ก่อนอื่นขอแจ้งก่อน เราเป็น 1 คน ที่ตัดสินใจเลือกซื้อห้องเอื้ออาทรไว้เป็นทรัพย์สิน เนื่องจากราคาผ่อนไม่สูง และอยู่ในทำเลที่สามารถจะทำกำไรได้ในอนาคต

เริ่มจากดูโครงการ แล้วมีเฟสที่ขึ้นใหม่
ภายนอกดูดี มีที่จอดรถเป็นสัดส่วน เนื่องจากเป็นเฟสที่ราคาสูง มีสติกเกอร์ ที่จอดรถแยกส่วน มีลิฟท์ มีกล้องวงจรปิด มีแม่บ้านประจำตึก โดยรวมผ่าน----ยื่นกู้ ดำเนินการจบทุกอย่าง

ได้เอกสารมาดำเนินการขอมิเตอร์

มิเตอร์ไฟฟ้า ต้องไปที่การไฟฟ้านครหลวงบางพลี (ไกลชิบ) เสียค่ามิเตอร์ 700.- (ไม่มีค่าประกันไฟฟ้า) จบไป 1 เรื่อง 👏🏻👏🏻👏🏻

มิเตอร์ประปา ย้อนไปที่นิติฯ ควักเอกสารเตรียมจะจ่ายเงิน ค่าประกัน 4,400 😱😱
สตั้นไป 3 นาที ในใจคิด มิเตอร์ส้นตรีนอะไรของเนี่ย 🤬🤬🤬
เกจ์มิเตอร์สั่งทำจากเยอรมัน
มาตรวัดสั่งทำจากนอร์เวย์
ทองแดงหล่อมาจากแอฟริกาใต้
วาล์วหมุนสั่งทำจากตะวันออกกลาง รึไงว่ะ

บ้านหลังละ 10 ลบ.เค้าจ่ายกันไม่ถึง 3,000.-  นี่ห้อง 33 ตร.ม. เก็บกู 4,400.- เนี่ยนะ‼️‼️  

หายใจลึกๆ อ่ะไม่เป็นไร แก้อะไรไม่ได้ กูผิดเองไม่ถามให้ดีก่อน เตรียมออกไปกดเงินมาจ่าย เพราะรับแต่เงินสด ทันใดนั้น จนท.ทักขึ้นมา😉

"คุณครับ..มีค่าล่วงหน้า 6 เดือน รวมเป็น 8,8××.- หันไปมองหน้า เดี๋ยวนะคะ ค่าส่วนกลางตึกปกติ 380.- กุก็ว่าแพงละ นี่เก็บเดือนละ 644.- แถมล่วงหน้าอีก😒😒🤔🤔

คำถามคือ...รัฐต้องการช่วยคนรายได้น้อย แต่เก็บค่าส่วนกลางขนาดนี้ แถมเค้าประกาศปาวๆ ให้คืนค่ามิเตอร์ประปา แต่นิติฯ เก็บค่ามิเตอร์สวนทาง และเกินจริงไปมาก คนรายได้ต่ำที่อยากมีบ้านจะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย ค่าประกันมิเตอร์ราคาเกือบเท่าเงินเดือนเค้าทั้งเดือน 😒😒  ผู้ประกอบการ บริษัทบริหารดูกำลังคนจ่ายด้วยนะคะ ก่อนจะทำอะไร 

ขนาดเราไม่ได้ติดขัด ยังไม่อยากจะจ่ายเลย
เพราะมันแพงเว่อร์วัง  ฝากไว้ให้คิด 

เอื้ออาทร 1 ห้อง เตรียมไว้ 30,000.- นะจ้ะ