ทำไมคนขับรถ 4 ล้อรถที่ขับในเมือง
บางคนถึงไม่รู้ว่าตัวเองจะไปไหน จะเลี้ยวหรือไม่เลี้ยว

พอดีสังเกตเห็นหลายคัน อยู่ในเมืองเล็กๆ ที่ประชากรหนาแน่น 
ถนนตัดตามยาวเป็นแบบวันเวย์ (สองเลน เลนนึงไว้จอดรถ)  มีถนนเชื่อมถนนต่อกัน คือถ้าเลี้ยวเข้ามาถนนเชื่อมคือการเลี้ยวรถกลับ 

แล้วพบว่า รถบางคันขับเข้ามาในถนนนี้แล้วไม่รู้ว่าตัวเองจะไปไหน โดยพวกเขาใช้ความเร็วแค่ 10-15 Km หรือน้อยกว่านี้
ขับลากยาว พอถึงแยกซอยเชื่อมถนนแล้วหยุด เหมือนจะเลี้ยวแต่ไม่เลี้ยว แล้วไปต่อ หยุดทุกแยกเลย
(ขนาดซอยแค่พอรถผ่าน คิดว่าไม่ใช่หยุดเพื่อความปลอดภัยอะไรกลัวรถออก แต่ซอยพวกนี้มันบังคับเลี้ยวมีป้ายบอกทุกซอย)
มีชลอ มีหยุด เหมือนกำลังเดิน

บางคันขับรถไม่ดูป้าย จะถอยหลัง จะเลี้ยวเข้าซอย ถอยมาได้นิดนึงแล้วไม่เลี้ยว 

บางคัน ชลอจะเลี้ยวดีไหมนะ (เลี้ยวเข้าถนนวันเวย์) ตัดสินใจเลี้ยวเข้า 
และขับความเร็ว 5-10km จากนั้นเจอซอยถนนเชื่อมเลี้ยวออกเลย 

จุดนี้ที่บ่นเพราะ มันเป็นถนน สองเลน เลนนึงจอดรถ เลนนึงสัญจร 
มันทำรถติดยาวทั้งเส้นเลย วันไหนเข้ามาแล้วรถติด ถ้าชโงกหัวขึ้นก็จะเห็นเลย 
มันมีคันบอกอยู่หัวแถว 

จริงๆ ไม่ใช่แค่ตรงนี้นะ หลายจุดระยะทาง 500 เมตร เจอหลายคัน 

บางคัน ขี่ตามหลังมา จะเลี้ยวทุกจุดที่ให้เลี้ยวเลย แต่ไม่เลี้ยว (ที่รู้เพราะเห็นไฟเลี้ยวเปิดๆปิดๆ)

บางคันสายพุ่ง (คนละสายกับข้างบน) อยู่ๆหยุดกึ๊ก เลี้ยวจอดรถ หรือเข้าซอย

บางคันชิลล์ (ออกจากบริเวณด้านบนมาแล้ว) เจอทุกทีมันจะมีสวนสาธารณะและมีลานจอดรถ 
จะมีขี่ตามหลังมา 5-10km ตั้งแต่ก่อนเข้ามาจนถึงลานจอด ที่จอดรถว่างแต่ไม่รู้ว่าจะจอดตรงไหน ลากยาวไปจนสุด

ยังมีสายชมวิว เปิดกระจกพาลูกเที่ยว ด้วยความเร็ว 5-10km ในถนน 2 เลน สวนกัน
ด้านหลังติดยาว