[CR] รีวิวสามัญชน: สตรัทปรับเกลียว Silver Neomax One

กระทู้รีวิว
หลังจากที่ใช้สตรัทคัสต้อม Monroe Monotube มาได้ 3 ปี กับแสนโลนิดๆ จนโช๊คต้นหน้าซ้ายเริ่มเยิ้มและถึงเวลาเปลี่ยนแล้วครับ ซึ่งโดยส่วนตัวรักสตรัทชุดนี้มาก เพราะทั้งนุ่ม (เทียบกับสตรัททั่วๆไป) เพราะมันแกนยาวยุบได้เยอะ และก็ยังมีความหนึบความเฟิร์มให้สามารถขับด้วยความเร็วสูงอย่างมั่นใจ ขับดีกว่าโช๊คเดิมๆมาก

ข้อมูลเกี่ยวกับรถ
ยี่ห้อ/รุ่น   : Altis ปี 2004 วางเครื่อง 2zz-ge 6MT
ขนาดล้อ  : Advanti N718 ขอบ 15 กว้าง 7 ออฟเซ็ต +35 หนักวงละ 5.1 กก.
ขนาดยาง : Apollo Alnag 4G ใช้มา 4 หมื่น กม.
ช่วงล่าง   : สตรัท Monroe Monotube Twintube <------- เปลี่ยนเป็น Silver Neomax One
อื่นๆ        : ค้ำโช๊คหน้าบน XRS ญี่ปุ่นตรงรุ่น, Rigid Collar

พอถึงเวลาโช๊คเสีย ก็มีทางเลือกให้ต้องตัดสินใจดังนี้..
1. เปลี่ยนใช้ Monroe เหมือนเดิม ซึ่งติดต่อทางร้านต้นทางแล้ว สามารถเปลี่ยนแค่แกนโช๊คหน้า+หลัง ก็หมื่นกว่าบาท
2. ซ่อมโช๊ค อันนี้อยากลองว่าซ่อมแล้วมันจะดีเหมือนได้โช๊คใหม่จริงไหม หรือแตกต่างยังไง
3. ลองใช้สตรัทปรับเกลียวแท้ๆที่ไม่แพงมาก ตัวเลือกก็มีแค่ Silver Neomax One เพราะ Tein ก็ 3 หมื่นกว่า H-Drive ก็ 3 หมื่นกว่า เช่นกัน


รูป - ซ้ายสตรัทปรับเกลียว Silver Neomax One (หน้า), ขวาตรัทคัสต้อม Monroe Monotube (หน้า)

สเตปแรก ผมลองจะเอาแกนโช๊คไปซ่อมที่ร้านซ่อมร้านดังแถวอุดมสุข ร้านคิดคู่ละ 2000 แต่พอลองถอดออกมาดูกลับซ่อมไม่ได้เพราะว่าแกนโช๊คพังครับ สุดท้ายก็มาจบที่ Silver Neomax เพราะว่าอยากลองใช้สตรัทแท้ๆ จริงๆจังๆดูสักทีครับว่ามันจะแตกต่างจากสตรัทคัสต้อมยังไง

ด้วยความมือไวใจเร็ว ถามเพื่อนๆที่ใช้ Silver หลายๆคนก็บอกว่า Max One ก็ดีเพียงพอสำหรับคนที่ไม่ได้ขับรถโหดร้ายแบบผมครับ เลยโทรหาร้านถามราคาแล้วก็ดิ่งตรงมาจากอุดมสุขมาที่ร้านใหญ่แถวรามอินทราเลยครับ บอกความต้องการร้านไป ว่ารถผมวางเครื่อง 2ZZ-GE มา และข้างหลังมีถังแก๊ส LPG ผมชอบแบบสปริงนุ่มๆหน่อย กับโช๊คกลางๆไม่นุ่มไม่แข็งเกินไปครับ หลังแจ้งก็ไปนั่งเล่นคอมด้านในร้าน สักพักใหญ่ๆก็ติดตั้งเสร็จครับ ร้านเรียกให้ไปลองรถด้วยกันโดยที่ร้านขับ ผมรู้สึกได้ถึงความเฟิร์ม แน่น ตึง กว่าสตรัทชุดเก่าอย่างชัดเจนทั้งๆที่ไม่ได้ขับเองครับ หลังจากลองเสร็จก็จ่ายตังค์ และขับรถไปรับแฟนกลับบ้านครับ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขับผ่านทุกวัน

สตรัทปรับเกลียว Silver Neomax One
แกนโช๊ค : ระบบ Monotube
ค่าสปริง  : หน้า 8 K หลัง 5 K
ปรับหนืด : ปรับได้ 30 ระดับ หน้า/หลัง
อื่นๆ       : สไลด์กระบอก (สามารถตั้งค่าการบีบสปริงมาก-น้อยได้)


รูป - สตรัทปรับเกลียว Silver Neomax One สำหรับอัลติส

ช่วงแรก ตั้งแต่ออกจากร้านไปรับแฟนที่อนุสาวรีย์ชัย จนกลับมาแถวบ้านแถวรามอินทรา-มีนบุรี มันทำให้ผมเข้าใจคำว่า "สะเทือนตับ" เป็นครั้งแรกในชีวิตครับ กระแทกกระทั้น กระเด้งกระดอน ไปจนถึงเขย่าท้องมากๆ กระแทกตึงตังโครมครามทุกรอบต่อ และส่งแรงมาถึงตัวด้วย ขับมาได้ค่อนทางทั้งผมและแฟนมีความรู้สึกคลื่นไส้และเหมือนจะอ้วกครับ จนแฟนผมเอ่ยปากว่า พี่ไปซื้อโช๊ค 3 หมื่นของพี่เถอะ (หมายถึง Tein) แต่ความรู้สึกรุนแรงแบบนี้รู้สึกอยู่ 2-3 วันแรกเท่านั้นหลังจากใช้นานๆไปมันก็เริ่มค่อยๆเบาลงครับ จนใช้ไปราว 2 สัปดาห์ แข็งน้อยลงแต่ยังแข็งอยู่ หลังจากปรับเซ็ทมาครั้งนึงก็ขอไปเปลี่ยนค่าสปริงหน้า ลดลงจาก 8 เหลือ 6 K ก็ลดความกระด้างลงอีกนิดนึง และเพิ่มการให้ตัวนิดหน่อย ครับในช่วงขรุขระไม่มาก จนใช้ครบ 3 สัปดาห์ มีความสงสัยว่าหรือมันแข็งเพราะยางเราใช้มานาน เลยตัดสินใจลองเปลี่ยนยางจาก Apollo Alnag 4G เป็น Otani KC2000 พอเปลี่ยนยางแล้วกระจ่างเลยครับ ยางนุ่มนะ แต่สตรัทก็ยังแข็งมาก 55+ ชัดเจนเลย ไม่ต้องโทษใคร สตรัทเนี่ยแหละครับที่แข็ง


รูป - ซ้าย สปริงหน้าที่เบิกใหม่, ขวา สปริงหน้าเดิมที่มากับสตรัท Silver Neomax One

หลังพ้นรันอิน รู้สึกว่าใช้ครบประมาณ 5 พัน กม. กับ 1.5 เดือน อาการเริ่มนิ่งครับ หมายถึงว่ามันแทบไม่เปลี่ยนแปลง ไม่นุ่มลงไปกว่านี้แล้ว บุคลิกโดยรวม เป็นสตรัทที่กระชับ แน่น เฟิร์ม response เร็วถึงเร็วมาก ขึ้นลงตามรอยต่อและทางขรุขระเกือบทุกรอยที่ขับผ่าน โดยส่วนตัวมีความรู้สึกว่ามีการทำงาน 2 สเต็ป (ไม่รู้ถูกไหมนะครับ) สเต็ปแรกจะอ่อนแข็งมากน้อยตามการปรับหนืด ส่วนนี้ปรับหนืดแล้วจะรู้สึกได้ชัดเจนเวลาขับทางเรียบหรือเป็นคลื่น ปรับน้อยจะนุ่มย้วย ปรับมากจะแน่นเฟิร์มแต่หน้าดื้อ สเต็ปที่ 2 จะทำงานตอนที่ยูบเยอะหรือยุบเร็ว สเต็ปนี้จะกระแทกตึงตัง และเหมือนมันขืนต่อต้านการยุบตัวเลยครับ สเต็ปนี้ปรับหนืดมากน้อยก็แทบไม่มีผลเลย ขับผ่านทางขรุขระถ้ามันยุบถึงจุดนี้ หรือยุบไวๆ ยังไงก็ตึงตังครับ ผมขอรีวิวฟีลลิ่งของสตรัทตัวนี้แยกเป็นข้อๆดังนี้ครับ

1. การควบคุม - ทำได้ดีครับ แน่น เฟิร์ม คม เลี้ยวเป็นเลี้ยว หักเป็นหัก ควบคุมบังคับได้ดี ไม่โยน ไม่แถม แต่ ยิ่งปรับหนืดมากขึ้นก็ยิ่งรู้สึกได้ว่ารถมีอาการหน้าดื้อมากขึ้น เลี้ยวยากขึ้น ต้องหักมากกว่าเดิมถึงจะเลี้ยว แม้ในความเร็วต่ำก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นการเลี้ยงที่ควบคุมได้ครับ ไม่มีอาการโยนหรือการถ่ายเทน้ำหนักจนปั่นป่วน อันนี้เอาแบบขับปกติ ไม่ได้บู๊ล้างผลาญนะครับ

2. ความนุ่มนวล - แข็งครับ สำหรับสายซิ่งอาจจะเห็นว่าปกติ (เพื่อนสายซิ่งผม 3 คนมาลองนั่งแล้วบอกตรงกันว่า "นุ่มพี่!") แต่สำหรับสายพ่อบ้านแบบผม ก็ยังรู้สึกแข็งไปครับ ผมรู้สึกว่ามีการทำงาน 2 สเต็ป คือ สเต็ปแรกอยู่ที่การปรับหนืดของเราปรับหนืดมากก็กระด้างมาก หนืดน้อยก็จะนุ่มย้วย สเต็ปที่สองเกิดขึ้นตอนจังหวะยุบ หากยุบเยอะหรือยุบเร็ว มันจะแข็งและกระแทกตึงตังแบบต้านการยุบเยอะทันที ทีนี้หากเราปรับหนืดมาก การขับขี่ทั่วไปก็จะกระด้างหน่อย แต่จะลดโอกาสกระแทกในสเตป 2 ให้เบาลง เพราะมันซับแรงกระแทกไปครึ่งนึงจากสเต็ปแรกแล้ว แต่ถ้าปรับหนืดน้อย เวลาขับช้าๆหรือทางเรียบมันก็จะนุ่ม แต่ถ้าเจอหลุมหรือรอยต่อชันๆนิดนึงมันก็จะกระแทกชัดกว่า เพราะมีการซับแรงในสเต็ปแรกน้อยนั่นเองครับ เปรียบเทียบกับ Monroe Monotube ให้พอเห็นภาพ หากแบ่งเป็น 2 สเต็ปเหมือนกัน สเต็ปแรกมอนโรจะหนืดกลางๆ จะแน่นๆ มีความกระด้างบ้าง แต่เวลาผ่านทางขรุขระหรือจังหวะยุบมันจะแทบไม่ถึงสเต็ป 2 เลย คือยุบมากได้เท่าที่อยากยุบ นอกเสียจากว่าขับ 120 แล้วเจอหลุมใหญ่จริงแบบทางเส้นปทุมตกแล้วก็ดังตึ้งงงงงง อยู่เหมือนกัน แต่ Silver นี่ ตึ้งทุกหลุมครับ ทำให้มันแข็งกว่ามอนโรเยอะพอสมควรครับ

3. ความขับสนุก - สตรัทตัวนี้ขับสนุกในแบบสายบู๊ครับ ความแน่นเฟิร์ม กระด้าง มีแรงสะเทือนมาถึงตัวพอประมาณ ทำให้เราสัมผัสได้ถึงฟีลลิ่งพื้นถนน (ค้ำโช๊คก็เป็นไอเท็มนึงที่ทำให้เราสัมผัสฟีลลิ่งพื้นถนนได้ชัดขึ้น) แต่จะเป็นความสนุกที่เปลืองแรงเกร็งท้องและมาพร้อมกับความเค้นความเครียดสักหน่อยนะครับ แต่ถ้าการขับสนุกของคุณคือการขับแบบสุนทรีย์ ผ่านทางขรุขระแบบนุ่มนวล รูดหลุมแบบผ่อนหนักผ่อนเบา รอยจากเล็กน้อยจะเรียบเนียนไปเลย สตรัทตัวนี้ไม่ตอบโจทย์ครับ

4. ความยืดหยุ่น - ผมชอบสตรัทตัวนี้อีกเรื่องคือการที่มันสามารถปรับเซ็ตได้เยอะครับ คือหนืดได้ถึง 30 ระดับ การบิดปรับหนืดทุกแก๊กมีความแตกต่างเกิดขึ้นไม่ใช่แค่ปรับแบบหลอกๆนะครับ รวมถึงสามารถสไลด์กระบอก การโหลดเตี้ยลงหรือยกความสูงขึ้นจะไม่กระทบกับสปริงเลย และยังสามารถปรับเซ็ตการบีบสปริง (preload) มากน้อยได้ด้วย ในราคาไม่แพงเลยครับ

5. ความคุ้มค่า - ถ้าเทียบสเปคที่ได้ ทั้งปรับ 30 ระดับ สไลด์กระบอก แถมเป็นโช๊คระบบโมโนทูปด้วย ในราคา 17500 ถือว่าคุ้มมากเลยครับ แถมได้สมรรถนะการควบคุมที่ดี คม เอาอยู่ ไม่แถม คุ้มมากสำหหรับสตรัทซิ่งๆนะครับ

สรุปผลการทดลอง
Silver Neomax One ในราคา 17,500 เป็นสตรัทซิ่ง ที่สมรรถนะดี แน่น เฟิร์ม คม บังคับควบคุมได้ดี ไม่ย้วย ไม่แถม คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายมาก แต่ด้วยความที่เป็นสตรัทที่ออกแบบมาซิ่งๆ มันเลยเป็นสตรัทที่ค่อนข้างแข็งกระด้างและสะเทือน มีเสียงตึงตัง สำหรับคนที่ชอบช่วงล่างรถที่นุ่มนวล (แบบผม) ผมก็ไม่แนะนำตัวนี้สำหรับท่านครับ

ล่าสุดตอนนี้ ผมก็ไม่อยากทนใช้สิ่งที่ผมไม่ชอบอีกต่อไป มีความคิดที่จะเปลี่ยนไปลองใช้สตรัทตัวที่นุ่มๆ เช่น Carribbean หรือ Profender แต่ดันยังไม่ทำตลาดสำหรับอัลติส จะไปซื้อ Tein หรือ H-Drive มาใช้ก็สู้ราคาไม่ไหว สุดท้ายอยากลองลองเปิดกระบอกโมสตรัทดูก่อนนะครับ แล้วจะกลับมารีวิวครับ พบกันใหม่ในกระทู้หน้านะครับ..

คะแนนความถึงพอใจ:
การควบคุม: 8/10
ความนุ่มนวล: 5/10
ความขับสนุก: 7/10
ความยืดหยุ่น: 7/10
ความคุ้มราคา: 8/10

ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
ชื่อสินค้า:   Silver Neomax One
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่