาในเรื่องนี้ เพราะขณะนี้เรามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอช 3 เอ็น 2 ในพื้นที่ป่าของประเทศ เช่นในพื้นที่ลอเรโต, ซานมาร์ติน แอมะซอน และยูคายาลี” ดอกเตอร์
มูเนย์โก กล่าวเตือน พร้อมกล่าวเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพราะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตลงได้
ทั้งนี้ เปรูได้ประกาศเข้าสู่การระบาดของโรคโควิด-19 รอบ 3 ของประเทศเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ผลจากเริ่มพบการเข้ามาระบาดของเชื้อโอมิครอนในเปรูเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้เปรูมีจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 309 ราย
JJNY : 4in1 ส.ส.เชียงใหม่ชี้ยุคข้าวยากหมากแพง│ไวรัสทำหมูตายยกฟาร์ม│เปรูพบเหยื่อฟลูโรนาดับ 1│กรุณพลลุยหาเสียงเคหะคลองเปรม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3121811
เมื่อวันที่ 8 มกราคม น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความแสดงความเห็นปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะหมูแพง โดย ระบุว่า
หมูแพงค่าแรงถูก กุ้งได้มีโอกาสลงพื้นที่ตลาดธานินทร์ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีเนื้อหมูมีราคาแพง จากการลงพื้นที่กุ้งได้รับข้อมูลว่าปัญหาราคาหมูแพงนั้น กระทบคนไทยตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ กระทบเกษตรกรเลี้ยงหมูรายย่อย พ่อค้าแม่ขายเขียงหมู ร้านอาหารตามสั่ง ไปจนถึงร้านขายของฝากสุดฮิตจากภาคเหนืออย่างแคบหมู
ราคาเนื้อหมูที่สูงขึ้นทำให้ยอดขายเนื้อหมูหน้าเขียงลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน แม่ค้ารายหนึ่งบอกว่ายอดขายเนื้อหมูลดลงกว่า 50% หลายคนอาจคิดว่าหากเนื้อหมูแพงก็หันไปกินเนื้อไก่หรือเนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทนสิ จากการลงพื้นที่กุ้งยังพบว่า ไม่ใช่เพียงแค่เนื้อหมูเท่านั้นที่มีราคาสูงขึ้น แต่ราคาเนื้อไก่และราคาปลาก็มีราคาสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำของคนไทยไม่กระเตื้องมาหลายปีแล้ว และยังต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่เพียงวันละ 300 กว่าบาท ในขณะที่เนื้อหมู 1 กิโลกรัม กำลังมีราคาสูงขึ้นเกือบแตะ 300 บาทแล้ว และค่าครองชีพของคนไทยก็สูงขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา ในจะข่าวการขึ้นราคาของน้ำมันการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม การขึ้นราคาค่าไฟฟ้า ข่าวผักมีราคาแพง ทั้งหมดนี้ล้วนกระทบค่าครองชีพของประชาชนและกระทบชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันของประชาชน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้คนเงินหดรายได้หาย หลายคนตกงาน กลับต้องมาเจอภาวะข้าวยากหมากแพงซ้ำเติมพวกเขายิ่งขึ้น
ท่านนายกฯคะ ท่านควรลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชน จะได้เข้าใจปัญหาที่แท้จริงของประชาชน มากกว่ารอรับรายงานอยู่ในห้องแอร์ไปวันๆ ตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนมากค่ะ ท่านนายกต้องรีบแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชนอย่างเร่งด่วน ถ้าหากวันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะเร่งแก้ไขปัญหานี้ให้กับพี่น้องประชาชน เราจะไม่ปล่อยให้ประชาชนเป็นไปตามยถากรรมอย่างแน่นอนค่ะ
กุ้งรับปากและสัญญากับพี่น้องประชาชนว่าทุกปัญหาที่พี่น้องประชาชนได้สะท้อนมาในวันนี้ กุ้งจะนำไปเข้าสู่กระบวนการของสภาเพื่อนำมาสู่การแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนต่อไปค่ะ
https://www.facebook.com/TussaneeBuranupakorn/posts/2360232444143099
ไวรัสระบาด ทำหมูตายยกฟาร์ม เจ้าของขาดทุนกว่า 4 ล้าน
https://www.one31.net/news/detail/52302
เจ้าของฟาร์มหมูเพชรบูรณ์ ขาดทุนกว่า 4 ล้านบาท หลังหมูเลี้ยงไว้กว่า 600 ตัวตายยกฟาร์ม จากไวรัสระบาด...
วันที่ 8 มกราคม 2565 นายมนัส กึนขุนทด อายุ 72 ปี เจ้าของมนัสฟาร์ม จังหวัดเพชรบูรณ์ ต้องประสบปัญหาขาดทุน จากการเลี้ยงสุกร หลังที่ฟาร์มพบการระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งหมูที่เลี้ยงเอาไว้ จำนวน 660 ตัว เป็นหมูแม่พันธุ์จำนวน 60 ตัว หมูขุน 400 ตัว หมูอนุบาลอีก 200 ตัว มีการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร โดยเริ่มพบการระบาด มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้หมูที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มตายลงทั้งหมด ทำให้นายมนัส ต้องประสบปัญหาขาดทุน มากกว่า 4 ล้านบาท แถมยังมีหนี้สินที่เป็นค่าอาหารสุกร และค่าหนี้สินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่ยังไม่ได้ชำระ โดยที่เจ้าตัวเองถึงแม้ว่าอยากจะกลับมาเริ่มเลี้ยงสุกรใหม่ แต่ปัญหาในเรื่องเงินที่จะลงทุนก็หมดไปกับหมูที่ตายลง
ซึ่งวันนี้ นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอบึงสามพัน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ในเรื่องของการระบาดของโรค พบว่าในพื้นที่อำเภอบึงสามพัน มีฟาร์มเลี้ยงหมู จำนวน 15 ฟาร์ม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร พร้อมทั้งเร่งสั่งการปศุสัตว์อำเภอบึงสามพัน ลงพื้นที่ทำการสอบสวนโรค และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไปยังฟาร์มหมู อื่น ๆ อีก
จากการสอบถาม นายมนัส กึนขุนทด อายุ 72 ปี เจ้าของฟาร์มหมู กล่าวว่า ตอนที่โรคระบาดรักษาไม่ทัน ตัวไหนที่ไม่เป็นก็ได้แจกจ่ายชาวบ้านไปกิน ส่วนตัวที่เป็นโรคก็ฝังดิน เผา ซึ่งเบื้องต้นตนนั้นคิดว่าสุกรที่ป่วยคาดว่าเกิดจากโรคอหิวาต์สุกร แต่ทำไมครั้งนี้กลับระบาดรุนแรง ซึ่งทุกปีจะเป็นแบบนี้ปกติ แต่ตนนั้นจะซื้อยาป้องกันไว้อยู่แล้ว แต่มาครั้งนี้กลับกลายเป็นว่า ฉีดยาเข้าไปเหมือนฉีดน้ำเข้าไป เหมือนยาที่ฉีดกลับรักษาไม่หายเหมือนแต่ก่อน โดยแต่ก่อนเวลาที่เป็นโรคช่วงนี้พ่อแม่พันธุ์หมูจะไม่เป็น จะเป็นเฉพาะหมูขุน มีอาการไอเล็กๆ น้อยๆ พอฉีดยาก็จะหาย
ด้าน นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภบึงสามพัน กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบหมูของพี่น้องประชาชนนั้นได้มีการเสียชีวิตจำนวนมาก ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งตรงนี้ได้มีการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ของปศุสัตว์อำเภอว่า โรคที่เกิดขึ้นนั้นเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นเชื้อไวรัส มีการระบาดในพื้นที่ช่วงรอยต่อ ของอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ เข้ามายังอำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาสุกรเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นได้ประสานงานกับปศุสัตว์อำเภอในเรื่องนี้แล้ว ให้มาตรวจสอบและสอบสวนโรคเพื่อที่จะควบคุมการแพร่ระบบให้เกษตรกร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป.
เปรูพบเหยื่อฟลูโรนาดับ 1 ศพ รายแรกของ ปท. จี้ฉีดวัคซีนโควิด-ไข้หวัดใหญ่ ลดเสี่ยงตาย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3122175
เปรูพบเหยื่อฟลูโรนาดับ 1 ศพ รายแรกของ ปท. จี้ฉีดวัคซีนโควิด-ไข้หวัดใหญ่ ลดเสี่ยงตาย
กระทรวงสาธารณสุขเปรูแถลงเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กับไข้หวัดใหญ่พร้อมกัน ที่เรียกว่า “ฟลูโรนา” เสียชีวิตเป็นรายแรกของประเทศ โดยเป็นผู้ป่วยอายุ 87 ปี ที่มีโรคประจำตัวอยู่ด้วย และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด
ดอกเตอร์ซีซาร์ มูเนย์โก นักวิจัยจากศูนย์ระบาดวิทยา การป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขเปรู เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตจากฟลูโรนาเป็นรายแรกของเปรู เป็น 1 ใน 3 ผู้ป่วยโรคฟลูโรนา ที่พบในภูมิภาคแอมะซอน ทางตอนเหนือของเปรู โดยผู้ป่วยอีก 2 ราย รายหนึ่งนั้นยังเป็นผู้เยาว์ และอีกรายมีอายุ 40 ปี ซึ่งทั้งสองฉีดวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว โดยผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้มีอาการไอ เจ็บคอ และอาการไข้ทั่วไป
“เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาในเรื่องนี้ เพราะขณะนี้เรามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอช 3 เอ็น 2 ในพื้นที่ป่าของประเทศ เช่นในพื้นที่ลอเรโต, ซานมาร์ติน แอมะซอน และยูคายาลี” ดอกเตอร์มูเนย์โก กล่าวเตือน พร้อมกล่าวเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพราะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตลงได้
ทั้งนี้ เปรูได้ประกาศเข้าสู่การระบาดของโรคโควิด-19 รอบ 3 ของประเทศเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ผลจากเริ่มพบการเข้ามาระบาดของเชื้อโอมิครอนในเปรูเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้เปรูมีจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 309 ราย