ตอนนี้ผมมีเพจแล้วนะครับ ไปติดตามกันได้ครับ
https://www.facebook.com/Mr.CoffeeKDramaReview
รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 105 The King's Affection 20 EP EP ละประมาณ 60 นาที / Netflix
ซีรีส์พีเรียดช่วงนี้ของเกาหลี มาทรงเรื่องดีหลายเรื่องมาก The King's Affection ก็เป็นเรื่องที่มีพล็อตน่าสนใจเป็นพิเศษแบบไม่อิงประวัติศาสตร์ใดๆ ว่าด้วยเรื่องราวของผู้หญิงที่กลายเป็นกษัตริย์ โดยที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นผู้ชาย พล็อตเรื่องประมาณนี้
บอกเลยว่าหลังจากเริ่มดูเรื่องนี้ไป มีซีรีส์พีเรียดอย่างน้อย 2 เรื่องที่ผมคิดถึงขึ้นมาทันทีคือ Love in the Moonlight ที่นางเอกปลอมมาเป็นขันที กับ Mr. Queen ที่วิญญาณเชฟหนุ่มในโลกปัจจุบันหลุดไปอยู่ในร่างพระมเหสี ในอดีต หลายๆอย่างคล้ายกันมาก
The King's Affection ในช่วงแรกเนื้อเรื่องมีความเข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง มันส์มากเลยล่ะครับ ลุ้นตลอด ช่วงตอนเด็กของนางเอก ยอมรับเลยว่าน้องชเว เมียงบิน เล่น 2 บทฝาแฝดชายหญิงได้เจ๋งมาก ถ้ามีชิงรางวัลนักแสดงเด็กน่าจะเสร็จเธอแน่นอน
พอต่อมาถึงช่วงรัชทายาท เป็นช่วงเนื้อเรื่องยาวของเรื่องครับ มีเนื้อหามากมาย รายละเอียดเยอะ ผมว่ามันเริ่มออกแนวโรแมนติกหวานแหวว ถึงแม้จะมีช่วงการเมืองเข้มข้น แต่บางช่วงที่หวานแหววก็ออกจะอืดๆ ช้าๆ ทั้งที่พัคอึนบินก็แสดงดีมาก แต่ผมว่าการเซ็ตบทเรื่องนี้มันแปลกๆ อยู่บ้าง
พอช่วงเป็นกษัตริย์ ก็เริ่มกลับมาเข้มข้น เพราะการเมืองรุนแรง ความอืดของเรื่องลดลง ช่วง EP ท้ายๆนี่เนื้อเรื่องเข้มข้นมากทีเดียว
ประเด็นหลักของเรื่องนี้คือ การปกปิดความลับของนางเอก ที่เป็นผู้หญิง เพราะมันคือการสวมตัวตนของคนอื่น ซึ่งจะคล้ายกับ Love in the Moonlight ที่ถึงสักช่วง นางเอกจะต้องเปิดเผยความลับต่อพระเอก แต่ว่า...
ตอนที่นางเอกจะเปิดเผยแต่ละครั้งว่าเป็นผู้หญิง เล่นเอาผมอึ้งเลยครับ เรื่องอื่นก็ไม่เห็นใช้วิธีนี้นะ เอาเป็นว่าตอนดูจากฉากซึ้งๆ กลายเป็นอึ้งไปแทน ไปดูกันเอาเองนะครับฉากนี้
ประเด็นต่อมาคือความวุ่นวายของความรักในเรื่อง รักกันพัลวัน บางช่วงก็อดคิดไม่ได้ว่าวายไหมเนี่ยเรื่องนี้ บางช่วงก็จะสงสารทุกคน แต่คนที่น่าสงสารที่สุดคงไม่พ้นราชินี
สื่งที่ผมมองเห็นชัดที่สุดคือประเด็นเรื่องการเซ็ตบทบาทของนางเอกและพระเอก ดูหลายจังหวะ หลายฉาก เหมือนบทบาทสลับกัน พระเอกเล่นบทนางเอก นางเอกเล่นบทพระเอก ไม่ใช่ทำเล่นๆบางฉากนะครับ แทบจะเป็นโครงหลักเลย เรื่องนี้นางเอกเป็นพระเอกประมาณ 70% เลยล่ะในความเห็นผม เป็นการกำกับที่กล้าหาญมากพอสมควรเลยครับ
พระเอก - โรฮุน วง SF9 ผมว่าเขามีพัฒนาการพอสมควรจาก She Would Never Know แต่อย่างที่บอกครับ ผมว่าบทนี้มันคือบทนางเอกในคราบพระเอก
นางเอก - พัคอึนบิน ตอนแรกก็แปลกใจ ว่าทำไมเลือกเธอมาเล่นบทนี้ แต่เอาเป็นว่าพอเห็นการแสดงแล้ว หมดคำถามเลยครับ พัคอึนบินเป็นนักแสดงที่ฝีมือฉกาจฉกรรจ์มากจริงๆ ทุกเรื่องที่เธอเล่น กลายเป็นตัวตนนั้นอย่างสมบูรณ์ การแสดงในเรื่องนี้อยูในระดับเดียวกันกับที่ชินฮเยซอนเล่นไว้ใน Mr. Queen เลยล่ะครับ
Love Line - ปั้นมาตั้งแต่ต้นเรื่องอย่างเข้มแข็ง แต่พอลากไป มันอินค่อนข้างยากมาก เพราะพัคอินบินก็เล่นเป็นผู้ชายเสียเหลือเกิน นี่ขนาดโรฮุนเล่นบทนางเอกช่วยแล้วนะ55
เพลงประกอบ - เพลงเปิดเรื่องน่ะเพราะมากๆเลยครับ แต่มันไม่อินนี่สิ
เรื่องนี้ผมบอกเลยว่าพอ The Red Sleeve ฉาย บอกเลยว่าแอบรู้สึกทันทีว่าเรื่องนี้มันไม่มันส์เหมือน The Red Sleeve ทรงเรื่องก็คล้ายกัน แต่ว่าช่วงท้ายกู้คืนความมันส์มาได้พอสมควร ที่ขอชื่นชมมากๆคือ EP สุดท้าย เดาทางยากมาก ตอนแรกนึกว่าจะจบเห่เสียแล้ว แต่สุดท้ายก็หาทางออกมาได้สวยเลย
สำหรับคนที่ชอบซีรีส์พีเรียด ซีรีส์ซากึก เรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่แนะนำครับ ช่วงไหนช้าก็กรอๆบ้าง ไม่ได้ติดอะไร มีหลายฉากที่ดูไม่สมเหตุสมผลบ้าง แต่อย่างน้อยมันก็สนุกพอสมควรครับ
[CR] [Mr. Coffee รีวิว] The King's Affection เมื่อนางเอกเล่นเป็นทั้งพระเอกและนางเอก????
https://www.facebook.com/Mr.CoffeeKDramaReview
รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 105 The King's Affection 20 EP EP ละประมาณ 60 นาที / Netflix
ซีรีส์พีเรียดช่วงนี้ของเกาหลี มาทรงเรื่องดีหลายเรื่องมาก The King's Affection ก็เป็นเรื่องที่มีพล็อตน่าสนใจเป็นพิเศษแบบไม่อิงประวัติศาสตร์ใดๆ ว่าด้วยเรื่องราวของผู้หญิงที่กลายเป็นกษัตริย์ โดยที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นผู้ชาย พล็อตเรื่องประมาณนี้
บอกเลยว่าหลังจากเริ่มดูเรื่องนี้ไป มีซีรีส์พีเรียดอย่างน้อย 2 เรื่องที่ผมคิดถึงขึ้นมาทันทีคือ Love in the Moonlight ที่นางเอกปลอมมาเป็นขันที กับ Mr. Queen ที่วิญญาณเชฟหนุ่มในโลกปัจจุบันหลุดไปอยู่ในร่างพระมเหสี ในอดีต หลายๆอย่างคล้ายกันมาก
The King's Affection ในช่วงแรกเนื้อเรื่องมีความเข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง มันส์มากเลยล่ะครับ ลุ้นตลอด ช่วงตอนเด็กของนางเอก ยอมรับเลยว่าน้องชเว เมียงบิน เล่น 2 บทฝาแฝดชายหญิงได้เจ๋งมาก ถ้ามีชิงรางวัลนักแสดงเด็กน่าจะเสร็จเธอแน่นอน
พอต่อมาถึงช่วงรัชทายาท เป็นช่วงเนื้อเรื่องยาวของเรื่องครับ มีเนื้อหามากมาย รายละเอียดเยอะ ผมว่ามันเริ่มออกแนวโรแมนติกหวานแหวว ถึงแม้จะมีช่วงการเมืองเข้มข้น แต่บางช่วงที่หวานแหววก็ออกจะอืดๆ ช้าๆ ทั้งที่พัคอึนบินก็แสดงดีมาก แต่ผมว่าการเซ็ตบทเรื่องนี้มันแปลกๆ อยู่บ้าง
พอช่วงเป็นกษัตริย์ ก็เริ่มกลับมาเข้มข้น เพราะการเมืองรุนแรง ความอืดของเรื่องลดลง ช่วง EP ท้ายๆนี่เนื้อเรื่องเข้มข้นมากทีเดียว
ประเด็นหลักของเรื่องนี้คือ การปกปิดความลับของนางเอก ที่เป็นผู้หญิง เพราะมันคือการสวมตัวตนของคนอื่น ซึ่งจะคล้ายกับ Love in the Moonlight ที่ถึงสักช่วง นางเอกจะต้องเปิดเผยความลับต่อพระเอก แต่ว่า...
ตอนที่นางเอกจะเปิดเผยแต่ละครั้งว่าเป็นผู้หญิง เล่นเอาผมอึ้งเลยครับ เรื่องอื่นก็ไม่เห็นใช้วิธีนี้นะ เอาเป็นว่าตอนดูจากฉากซึ้งๆ กลายเป็นอึ้งไปแทน ไปดูกันเอาเองนะครับฉากนี้
ประเด็นต่อมาคือความวุ่นวายของความรักในเรื่อง รักกันพัลวัน บางช่วงก็อดคิดไม่ได้ว่าวายไหมเนี่ยเรื่องนี้ บางช่วงก็จะสงสารทุกคน แต่คนที่น่าสงสารที่สุดคงไม่พ้นราชินี
สื่งที่ผมมองเห็นชัดที่สุดคือประเด็นเรื่องการเซ็ตบทบาทของนางเอกและพระเอก ดูหลายจังหวะ หลายฉาก เหมือนบทบาทสลับกัน พระเอกเล่นบทนางเอก นางเอกเล่นบทพระเอก ไม่ใช่ทำเล่นๆบางฉากนะครับ แทบจะเป็นโครงหลักเลย เรื่องนี้นางเอกเป็นพระเอกประมาณ 70% เลยล่ะในความเห็นผม เป็นการกำกับที่กล้าหาญมากพอสมควรเลยครับ
พระเอก - โรฮุน วง SF9 ผมว่าเขามีพัฒนาการพอสมควรจาก She Would Never Know แต่อย่างที่บอกครับ ผมว่าบทนี้มันคือบทนางเอกในคราบพระเอก
นางเอก - พัคอึนบิน ตอนแรกก็แปลกใจ ว่าทำไมเลือกเธอมาเล่นบทนี้ แต่เอาเป็นว่าพอเห็นการแสดงแล้ว หมดคำถามเลยครับ พัคอึนบินเป็นนักแสดงที่ฝีมือฉกาจฉกรรจ์มากจริงๆ ทุกเรื่องที่เธอเล่น กลายเป็นตัวตนนั้นอย่างสมบูรณ์ การแสดงในเรื่องนี้อยูในระดับเดียวกันกับที่ชินฮเยซอนเล่นไว้ใน Mr. Queen เลยล่ะครับ
Love Line - ปั้นมาตั้งแต่ต้นเรื่องอย่างเข้มแข็ง แต่พอลากไป มันอินค่อนข้างยากมาก เพราะพัคอินบินก็เล่นเป็นผู้ชายเสียเหลือเกิน นี่ขนาดโรฮุนเล่นบทนางเอกช่วยแล้วนะ55
เพลงประกอบ - เพลงเปิดเรื่องน่ะเพราะมากๆเลยครับ แต่มันไม่อินนี่สิ
เรื่องนี้ผมบอกเลยว่าพอ The Red Sleeve ฉาย บอกเลยว่าแอบรู้สึกทันทีว่าเรื่องนี้มันไม่มันส์เหมือน The Red Sleeve ทรงเรื่องก็คล้ายกัน แต่ว่าช่วงท้ายกู้คืนความมันส์มาได้พอสมควร ที่ขอชื่นชมมากๆคือ EP สุดท้าย เดาทางยากมาก ตอนแรกนึกว่าจะจบเห่เสียแล้ว แต่สุดท้ายก็หาทางออกมาได้สวยเลย
สำหรับคนที่ชอบซีรีส์พีเรียด ซีรีส์ซากึก เรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่แนะนำครับ ช่วงไหนช้าก็กรอๆบ้าง ไม่ได้ติดอะไร มีหลายฉากที่ดูไม่สมเหตุสมผลบ้าง แต่อย่างน้อยมันก็สนุกพอสมควรครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้