ไปดู The Matrix Resurrection แล้ว ชอบอะไรบ้าง ไม่ชอบอะไรบ้าง? (ไม่เอาสปอยด์)

The Matrix ภาคที่ 4 หรือ The Matrix Ressurrections

แน่นอนตามความหมายของชื่อภาค คำว่า Ressurrection หมายถึงการฟื้นคืนชีพ
ซึ่งเราคงจะเดาๆ กันได้แล้วว่าหนังจะคืนชีพใคร

แต่คำถามที่ชวนคิดและน่าติดตามคือ พวกเขาคืนชีพมาได้อย่างไร? 
จนทำให้ผมอยากติดตามชมเนื้อหาของหนังในภาคนี้

ก่อนเข้าไปชม The Matrix 4 ผมได้ทำการบ้านโดยไล่ดูทบทวน ภาค 1-3 รวมถึงได้รับฟังการวิพากย์ความเป็นไปได้ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้จากแฟนๆ และนักวิจารณ์หนังในยูปทูปบ้าง เฟสบุ๊คบ้าง จนรู้สึกได้ว่า ผมควรจะไม่พกความคาดหวังใดใดเข้าไป (ในฐานะแฟนบอย กลัวผิดหวัง)………ซึ่งผลที่ออกมาพูดได้เลยครับว่า “ประทับใจ” และ “อยากหาเพื่อนชวนคุย” ในประเด็นต่างๆ ที่ ผู้กำกับ ลาน่า วอชอวสกี้ ได้ใส่เอาไว้

หนังเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลภายหลังจากการสูญเสียของ พ่อ แม่ ของ ลาน่า สวาช้อฟกี้ ในช่วงเวลาใกล้ๆกัน เธอเองได้เล่าให้ฟังในงาน ILB Berlin 2021 ว่า อยู่ๆ พล็อตเรื่องก็ปังขึ้นมาในหัว ในคืนที่เธอร้องไห้และไม่มีใคร เธอมีเพียงแค่ตัวละครนีโอและทรินิตี้ ที่อยากจะให้กลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง

กลับมาที่คำถามว่า…แล้วจะให้ตัวละคร คืนชีพขึ้นมาได้อย่างไร อย่างสมเหตุสมผล?
ขอบอกตรงนี้เลยว่า ด้วยดีกรีมือเขียนบทจากหนังเรื่อง The Cloud Atlas ที่เข้ามาเสริมทัพของ ลาน่า สวาช้อฟกี้ ทำให้ The Matrix Ressurrections สามารถเล่าและผูกเนื้อเรื่องกับเหตุการณ์ทั้ง 3 ไตรภาคได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ทุกตัวละครที่ได้รู้จักในทั้งไตรภาคทั้ง เอเจนท์สมิธ เมโลวิเจี้ยน ดิออราเคิล คีย์เมคเกอร์ ไนโรบี ซาตี มีความสอดคล้องกันในหลายๆ ประการ มีการโยงเหตุผลและผูกประเด็นจนเกิดเหตุการณ์ในภาคนี้ได้อย่างน่าติดตาม

แต่กระนั้น ประสบการณ์ดีดีที่ผมได้รับจากหนังในภาคนี้ อาจจะไม่ตอบโจทย์ความหลากหลายในรสนิยมของผู้ชมทุกๆ กลุ่ม ทั้งมุมมองของภาพ สีโทนหนัง สเปเชี่ยลเอฟเฟ็ค รวมถึงคิวบู๊ ที่เปลี่ยนไป เปรียบได้กับอาหารฟิวชั่น ที่อาจจถูกบางบางคน แต่ก็ไม่ทุกคน

โทนของหนังที่มีความหม่น และ แฟนตาซีแบบดีสโทเปีย ได้ถูกลดทอนลง และถูกเติมเต็ม ในแบบฉบับใหม่ เน้นสีสันสดใส ใช้แสงจริงจากพระอาทิตย์มากขึ้น ช่วงเวลาของในยุค The Matrix เสมือนว่าเป็นโลกในยุคปัจจุบันค่อนข้างมากกว่าไตรภาคก่อน

การนำเสนอสเปเชี่ยลเอฟเฟ็คที่อลังกาล ในยุคของ “บูเล็ทไทม์” ที่หลายๆ คนคาดหวัง และกลายมาเป็นอิทธิผลให้กับหนังยุคใหม่ๆ หลายเรื่อง ในภาคนี้อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนต้องผิดหวัง อาจเพราะในยุคนี้มันกลับไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรสำหรับ CG ในหนังภาคนี้ รวมถึงบางซีนที่ใช้เทคนิคภาพช้าซ้อนๆกันกลับเป็นการตัดสินใจใช้ที่ไม่ถูกใจผู้ชมและนักวิจารณ์

มุมมอง คิวบู๊ ที่หลายคนอาจมีภาพจำมาจากจอห์นวิค ที่บู๊ได้อย่างสมจริงและดุเดือด ขอบอกว่า ให้ลืมไปก่อนครับ นีโอ กับ จอห์นวิค คนละคนกันแม้จะมีหนวดเคราคล้ายๆ กัน แต่เราก็ยังจะได้เห็นบทบู๊ของนีโออยู่บ้างให้หายคิดถึง

แม้หนังมี Flash back ภาพในอดีต เพื่อเรียกความจำเก่าๆ กลับมาได้อย่างแนบเนียน แต่สำหรับเด็กยุคใหม่หรือคนที่ไม่เคยดู The Matrix มาสักภาค อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจประเด็นที่หนังต้องการจะสื่อ

มาถึงตรงนี้สำหรับ ผู้ที่ชื่นชอบ The Matrix เป็นทุน  อาจจะมีคำถามว่า แล้วมันควรค่าแก่การดูอยู่ไหม? 

ผมขอบอกแบบนี้เลยครับ ว่าในภาคนี้เนื้อเรื่องที่เคยคาใจหลายๆ อย่างก็ได้ถูกเฉลยต่อจากไตรภาคไปอย่างดีเลย และสมควรไปเสพย์ต่ออย่างแน่นอน

สรุปว่าให้คะแนนที่ 8/10  คะแนน

และหนังมี End Credit ซึ่งขอบอกเลยว่าจะรอดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ 
เพราะมันไม่ใช่สาระสำคัญของหนังครับ

ที่มา :https://www.facebook.com/383735025046689/posts/4633006810119468/
#TheMatrix #TheMatrix4 #Ressurrection
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่