สวัสดีครับ ตอนนี้คือผมเครียดมากเลย อยากจะร้องไห้มาก แต่ก็อดทนกับเรื่องนี้มาโดยตลอด อดทนมาเกือบทั้งปีได้ ปี64 เป็นปีที่ชีวิตผมดิ่งลง และแย่มากที่สุด ปีนี้เป็นปีที่ชีวิตพังมากเรียกได้ว่าเละเทะไปหมด สภาพการเงินแย่ ส่วนสภาพจิตใจนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย เหมือนต้องมาชดใช้เวรกรรมกับคนๆนึง



เข้าเรื่องเลยละกันครับ ตอนนี้ผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ ตอนนั้นผมได้จบ ปวส. มาเลยตัดสินใจดอปเรียนไปปีนึง เพื่อไปทำงานหาเงิน (ผมเป็นช่างภาพนะครับ) ตอนนั้นงานก็เข้าเยอะ มาเรื่อยๆเลย ทำงานกำลังสนุกกำลังไปได้สวยเลยครับ มาถึงจุดนี้ด้วยตัวเองจุดที่รับงานเองได้หาเงินเองได้ผมภูมิใจที่สุดเลย พอเวลาผ่านไป 1ปี ทางบ้านอยากให้ผมไปเรียนต่อ ผมก็เลยได้ทิ้งงานนี้เพื่อไปเรียนต่อปริญญาอีก 2ปี และวันนั้นก็มาถึงวันที่ผมได้จากบ้านจากครอบครัวมาไกลเลย ที่ที่ผมไปเรียนซึ่งก็มีญาติพี่น้องทางพ่ออยู่ด้วยเลยสบายใจหายห่วง พอได้มาเจอกับลูกของคุณอาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน 10ปีได้ แต่ก่อนตอนเด็กเราเคยเล่นด้วยกันตามประสาเด็กไม่รู้เรื่องอะไร พอมาเจอกันตอนโด ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไงแล้ว นิสัยเป็นยังไงบ้าง เราก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็อยู่กันไปตามปกติ ถึงวันเปิดเรียนคือวันที่ 1 กรกฎา 63 ผมก็ใช้ชีวิตไปตามปกติเรื่อยๆ ถึงช่วงเกือบๆกลางเดือน ลูกของอา(ขอใช้นามสมมุติ)บักพาก ซึ่งเขาก็อยู่ห้องตรงข้ามกับผม เขาก็ได้มาเล่นที่ห้องผม แล้วทีนี้เขาก็เอา ไอแพด มาอวดมาว่าอย่างนู้นอย่างนี้ บลาๆ เขาบอกว่าสั่งผ่านแอพๆนึง แล้วรอรับได้เลย ไอ้เราก็หวั่นอยากได้มากๆ ตอนนั้นมีเงินอยู่ แต่ก็ยังไม่ทันคิดอะไร และก็ไม่คิดให้รอบคอบ มันก็เป็นความโง่ความผมด้วยแหละ ที่ไม่รู้อะไร ถ้าวันนั้นผมคิดให้ดีกว่านี้ มันคงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เข้าเรื่องต่อ พอได้รับของมา บักพากก็บอกผมว่า ทุกเดือนต้องจ่ายเท่านี้นะๆ จนกว่าจะครบกำหนด บักพากได้ลงให้เราผ่อนเป็นระยะเวลา 1ปี ผมก้ตกลงตามนั้น เวลาผ่านไปจนถึงสิ้นปีขึ้นปีใหม่ผมได้กลับบ้านไป 1 เดือนกว่า เพราะว่าโควิดเลยได้อยู่บ้านยาวๆ โชคดีไป พอถึงเวลากลับมาเรียน เรื่องเดือดร้อนปัญหาต่างๆก็ได้เกิดขึ้นกับชีวิตผมเพราะบักพากคนเดียวที่ทำให้ผมต้องมาทุกข์มาลำบากขนาดนี้ บักพากมันมีความคิดอยากดึงผมไปอยู่บ้านเช่าด้วย แต่ผมได้ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่ไปๆ ก็โอเคเข้าใจกัน จะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว ด้วยความที่บักพากอยากไปอยู่บ้านเช่ามากๆ อยากหาร2กับผม มันเลยเอาไอแพดของผมไปขาย ซึ่งผมยังผ่อนไม่หมด ผมงงมากก ผ่านไปอีก 2-3 วัน ผมไปเรียนกลับมา บักพากมันบอกว่าเตรียมย้ายของไปอยู่บ้านเช่านะ อ้าวว คือคิดอยากจะทำไรก้ทำงี้หรอ ทำไรโดยภาระการ ทำตามอำเภอใจโดยไม่บอกคนอื่นอะ ผมก็ลงไปคุยกับเจ้าของหอ บลาๆ สรุปคือออกแล้วก็คือออก แล้วเงินประกันผม อะไรต่างๆนาๆอีก เสียไปฟรีๆเพราะมันคนเดียว ถ้าจะกลับมาเช่าหออีกก็ต้องจ่ายเหมือนครั้งแรกที่เข้ามา คือมันดึงผมออกไปลำบากกับมันจนได้อะ แล้วไอแพดละ ทำไง ทำไรก้ไม่ได้อีกเพราะบักพากมันขายไปเพื่อเอาเงินค่าไอแพดไปจ่ายค่ามัดจำบ้านเช่า อ้าวว ที่นี้ก้ปิดค่าไอแพดไม่ได้ ผมก้ต้องได้จ่ายค่าไอแพดทิพย์มาเรื่อยๆ เหมือนเสียค่าโง่อะ พอได้เข้ามาอยู่บ้านเช่า ผมยิ้มไม่ออก สีหน้าเครียดหน้าเศร้าตลอดเลย อยู่ไปได้ไม่นาน ไม่ถึงเดือนหรอก ผมเองก็ทนไม่ไหวกับคนแบบนี้ บักพากมันอยู่กับแฟนมันสองคน มันดึงผมเข้าไปอยู่ด้วย ปกติต่างคนต่างเรียน มีวันนึงจะไปซื้อของเข้าบ้าน บักพากมันได้เห็นเครื่องซักผ้า เหมือนมันอยากได้อะ เลยคุยกันว่าอย่าเอานะ ไม่เอาาคือไม่เอา โอเคไม่เอาละ พอวันนั้นผมไปเรียนกลับมา บักพากมันก็ได้ซื้อเครื่องซักผ้ามาแล้ว ผมเปิดประตูบ้านเข้าไปวันนั้นผมแทบช็อคเลย เครียดขึ้นสมองเลย บักพากนี่มันซื้อมาโดยที่ไม่บอกอะไรผมเลย ซื้อมาตั้งเกือบหมื่น แล้วจะมา หาร2 กับผม มันใช่หรอ ทำไมไม่หาร3 ละ อยู่ด้วยกัน 3 คน แต่หาร2 ผมเครียดมาก แต่ว่าผมก็ไม่ใชช้เครื่องซักผ้านะ ไม่ยุ่งไม่แตะเลย ไม่ใช้ของๆมันเลย มันอยากซื้อมาเอง ซื้อมาโดยภาระการ ซื้อมาไม่บอก ก็รับผิดชอบไปดิ ทำไมต้องดึงกรูเข้าไปรับผิดชอบด้วย สรุปผมไม่ใช้อะบอกเลย เงินก็จะไม่มีอยู่แล้วยังจะมาเพิ่มภาระอีก ผมไม่จ่าย ไม่ยุ่งอะ ผมก็ไม่ได้จะเป็นคนที่เยอะอะไรขนาดนั้น อันนี้แค่มาเรียนเฉยๆ ผ่านไปอีกวันสองวัน มันซื้อพัดลมแอร์ไอน้ำมาโดยที่ไม่บอกผม อ้าวว คิดอยากจะซื้อก็ซื้อเนาะ ซื้อมาแล้วก็มาลำบากคนอื่น ผมก็ไม่ยุ่งอีก ไม่แตะต้องเลย ทั้งพัดลมเครื่องซักผ้า ละทีนี้มันบอกจะเอาแอร์มาติด ผมนี่แทบบเครียดอีก ติดดแอร์ก็ไม่ใช่ถูกๆแล้ว ผมก็ไม่ยุ่งไม่เอา ไม่อะไรเเล้ว ปล่อยทิ้งหมด มันอยากซื้อมาเองก็ให้มันรับผิดชอบไปสิ ผมอยู่ด้วยไม่ได้สุดจะทน ยังไม่ถึงเดือน ผมโทรไปทางบ้านเลยว่า บลาๆ แม่ผมบอกว่าออกเลยถ้ามันไม่สบายใจ ผมก็ไม่คิดไรละ ผมเรียมตัวออกวันนั้นเลย และก็ได้กลับไปหาป้ากับลุงที่เป็นดูแลหอ ผมก็เล่าปัญหาต่างๆให้ป้าแกฟังว่า บลาๆ และป้าแกก็ได้เล่าประวัติวีรกรรมบักพากตลอดที่มันได้อยู่หอนี้ ป้าบอกว่า มันอยู่กับแฟนมันก็สิ้นเปลืองมากแล้ว มันทั้งคู่เป็นคนที่แบบเยอะเกินไปอะ ทำตัวหรู ใช้ของแพงๆ ต่างๆนาๆ คือเยอะไปหมด แต่ที่จิงแล้มันก็ไม่ได้มีเงินมากพอหรอก แค่มันอยากหรู ค่าห้อง ค่าน้ำ+ไฟ ของห้องมันก็ 5000 กว่าต่อเดือนแล้ว เยอะจริงมั้ยละ ทีนี้ป้าบอกว่ามีวันนึงว่าต่อว่าเจ้าของหอว่าทำไมค่าน้ำ+ไฟมันแพงจัง ก็แพงสิ ดูที่

ใช้แต่ละวันกันหน่อย ของแต่ละอย่างเกินไป ป้าก็ปวดหัวกับบักพากมากๆ ลูกหอคนอื่นๆก็ไม่ได้มีปัญหาเยอะเท่ามันเลย มีแต่มันคนเดียวนี่ละที่ปัญหาเยอะที่สุดแล้ว ละก็สั่งข้างผ่านแกร็ปมาวันนั้นป้าบอกเห็นมันให้แกร็ปขึ้นไปส่งข้าวที่หน้าห้อง แบบนี้มันควรแล้วหรอ เกินไปมากกก หอก็มีกฏระเบียบอยู่แล้ว แต่มันทำเกินไปมากกหลายครั้งแล้วที่ป้าไม่ชอบเลย แต่จริงๆวีรกรรมมันมีเยอะว่านี้ป้าแกบอกมา ป้าแกก็ดีใจที่มันได้ออกไปจากหอนี้ได้ ป้าบอกถ้ามันขอกลับมาอยู่หอนี้ ป้าจะไม่รับมันเข้ามาอีกเลย ผมก็แอบสะใจนะ ดีแล้วครับ จะได้ไม่วุ่นวายย มีวันนึงบักพากนี่มันขอกลับมาอยู่หอ แต่โดนป้าแกปฏิเสธไม่รับเข้า เป็นไงละ

งทำวีรกรรมกับที่นี่ไว้เยอะ เรื่องวันนั้นก็ได้จบลงไป ผมก็ได้กลับมาอยู่หอเหมือนเดิม แต่ว่ายังไม่จบที่ค่าไอแพด เห้ออผมก็ต้องเสียค่าโง่จ่ายค่าไอแพดทิพย์เรื่อยๆจนกว่าจะครบกำหนดละสิเห้ออ ปัจจุบันนี้ผมก็ได้ชำระค่าโง่ไอแพดครบกำตามหนดเรียบร้อยแล้ว แต่ๆๆยังมีอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือรถมอเตอร์ไซต์ที่ผมกำลังยืมมาขับ แต่เอาจริงๆก็เป็นรถของอาแหละ แม่ผมเคยช่วยอา ให้อายืมรถไปใช้ 3-4ปี พอผมมาที่นี่อาก็ต้องเอารถให้ผมมาใช้ แต่ว่ารถที่ผมใช้คงจะเป็นของบักพากนั่นน ผมก็ได้ใช้มาเรื่อยยๆ มีวันนึงบักพากมันได้ทำไรโดยภาระการตามอำเภอใจอีกละ เรื่องเครียดมาอีกแน่ๆ มันบอกอยากได้รถกลับมาสภาพเดิมอะ อยากได้รถทุกอย่างที่กลับมาเป็นเหมือนเดิมอะ เห้อออ เอาอีกแล้ว เอาเรื่องปวดหัวมาให้กรูอีกแล้วบักห่าพากนี่! มันเอารถไปเข้าศูนย์แล้วรวมค่าทุกอย่างที่ทำให้รถกลับมาเป็นสภาพเดิม 14500 คือผมก็ต้องจ่ายอีกใช่มั้ย ใช่สิ ผมนี่ปวดหัวเลย มันจะอะไรกันนักหนา ไม่พอไม่รู้จักจบสิ้น จะเยอะไปไหนนน ทำโดยภาระการ ไม่บอกคนอื่นก่อน ก่อนหน้านั้นมันก็เอารถไปเช็คสภาพเครื่องยนต์ต่างๆนาๆ รวมทั้งหมด 6500 แล้วใครจ่ายอีกละ ก็ผมจ่ายสิ เพราะว่ามันได้ทำไปแล้ว ผมก็ไม่รู้จะว่าไงกับมันละบักห่าตำปอด

นิ ผมโทรคุยกับทางบ้าน บลาๆ พ่อผมก้ได้ด่ามันไปเป็นชุดๆ คือตอนนี้มันได้ออกค่ารถค่าซ่อมไรไปก่อนแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่ 4500 ที่ผมและผมต้องจ่ายอีก ตอนนี้ผมยังค้าง4500 แต่เดี๋ยวสิ้นเดือนธันวาก็ต้องรอจ่าย เห้อออ อยู่กับคนแบบนี้ไม่ได้หรอกเอาจริงอยู่ยากด้วย ใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก เยอะด้วยย คิดอยากทำไรก้ทำ พอทำมา คนอื่นก็เดือดร้อนไปด้วย เหนื่อยจังกับคนแบบนี้ ถ้าาาไม่ติดว่าเป็นญาติพี่น้องทางพ่อ ผมคงจะตัดดดขาดกับบักพากกนี้ไปเลย ตัดมันออกไปจากชีวิตเลย นี่คงจะเป็นบทเรียนที่ผมได้พบเจอและบทเรียนนี้สอนให้ผมได้รู้จักคิดรู้จักประหยัด สอนให้ผมได้อดทนกับอุปสรรคปัญหาต่างๆที่เข้ามาในชีวิต และทำให้ผมได้เข้มแข็งมากขึ้น นี่แหละคือเรื่องราวแย่ๆในชีวิต ในปี 2564 ตลอดทั้งปีเลย ทั้งปีนี้ผมบอกเลยว่าไม่มีความสุข มีแต่ทุกข์ เครียด ผมก็ไม่รู้ว่าผมไปทำเวรกรรมอะไรกับมันไว้ทำไมถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ เหนื่อยนะ ผมหวังว่าปีใหม่ที่กำลังจะถึงนี้ ขอให้แฮปปี้ๆอย่างที่เคยเป็นมาก่อนขอให้ยิ้มเยอะๆมีความสุขมากๆ อยู่ดีกินดีนอนดีนะ ขอให้สิ่งร้ายๆแย่ๆ ออกไปจากชีวิตให้หมด อะไรที่ไม่ดีก็ทิ้งไว้ปีนี้ ปีนี้ทำไรก็ไม่ราบรื่น ติดขัดไปหมดพบเจอแต่อุปสรรค การไม่มีหนี้เลย เป็นลาภอันประเสริฐที่สุดแล้วครับ ปีหน้าขึ้นปี 2565 เป็นปีที่ผมกำลังจะเรียนจบปริญญา ก็ขอให้ผมพบเจอแต่ความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง ทำไรก็ขอให้ราบรื่น ไม่ติดขัด เหมือนปีนี้ เรื่องราวแย่ๆในปี64ของผมก็มีเพียงเท่านี้ ผมก็ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านมีความสุขมากๆ ขอให้ผ่านอุปสรรคและปัญหาต่างๆไปได้ด้วยดี ขอบคุณและสวัสดีครับ
ชีวิตวัย 23 ปี ต้องมาใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
เข้าเรื่องเลยละกันครับ ตอนนี้ผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ ตอนนั้นผมได้จบ ปวส. มาเลยตัดสินใจดอปเรียนไปปีนึง เพื่อไปทำงานหาเงิน (ผมเป็นช่างภาพนะครับ) ตอนนั้นงานก็เข้าเยอะ มาเรื่อยๆเลย ทำงานกำลังสนุกกำลังไปได้สวยเลยครับ มาถึงจุดนี้ด้วยตัวเองจุดที่รับงานเองได้หาเงินเองได้ผมภูมิใจที่สุดเลย พอเวลาผ่านไป 1ปี ทางบ้านอยากให้ผมไปเรียนต่อ ผมก็เลยได้ทิ้งงานนี้เพื่อไปเรียนต่อปริญญาอีก 2ปี และวันนั้นก็มาถึงวันที่ผมได้จากบ้านจากครอบครัวมาไกลเลย ที่ที่ผมไปเรียนซึ่งก็มีญาติพี่น้องทางพ่ออยู่ด้วยเลยสบายใจหายห่วง พอได้มาเจอกับลูกของคุณอาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน 10ปีได้ แต่ก่อนตอนเด็กเราเคยเล่นด้วยกันตามประสาเด็กไม่รู้เรื่องอะไร พอมาเจอกันตอนโด ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไงแล้ว นิสัยเป็นยังไงบ้าง เราก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็อยู่กันไปตามปกติ ถึงวันเปิดเรียนคือวันที่ 1 กรกฎา 63 ผมก็ใช้ชีวิตไปตามปกติเรื่อยๆ ถึงช่วงเกือบๆกลางเดือน ลูกของอา(ขอใช้นามสมมุติ)บักพาก ซึ่งเขาก็อยู่ห้องตรงข้ามกับผม เขาก็ได้มาเล่นที่ห้องผม แล้วทีนี้เขาก็เอา ไอแพด มาอวดมาว่าอย่างนู้นอย่างนี้ บลาๆ เขาบอกว่าสั่งผ่านแอพๆนึง แล้วรอรับได้เลย ไอ้เราก็หวั่นอยากได้มากๆ ตอนนั้นมีเงินอยู่ แต่ก็ยังไม่ทันคิดอะไร และก็ไม่คิดให้รอบคอบ มันก็เป็นความโง่ความผมด้วยแหละ ที่ไม่รู้อะไร ถ้าวันนั้นผมคิดให้ดีกว่านี้ มันคงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เข้าเรื่องต่อ พอได้รับของมา บักพากก็บอกผมว่า ทุกเดือนต้องจ่ายเท่านี้นะๆ จนกว่าจะครบกำหนด บักพากได้ลงให้เราผ่อนเป็นระยะเวลา 1ปี ผมก้ตกลงตามนั้น เวลาผ่านไปจนถึงสิ้นปีขึ้นปีใหม่ผมได้กลับบ้านไป 1 เดือนกว่า เพราะว่าโควิดเลยได้อยู่บ้านยาวๆ โชคดีไป พอถึงเวลากลับมาเรียน เรื่องเดือดร้อนปัญหาต่างๆก็ได้เกิดขึ้นกับชีวิตผมเพราะบักพากคนเดียวที่ทำให้ผมต้องมาทุกข์มาลำบากขนาดนี้ บักพากมันมีความคิดอยากดึงผมไปอยู่บ้านเช่าด้วย แต่ผมได้ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่ไปๆ ก็โอเคเข้าใจกัน จะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว ด้วยความที่บักพากอยากไปอยู่บ้านเช่ามากๆ อยากหาร2กับผม มันเลยเอาไอแพดของผมไปขาย ซึ่งผมยังผ่อนไม่หมด ผมงงมากก ผ่านไปอีก 2-3 วัน ผมไปเรียนกลับมา บักพากมันบอกว่าเตรียมย้ายของไปอยู่บ้านเช่านะ อ้าวว คือคิดอยากจะทำไรก้ทำงี้หรอ ทำไรโดยภาระการ ทำตามอำเภอใจโดยไม่บอกคนอื่นอะ ผมก็ลงไปคุยกับเจ้าของหอ บลาๆ สรุปคือออกแล้วก็คือออก แล้วเงินประกันผม อะไรต่างๆนาๆอีก เสียไปฟรีๆเพราะมันคนเดียว ถ้าจะกลับมาเช่าหออีกก็ต้องจ่ายเหมือนครั้งแรกที่เข้ามา คือมันดึงผมออกไปลำบากกับมันจนได้อะ แล้วไอแพดละ ทำไง ทำไรก้ไม่ได้อีกเพราะบักพากมันขายไปเพื่อเอาเงินค่าไอแพดไปจ่ายค่ามัดจำบ้านเช่า อ้าวว ที่นี้ก้ปิดค่าไอแพดไม่ได้ ผมก้ต้องได้จ่ายค่าไอแพดทิพย์มาเรื่อยๆ เหมือนเสียค่าโง่อะ พอได้เข้ามาอยู่บ้านเช่า ผมยิ้มไม่ออก สีหน้าเครียดหน้าเศร้าตลอดเลย อยู่ไปได้ไม่นาน ไม่ถึงเดือนหรอก ผมเองก็ทนไม่ไหวกับคนแบบนี้ บักพากมันอยู่กับแฟนมันสองคน มันดึงผมเข้าไปอยู่ด้วย ปกติต่างคนต่างเรียน มีวันนึงจะไปซื้อของเข้าบ้าน บักพากมันได้เห็นเครื่องซักผ้า เหมือนมันอยากได้อะ เลยคุยกันว่าอย่าเอานะ ไม่เอาาคือไม่เอา โอเคไม่เอาละ พอวันนั้นผมไปเรียนกลับมา บักพากมันก็ได้ซื้อเครื่องซักผ้ามาแล้ว ผมเปิดประตูบ้านเข้าไปวันนั้นผมแทบช็อคเลย เครียดขึ้นสมองเลย บักพากนี่มันซื้อมาโดยที่ไม่บอกอะไรผมเลย ซื้อมาตั้งเกือบหมื่น แล้วจะมา หาร2 กับผม มันใช่หรอ ทำไมไม่หาร3 ละ อยู่ด้วยกัน 3 คน แต่หาร2 ผมเครียดมาก แต่ว่าผมก็ไม่ใชช้เครื่องซักผ้านะ ไม่ยุ่งไม่แตะเลย ไม่ใช้ของๆมันเลย มันอยากซื้อมาเอง ซื้อมาโดยภาระการ ซื้อมาไม่บอก ก็รับผิดชอบไปดิ ทำไมต้องดึงกรูเข้าไปรับผิดชอบด้วย สรุปผมไม่ใช้อะบอกเลย เงินก็จะไม่มีอยู่แล้วยังจะมาเพิ่มภาระอีก ผมไม่จ่าย ไม่ยุ่งอะ ผมก็ไม่ได้จะเป็นคนที่เยอะอะไรขนาดนั้น อันนี้แค่มาเรียนเฉยๆ ผ่านไปอีกวันสองวัน มันซื้อพัดลมแอร์ไอน้ำมาโดยที่ไม่บอกผม อ้าวว คิดอยากจะซื้อก็ซื้อเนาะ ซื้อมาแล้วก็มาลำบากคนอื่น ผมก็ไม่ยุ่งอีก ไม่แตะต้องเลย ทั้งพัดลมเครื่องซักผ้า ละทีนี้มันบอกจะเอาแอร์มาติด ผมนี่แทบบเครียดอีก ติดดแอร์ก็ไม่ใช่ถูกๆแล้ว ผมก็ไม่ยุ่งไม่เอา ไม่อะไรเเล้ว ปล่อยทิ้งหมด มันอยากซื้อมาเองก็ให้มันรับผิดชอบไปสิ ผมอยู่ด้วยไม่ได้สุดจะทน ยังไม่ถึงเดือน ผมโทรไปทางบ้านเลยว่า บลาๆ แม่ผมบอกว่าออกเลยถ้ามันไม่สบายใจ ผมก็ไม่คิดไรละ ผมเรียมตัวออกวันนั้นเลย และก็ได้กลับไปหาป้ากับลุงที่เป็นดูแลหอ ผมก็เล่าปัญหาต่างๆให้ป้าแกฟังว่า บลาๆ และป้าแกก็ได้เล่าประวัติวีรกรรมบักพากตลอดที่มันได้อยู่หอนี้ ป้าบอกว่า มันอยู่กับแฟนมันก็สิ้นเปลืองมากแล้ว มันทั้งคู่เป็นคนที่แบบเยอะเกินไปอะ ทำตัวหรู ใช้ของแพงๆ ต่างๆนาๆ คือเยอะไปหมด แต่ที่จิงแล้มันก็ไม่ได้มีเงินมากพอหรอก แค่มันอยากหรู ค่าห้อง ค่าน้ำ+ไฟ ของห้องมันก็ 5000 กว่าต่อเดือนแล้ว เยอะจริงมั้ยละ ทีนี้ป้าบอกว่ามีวันนึงว่าต่อว่าเจ้าของหอว่าทำไมค่าน้ำ+ไฟมันแพงจัง ก็แพงสิ ดูที่