กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา แท็กผิดห้องหรือผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
อยากให้ทุกคนอ่านให้จบก่อนค่ะแล้วค่อยสรุป เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างมี details ที่ซับซ้อนมาก
1 - เราชื่อ แจม อายุ 22 ค่ะ ตอนนี้เรียนมหาลัยภาคพิเศษ ทำงานจันทร์ - ศุกร์ เรียนเสาร์ - อาทิตย์ค่ะ แจมมีแฟนอายุ 40 ค่ะ เขาเคยแต่งงานมีครอบครัวมาแล้ว มีลูก 1 คนค่ะ แต่หย่าไป 10 กว่าปีแล้วค่ะ เราคบกันมา 6 ปีแล้ว ตอนแรกเราอยู่ไกลกันค่ะ แจมอยู่ตจว. แฟนอยู่กทม. แจมย้ายเข้ามาอยู่บ้านแฟนที่กทม.ตอนนี้ปีกว่าแล้วค่ะ (ยังไม่ได้แต่งงานกันแต่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ค่ะ) พอแจมเข้ามาอยู่ในบ้าน ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นแบบที่คิด..
2 - เดือนแรกที่แจมย้ายเข้ามาอยู่กทม. จริงๆคุณพ่ออยากให้แยกไปอยู่คอนโดต่างหาก ให้หาเช่าคอนโดอพาร์ตเมนท์ถูกๆไปก่อน เพราะคุณพ่อคิดว่าวันนึงการเข้าไปอยู่ในบ้านร่วมกับแม่แฟนต้องมีปัญหาแน่นอน แฟนกับคุณแม่แจม มีความเห็นตรงกันว่า ตอนนี้แจมเองยังเรียนอยู่ และส่งตัวเองเรียน รวมถึงค่าครองชีพ ทุกอย่างแจมต้องรับผิดชอบเอง และแจมมีเงินเดือนแค่ 12,000 บาท การเช่าห้องอยู่ถึงแม้จะเป็นห้องราคาถูกๆก็เก็บค่าเทอมไม่พอแน่นอนค่ะ (ในส่วนนี้แจมได้คิดคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดกับแฟนและคุณแม่แจมแล้ว) สุดท้ายคุณพ่อก็ยอมให้อยู่บ้านแฟนไปก่อน แต่ค่าน้ำค่าไฟ ของใช้ทุกอย่างแจมกับแฟนรับผิดชอบร่วมกัน 2 คนค่ะ
3 - แม่แฟนเป็นคนที่ขี้บ่น เจ้าอารมณ์ สิ่งไหนไม่ถูกใจก็จะโวยวายและกระแทกของโยนของทันที แต่แจมเข้าใจอารมณ์คนวัยทองก็อาจจะมีบ้าง แม่แฟนมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายอาหารค่ะ เดือนแรกที่แจมไปอยู่ ยังหางานไม่ได้ เลยอยู่บ้านทำความสะอาดบ้าน ส่วนแฟนไปทำงานค่ะ แม่แฟนออกไปขายของที่ตลาดแถวบ้าน จะกลับเข้าบ้านประมาณเที่ยงๆ แจมต้องทำงานบ้านให้ครบทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่แม่แฟนจะเข้ามา ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ ล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า เช็ดฝุ่นปัดเก็บโซฟา เพราะแกเป็นคนที่ถ้าเห็นอะไรไม่เรียบร้อยแม้แต่จุดเดียวก็จะโกรธโมโหกระแทกของ
4 - มีอยู่หลายครั้งที่แจมทำงานบ้านไม่ทัน แม่แฟนเข้ามาก่อน วันนั้นแจมทำครบทุกอย่างค่ะ เหลือแค่แก้วกาแฟของแฟนที่ซิงค์ล้างจานใบเดียวซึ่งแจมล้างไม่ทัน แม่เลยหงุดหงิดใส่อารมณ์ว่า “แค่แก้วใบเดียวล้างไม่ได้รึไง” พร้อมกับกระแทกของตึงตังเหมือนที่เคยทำ แจมบอกไปว่า “กำลังตากผ้าพอดีค่ะ ล้างไม่ทัน” แต่แม่แฟนก็ยังดูโกรธและไม่ฟังอยู่ แจมก็พยายามเข้าใจค่ะว่าอารมณ์คนแก่ เป็นธรรมชาติ
5 - ทุกอย่างเริ่มหนักขึ้นค่ะ.. ตอนนี้แจมได้งานแล้ว ประจวบเหมาะกับแม่แฟนจึงเลิกขายของพอดี ทุกเช้าแจมตื่นลงมาจะรีบซักผ้าพร้อมกับอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานด้วย แม่ก็จะลงมาพอดี ตามสไตล์แกค่ะ ทำของกระแทกตึงตังบ่นเบื่อชีวิต หานั่นนี่ไม่เจอก็กระแทก บ่นอยากฆ่าตัวตาย ไม่มีความสุขในชีวิต จะเป็นแบบนี้ทุกเช้า (บอกก่อนนะคะเรากับแฟนดูแลแม่อย่างดีมาก หาให้ทาน ทำให้ตลอด) ทุกเช้าเราก็จะตื่นแต่เช้าไปซื้อกับข้าวให้แม่ทานเช้า - กลางวัน - เย็น ทั้งที่เรากับแฟนเองก็รีบไปทำงาน แต่เข้าใจว่านี่ก็แม่ จริงๆแล้วแฟนกับแม่ทะเลาะกันแทบจะทุกวัน เพราะนิสัยอารมณ์แม่เป็นแบบนี้มาตลอด แฟนบ่นกับเราหลายครั้งว่าเหนื่อยมาก ใครไม่มาอยู่ในบ้านไม่มีวันเข้าใจ
6 - แม่เป็นคนทานยาก (มาก) แม่จะสั่งตลอดว่ากับข้าววันนี้จะทานอะไร ต้องเป็นแกงนี้เท่านั้น ไม่ใช่แกงนี้ไม่ทาน ทำให้เรายุ่งยากเข้าไปอีกในเมื่อร้านโปรดไม่ขาย ก็ไม่สามารถซื้ออะไรเข้าไปแทนได้เลย / บางทีซื้อกับข้าวร้านโปรดมาให้ก็บ่นเบื่อ ไม่ทาน ปล่อยเสียไว้ในตู้เย็น / บางครั้งเรากับแฟนรีบไปทำงาน สมองคิดแต่เรื่องงาน ตอนเช้าออกไปจ่ายตลาดให้แม่ก็ลืมบางเมนูที่แม่เขาสั่งไว้ กลับกลายเป็นว่าแม่ก็โทรมาด่าต่อว่าทุกเช้าเวลาทำงาน ทั้งแฟนและแจมโดนประจำ
7 - แจมทำให้แม่ทุกอย่างไม่ว่าจะงานในบ้านครบ ซักกางเกงในให้ ตัดเล็บเท้าให้ บางทีแจมเหนื่อยจนอยากจะร้องไห้ เพราะแจมทำงาน 8.00 เลิก 18.00 บางวันติดงานยาวไป เสาร์-อาทิตย์เรียน ทุกเย็นกลับมาหลังจากเลิกงานแจมต้องรีบหาข้าวเย็นให้แม่ รีบกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า กว่าจะได้นอนก็ดึกทุกคืนทั้งที่บางวันเราเหนื่อยล้าจากงานมากๆ แทบไม่มีเวลาพักเลย บางทีแจมน้อยใจเหมือนเราเป็นคนรับใช้ในบ้าน บางวันรองเท้าแฟนเลอะ แม่แฟนก็จะพูดกับเราว่า “ทำไมคุณภรรยาถึงไม่ขัดให้ล่ะคะ” และมีอีกหลายเรื่องเลยค่ะ แม่แฟนจะไม่กล้าใช้แฟน แต่จะใช้เราแทน ให้เราเก็บข้าวของทุกอย่างในบ้านให้
8 - และจุดพีคที่ทำให้แจมโกรธที่สุดก็คือ บ้านแม่แฟนที่แจมอยู่ปัจจุบัน แม่แฟนเคยคุยกับแฟนไว้ว่าจะให้แฟนซื้อ เป็นชื่อของแม่หรือแฟน แล้วบั้นปลายให้เป็นมรดกแก่ลูกของแฟน ลูกของอดีตภรรยาเก่าเขา ทุกๆเช้าเวลาที่แฟนอาบน้ำแม่แฟนจะมักจะเข้ามาพูดข้างๆหูบ่นนั่นบ่นนี่ตั้งใจให้เราได้ยิน จนเรื่องบ้าน แม่แฟนถามเราว่า “ที่บ้านแจมพอจะมีทรัพย์สมบัติ เงินทองหรือที่ไร่ที่นาบ้างไหม จะได้ให้คุยกับพ่อแจมหน่อยว่าให้ช่วยๆกันเอาที่นาไปจำนอง แล้วจะได้เอามาซื้อบ้านที่นี่” “หรือไม่ก็ช่วยแฟนซื้อบ้านหลังนี้ช่วยกันเก็บเงินจะได้ซื้อบ้านสักที” แจมอึ้งและโกรธมากค่ะ ในใจคิดว่า เรายังเรียนอยู่ค่าเทอมก็หาเอง ค่าใช้จ่ายรับผิดชอบเอง และกับพ่อแม่เรายังไม่ได้ดูแลแบบนี้เลย ยังไม่ได้ซื้อบ้านให้พ่อแม่เราเลย
ทุกคนคิดว่าแจมจะทำยังไงต่อไป พูดยังไงดีคะ ขอกำลังใจก็ยังดีค่ะ
มันตันไปหมด ถ้าพ่อแม่แจมรู้เขาคงเสียใจมากๆ
แจมเปิดใจยอมรับฟังทุกความคิดเห็น แต่ขอให้อ่านให้เข้าใจจนจบ
มีเรื่องอีกเยอะมากที่ไม่ได้เล่าลงไปไม่งั้นคงไม่หมดค่ะ
ปล. โชคดีที่แฟนเข้าใจเรามากๆ ให้เราอดทนจนเรียนจบแล้วซื้อคอนโดออกไปอยู่ต่างหาก แต่กลับมาดูแลแม่ทุกวันค่ะ เรื่องนี้เราคุยกันไว้แล้ว
ปล.2 ที่แฟนยังไม่ได้ซื้อบ้านเพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างหนักค่ะ แทบไม่พอใช้ทุกเดือน แฟนมีภาระที่ต้องรับผิดชอบค่ะรวมทั้งค่าเลี้ยงดูของลูกเขาด้วย เราเข้าใจค่ะ แต่เราสองคนช่วยกันหาเงินตลอด
แม่แฟนจะให้เราซื้อบ้านให้โดยที่เรายังเรียนไม่จบ !?
อยากให้ทุกคนอ่านให้จบก่อนค่ะแล้วค่อยสรุป เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างมี details ที่ซับซ้อนมาก
1 - เราชื่อ แจม อายุ 22 ค่ะ ตอนนี้เรียนมหาลัยภาคพิเศษ ทำงานจันทร์ - ศุกร์ เรียนเสาร์ - อาทิตย์ค่ะ แจมมีแฟนอายุ 40 ค่ะ เขาเคยแต่งงานมีครอบครัวมาแล้ว มีลูก 1 คนค่ะ แต่หย่าไป 10 กว่าปีแล้วค่ะ เราคบกันมา 6 ปีแล้ว ตอนแรกเราอยู่ไกลกันค่ะ แจมอยู่ตจว. แฟนอยู่กทม. แจมย้ายเข้ามาอยู่บ้านแฟนที่กทม.ตอนนี้ปีกว่าแล้วค่ะ (ยังไม่ได้แต่งงานกันแต่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ค่ะ) พอแจมเข้ามาอยู่ในบ้าน ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นแบบที่คิด..
2 - เดือนแรกที่แจมย้ายเข้ามาอยู่กทม. จริงๆคุณพ่ออยากให้แยกไปอยู่คอนโดต่างหาก ให้หาเช่าคอนโดอพาร์ตเมนท์ถูกๆไปก่อน เพราะคุณพ่อคิดว่าวันนึงการเข้าไปอยู่ในบ้านร่วมกับแม่แฟนต้องมีปัญหาแน่นอน แฟนกับคุณแม่แจม มีความเห็นตรงกันว่า ตอนนี้แจมเองยังเรียนอยู่ และส่งตัวเองเรียน รวมถึงค่าครองชีพ ทุกอย่างแจมต้องรับผิดชอบเอง และแจมมีเงินเดือนแค่ 12,000 บาท การเช่าห้องอยู่ถึงแม้จะเป็นห้องราคาถูกๆก็เก็บค่าเทอมไม่พอแน่นอนค่ะ (ในส่วนนี้แจมได้คิดคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดกับแฟนและคุณแม่แจมแล้ว) สุดท้ายคุณพ่อก็ยอมให้อยู่บ้านแฟนไปก่อน แต่ค่าน้ำค่าไฟ ของใช้ทุกอย่างแจมกับแฟนรับผิดชอบร่วมกัน 2 คนค่ะ
3 - แม่แฟนเป็นคนที่ขี้บ่น เจ้าอารมณ์ สิ่งไหนไม่ถูกใจก็จะโวยวายและกระแทกของโยนของทันที แต่แจมเข้าใจอารมณ์คนวัยทองก็อาจจะมีบ้าง แม่แฟนมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายอาหารค่ะ เดือนแรกที่แจมไปอยู่ ยังหางานไม่ได้ เลยอยู่บ้านทำความสะอาดบ้าน ส่วนแฟนไปทำงานค่ะ แม่แฟนออกไปขายของที่ตลาดแถวบ้าน จะกลับเข้าบ้านประมาณเที่ยงๆ แจมต้องทำงานบ้านให้ครบทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่แม่แฟนจะเข้ามา ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ ล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า เช็ดฝุ่นปัดเก็บโซฟา เพราะแกเป็นคนที่ถ้าเห็นอะไรไม่เรียบร้อยแม้แต่จุดเดียวก็จะโกรธโมโหกระแทกของ
4 - มีอยู่หลายครั้งที่แจมทำงานบ้านไม่ทัน แม่แฟนเข้ามาก่อน วันนั้นแจมทำครบทุกอย่างค่ะ เหลือแค่แก้วกาแฟของแฟนที่ซิงค์ล้างจานใบเดียวซึ่งแจมล้างไม่ทัน แม่เลยหงุดหงิดใส่อารมณ์ว่า “แค่แก้วใบเดียวล้างไม่ได้รึไง” พร้อมกับกระแทกของตึงตังเหมือนที่เคยทำ แจมบอกไปว่า “กำลังตากผ้าพอดีค่ะ ล้างไม่ทัน” แต่แม่แฟนก็ยังดูโกรธและไม่ฟังอยู่ แจมก็พยายามเข้าใจค่ะว่าอารมณ์คนแก่ เป็นธรรมชาติ
5 - ทุกอย่างเริ่มหนักขึ้นค่ะ.. ตอนนี้แจมได้งานแล้ว ประจวบเหมาะกับแม่แฟนจึงเลิกขายของพอดี ทุกเช้าแจมตื่นลงมาจะรีบซักผ้าพร้อมกับอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานด้วย แม่ก็จะลงมาพอดี ตามสไตล์แกค่ะ ทำของกระแทกตึงตังบ่นเบื่อชีวิต หานั่นนี่ไม่เจอก็กระแทก บ่นอยากฆ่าตัวตาย ไม่มีความสุขในชีวิต จะเป็นแบบนี้ทุกเช้า (บอกก่อนนะคะเรากับแฟนดูแลแม่อย่างดีมาก หาให้ทาน ทำให้ตลอด) ทุกเช้าเราก็จะตื่นแต่เช้าไปซื้อกับข้าวให้แม่ทานเช้า - กลางวัน - เย็น ทั้งที่เรากับแฟนเองก็รีบไปทำงาน แต่เข้าใจว่านี่ก็แม่ จริงๆแล้วแฟนกับแม่ทะเลาะกันแทบจะทุกวัน เพราะนิสัยอารมณ์แม่เป็นแบบนี้มาตลอด แฟนบ่นกับเราหลายครั้งว่าเหนื่อยมาก ใครไม่มาอยู่ในบ้านไม่มีวันเข้าใจ
6 - แม่เป็นคนทานยาก (มาก) แม่จะสั่งตลอดว่ากับข้าววันนี้จะทานอะไร ต้องเป็นแกงนี้เท่านั้น ไม่ใช่แกงนี้ไม่ทาน ทำให้เรายุ่งยากเข้าไปอีกในเมื่อร้านโปรดไม่ขาย ก็ไม่สามารถซื้ออะไรเข้าไปแทนได้เลย / บางทีซื้อกับข้าวร้านโปรดมาให้ก็บ่นเบื่อ ไม่ทาน ปล่อยเสียไว้ในตู้เย็น / บางครั้งเรากับแฟนรีบไปทำงาน สมองคิดแต่เรื่องงาน ตอนเช้าออกไปจ่ายตลาดให้แม่ก็ลืมบางเมนูที่แม่เขาสั่งไว้ กลับกลายเป็นว่าแม่ก็โทรมาด่าต่อว่าทุกเช้าเวลาทำงาน ทั้งแฟนและแจมโดนประจำ
7 - แจมทำให้แม่ทุกอย่างไม่ว่าจะงานในบ้านครบ ซักกางเกงในให้ ตัดเล็บเท้าให้ บางทีแจมเหนื่อยจนอยากจะร้องไห้ เพราะแจมทำงาน 8.00 เลิก 18.00 บางวันติดงานยาวไป เสาร์-อาทิตย์เรียน ทุกเย็นกลับมาหลังจากเลิกงานแจมต้องรีบหาข้าวเย็นให้แม่ รีบกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า กว่าจะได้นอนก็ดึกทุกคืนทั้งที่บางวันเราเหนื่อยล้าจากงานมากๆ แทบไม่มีเวลาพักเลย บางทีแจมน้อยใจเหมือนเราเป็นคนรับใช้ในบ้าน บางวันรองเท้าแฟนเลอะ แม่แฟนก็จะพูดกับเราว่า “ทำไมคุณภรรยาถึงไม่ขัดให้ล่ะคะ” และมีอีกหลายเรื่องเลยค่ะ แม่แฟนจะไม่กล้าใช้แฟน แต่จะใช้เราแทน ให้เราเก็บข้าวของทุกอย่างในบ้านให้
8 - และจุดพีคที่ทำให้แจมโกรธที่สุดก็คือ บ้านแม่แฟนที่แจมอยู่ปัจจุบัน แม่แฟนเคยคุยกับแฟนไว้ว่าจะให้แฟนซื้อ เป็นชื่อของแม่หรือแฟน แล้วบั้นปลายให้เป็นมรดกแก่ลูกของแฟน ลูกของอดีตภรรยาเก่าเขา ทุกๆเช้าเวลาที่แฟนอาบน้ำแม่แฟนจะมักจะเข้ามาพูดข้างๆหูบ่นนั่นบ่นนี่ตั้งใจให้เราได้ยิน จนเรื่องบ้าน แม่แฟนถามเราว่า “ที่บ้านแจมพอจะมีทรัพย์สมบัติ เงินทองหรือที่ไร่ที่นาบ้างไหม จะได้ให้คุยกับพ่อแจมหน่อยว่าให้ช่วยๆกันเอาที่นาไปจำนอง แล้วจะได้เอามาซื้อบ้านที่นี่” “หรือไม่ก็ช่วยแฟนซื้อบ้านหลังนี้ช่วยกันเก็บเงินจะได้ซื้อบ้านสักที” แจมอึ้งและโกรธมากค่ะ ในใจคิดว่า เรายังเรียนอยู่ค่าเทอมก็หาเอง ค่าใช้จ่ายรับผิดชอบเอง และกับพ่อแม่เรายังไม่ได้ดูแลแบบนี้เลย ยังไม่ได้ซื้อบ้านให้พ่อแม่เราเลย
ทุกคนคิดว่าแจมจะทำยังไงต่อไป พูดยังไงดีคะ ขอกำลังใจก็ยังดีค่ะ
มันตันไปหมด ถ้าพ่อแม่แจมรู้เขาคงเสียใจมากๆ
แจมเปิดใจยอมรับฟังทุกความคิดเห็น แต่ขอให้อ่านให้เข้าใจจนจบ
มีเรื่องอีกเยอะมากที่ไม่ได้เล่าลงไปไม่งั้นคงไม่หมดค่ะ
ปล. โชคดีที่แฟนเข้าใจเรามากๆ ให้เราอดทนจนเรียนจบแล้วซื้อคอนโดออกไปอยู่ต่างหาก แต่กลับมาดูแลแม่ทุกวันค่ะ เรื่องนี้เราคุยกันไว้แล้ว
ปล.2 ที่แฟนยังไม่ได้ซื้อบ้านเพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างหนักค่ะ แทบไม่พอใช้ทุกเดือน แฟนมีภาระที่ต้องรับผิดชอบค่ะรวมทั้งค่าเลี้ยงดูของลูกเขาด้วย เราเข้าใจค่ะ แต่เราสองคนช่วยกันหาเงินตลอด