สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาบอกต่อถึงโรงพยาบาลเสริมความงามครบวงจร ที่เปิดใหม่ล่าสุดช่วงกลางปี 64 ที่ผ่านมาคือ โรงพยาบาลวรรณสิริ WansiriHospital ย่านถนนพระราม 3 ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อภัธค่ะ เรียกพี่ภัธ พี่แพทก็ได้  เพราะอายุก็ย่านหลักสี่ ค่อนมาเกือบจะกลางแล้ว ทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ล็อกอินนี้เป็นสมาชิก Pantip ชื่อนี้แบบยุคดึกดำบรรพ์มากๆๆ  ตั้งแต่สมัยยังไม่มีโซเชี่ยล  แหมน้องๆมาอ่าน ก็คงบอกว่าป้าเล่นบอกอายุแบบนี้ ก็ไม่ต้องเดากันล่ะ    อิอิ
 
     เข้าเรื่องๆค่ะด้วยความที่อายุอานามนะคะ เป็นสาวสะพรั่งเต็มตัวแล้ว  เริ่มมีปัญหาที่ซีเรียสเร่งด่วนที่รู้สึกได้เลย คือรอยย่นตรงหัวคิ้วค่ะ ซึ่งมันนูนย่นโดยที่เราไม่ได้ทำท่าใดๆ แม้ทำหน้าเฉยๆ แต่มันเป็นเองด้วยวัย และเห็นชัดเจนมากกกกก  แม้ว่าเรายิ้มถ่ายรูป ซึ่งภาพที่ออกมาดูสูงวัย และซีเรียสไปไหน ขนาดนั้น นอกจากนี้ ก็รอยย่นที่หน้าผากค่ะ  คือ มันหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลกนั่นแหละค่ะ แล้วด้วยอาชีพของเรานะคะก็ต้องนิดหนึ่ง ทำงานด้านพีอาร์ประชาสัมพันธ์สื่อสารองค์กร เราจะหน้ายับทำกรรมทางสายตา แก่ผู้พบเห็น ประชาชนทั่วไปไม่ได้ค่ะ !!!! จะเป็นบาปติดตัวหนัก 
 
   ทำให้ต้องเริ่มมองหาตัวช่วยในการชะลอวัยของเราในครั้งนี้  ซึ่งก่อนหน้านี้จะปรึกษาเพื่อน ที่ดูแลตัวเองดีมากๆ และเสริมความงามอยู่ประจำแนะนำมาว่า  อย่างเรามือใหม่ ก็เริ่มจาก Botox ก่อนละกัน จนมาลงตัวที่โรงพยาบาลวรรณสิริ  ซึ่งได้รับคำแนะนำจากน้องๆเจ้าหน้าที่ขั้นต้นว่า ให้เริ่มที่ Botox Nobota ของเกาหลีค่ะ  ซึ่งจะใช้กี่ยูนิต บริเวณไหนบ้าง มาพบคุณหมอ แล้วคุณหมอจะประเมินแล้วทำหัตถการให้เรา อย่างคุ้มค่าได้ผล และสวยที่สุดในงบประมาณที่เราต้องการ
 
    จนถึงบ่ายวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน ช่วงเย็นที่นัดเวลาไว้กับทางโรงพยาบาล ก้าวแรกคือความประทับใจในการดูแล ของน้องๆเจ้าหน้าที่มาก สถานที่สะอาดสะอ้านใหม่เอี่ยม แม้ดูบางจุดยังตกแต่งไม่สมบูรณ์เรียบร้อยดี แต่ก็แลดูไม่ขัดตาสะอาดมากๆ ชั้นสองจะเป็นเหมือนส่วนต้อนรับ มีเคาเตอร์ที่บริการน้ำชา กาแฟ และขนมทานเล่นกับลูกค้าด้วย คือดี และชอบมาก แต่ดิฉันไม่ได้ทานค่ะ ขอน้องแค่น้ำเปล่า เพราะกำลังตื่นเต้นในความงาม ที่กำลังได้รับ จากนั้นก็ทำประวัติ วัดความดัน โดยคุณพยาบาล แล้วก็พบคุณหมอ ซึ่งเป็นคุณหมอผู้หญิง ท่านน่ารักมาก สอบถามถึงความกังวลใจของเรา แล้วบอกว่าเดียวคุณหมอจะดูให้ และทำให้โอเคที่สุด 
       จากนั้นน้องเจ้าหน้าที่ก็พามาที่ห้องสำหรับฉีด Botox ของเราในวันนี้ คือ กรี๊สสสส อีกแล้ว ประทับใจมาก ห้องสะอาดสะอ้าน มีห้องน้ำในตัว และมีน้องเจ้าหน้าที่รอให้บริการเราอยู่คือ รู้สึกผ่อนคลายมากๆ โดยปกติเป็นคนไม่กลัวเข็ม ไม่กลัวเจ็บอยุ่แล้วค่ะ ยิ่งเรื่องความสวยสู้ตาย อิอิ จากนั้น น้องเจ้าหน้าที่ก็จะให้ เรานอนที่เตียง ซึ่งเป็นเตียงแบบในโรงพยาบาลอย่างดีเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะคะ แล้วก็ล้างเครื่องสำอางบนหน้าเรา จากนั้นก็ทายาชาแล้วรอเวลาสัก 20-30 นาที เพื่อรอคุณหมอมาจิ้ม Botox ให้เราค่ะ
 
    ครบเวลายาชาแล้ว คุณหมอก็ให้เราแสดงสีหน้าต่างๆ แล้วใช้ปากกามาร์คจุดที่จะฉีด จากนั้นก็เริ่มฉีดส่วนหว่างคิ้ว  หน้าผากทั้งหมด หางตานิดหน่อย และลิฟท์กรอบหน้าตรงคางด้านล่างนิดหนึ่งค่ะ ซึ่งระหว่างที่ทำมีน้องเจ้าหน้าที่จะคอยถือเจลน้ำแข็งประคบให้ตลอดเวลา กับมีเครื่องมืออะไรสักอย่างเป็นเหมือนด้ามปากกา ที่สั่นๆมาจ่อตรงหน้า ทั้งหมดนี้เป็นตัวช่วยให้เราไม่เจ็บค่ะ ซึ่งพูดตามตรงก็ไม่เจ็บจริงๆ คุณหมอมือเบามากๆ ค่อยๆทำแล้วก็บอกเรา เรียกว่า เคลิบเคลิ้มกันสุดๆๆ ใช้เวลารวมแปะยาชา แล้วฉีด Botox จนเรียบร้อย น่าจะอยู่ราวๆ 50 นาที จากนั้นก็เสร็จเรียบร้อยกลับบ้านได้ ซึ่งถ้าใครเคยฉีด Botox จะทราบนะคะ ว่ามีข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติอย่างไรอันนี้ก็ ขอเล่าให้ฟังคร่าวๆนะคะ 
 
1.          พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่รักษาทุก 15 นาที นานประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อให้โบท็อกซ์กระจายเข้าสู่กล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น เช่น ถ้าฉีดรอบดวงตา ควรยิ้มทุก 15 นาทีใน 4 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา
2.          หลีกเลี่ยงการนอนราบ หรือเอนศีรษะ 4 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อป้องกันการไหลของยาไปสู่กล้ามเนื้อบริเวณอื่นที่อาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการได้
3.          สามารถล้างหน้าได้ หลังการรักษา 4 ชั่วโมง และสามารถทาครีม เครื่องสำอางค์ได้ในวันถัดไป
4.          หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังการฉีด 3-5 วันหลังการรักษา
5.          ถ้ามีรอยช้ำสามารถประคบเย็นได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการฉีด ภายหลัง 24 ชั่วโมงสามารถประคบด้วยน้ำอุ่น
6.          หลังการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง ของขบเค้ี้ยว หมากฝรั่ง
7.          หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า หรือ เลเซอร์ใบหน้า หลังการรักษาด้วยโบท็อกซ์ 2 สัปดาห์
8.          หลีกเลี่ยงการกดคลึงใบหน้าบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์หลังการรักษาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
9.          รอยนูนหลังฉีดจะค่อยๆหายไปเองภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังการฉีด สามารถประคบเย็นเพื่อให้หายเร็วขึ้นได้
  ซึ่งข้อมูลตรงนี้ได้จากการที่ฟังคุณหมออธิบาย และหาข้อมูลเพิ่มเติมใน Internet ด้วยค่ะ ขอขอบพระคุณจากทุกแหล่งข้อมูลมา ณ ที่นี่ด้วยนะคะ 
 
    เมื่อถึงบ้านก็ค่ำแล้วยังไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่ก็คอยสังเกตตามช่วงเวลาที่คุณหมอบอก เริ่มแรกบริเวณหว่างคิ้ว รอยย่นรอยนูน ดีขึ้นชัดเจนเห็นได้ชัด พอหลังฉีดสัปดาห์ที่ 2 แผงหน้าผากของเราที่เวลาขยับใบหน้า ยกคิ้วจะย่นกองไปทั่วทั้งบริเวณมันดีขึ้น ตึงเป๊ะ ส่วนตัวแล้วชอบมากกก มันคือได้ผลมาก เห็นชัดเลย ซึ่งปัญหาพวกนี้เป็นปัญหาที่เรากังวลใจค่ะ  สรุปภารกิจก่อการสวยแบบมือใหม่เริ่มต้นของเรา ใช้ Botox ไปทั้งหมด 50 ยูนิต ซึ่งคุณหมอบอกว่าจะอยู่ได้ราวๆ 4-6 เดือน ถ้าเราดูแลสุขภาพองค์รวมได้ดี ผลของ Botox ก็อยู่กับเราแบบชัดเจนเต็มประสิทธิภาพในช่วงเวลาของมันอย่างเต็มที่  
 
เขียนมาถึงตรงนี้ บอกเลยประทับใจมาก จนต้องอยากบอกต่อถึงบริการที่ดี มืออาชีพไว้ใจได้ ของโรงพยาบาลวรรณสิริค่ะสามารถเข้าไปดูโปรโมชั่น
ลองเสิร์ชดูได้เลยนะคะ

ขอบพระคุณสำหรับการติดตามค่ะ


                                                              ภาพบรรยากาศของโรงพยาบาลวรรณสิริโดยรวมค่ะ



                                                                                         ภาพขณะรับบริการ



                                            ภาพ Beforeนี่เลยค่ะชัดๆหน้าป้าเส้นริ้วความหย่อนคล้อยตรงหน้าผากชัดๆ
                                                         ภาพ After ผ่านมาราว 2สัปดาห์ ที่ตัว Botox ทำงานเต็มที่



                                                      รวมๆภาพความเปลี่ยนแปลงแบบชัดๆ ฟินมีความสุขมาก
                                                 ก็โอเคอยู่นะคะ จากก่อนทำสำหับสาวสระพรั่งวัย 43 ขวบ อิอิ