ตอน 25 คิดว่ามีเงินลงทุนสัก 1/10 m USD ก็สบายแล้ว => ถึงตอน 31
ตอน 30 คิดว่ามีเงินลงทุนสัก 1/3 m USD ก็สบายละ => ถึงตอน 34
ตอน 35 คิดว่ามีเงินลงทุนสัก 1 m USD ก็สบายละ => ถึงตอน 38
แต่ถ้าเทียบกับช่วงชีวิตที่มีความสุข/มั่นใจที่สุด คือ ตอนตลาดปลายปี 2017/2018 ได้ ตอนนั้นมีไม่เยอะเท่าตอนนี้ แต่ยอมรับว่าการได้รับปันผลที่เกือบเท่าเงินเดือน มันคือความสุข/มั่นใจอย่างหนึ่ง
และหลังจากปี 2018 ปันผลผมก็ลดลงมาเรื่อยๆ จนมาปีที่แล้วที่ได้ปันผล ไม่ถึง 1/5 ของเงินเดือน
ผมตัดสินใจว่าจะไม่เอาแล้ว value trap เมื่อปี 2020 เพราะปันผลที่ได้ ไม่คุ้มกะการ drawdown ที่จะเกิดขึ้น ถ้า ธุรกิจถูก disrupt ก็จบ
มานาทีนี้ ถึงเงินจะเยอะขึ้น แต่ปันผลน้อยมาก เพราะผมย้ายเงินออกไปหมดแล้ว หุ้นตปท.ปันผลหลักน้อยกว่า 1%
ถ้าไม่ปฏิเสธความจริง ประเทศเราเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ปีอะไรฮะ สำหรับผม ปี 2018 น่ะนะ ความมั่นใจของคนลดลงอย่างเหนได้ชัด
£££ ตัวเลขเป้าหมายการเงินตอน 25/30/35 ผมก็ถึงหมดแล้ว แต่ทำไมความมั่นใจยิ่งน้อยลง => ความสุขจาก dividend ผมไม่มีไงฮะ
ตอน 30 คิดว่ามีเงินลงทุนสัก 1/3 m USD ก็สบายละ => ถึงตอน 34
ตอน 35 คิดว่ามีเงินลงทุนสัก 1 m USD ก็สบายละ => ถึงตอน 38
แต่ถ้าเทียบกับช่วงชีวิตที่มีความสุข/มั่นใจที่สุด คือ ตอนตลาดปลายปี 2017/2018 ได้ ตอนนั้นมีไม่เยอะเท่าตอนนี้ แต่ยอมรับว่าการได้รับปันผลที่เกือบเท่าเงินเดือน มันคือความสุข/มั่นใจอย่างหนึ่ง
และหลังจากปี 2018 ปันผลผมก็ลดลงมาเรื่อยๆ จนมาปีที่แล้วที่ได้ปันผล ไม่ถึง 1/5 ของเงินเดือน
ผมตัดสินใจว่าจะไม่เอาแล้ว value trap เมื่อปี 2020 เพราะปันผลที่ได้ ไม่คุ้มกะการ drawdown ที่จะเกิดขึ้น ถ้า ธุรกิจถูก disrupt ก็จบ
มานาทีนี้ ถึงเงินจะเยอะขึ้น แต่ปันผลน้อยมาก เพราะผมย้ายเงินออกไปหมดแล้ว หุ้นตปท.ปันผลหลักน้อยกว่า 1%
ถ้าไม่ปฏิเสธความจริง ประเทศเราเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ปีอะไรฮะ สำหรับผม ปี 2018 น่ะนะ ความมั่นใจของคนลดลงอย่างเหนได้ชัด