สวัสดีค่ะ มีเรื่องกลุ้มใจมาถามความคิดเห็น
หนูเป็นเด็กเรียนดีปานกลางคนนึงที่ตกอับ ตอนอายุ 19 หนูได้ไปเรียนหมอที่ต่างประเทศที่โรมาเนียแต่หนูล้มป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและโรคทางจิตเวชอีกหลายๆอย่าง เลยได้หยุดเรียน กลับบ้านมาอยู่บ้านรักษาตัว แล้วครอบครัวก็ประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้ตอนนี้หนูไม่สามารถไปเรียนต่อหมอที่ต่างประเทศได้อีกแล้ว แล้วมาตอนนี้ หนูอายุ 27 สิ่งที่หนูกังวลอย่างแรกคือ หนูอายุ 27 แต่หนูไม่เคยทำงานรับจ้างใดๆเลย เลยเป็นคนไม่มีประสบการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่งานรับจ้างเช่น เป็นแม่บ้านประจำ เป็นพนักงานเสิร์ฟ เค้าจะไม่ค่อยอยากรับ หนูสมัครเป็นสิบที่ ไม่มีที่ไหนอยากรับหนูเข้าไปเป็นลูกจ้างเลย บุคลิกหนูก็พอใช้ได้อยู่นะ พอไปวัดไปวาได้ ไม่ได้แย่มาก แต่เค้าไม่รับ ไม่รู้ทำไม สิ่งต่อมาที่หนูกลุ้ม คือ หนูมีเงินเก็บอยู่ 5 หมื่น แต่หนูกะว่าจะไปเรียนครุศาสตร์ ม.ราชภัฏ นครราชสีมา ซึ่งตลอดหลักสูตร มันต้องใช้เงิน 124000 บาท ตอนนี้อายุ27แล้ว หนูเครียดที่ยังต้องขอเงินจากพ่อตนเองใช้ ซึ่งพ่อก็ให้ได้แค่เดือนละ 7000 บาท สิ่งที่หนูอยากถามคือ หนูควรเลือกอะไรระหว่าง
1.หางานทำแล้วเก็บเงินให้ได้ 124000 แล้วเอาไปเรียนครุศาสตร์
2.ไปเรียนตั้งแต่ตอนนี้ที่อายุ27เลยแล้วค่อยเอาเงินจากพ่อมาใช้จ่ายค่าเทอมเอาเพราะหนูคิดว่าอายุ 27 มันไม่ใช่น้อยๆแล้วควรรีบเรียนให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่หนูก็กังวลว่า เงินเดือน 7000มันไม่น่าจะพอใช้จ่ายตลอดภาคการศึกษา4ปี เพราะนอกจากค่าเทอมแล้วมันยังต้องมีค่าจิปาถะนู่นนี่นั่นที่ต้องจ่ายอยู่อีก
3.ไม่ต้องไปเรียนครุศาสตร์ เก็บเงินจากงานรับจ้างที่ได้ไปเรื่อยๆตลอดชีวิต แล้วหาวิธีทำให้มันงอกเงยเอา เช่น ลงทุนในหุ้น
หนูมีพ่อที่เลิกกันกับแม่แล้วพ่อทิ้งหนี้ก้อนใหญ่ก้อนนึงไว้ให้แม่ใช้ ครอบครัวหนูลำบากตอนนี้เพราะแม่ไม่มีเงินจะส่งหนี้ พ่อกับแม่หนูแยกทางกันเพราะพ่อกับแม่เลิกกันเนื่องจากพ่อมีเมียน้อย แต่พ่อก็ยังคงส่งเงินมาให้หนูใช้ทุกเดือนๆ เดือนละ 7000 บาท แต่ไม่ได้ส่งอะไรเพื่อช่วยเหลือเงินแม่ พ่อพูดตบปากรับคำว่าจะช่วยหนูเรื่องเรียนครุศาสตร์ แต่สถานการณ์ทางการเงินพ่อก็ลำบากเพราะพ่อมีหนี้เป็นล้านที่ต้องหามาใช้เค้าเช่นเดียวกับที่ทิ้งหนี้ไว้ให้แม่ หนูเลยเชื่อใจพ่อไม่ค่อยจะได้ว่าพ่อจะสามารถช่วยเหลือ ค่าเล่าเรียนครุศาสตร์หนูได้จริงไหม หนูควรจะทำอย่างไรดี ไปเรียนครุศาสตร์เอาตอนอายุ 30 มันจะช้าเกินไปไหม เพราะมันต้องเก็บเงิน หรือหนูควรจะล้มเลิกความคิดที่จะใช้เงิน แล้วเก็บเงินให้ได้เป็นก้อนจากการทำงานรับจ้างต่างๆดีกว่า เพราะเส้นทางชีวิต มันไม่จำเป็นต้องเรียนป.ตรี แต่ก็มีทางหาเงินได้ และตัวหนูเองก็คิดอยากจะมีเงินเก็บเป็นเรื่องเป็นราวกับเค้าบ้าง ไม่ใช่อะไรก็จะมีแต่ละลายเงินไปกับสิ่งนู้นสิ่งนี้ หนูคิดถูกไหม หนูควรที่จะเอายังไงกับชีวิตตัวเอง
แล้วก็อีกอย่างนึง
พ่อหนูแนะว่าถ้าจะไปเรียนครุศาสตร์ หนูควรเตรียมตัวเป็นติวเตอร์เพื่อหาเงินเสริม อันนี้หนูทำได้จริงไหม ถ้าจะเปิดติวเตอร์ต้องมีเงินเท่าไหร่ ต้องไปขออนุญาตกระทรวงอะไรไหม คำแนะนำของพ่อเหมือนจะเป็นคำแนะนำที่ค่อนข้างเพ้อฝันและทำไม่ได้จริง เพราะตอนนี้ครอบครัวไม่มีเงินซักแดงเดียว แต่มานั่งบอกกันให้ไปเปิดติวเตอร์สอนตามบ้านเด็กลูกคนมีเงิน
ตอนนี้หนูยังต้องกินยาจิตเวชเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยอยู่เลย แต่หนูก็ดีขึ้นมากแล้วจากที่เป็นตอนแรก
หนูทำยังไงกับชีวิตตัวเองดีเนี่ย ช่วยออกความคิดเห็นด้วยค่ะ
ขอบคุณที่ให้ความเห็นค่ะ
ขอความคิดเห็น ช่วยด้วยค่ะ หนูควรเลือกอะไรดี
หนูเป็นเด็กเรียนดีปานกลางคนนึงที่ตกอับ ตอนอายุ 19 หนูได้ไปเรียนหมอที่ต่างประเทศที่โรมาเนียแต่หนูล้มป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและโรคทางจิตเวชอีกหลายๆอย่าง เลยได้หยุดเรียน กลับบ้านมาอยู่บ้านรักษาตัว แล้วครอบครัวก็ประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้ตอนนี้หนูไม่สามารถไปเรียนต่อหมอที่ต่างประเทศได้อีกแล้ว แล้วมาตอนนี้ หนูอายุ 27 สิ่งที่หนูกังวลอย่างแรกคือ หนูอายุ 27 แต่หนูไม่เคยทำงานรับจ้างใดๆเลย เลยเป็นคนไม่มีประสบการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่งานรับจ้างเช่น เป็นแม่บ้านประจำ เป็นพนักงานเสิร์ฟ เค้าจะไม่ค่อยอยากรับ หนูสมัครเป็นสิบที่ ไม่มีที่ไหนอยากรับหนูเข้าไปเป็นลูกจ้างเลย บุคลิกหนูก็พอใช้ได้อยู่นะ พอไปวัดไปวาได้ ไม่ได้แย่มาก แต่เค้าไม่รับ ไม่รู้ทำไม สิ่งต่อมาที่หนูกลุ้ม คือ หนูมีเงินเก็บอยู่ 5 หมื่น แต่หนูกะว่าจะไปเรียนครุศาสตร์ ม.ราชภัฏ นครราชสีมา ซึ่งตลอดหลักสูตร มันต้องใช้เงิน 124000 บาท ตอนนี้อายุ27แล้ว หนูเครียดที่ยังต้องขอเงินจากพ่อตนเองใช้ ซึ่งพ่อก็ให้ได้แค่เดือนละ 7000 บาท สิ่งที่หนูอยากถามคือ หนูควรเลือกอะไรระหว่าง
1.หางานทำแล้วเก็บเงินให้ได้ 124000 แล้วเอาไปเรียนครุศาสตร์
2.ไปเรียนตั้งแต่ตอนนี้ที่อายุ27เลยแล้วค่อยเอาเงินจากพ่อมาใช้จ่ายค่าเทอมเอาเพราะหนูคิดว่าอายุ 27 มันไม่ใช่น้อยๆแล้วควรรีบเรียนให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่หนูก็กังวลว่า เงินเดือน 7000มันไม่น่าจะพอใช้จ่ายตลอดภาคการศึกษา4ปี เพราะนอกจากค่าเทอมแล้วมันยังต้องมีค่าจิปาถะนู่นนี่นั่นที่ต้องจ่ายอยู่อีก
3.ไม่ต้องไปเรียนครุศาสตร์ เก็บเงินจากงานรับจ้างที่ได้ไปเรื่อยๆตลอดชีวิต แล้วหาวิธีทำให้มันงอกเงยเอา เช่น ลงทุนในหุ้น
หนูมีพ่อที่เลิกกันกับแม่แล้วพ่อทิ้งหนี้ก้อนใหญ่ก้อนนึงไว้ให้แม่ใช้ ครอบครัวหนูลำบากตอนนี้เพราะแม่ไม่มีเงินจะส่งหนี้ พ่อกับแม่หนูแยกทางกันเพราะพ่อกับแม่เลิกกันเนื่องจากพ่อมีเมียน้อย แต่พ่อก็ยังคงส่งเงินมาให้หนูใช้ทุกเดือนๆ เดือนละ 7000 บาท แต่ไม่ได้ส่งอะไรเพื่อช่วยเหลือเงินแม่ พ่อพูดตบปากรับคำว่าจะช่วยหนูเรื่องเรียนครุศาสตร์ แต่สถานการณ์ทางการเงินพ่อก็ลำบากเพราะพ่อมีหนี้เป็นล้านที่ต้องหามาใช้เค้าเช่นเดียวกับที่ทิ้งหนี้ไว้ให้แม่ หนูเลยเชื่อใจพ่อไม่ค่อยจะได้ว่าพ่อจะสามารถช่วยเหลือ ค่าเล่าเรียนครุศาสตร์หนูได้จริงไหม หนูควรจะทำอย่างไรดี ไปเรียนครุศาสตร์เอาตอนอายุ 30 มันจะช้าเกินไปไหม เพราะมันต้องเก็บเงิน หรือหนูควรจะล้มเลิกความคิดที่จะใช้เงิน แล้วเก็บเงินให้ได้เป็นก้อนจากการทำงานรับจ้างต่างๆดีกว่า เพราะเส้นทางชีวิต มันไม่จำเป็นต้องเรียนป.ตรี แต่ก็มีทางหาเงินได้ และตัวหนูเองก็คิดอยากจะมีเงินเก็บเป็นเรื่องเป็นราวกับเค้าบ้าง ไม่ใช่อะไรก็จะมีแต่ละลายเงินไปกับสิ่งนู้นสิ่งนี้ หนูคิดถูกไหม หนูควรที่จะเอายังไงกับชีวิตตัวเอง
แล้วก็อีกอย่างนึง
พ่อหนูแนะว่าถ้าจะไปเรียนครุศาสตร์ หนูควรเตรียมตัวเป็นติวเตอร์เพื่อหาเงินเสริม อันนี้หนูทำได้จริงไหม ถ้าจะเปิดติวเตอร์ต้องมีเงินเท่าไหร่ ต้องไปขออนุญาตกระทรวงอะไรไหม คำแนะนำของพ่อเหมือนจะเป็นคำแนะนำที่ค่อนข้างเพ้อฝันและทำไม่ได้จริง เพราะตอนนี้ครอบครัวไม่มีเงินซักแดงเดียว แต่มานั่งบอกกันให้ไปเปิดติวเตอร์สอนตามบ้านเด็กลูกคนมีเงิน
ตอนนี้หนูยังต้องกินยาจิตเวชเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยอยู่เลย แต่หนูก็ดีขึ้นมากแล้วจากที่เป็นตอนแรก
หนูทำยังไงกับชีวิตตัวเองดีเนี่ย ช่วยออกความคิดเห็นด้วยค่ะ
ขอบคุณที่ให้ความเห็นค่ะ