คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2564 เวลา 13.30 น.

แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 16 ธันวาคม 2564

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466592568292406

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 15 ธ.ค. 2564)
รวม 98,440,417 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 15 ธันวาคม 2564
ยอดฉีดทั่วประเทศ 393,447 โดส
เข็มที่ 1 : 109,170 ราย
เข็มที่ 2 : 168,342 ราย
เข็มที่ 3 : 115,935 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 50,204,276 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 43,811,828 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 4,424,313 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466549234963406

สถานการณ์โควิดในต่างประเทศ
• สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่เพิ่มอีก 78,610 คน (ยอดรายงาน 15 ธ.ค. 64) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ นางเจนนี่ แฮรี่ร์ ประธาน UK Health Security Agency (UKHSA) สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักรระบุว่า COVID-19 สายพันธุ์ Omicron เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาด COVID-19 เนื่องจากมีอัตราการแพร่กระจายที่รวดเร็วขึ้นสองเท่า
• กัมพูชา กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชายืนยันพบผู้ติดเชื้อ COVID สายพันธุ์ Omicron รายแรก เมื่อ 15 ธ.ค. 64 เป็นสตรีชาวกัมพูชา อายุ 23 ปี ซึ่งตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ และเพิ่งเดินทางกลับจากกานา โดยแวะต่อเครื่องที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกรุงเทพฯ กลับถึงกัมพูชาเมื่อ 12 ธ.ค. 64
ที่มา : สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466514054966924

นายกฯ พอใจภาพรวมการติดเชื้อในประเทศลดลง
กำชับ เฝ้าระวังคลัสเตอร์สถานศึกษา ตลาด งานบุญ และงานรื่นเริง
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ พอใจการติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดชายแดนมีแนวโน้มลดลง แต่ยังต้องเฝ้าระวังการระบาดในคลัสเตอร์สถานศึกษา เรือนจำ ตลาด งานบุญและงานรื่นเริง หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,370 ราย แยกเป็นทั่วไป 3,259 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 111 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 29 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัว 46,315 ราย และมียอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 4,557 ราย สำหรับการติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron ยังพบเฉพาะผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ
ที่มา โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466566401628356

กรมอนามัย แนะนำ กินสมุนไพรประเภท ขมิ้น ขิง ผักใบเขียว และธัญพืชต่าง ๆ ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถลดการแพร่ระบาด ลดความรุนแรงของอาการ และลดการเสียชีวิตได้ แต่มีบางรายที่ยังกังวล ต่อผลข้างเคียงที่จะตามมา โดยทั่วไปมักพบผลข้างเคียงตั้งแต่ปวดแขนบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัวหรืออ่อนเพลีย และอาจมีอาการไปได้ 2–3 วัน หลังฉีดวัคซีน และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งการกินพืชสมุนไพรก็มีส่วนลดความรุนแรงหรือบรรเทาอาการที่มาจากผลข้างเคียง หลังฉีดวัคซีนได้ ทั้งนี้ พืชสมุนไพรที่แนะนำ ได้แก่
1) ขมิ้น เพราะมีสารต้านการอักเสบใช้เป็นยาแก้ปวดได้ อาจช่วยบรรเทาการปวดแขน ปวดศีรษะ
2) ขิง สามารถช่วยลดการอักเสบ
3) ผักใบเขียว มีวิตามิน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ใยอาหารช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย อาหารที่มีปริมาณน้ำสูง เช่น ผัก ผลไม้ ทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ปกติ
4) ธัญพืชต่าง ๆ สามารถช่วยรักษาสุขภาพลำไส้ ระบบขับถ่ายปกติ และให้พลังงานกับร่างกายหลังเกิดอาการอ่อนล้าหลังฉีดวัคซีน
ที่มา กรมอนามัย
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466577648293898

รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564 จำนวน 26 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466603891624607

คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด เข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3)
ที่มา กรมควบคุมโรค
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/466640958287567

สำนักงานประกันสังคม ชวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ฉีดวัคซีนเข็ม 3
ลงทะเบียนผ่าน e-service ผ่านเว็บไซต์ สปส. www.sso.go.th
ที่มา สำนักงานประกันสังคม
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/466641638287499

อย. ยืนยัน ไม่มีการขึ้นทะเบียนชุดตรวจ ATK โดยใช้การอม แนะประชาชนเลือกชุดตรวจ ATK ขึ้นทะเบียน จาก อย. และปฏิบัติตามคู่มือเพื่อความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดตรวจ ATK ที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. มี 2 แบบ คือ แบบตรวจจากโพรงจมูกและตรวจจากน้ำลาย โดยการตรวจจากน้ำลายจะมีรูปแบบการใช้งานตามคู่มือคำแนะนำของชุดตรวจแต่ละยี่ห้อ เช่น บางยี่ห้อเก็บตัวอย่างน้ำลายโดยใช้ถ้วยเก็บ และใช้หลอดดูดน้ำลายไปหยดในช่องใส่ตัวอย่างบนแถบตรวจ หรือ เก็บโดยใช้ไม้เก็บตัวอย่างจากการป้ายน้ำลายในช่องปาก และนำไปจุ่มในหลอดน้ำยา จากนั้นใช้หลอดดูดน้ำยาที่ผสมกับน้ำลายแล้ว ไปหยดลงในช่องใส่ตัวอย่างบนแถบตรวจ
ขอให้ประชาชนเลือกใช้ชุดตรวจ ATK ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. และปฏิบัติตามคู่มือคำแนะนำให้ถูกต้องตามชุดตรวจแต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการตรวจ สามารถตรวจสอบชุดตรวจ ATK ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ทาง เว็บไซต์ อย. ขอให้ผู้บริโภคสังเกตข้อความข้างกล่องบรรจุว่า "บุคคลทั่วไปสามารถใช้ได้" เพื่อให้ได้รับชุดตรวจที่มีคุณภาพมาตรฐาน การติดเชื้อระยะแรก ผลที่ได้อาจเป็นลบ ดังนั้น กรณีได้ผลลบแต่มีประวัติความเสี่ยงสูงหรือใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ขอให้มีการเฝ้าระวังตนเองและดำเนินการตรวจซ้ำอีกครั้งใน 3-5 วัน
ที่มา องค์การอาหารและยา
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/466643994953930


มติที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วันที่ 15 ธันวาคม 2564
มีนโยบายการบริหารจัดการวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับเดือนมกราคม 2565 ดังนี้
1. ผู้ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน
- ให้ใช้สูตร AstraZeneca - AstraZeneca, AstraZeneca - Pfizer และ Sinovac - AstraZeneca เป็นหลัก สำหรับกลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไป
- ให้ใช้สูตร Pfizer - Pfizer สำหรับกลุ่มเป้าหมายอายุ 12-17 ปี
2. ผู้ที่มารับวัคซีนเข็มที่ 2 ตามกำหนดการที่ได้นัดหมายไว้
3. ผู้ที่ต้องการรับเข็มกระตุ้น
- ผู้ที่ได้รับวัคชีน Sinovac - AstraZeneca ครบ ในเดือนสิงหาคม - ตุลาคม 2564 ให้พิจารณาฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน AstraZeneca เป็นหลัก
- ผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 เข็ม ในเดือนสิงหาคม - ตุลาคม 2564 ให้พิจารณาฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคชีน Pfizer
- ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป ให้พิจารณาฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน AstraZeneca เป็นหลัก
4. ผู้ที่เคยติดเชื้อและต้องการรับเข็มกระตุ้น
- ให้ฉีดวัคซีน AstraZeneca กระตุ้น ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบเกณฑ์ หรือ ครบตามเกณฑ์น้อยกว่า 2 สัปดาห์ก่อนการติดเชื้อ
ทั้งนี้สามารถใช้สูตรอื่นที่ผ่านการรับรองทางวิชาการได้ ภายใต้จำนวนวัคชีนที่มีในพื้นที่
ที่มา : กรมควบคุมโรค
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/466651298286533

แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 16 ธันวาคม 2564

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466592568292406

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 15 ธ.ค. 2564)
รวม 98,440,417 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 15 ธันวาคม 2564
ยอดฉีดทั่วประเทศ 393,447 โดส
เข็มที่ 1 : 109,170 ราย
เข็มที่ 2 : 168,342 ราย
เข็มที่ 3 : 115,935 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 50,204,276 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 43,811,828 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 4,424,313 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466549234963406

สถานการณ์โควิดในต่างประเทศ
• สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่เพิ่มอีก 78,610 คน (ยอดรายงาน 15 ธ.ค. 64) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ นางเจนนี่ แฮรี่ร์ ประธาน UK Health Security Agency (UKHSA) สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักรระบุว่า COVID-19 สายพันธุ์ Omicron เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาด COVID-19 เนื่องจากมีอัตราการแพร่กระจายที่รวดเร็วขึ้นสองเท่า
• กัมพูชา กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชายืนยันพบผู้ติดเชื้อ COVID สายพันธุ์ Omicron รายแรก เมื่อ 15 ธ.ค. 64 เป็นสตรีชาวกัมพูชา อายุ 23 ปี ซึ่งตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ และเพิ่งเดินทางกลับจากกานา โดยแวะต่อเครื่องที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกรุงเทพฯ กลับถึงกัมพูชาเมื่อ 12 ธ.ค. 64
ที่มา : สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466514054966924

นายกฯ พอใจภาพรวมการติดเชื้อในประเทศลดลง
กำชับ เฝ้าระวังคลัสเตอร์สถานศึกษา ตลาด งานบุญ และงานรื่นเริง
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ พอใจการติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดชายแดนมีแนวโน้มลดลง แต่ยังต้องเฝ้าระวังการระบาดในคลัสเตอร์สถานศึกษา เรือนจำ ตลาด งานบุญและงานรื่นเริง หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,370 ราย แยกเป็นทั่วไป 3,259 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 111 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 29 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัว 46,315 ราย และมียอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 4,557 ราย สำหรับการติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron ยังพบเฉพาะผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ
ที่มา โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466566401628356

กรมอนามัย แนะนำ กินสมุนไพรประเภท ขมิ้น ขิง ผักใบเขียว และธัญพืชต่าง ๆ ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถลดการแพร่ระบาด ลดความรุนแรงของอาการ และลดการเสียชีวิตได้ แต่มีบางรายที่ยังกังวล ต่อผลข้างเคียงที่จะตามมา โดยทั่วไปมักพบผลข้างเคียงตั้งแต่ปวดแขนบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัวหรืออ่อนเพลีย และอาจมีอาการไปได้ 2–3 วัน หลังฉีดวัคซีน และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งการกินพืชสมุนไพรก็มีส่วนลดความรุนแรงหรือบรรเทาอาการที่มาจากผลข้างเคียง หลังฉีดวัคซีนได้ ทั้งนี้ พืชสมุนไพรที่แนะนำ ได้แก่
1) ขมิ้น เพราะมีสารต้านการอักเสบใช้เป็นยาแก้ปวดได้ อาจช่วยบรรเทาการปวดแขน ปวดศีรษะ
2) ขิง สามารถช่วยลดการอักเสบ
3) ผักใบเขียว มีวิตามิน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ใยอาหารช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย อาหารที่มีปริมาณน้ำสูง เช่น ผัก ผลไม้ ทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ปกติ
4) ธัญพืชต่าง ๆ สามารถช่วยรักษาสุขภาพลำไส้ ระบบขับถ่ายปกติ และให้พลังงานกับร่างกายหลังเกิดอาการอ่อนล้าหลังฉีดวัคซีน
ที่มา กรมอนามัย
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466577648293898

รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564 จำนวน 26 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/466603891624607

คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด เข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3)
ที่มา กรมควบคุมโรค
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/466640958287567

สำนักงานประกันสังคม ชวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ฉีดวัคซีนเข็ม 3
ลงทะเบียนผ่าน e-service ผ่านเว็บไซต์ สปส. www.sso.go.th
ที่มา สำนักงานประกันสังคม
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/466641638287499

อย. ยืนยัน ไม่มีการขึ้นทะเบียนชุดตรวจ ATK โดยใช้การอม แนะประชาชนเลือกชุดตรวจ ATK ขึ้นทะเบียน จาก อย. และปฏิบัติตามคู่มือเพื่อความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดตรวจ ATK ที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. มี 2 แบบ คือ แบบตรวจจากโพรงจมูกและตรวจจากน้ำลาย โดยการตรวจจากน้ำลายจะมีรูปแบบการใช้งานตามคู่มือคำแนะนำของชุดตรวจแต่ละยี่ห้อ เช่น บางยี่ห้อเก็บตัวอย่างน้ำลายโดยใช้ถ้วยเก็บ และใช้หลอดดูดน้ำลายไปหยดในช่องใส่ตัวอย่างบนแถบตรวจ หรือ เก็บโดยใช้ไม้เก็บตัวอย่างจากการป้ายน้ำลายในช่องปาก และนำไปจุ่มในหลอดน้ำยา จากนั้นใช้หลอดดูดน้ำยาที่ผสมกับน้ำลายแล้ว ไปหยดลงในช่องใส่ตัวอย่างบนแถบตรวจ
ขอให้ประชาชนเลือกใช้ชุดตรวจ ATK ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. และปฏิบัติตามคู่มือคำแนะนำให้ถูกต้องตามชุดตรวจแต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการตรวจ สามารถตรวจสอบชุดตรวจ ATK ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ทาง เว็บไซต์ อย. ขอให้ผู้บริโภคสังเกตข้อความข้างกล่องบรรจุว่า "บุคคลทั่วไปสามารถใช้ได้" เพื่อให้ได้รับชุดตรวจที่มีคุณภาพมาตรฐาน การติดเชื้อระยะแรก ผลที่ได้อาจเป็นลบ ดังนั้น กรณีได้ผลลบแต่มีประวัติความเสี่ยงสูงหรือใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ขอให้มีการเฝ้าระวังตนเองและดำเนินการตรวจซ้ำอีกครั้งใน 3-5 วัน
ที่มา องค์การอาหารและยา
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/466643994953930


มติที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วันที่ 15 ธันวาคม 2564
มีนโยบายการบริหารจัดการวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับเดือนมกราคม 2565 ดังนี้
1. ผู้ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน
- ให้ใช้สูตร AstraZeneca - AstraZeneca, AstraZeneca - Pfizer และ Sinovac - AstraZeneca เป็นหลัก สำหรับกลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไป
- ให้ใช้สูตร Pfizer - Pfizer สำหรับกลุ่มเป้าหมายอายุ 12-17 ปี
2. ผู้ที่มารับวัคซีนเข็มที่ 2 ตามกำหนดการที่ได้นัดหมายไว้
3. ผู้ที่ต้องการรับเข็มกระตุ้น
- ผู้ที่ได้รับวัคชีน Sinovac - AstraZeneca ครบ ในเดือนสิงหาคม - ตุลาคม 2564 ให้พิจารณาฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน AstraZeneca เป็นหลัก
- ผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 เข็ม ในเดือนสิงหาคม - ตุลาคม 2564 ให้พิจารณาฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคชีน Pfizer
- ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป ให้พิจารณาฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน AstraZeneca เป็นหลัก
4. ผู้ที่เคยติดเชื้อและต้องการรับเข็มกระตุ้น
- ให้ฉีดวัคซีน AstraZeneca กระตุ้น ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบเกณฑ์ หรือ ครบตามเกณฑ์น้อยกว่า 2 สัปดาห์ก่อนการติดเชื้อ
ทั้งนี้สามารถใช้สูตรอื่นที่ผ่านการรับรองทางวิชาการได้ ภายใต้จำนวนวัคชีนที่มีในพื้นที่
ที่มา : กรมควบคุมโรค
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/466651298286533
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน🧡16ธ.ค.ไทยไม่ติดTop10โลก ป่วย3,684คน หายป่วย4,531คน ตาย26คน วัคซีนสะสม98ล้านโดส/โควิด76จว./สธ.แนะการฉีดเข็ม3
https://www.sanook.com/news/8489658/
https://travel.trueid.net/detail/EpwDxDy0Jd17
https://www.thairath.co.th/news/politic/2266547