(ผมเขียนบทความนี้ตั้งแต่ดึกคืนวันพุธ ซึ่งสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ยังไงเลือกเสพในส่วนที่ยังใช้งานได้นะฮะ)
ถือเป็นสัปดาห์ที่วุ่นวายมากๆ ครับ สำหรับเหล่ากุนซือแฟนตาซี เพราะนอกจากโปรแกรมจะเตะกันถี่ ขณะที่ผมเขียนบทความในคืนวันพุธ Gameweek 17 ก็ยังแข่งกันไม่จบ เรื่องการระบาดของโควิดในอังกฤษ โดยเฉพาะภายในหมู่นักเตะ และทีมงานของหลายสโมสร ก็ทำให้ทุกอย่างคาดเดายากขึ้นไปอีก
เกมเบิร์นลีย์-วัตฟอร์ด ที่เลื่อนก่อนเตะไม่กี่ชั่วโมง ทำให้รู้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้
GW17 มีเกมต้องเลื่อนถึง 2 คู่เป็นอย่างน้อย (เท่าที่ทราบในคืนวันพุธ) เกมแรกทราบล่วงหน้า เบรนท์ฟอร์ด-แมนฯ ยู แต่อีกเกมมารู้เอาก่อนเตะไม่กี่ชั่วโมง เบิร์นลีย์-วัตฟอร์ด ทั้งที่ไม่ค่อยมีข่าวปัญหาของ 2 ทีมในคู่หลังเลย แสดงว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ
เนื่องจาก GW17 ยังเตะกันไม่จบ สรุปผลต่างๆ จะไปว่ากันทีหลัง ดังนั้นนอกจากพยายามเตรียมความพร้อม GW18 ที่รออยู่สุดสัปดาห์ เราจะหยิบเรื่องการเตรียมตัวสำหรับช่วงโควิดระบาด และคาดเดาสิ่งต่างๆ ได้ยาก กันหน่อย
Gameweek 18 : วิเคราะห์ทีเด็ด
ผู้รักษาประตู
เอดูอาร์ เมนดี้ (เชลซี / 6.3 ล้านปอนด์)
ระยะหลังเชลซีเสียประตูค่อนข้างบ่อย และส่วนใหญ่มักจะมาจากความผิดพลาดกันเอง แต่กับเกมที่จะเจอกับวูล์ฟที่ยิงประตูได้น้อย น่าจะเพิ่มโอกาสคลีนชีตของ “สิงโตน้ำเงินคราม” ขึ้นอีกหน่อย ด้วยรูปเกมที่ “หมาป่า” น่าจะเน้นรัดกุมไว้ก่อน
เมนดี้เก็บไปแล้ว 7 คลีนชีต และมีเซฟให้เห็นในทุกเกม คาดว่าเกมกับวูล์ฟ ทูเคิลน่าจะต้องเน้นมากหน่อย เพราะเขาคงไม่อยากทำแต้มหลุดมือในช่วงที่แมนฯ ซิตี้ เริ่มติดเครื่องต่อเนื่อง ชัยชนะและคลีนชีต มีมุมเกิดขึ้นไม่น้อย
กองหลัง
เคร็ก ดอว์สัน (เวสต์แฮม / 4.9 ล้านปอนด์)
ตอนแรกจะแนะนำคูฟาลที่กลับมายึดตัวจริงได้แล้ว แต่แกดันมาโดนไล่ออกจากเกมกับอาร์เซน่อลเสียก่อน (ไม่รู้จะมีอุทธรณ์หลังเกมมั้ย) เลยหันมาหาดอว์สันแทน เพราะมาซัวกูก็อาจจะไม่แน่นอน หากเครสเวลล์ฟิตกลับมา อีกรายอย่างจอห์นสัน ก็ยังต้องเช็คฟิตกันอีก
ถึงตอนแรกจะหลุดไปเป็นตัวเลือกลำดับ 3 แต่พออ็อกบอนน่า และซูม่า เจ็บไป ดอว์สันก็ต้องยืนเป็นตัวหลักในแนวรับ และทำผลงานได้สม่ำเสมอดีเสียด้วย เกมที่จะเจอนอริชที่ยังทำประตูได้น้อย บวกกับเกมรับยังมีปัญหา นอกจากคลีนชีต ดอว์สันอาจจะแอบลุ้น attacking return เพิ่มเติมได้
เจา คันเซโล่ (แมนฯ ซิตี้ / 6.8 ล้านปอนด์)
ติดโทษแบนในเกมกลางสัปดาห์ ทำให้ได้พักไปในตัว และค่อนข้างการันตีว่าจะลงตัวจริงแน่นอนในเกมสุดสัปดาห์ ยิ่งวอล์คเกอร์มีข่าวว่าไม่ฟิตเท่าไหร่ด้วย เกมรุกน่ะหายห่วง เขาคือกองหลังที่จ่ายบอลเข้าสู่พื้นที่อันตรายสม่ำเสมออยู่แล้ว ส่วนเกมรับ ซิตี้ก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้นเรื่อยๆ
ซิตี้ต้องออกไปเยือนนิวคาสเซิล ซึ่งสถานการณ์ยังร่อแร่ เกมรับเสียประตูเป็นว่าเล่น แถมเกมรุกก็ทำอะไรทีมอย่าง “เรือใบสีฟ้า” ลำบาก นอกจากตัวรุกที่ต้องเดาใจเป๊บ การเลือกคันเซโล่ ก็เหมือนการมีตัวรุกที่การันตีลงสนามเพิ่มอีกคน ไม่แนะนำคงไม่ได้
กองกลาง
คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (พาเลซ / 6.2 ล้านปอนด์)
กองกลางฟอร์มฮ็อตเป็นตัวหลักสำคัญให้พาเลซมาตลอด แต่อาจจะยังมีความไม่แน่นอนในฟอร์มการเล่นอยู่บ้าง ซึ่งบางทีเกิดจากการที่เจ้าตัวต้องรับบทบาทแตกต่างกันออกไป เพื่อชดเชยการขาดหายไปของเพื่อนร่วมทีมในแดนกลาง
นัดที่กัลลาเกอร์เล่นได้ยอดเยี่ยม คือนัดที่เขาถูกดันมาเล่น box-to-box อย่างเกมที่ชนะเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเกมกับวัตฟอร์ด มีโอกาสที่เขาจะได้มีส่วนกับเกมรุกแบบนั้นอีก ยิ่ง “แตนอาละวาด” ชอบดันและเปิดพื้นที่หน้าเกมรับเยอะ อาจจะเจอทีเด็ดมิดฟิลด์รายนี้เข้าให้
เจมส์ แมดดิสัน (เลสเตอร์ / 6.8 ล้านปอนด์)
กลับเข้าสู่ฟอร์มเยี่ยมอีกครั้งสำหรับแมดดิสัน ถึงจะต้องลุ้นว่าเลสเตอร์พร้อมลงเล่นมั้ย เพราะมีข่าวโควิดเล่นงานนักเตะหลายรายเหมือนกัน แม้ส่วนใหญ่จะเป็นกำลังสำรองมากกว่าพวกตัวจริงก็ตาม
ตัดเรื่องโควิดไป หากเกมลงเล่นได้ แมทช์เยือนเอฟเวอร์ตัน น่าจะเป็นแมทช์ที่ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมเข้าใส่กันมากกว่าจะเน้นรับรักษาสกอร์ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เองก็ยังมีปัญหาเกมรับเยอะ การสอดเข้าโจมตีจากพวกแถวสองอย่างแมดดิสัน น่าจะมีลุ้นแต้มได้ดีเป็นพิเศษ
กองหน้า
อเล็กซ็องดร์ ลากาแซตต์ (อาร์เซน่อล / 8.3 ล้านปอนด์)
ในช่วงที่อนาคตของโอบาเมย็องยังคลุมเครือ โอกาสเลยเป็นของลากาแซตต์เต็มตัว ทั้งการสวมปลอกแขนกัปตันทีม และการต้องยืนกองหน้าตัวเป้า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่ลงตัวของ “ปืนใหญ่” ทั้งที่ฟอร์มของเหล่าแดนกลางเริ่มลงตัวกันแล้ว
เกมเยือนลีดส์คาดว่า “ปืนใหญ่” มีโอกาสจบสกอร์ได้ค่อนข้างแน่ เพราะลีดส์เองก็สลับกันขาดแนวรับเป็นว่าเล่น ถึงระยะยาวการเลือกลากาแซตต์จะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ แต่สำหรับ GW18 คิดว่าเขาน่าจะมีลุ้นทำสกอร์ได้
Differrential
ดีแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม / 5.1 ล้านปอนด์)
ต่อเนื่องมาจากศึกยูโร 2020 ฟอร์มของไรซ์ถือว่าโดดเด่นสม่ำเสมอมาก เป็นห้องเครื่องที่เด่นทั้งรุกและรับ พละกำลังการขับเคลื่อนอย่างมั่นใจ ทำให้เขามีส่วนเก็บตกแถวสองได้บ่อย เลยเห็นการยิงและแอสซิสต์มากขึ้น โดยเขาทำไปแล้ว 1 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ ในเกมลีกซีซันนี้
กองกลางของนอริชทำได้ดีขึ้นในยุคของสมิธ แต่เรื่องการชะลอเกมรุกของคู่แข่งยังเป็นปัญหา แน่นอนว่าเกมดวลกับเวสต์แฮม จะเจอไรซ์บดบี้แน่นอน และลูกยิงจากแถวสองของเขา อาจจะแผลงฤทธิ์ขึ้นมาอีก
การจัดทีมช่วงโควิดระบาด
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายท่านคงจะเห็นแล้วว่ามันไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติเลย เพราะโควิด-19 ที่แพร่กระจายในสโมสรต่างๆ ส่งผลให้ความไม่แน่นอนต่างๆ เยอะขึ้น ดังนั้นสำคัญอย่างมากที่เราจะต้องวางลำดับความสำคัญในการจัดทีมแฟนตาซีใหม่ ซึ่ง EP นี้จะหยิบจุดนี้มาแชร์กัน
[มีตัวครบคือเรื่องสำคัญ]
ลิฟราเม็นโต้ที่หลายคนอยากเปลี่ยนออก เริ่มมีความสำคัญเมื่อตัวขาดหาย
จริงอยู่ว่าการทำคะแนนให้ได้มากๆ จากการเลือกตัวพรีเมียม และตัวทำคะแนนรองลงมา เป็นเนื้อหาสำคัญของการเล่นแฟนตาซี แต่ช่วงที่โควิดระบาด และทำให้เกมอาจจะเลื่อนได้ทุกเมื่อ ปัจจัยเรื่องการมีตัวลงเล่นให้ครบ อาจจะมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
หากมองไปที่ประเด็นนี้ บางทีการมีตัวเพียง 11-12 คนที่พร้อมเล่นก่อนเดดไลน์ (บางทีเหตุไม่คาดคิดทราบหลังเดดไลน์เสียอีก) อาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้นการเปลี่ยนตัวออก อาจจะต้องคิดถึงการปรับตัวที่มีโอกาสหลุดไปสำรอง หรือตัวบาดเจ็บที่อาจไม่พร้อมลงเล่นในช่วงโปรแกรมถี่ๆ แบบตอนนี้
[ราคาขึ้น-ลงเป็นเรื่องรอง]
ถึงจะมีราคาลงให้เห็นบ้าง แต่กัลลาเกอร์ยังคงลงเป็นตัวจริงสม่ำเสมอ และมีคะแนนตอบแทน
นอกจากเรื่องความหุนหันพลันแล่นที่เรามักจะอยากได้ตัวนั้น ตัวนี้ ที่ทำผลงานในนัดก่อนหน้าได้ดี รวมถึงอยากขายตัวที่เราถือ ที่ทำผลงานได้ต่ำกว่าที่เราคาด เรื่องของราคาขึ้น-ลงยังเป็นกับดักชั้นดี ที่เร่งให้เราเปลี่ยนตัวเร็ว โดยไม่ทันได้ตามข่าวสารให้ดี
ในช่วงเวลาปกติ ที่โปรแกรมไม่เสี่ยงเลื่อน การใส่ใจราคาขึ้น-ลง อาจมีความสำคัญในการสร้าง Team value ในระยะยาว แต่พอมาเจอช่วงโควิดแบบนี้ การดึงเวลาไปเปลี่ยนตัวช้าที่สุด น่าจะมีความยืดหยุ่น และพร้อมแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่า
[เปลี่ยนตัวให้ช้าที่สุด]
หลังโรนัลโด้กลับมายิง หลายคนรีบเปลี่ยนตัวเข้า ก่อนมาเจอเกมเลื่อน ทำให้ต้องปวดหัวทีหลัง
จะเห็นว่าการเลื่อนโปรแกรมนั้นเกิดได้ตลอดเวลา อย่างเกมเบิร์นลีย์-วัตฟอร์ด เรามาทราบเอาเมื่อเลยเดดไลน์มาแล้ว หรือแม้แต่เกมเบรนท์ฟอร์ด-แมนฯ ยู เอง ก็ทราบก่อนหน้าแค่วันกว่าๆ ดังนั้นการดึงเวลาไปเปลี่ยนตัวเอาให้ใกล้เดดไลน์ที่สุด น่าจะมีความสำคัญกว่าปัจจัยอื่น เพราะเราต้องการติดตามข่าวให้ได้มากที่สุด ในการวางแผนนักเตะที่ลงเล่น ซึ่งจำกัดจำเขี่ย
[เปลี่ยนตัวติดลบดีมั้ย?]
การเปลี่ยนตัวติดลบไม่ผิด แต่ควรคำนึงถึงผลลัพธ์ระยะยาวให้ได้มากที่สุด
เมื่อสถานการณ์ไม่แน่นอน ก็ย่อมมีเรื่องที่เราอยากจะแก้เยอะ การเปลี่ยนตัวแค่ใช้ Free transfer จึงมักจะไม่พอ -4, -8 จึงเริ่มเข้ามาอยู่ในไอเดียตัดสินใจของกุนซือแฟนตาซี ซึ่งมันก็ไม่ผิดนะครับ เพียงแต่อยากให้คิดให้ดี ว่าการติดลบนั้น มันคุ้มค่ากับเราแค่ไหน
แน่นอนว่าการมองระยะสั้นนั้นง่ายที่สุด เช่น อยากเอาตัวนั้นลงนัดนี้ คิดว่าตัวนี้น่าจะทำแต้มในนัดนี้ได้เยอะ แต่สิ่งนึงที่ไม่ควรลืม คือการเสียแต้มลบแล้ว ตัวที่เอาเข้ามานั้น จะสามารถใช้งานใน GW ถัดไปได้ด้วยหรือเปล่า เพราะเราอาจจะเจอปัญหาตัวไม่เพียงพอได้อีกในอนาคตอันใกล้ ถ้าการติดลบแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ก็อาจจะ make sense ในการยอมเสียแต้มไป
พูดถึงการติดลบ การใช้ตัวช่วยอย่าง Free Hit ก็นับรวมในเรื่องนี้เช่นกัน เพราะเป็นเหมือนทรัพยากรที่เราต้องลงทุนไป ซึ่งต้องห้ามลืมว่าพอจบ GW ที่ใช้ Free Hit ไป ทีมจะกลับมาเหมือนเดิม ปัญหาจะคงอยู่มั้ย? อันนี้ต้องคิด ถ้ามันไม่แก้ปัญหาในระยะยาว ใช้ไปก็อาจจะขาดทุนเปล่าๆ
(ขอต่อส่วนที่เหลือในคอมเมนท์ครับ)
มิตรรัก นักแฟนตาซี SS3 : EP20 กลยุทธ์สำคัญช่วงโควิด ใจเย็นเข้าไว้ดีที่สุด!
ถือเป็นสัปดาห์ที่วุ่นวายมากๆ ครับ สำหรับเหล่ากุนซือแฟนตาซี เพราะนอกจากโปรแกรมจะเตะกันถี่ ขณะที่ผมเขียนบทความในคืนวันพุธ Gameweek 17 ก็ยังแข่งกันไม่จบ เรื่องการระบาดของโควิดในอังกฤษ โดยเฉพาะภายในหมู่นักเตะ และทีมงานของหลายสโมสร ก็ทำให้ทุกอย่างคาดเดายากขึ้นไปอีก