บันทึกของเจเจ บทที่ 15 (จบบริบูรณ์)

กระทู้สนทนา

.

           วันนี้เป็นวันที่สามแห่งการมามีทติ้งแผนกของพวกเธอที่พัทยา เจเจก็ยังทำหน้าอมทุกข์เหมือนเดิม ถึงกระนั้นก็ฝืนยิ้มเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เสียดายไดอารี่เล่มนั้นที่เขียนมา แถมยังเป็นเล่มสำคัญเสียด้วย มีเรื่องราวมากมายที่มีคุณค่าอยู่ในนั้น

            ช่วงบ่ายพวกเธอก็จะกลับกันแล้ว กลับไปเข้าสู่โหมดทำงานเหมือนเดิม อีกไม่กี่วันก็ได้หยุดยาวปีใหม่ แทนที่เธอจะต้องสมควรดีใจที่จะได้กลับบ้านเกิด กลับต้องมากังวลเรื่องสมุดบันทึกของตนเอง มันหายไปไหน ใครเอาไป

            มดเพื่อนรุ่นพี่ที่พักห้องพักด้วยกันปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้เป็นคนเอาไป ทั้งที่เป็นบุคคลที่น่าสงสัยที่สุด แล้วใครเอาของเธอไป ไดอารี่ของเธออยู่ไหน ทุกคน! แม้กระทั่งหลุยส์จะได้อ่านมันแล้วหรือยัง

            เช้าของวันสุดท้ายกับการอยู่ที่นี่ ทุกคนออกมาทานข้าวต้มกันด้วยใบหน้าระรื่น เพราะว่าระหว่างสามวันสองคืนที่มาที่นี่ ทุกคนตักตวงความสุขเอาไว้เต็มเปี่ยม จากนั้นค่อยไปกดดันต่อในวันทำงาน ส่วนคนที่เห็นจะไม่ค่อยมีความสุขนัก คือ เจเจนั่นเอง

            “เจเจเป็นไร เราเคืองอะไรพี่ปะหนิ แนะนำพี่ได้นะน้อง อยากได้อะไร อยากให้เพิ่มเติมอะไรในปีหน้าน่ะ เพราะเราจะมามีทติ้งแผนกกันแบบนี้ทุกปี แนะนำบอกพี่ได้” เต๊กหัวหน้าแผนกงานของเธอเดินมาคุยด้วย พร้อมถือถ้วยข้าวต้มเล็ก ๆ มาให้เธอด้วย เพราะเธอไม่ยอมทานอะไรเลย ห่วงสมุดบันทึกมันหายไปไหน “เห็นเราหน้ามุ่ยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

            “เปล่า เจเจแค่ทำของหายเฉย ๆ ไม่รู้ใครเอาไป ของสำคัญด้วย” เธอเผลอพูดไป ไม่คิดว่าสิ่งที่พูดจะเป็นเรื่องใหญ่ พอหัวหน้าแผนกได้ยินดังนั้น จึงหันไปยังเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคนที่นั่งกันคนละมุม กลุ่มใครกลุ่มมัน

            “ทุกคนครับหันมาฟังทางนี้หน่อยครับ” หัวหน้าแผนกเรียกทุกคนให้หันมายังทางพวกตน เธออ้าปากค้าง

            “พี่เต๊กจะพูดอะไรอ่ะ มันไม่ได้สำคัญอะไรมากขนาดน้าน!” เธอรีบห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว

            “เราอยู่เฉย ๆ เจเจ! ทุกคนครับเราอยู่กันแบบพี่น้อง จะพี่น้องแบบไหนก็แล้วแต่! แต่ว่าเราอยู่แผนกเดียวกัน ทีมเดียวกัน ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวต้องรัก ใครหยิบของ ๆ น้องเจเจไปเอามาคืนน้องซะดี ๆ อย่าให้ผมต้องสอบสวน” หัวหน้าแผนกพูดพร้อมกวาดสายตามองหน้าทุกคน

            “พี่ ๆ น้อง ๆ ใครเอาสมุดบันทึกไดอารี่ของเจเจไปเอามาคืนเถอะ” มดเพื่อนรุ่นพี่ และ เป็นบัดดี้คู่นอนกับเธอ พูดปนยิ้มแถมยังเป็นยิ้มแบบมีอะไรซ่อนอยู่ ยิ่งทำให้เธอสงสัยเข้าไปอีก จากที่สงสัยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แค่ไม่อยากกล่าวหา

            ทุกคนหันไปคุยกันเป็นการใหญ่ “สมุดไดอารี่เนี่ยนะ ใครจะเอาไป” พี่ ๆ บางคนพูด

            “อยู่กับใครเอามาคืนน้องเหอะ อ่านจบแล้วก็เอามาคืนเค้า รู้เรื่องของชาวบ้านเสร็จแล้วก็เอามาคืนเค้า ไม่ต้องอยากรู้เรื่องของคนอื่นขนาดนั้น ถ้ามันไม่ได้ทำให้ชีวิตเจริญขึ้น ฮา” พี่อีกคนพูดปนยิ้ม ทำเป็นเรื่องตลกไป คนอื่น ๆ หัวเราะกันใหญ่

            คราวนี้เธอเขินมาก จากจะขอบคุณพี่เต๊กหัวหน้าแผนก เปลี่ยนเป็นโยนค้อนทุบหัวให้ดีไหม หัวใจของเธอเต้นแรงมาก ทั้งอายทั้งเขินทั้งคิดมาก สมุดไดอารี่ของเธออยู่กับใคร

            ภาวนาจะอยู่กับใครก็ได้ อย่าเป็นหลุยส์ได้ไหม เพราะหากเป็นคนอื่น เธอจะเข้าไปขอร้องว่าไม่ให้บอกหลุยส์นั่นเอง แม้จะเป็นเพียงการหวังลม ๆ แล้ง ๆ แต่เผื่อคนนั้นเขาจะยอมฟังและช่วยเธอไม่บอกหลุยส์ ความรู้สึกทั้งหมดที่มีเธอจะเป็นคนบอกหลุยส์เอง

            “อยู่กับใครครับ! เอามาเดี๋ยวนี้! ไม่ว่าจะเป็นของมีค่า หรือ แค่สมุดบันทึก มันก็ล้วนมีคุณค่าต่อเจ้าของทั้งนั้น อย่าเอาของกันไปเลย เราชาวต้องรักเลือดสีดอกกุหลาบ อย่าให้ผมต้องรื้อกระเป๋ากันเลยเนอะ” เต๊กหัวหน้าแผนกกล่าว เพราะสัญลักษณ์ของบริษัทเป็นรูปดอกกุหลาบนั่นเองที่เต็กพูดถึง

            มดเพื่อนรุ่นพี่เหล่ตามองไปยังหลุยส์ เธอหันไปเจอพอดี จากที่ตื่นเต้นอยู่แล้ว ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีก หัวใจเต้นเร็วเข้าไปอีก อย่าเถอะนะ! ได้โปรด! อย่าเป็นเช่นที่เธอคิดเลย ไม่นะ! อย่าอยู่กับหลุยส์เลย! เธอภาวนาในใจ

            แต่แล้วพระเจ้าก็ไม่เข้าข้างเธอ หลุยส์ยิ้ม ยอมเปิดกระเป๋าหยิบสมุดสีชมพูลายการ์ตูนออกมา ทุกคนหันไปมองเป็นสายตาเดียวกัน นาทีนี้เธอแทบเป็นลมล้มพับลงไปกับพื้น ขาอ่อนแทบพยุงตัวเอาไว้ไม่ไหว สมุดไดอารี่ของเธออยู่กับหลุยส์ แล้วมันไปอยู่กับหลุยส์ได้อย่างไร

            หลุยส์ยิ้มกว้างไม่มีท่าทีสะทกสะท้านอะไรเลย ไม่รู้สึกผิดด้วย “อยู่กับผมครับ แต่ว่าผมไม่ได้ขโมยของเจเจนะ สาบาน! ผมกะว่าจะคืนแล้วแต่หาโอกาสคืนยังไม่ได้ ก็เลยรอว่าจะคืนให้กลับไปทำงาน” หลุยส์กล่าวกับหัวหน้าแผนก พร้อมยกมือสาบาน

            “อี่หลุยส์แกได้อ่านบันทึกของเจเจบ้างเปล่า” มดเพื่อนรุ่นพี่ถาม “อ่านแล้วเป็นไงเล่าให้ฟังบ้างสิ”

            “ไม่บอก!” หลุยส์ตอบ เรียกเสียงโห่เสียดายของพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในตอนนี้ทุกคนมาก “เจเจเราขอโทษนะ อ่ะสมุดบันทึกของเจเจ” หลุยส์ยื่นสมุดบันทึกคืนเธอ และ เธอยื่นมือรับด้วยอาการสั่นเทาเล็กน้อย

            หลุยส์ต้องทราบหมดแล้วแน่เลย หลุยส์ยังยิ้มให้เธอเช่นเดิม ทุกคนหัวเราะอารมณ์ดีกันมาก ทว่าคนที่หัวใจจะวายกลับเป็นเธอ

            “โอเค! เรื่องนี้จบไป เราไม่ถือสาเพื่อนนะเจเจ” เต๊กหัวหน้าแผนกหันมาถามเธอ “ขอบคุณหลุยส์ที่คืนของให้เพื่อนด้วย พี่รู้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจน้อง ปะทุกคนทานข้าวกัน เที่ยงเราก็จะกลับกันแล้ว กลับไปทำงานที่เรารัก ฮา” หัวหน้าแผนกพูด

            “เหอะ ๆ งานที่เรารัก” เสียงอีกคนบ่นให้ได้ยิน

            “เจเจ… “ หลุยส์เดินเข้ามาใกล้ ๆ เธอ “อย่าลืมเปิดอ่านนะ” จากนั้นหลุยส์ก็ขอตัว ไปนั่งกับเจมส์กับพี่ ๆ ผู้ชาย ส่วนเธอยืนงงยืนอึ้งยืนเขินอยู่คนเดียว

            “เจเจปะ! ได้สมุดคืนแล้วก็ไปสนุกกันก่อนกลับบ้าน” แอมสะกิดเธอที่ยืนเหม่อลอยอยู่

            “เคค่า” สุดท้ายก็ทำใจ หลุยส์จะรู้หรือใครจะรู้ก็ตามสบายเลย อีกใจก็นึกถึงคำพูดของหลุยส์ ‘อย่าลืมเปิดอ่านนะ’ มันคืออะไร หลุยส์เขียนอะไร อยากเปิดอ่านชะมัด แต่ว่ารอไว้ถึงบ้านลุงก่อนค่อยเปิดอ่าน

            ‘ถ้าหลุยส์ได้อ่านทุกบรรทัดแล้ว หลุยส์จะปฏิเสธ เธอก็จะไม่โกรธไม่อะไรเลย จะยังเป็นเพื่อน จะยังคุยด้วย จะยังกลับบ้านพร้อมกันเหมือนเดิม’

            “เจเจมาถ่ายรูปกัน” หลุยส์เดินมาเรียกเธอ แถมยังฉุดมือลากเธอไปด้วย ไม่ทันได้ให้เธอตั้งตัวเลย “จะงงอะไรก็มาถ่ายรูปกันไง” หลุยส์จ้องหน้าเธอ พูดปนยิ้มโดยไม่สนใจสายตาของเพื่อน ๆ ร่วมงานที่มองมาสักคน

            “ก็ได้! สลับกันถ่ายรูปนะ เดี๋ยวเราถ่ายรูปให้หลุยส์ก่อน” ยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แม้จะทราบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าหลุยส์รู้ความในใจของเธอทุกอย่าง

            “ไม่ใช่แบบนั้น! พี่มด! แกมาถ่ายรูปให้ผมกับเจเจหน่อยซิ” หลุยส์เรียกรุ่นพี่มาถ่ายรูปให้ตนเองกับเธอ

            “นี่อี่หลุยส์! ถ้าแกจะเรียกฉันแบบนี้ไม่ต้องเรียกพี่ก็ไม่ได้มั้ง! ชิ! เอามา” มดค่อนขอดให้หลุยส์เบา ๆ ก่อนจะทำตามที่หลุยส์ขอ “เป็นแฟนกันถ่ายรูปคู่กัน พวกแกยืนชิด ๆ กันหน่อยไม่ได้ไง” มดพูด

            เจเจตกใจกับคำพูดของรุ่นพี่ จะเขยิบออกห่าง โดนหลุยส์จับมือเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ดึงให้เขยิบเข้ามาแนบชิดตัว จากนั้นก็ให้มดถ่ายรูปให้

            “อย่าลืมอ่านไดอารี่นะ” หลุยส์ย้ำ

            “อือ… กลับถึงบ้านก่อนนะ เราจะอ่าน” เธอตอบ พอถ่ายรูปกันเสร็จก็แยกย้ายกันเช่นเดิม หลุยส์อยู่กับเพื่อนผู้ชาย ส่วนเธออยู่กับเพื่อนผู้หญิงกลุ่มของตนเอง ทุกคนหาถ่ายรูปเก็บภาพให้เยอะที่สุดก่อนกลับ พอเที่ยงก็เช็กเอาต์ออกจากโรงแรมและกลับบ้านกัน

            ……………………………………….

            วันที่…..

            สวัสดีมาพบกับฉันอีกแล้ว เจเจกลีบจันทร์ไงจะใครอีกล่ะ

            วันนี้ฉันมีเรื่องตื่นเต้นและดีใจที่สุดมาเขียน คือ ฉันเกือบช็อกตายคาที่นะบอกตรง คือ มันบรรยายอาการของฉันตอนนั้นไม่ถูก ตื่นเต้น อยากตาย เขิน กลัว ผสมปนเปกันไปหมด

            แยกแยะไม่ถูกเลยว่ารู้สึกแบบไหน แต่ช่างเถอะมันผ่านมาแล้ว และ มันก็ผ่านมาได้ด้วยดี ฉันก็แอบคิดนะว่าหากฉันผิดหวัง จะมีความรู้สึกเช่นไร

            ฉันมีเรื่องมาเล่า วันที่ฉันไปมีตติ้งแผนก ฉันทำไดอารี่หาย อืมม์! ไม่หายหรอก พี่มดตัวดีแหละเป็นคนหยิบไป แล้วหยิบไปให้ใครไม่ให้นะ หยิบไปให้อี่หลุยส์อีก เหอะ ๆ ฮา! นี่ฉันขำตัวเองอยู่นะ คือ มันไม่น่ารอดมาจนถึงวันนี้ได้อ่ะ จริง ๆ หัวใจไม่วายตายก่อนก็บุญโขแล้ว

            พี่มดสาบานกับฉันว่าอ่านแค่สามหน้ากระดาษ ไม่มีอะไรให้น่าสนใจเห็นว่าอย่างนั้น โถ่! ชีวิตของคนอื่นมันไม่น่าสนใจหรอก ก็เลยเปิดผ่าน ๆ จนมาเจอหน้าที่ฉันเขียนถึงหลุยส์ อ่านหน้าเดียวก็เข้าใจทุกอย่าง ด้วยความที่มีจิตสำนึกพอ เห็นว่านะ หึหึ โอเคมีก็มี! จึงคิดว่านำไปให้หลุยส์อ่านจะดีกว่า

            พี่มดขอโทษฉันด้วยกับเรื่องที่พี่มดทำ อีกใจเพราะอยากให้อีกคนได้รับรู้ จะได้ไม่ต้องแอบมองกันอะไรแบบนี้ เพราะพี่มดเองก็มองหลุยส์ออก ทุกคน! ที่มองหลุยส์ออกว่าชอบฉัน ฉันไม่โกรธพี่มดหรอก ขอบคุณด้วยซ้ำที่ทำให้มีวันนี้ ‘วันของฉันกับหลุยส์’

            ฉันไม่โกรธพี่มด ก็ดีเหมือนกัน รู้ ๆ ไปสักที ผลออกมาจะเป็นอย่างไรก็ยอมรับ แต่เกินคาด! กรี๊ดดดดด…!!!!!!!! ฮา งือ…. เกินคาดที่ฉันคิดเอาไว้

            หลุยส์ขอฉันเป็นแฟนด้วยแหละ ฉันอ่านแล้วน้ำตาแทบไหล เพราะฉันกลัว! กลัวคำตอบของหลุยส์จะไม่ใช่แบบนี้ ถึงแม้ฉันจะบอกว่ารับได้ก็จริง แต่ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริงฉันก็ไม่รู้ว่า ‘ใจจะรับได้จริง’ หรือเปล่า

            ฉันตอบตกลงรับเป็นแฟนกับหลุยส์ ใครจะไปโกหกความรู้สึกของตัวเอง รักก็บอกรัก ไม่รักก็ปฏิเสธไป ไม่มีอะไรซับซ้อน เราคบกันด้วยความเข้าใจ ไม่บังคับ และ ไม่ตามใจตนเองมากเกินไป

            เราหันหน้าเข้าหากัน ก้าวเข้าหากันคนละข้าง ถอยห่างออกจากความเอาแต่ใจของกันและกันคนละครึ่ง เพื่อเส้นทางรักของเรา

            หลังจากกลับจากเที่ยว มาทำงานวันแรกฉันกับหลุยส์ก็โดนแซวเลย หึหึ ให้มันได้แบบนี้! และ หลุยส์ก็เปิดเผยกับทุกคนในบริษัทว่าคบกับฉัน เราให้ทุกคนในบริษัทรู้ว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน ส่วนจะคบกันไปได้นานแค่ไหน ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เนอะ ทว่าระหว่างที่เรารักกัน พวกเราจะดูแลต้นรักของพวกเราให้ดีที่สุด

            สำหรับวันนี้ฉันก็มีเรื่องที่มาเขียนเล่าให้ฟังแค่นี้ ส่วนพรุ่งนี้ถ้าหากฉันพบเจออะไรมาอีก ฉันจะนำมาเขียนเล่าให้ฟังอีกนะ

            สำหรับวันนี้นี้ฝันดีนะ… อ้าว! หลุยส์โทรหาฉัน แค่นี้นะไปแล้ว ไม่อยากให้คนน้อยใจว่าปล่อยให้ถือสายรอนาน แค่นี้นะ ๆ! เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเขียนใหม่ ไปละ!

            สวัสดี………………………jj

จบบริบูรณ์…

https://pantip.com/topic/41170361……บทที่ 14
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่