คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
พี่(หรือน้าก็ได้ อายุสองเท่าของน้อง) อยากบอกว่าน้องโชคดีแล้วครับที่เริ่มจากสายงานขาย ดีกว่าหลายๆ คน
สิ่งที่ควรทำปัจจุบันคือการเรียนรู้ ทำความเข้าใจในงานขาย ตลาด ลูกค้า อนาคตงานนี้เปลี่ยนสินค้าได้แต่ความเชี่ยวชาญในงานขายน้องจะไม่หายไปไหน เพียงแต่เสียเวลาเรียนรู้โปรดักส์ตัวใหม่
เรียนรู้ในแบบมุมมองเจ้าของกิจการ อย่าก้มหน้าก้มตาทำงาน เรียนรู้ให้มากที่สุดมีค่ากว่าไปเรียนแบบไม่มีจุดหมายปลายทางด้วยซ้ำ ทำความเข้าใจลูกค้าให้มากๆ อย่าเชื่อคนอื่นบอกทันทีแต่ใช้เหตุผลไตร่ตรองว่าสิ่งที่เขาบอกจริงไหม ทดลองทำ ถ้าเป็นไปได้มีโอกาสก็ลองย้ายสาขาย้ายที่ทำงานเพื่อเรียนรู้ในพื้นที่ที่มีการขายมากขึ้นจะได้เปิดหูเปิดตา สิ่งสำคัญของช่วงต้นคือการเรียนรู้และเข้าใจสิ่งที่ทำอยู่จริงๆ
แนวทางการวางแผนอนาคต
ตั้งเป้าเป็นเจ้าของกิจการหรือทำกิจการบางอย่างด้วยตัวเองไปเลยครับ เป้าหมายตั้งให้สูง ใช้เวลาเรียนรู้ให้มาก การก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่สนใจอะไรคือการสูญเสีย เราจะได้อะไรจากงานแค่นิดเดียว หรือถ้าพอใจตรงนี้แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร เชี่ยวชาญงานขายแล้วก็ลองเปลี่ยนโปรดักส์ที่ได้ค่าตอบแทนมากขึ้น เคยเจอน้องคนนึงพูดเก่งมากดีมาก(ไม่ใช่แค่พูดมากนะ) เสียดายแทนเขาที่ทำงานกับสินค้าที่ไม่ค่อยมีมูลค่า ค่าตอบแทนเขาจึงน้อยกว่าความสามารถไปเยอะ
เรียนรู้ตลาดไทยเสร็จก็เรียนรู้ตลาดต่างประเทศ เรียนรู้แหล่งสินค้า พวกนี้พยายามมากก็อาจเข้าใจเร็วแต่ก็ต้องใช้เวลาบางทีสองสามปี แต่ถ้าก้มหน้าก้มตาทำงานแบบงานมาก็ทำ งานไม่มาก็นั่งสบายๆ 20 ปี ก็อาจไม่ได้ขยับไปไหน
เงินเก็บ
-ช่วงต้นเอาแค่พอเหลือให้ใช้สักสามเดือน เงินเดือนน้อยพี่จะไม่บอกให้ประหยัดนะครับ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ มันทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะเงินมันน้อยเกินไปจริงๆ พี่แนะนำให้เอาไปใช้ เอาไปเรียนรู้ บางสิ่งบางอย่างคนอื่นอาจมองว่าสุรุ่ยสุร่ายแต่ถ้าเราเป็นผู้ใช้เอง เข้าสินค้า เข้าใจลูกค้าว่าทำไมเขาซื้อ เราจะได้ทั้งของทั้งโอกาสการหาเงินในอนาคตเพราะเราเข้าใจมันมากกว่าคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลย
-ช่วงถัดมา ถ้าไม่ไปสอบราชการหรือทำงานอะไรเสียก่อน หารายได้ให้พอค่าประกันตัวเอง ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เราอาจไม่ได้ใช้หรอกแต่มันเป็นหลักประกันถ้าเรามีปัญหา พยายามให้รายได้โคเวอร์ตรงนี้
-ถัดมาอีก พยายามขยับเงินให้เหลือใช้เป็นหกเดือนหรือหนึ่งปี เราจะมีความสบายใจมากขึ้น เวลาเรียนรู้อย่างอื่นจะไม่ได้ไม่ต้องกังวล ของพี่อาจไม่เหมือนคนอื่นนะ คิดว่าเงินเก็บไม่ต้องรีบร้อนเก็บให้มากๆ จนพลาดโอกาสเรียนรู้ ทำความเข้าใจ ถ้าเราจะขายกาแฟแก้วละหกสิบแต่กินแต่กาแฟซองเราขายไม่ได้ดีนักหรอกเพราะเราไม่เข้าใจมันดี
ทรัพย์สิน
รถถ้าซื้อมาขับเฉยๆ ไม่ต้องรีบ เอาจักรยานยนต์ไปใช้ก่อน ไม่ควรก่อหนี้ที่ทำรายได้ไม่ได้ ถ้าซื้อมาเพื่อส่งของใหญ่ ไปขนพืชผลมาขายอะไรแบบนั้นไม่มีปัญหา อย่าสนใจคนอื่นกดดัน อย่าอารมณ์ร้อนพิสูจน์ตัวเอง มันเสียเวลาและทำให้ถึงอนาคตที่ดีขึ้นช้าไปห้าหกปีหรืออาจจะไปไม่ถึงเลย คนรอบข้างบางคนจะชอบกดดัน ชอบบอกว่าให้พิสูจน์ตัวเอง ชอบให้เป็นหนี้บอกว่าจะได้มีแรงทำงาน ไม่ต้องไปเชื่อเขา เราซื้ออย่างหนึ่งเขาก็จะมากดดันให้ซื้ออีกอย่างไปเรื่อยๆ เป็นหนี้วนเวียนไม่จบหรอก มีแล้วค่อยซื้อ พร้อมแล้วค่อยจ่าย ถ้าเราเก่งมาก สะสมความสามารถมามากพอ จะออกรถสักคันมันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ออกตอนยังไม่พร้อมไม่ต้องออก
หนี้ทั้งหมด
อย่าเป็นหนี้ไร้สาระ อย่าไปค้ำประกันให้ใคร เป็นหนี้เมื่อพร้อม อย่าไปลุ้นอนาคต
หน้าที่การงาน
แล้วแต่ความทะเยอทะยาน ตั้งไว้ถ้าจะไปถึงต้องเรียนรู้สิ่งที่จะทำให้ไปถึง ต้องรู้อะไร ใช้ความสามารถแบบไหน ถ้าเราเก่งจริง เก่งมากพอ เราไปถึงได้เอง ถ้าที่เดิมไม่มีตำแหน่งก็ย้ายที่ บริษัทดีๆ ไม่มีใครไม่อยากเก็บคนเก่งหรอก ถ้าหรือถ้าเราเก่งมากพอแล้วก็รู้สึกว่าตัวเราทำได้ดีกว่าก็ค่อยทำเอง ตอนที่เราไม่มีอะไรเลยเราจะรู้สึกว่าไม่มีเงินเลยทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเราพร้อมพอสมควรเราจะคิดว่าเงินก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ จะหาคนเก่งคนดีมาช่วยทำนี่ลำบากกว่าหาเงินเยอะ
สิ่งที่ควรทำปัจจุบันคือการเรียนรู้ ทำความเข้าใจในงานขาย ตลาด ลูกค้า อนาคตงานนี้เปลี่ยนสินค้าได้แต่ความเชี่ยวชาญในงานขายน้องจะไม่หายไปไหน เพียงแต่เสียเวลาเรียนรู้โปรดักส์ตัวใหม่
เรียนรู้ในแบบมุมมองเจ้าของกิจการ อย่าก้มหน้าก้มตาทำงาน เรียนรู้ให้มากที่สุดมีค่ากว่าไปเรียนแบบไม่มีจุดหมายปลายทางด้วยซ้ำ ทำความเข้าใจลูกค้าให้มากๆ อย่าเชื่อคนอื่นบอกทันทีแต่ใช้เหตุผลไตร่ตรองว่าสิ่งที่เขาบอกจริงไหม ทดลองทำ ถ้าเป็นไปได้มีโอกาสก็ลองย้ายสาขาย้ายที่ทำงานเพื่อเรียนรู้ในพื้นที่ที่มีการขายมากขึ้นจะได้เปิดหูเปิดตา สิ่งสำคัญของช่วงต้นคือการเรียนรู้และเข้าใจสิ่งที่ทำอยู่จริงๆ
แนวทางการวางแผนอนาคต
ตั้งเป้าเป็นเจ้าของกิจการหรือทำกิจการบางอย่างด้วยตัวเองไปเลยครับ เป้าหมายตั้งให้สูง ใช้เวลาเรียนรู้ให้มาก การก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่สนใจอะไรคือการสูญเสีย เราจะได้อะไรจากงานแค่นิดเดียว หรือถ้าพอใจตรงนี้แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร เชี่ยวชาญงานขายแล้วก็ลองเปลี่ยนโปรดักส์ที่ได้ค่าตอบแทนมากขึ้น เคยเจอน้องคนนึงพูดเก่งมากดีมาก(ไม่ใช่แค่พูดมากนะ) เสียดายแทนเขาที่ทำงานกับสินค้าที่ไม่ค่อยมีมูลค่า ค่าตอบแทนเขาจึงน้อยกว่าความสามารถไปเยอะ
เรียนรู้ตลาดไทยเสร็จก็เรียนรู้ตลาดต่างประเทศ เรียนรู้แหล่งสินค้า พวกนี้พยายามมากก็อาจเข้าใจเร็วแต่ก็ต้องใช้เวลาบางทีสองสามปี แต่ถ้าก้มหน้าก้มตาทำงานแบบงานมาก็ทำ งานไม่มาก็นั่งสบายๆ 20 ปี ก็อาจไม่ได้ขยับไปไหน
เงินเก็บ
-ช่วงต้นเอาแค่พอเหลือให้ใช้สักสามเดือน เงินเดือนน้อยพี่จะไม่บอกให้ประหยัดนะครับ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ มันทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะเงินมันน้อยเกินไปจริงๆ พี่แนะนำให้เอาไปใช้ เอาไปเรียนรู้ บางสิ่งบางอย่างคนอื่นอาจมองว่าสุรุ่ยสุร่ายแต่ถ้าเราเป็นผู้ใช้เอง เข้าสินค้า เข้าใจลูกค้าว่าทำไมเขาซื้อ เราจะได้ทั้งของทั้งโอกาสการหาเงินในอนาคตเพราะเราเข้าใจมันมากกว่าคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลย
-ช่วงถัดมา ถ้าไม่ไปสอบราชการหรือทำงานอะไรเสียก่อน หารายได้ให้พอค่าประกันตัวเอง ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เราอาจไม่ได้ใช้หรอกแต่มันเป็นหลักประกันถ้าเรามีปัญหา พยายามให้รายได้โคเวอร์ตรงนี้
-ถัดมาอีก พยายามขยับเงินให้เหลือใช้เป็นหกเดือนหรือหนึ่งปี เราจะมีความสบายใจมากขึ้น เวลาเรียนรู้อย่างอื่นจะไม่ได้ไม่ต้องกังวล ของพี่อาจไม่เหมือนคนอื่นนะ คิดว่าเงินเก็บไม่ต้องรีบร้อนเก็บให้มากๆ จนพลาดโอกาสเรียนรู้ ทำความเข้าใจ ถ้าเราจะขายกาแฟแก้วละหกสิบแต่กินแต่กาแฟซองเราขายไม่ได้ดีนักหรอกเพราะเราไม่เข้าใจมันดี
ทรัพย์สิน
รถถ้าซื้อมาขับเฉยๆ ไม่ต้องรีบ เอาจักรยานยนต์ไปใช้ก่อน ไม่ควรก่อหนี้ที่ทำรายได้ไม่ได้ ถ้าซื้อมาเพื่อส่งของใหญ่ ไปขนพืชผลมาขายอะไรแบบนั้นไม่มีปัญหา อย่าสนใจคนอื่นกดดัน อย่าอารมณ์ร้อนพิสูจน์ตัวเอง มันเสียเวลาและทำให้ถึงอนาคตที่ดีขึ้นช้าไปห้าหกปีหรืออาจจะไปไม่ถึงเลย คนรอบข้างบางคนจะชอบกดดัน ชอบบอกว่าให้พิสูจน์ตัวเอง ชอบให้เป็นหนี้บอกว่าจะได้มีแรงทำงาน ไม่ต้องไปเชื่อเขา เราซื้ออย่างหนึ่งเขาก็จะมากดดันให้ซื้ออีกอย่างไปเรื่อยๆ เป็นหนี้วนเวียนไม่จบหรอก มีแล้วค่อยซื้อ พร้อมแล้วค่อยจ่าย ถ้าเราเก่งมาก สะสมความสามารถมามากพอ จะออกรถสักคันมันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ออกตอนยังไม่พร้อมไม่ต้องออก
หนี้ทั้งหมด
อย่าเป็นหนี้ไร้สาระ อย่าไปค้ำประกันให้ใคร เป็นหนี้เมื่อพร้อม อย่าไปลุ้นอนาคต
หน้าที่การงาน
แล้วแต่ความทะเยอทะยาน ตั้งไว้ถ้าจะไปถึงต้องเรียนรู้สิ่งที่จะทำให้ไปถึง ต้องรู้อะไร ใช้ความสามารถแบบไหน ถ้าเราเก่งจริง เก่งมากพอ เราไปถึงได้เอง ถ้าที่เดิมไม่มีตำแหน่งก็ย้ายที่ บริษัทดีๆ ไม่มีใครไม่อยากเก็บคนเก่งหรอก ถ้าหรือถ้าเราเก่งมากพอแล้วก็รู้สึกว่าตัวเราทำได้ดีกว่าก็ค่อยทำเอง ตอนที่เราไม่มีอะไรเลยเราจะรู้สึกว่าไม่มีเงินเลยทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเราพร้อมพอสมควรเราจะคิดว่าเงินก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ จะหาคนเก่งคนดีมาช่วยทำนี่ลำบากกว่าหาเงินเยอะ
แสดงความคิดเห็น
มกราคมหน้าอายุก็จะ19แล้ว แต่ยังไม่มีแผนอนาคตที่แน่ชัด ทำงานควบกับเรียน
ส่วนตัวผมเอง อย่างว่าแหละครับ อายุ18 ใกล้19เข้าทุกที
เรื่องงานก่อน นะครับ ปัจจุบันทำงานกับบริษัทเอกชนแห่งนึง เป็นพนักงานขายนะครับ*PC
เรื่องงานถามว่ามั่นคงมั้ย คงตอบยาก *อายุงานครึ่งปี ด้วยที่ผมเป็นพนักงานขาย จึงอยู่ได้ด้วยยอดขาย เรารู้ๆกันอยู่ครับ
สถานการณ์โรคระบาดโควิด19 ทำให้ยอดขายตก *มีคู่แข่งการขายอีก3เจ้า และถึงแม้ยอดขายจะตกแต่ยังไม่ได้รับการกดดันหรือบีบยอดจากเซลล์ใดๆ
*คือตั้งแต่ทำงานมา เรื่องยอดขาย ทางเซลล์ของบริษัทไม่เคยซักถาม
เรื่องเงินเดือน ผมได้รับเงินเดือน 10,000 บาทถ้วน *ยังไม่หักประกันสังคม
สำหรับผมเงินเดือนเท่านี้ถามว่าเพียงพอมั้ย ตอบเลย พอ
1.มีบ้านอาศัยอยู่กับพ่อแม่
2.ค่ากิน ก็อยู่กินกับพ่อแม่ เพียงแต่จ่ายค่ากับข้าวที่ทำงานมื้อกลางวัน 30บาท
3.ค่าเน็ตบ้าน ค่าไฟ ค่าน้ำ ตีรวมๆ1,000 บาท
4.ค่าน้ำมัน คือ ปัจจุบัน ผมยังไม่มีรถ ที่บ้านมีรถ2คัน พ่อคันแม่คัน ตอนทำงานติดแม่ไป เพราะไปทางเดียวกัน
นอกนั้นเก็บ จะมีเก็บเดือนนึงอยู่ที่ 8,500 บาท
เรื่องเรียน ตอนนี้เรียนจบม.3 กศน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัจจุบัน รอ จบ ม.ปลาย /กศน/ อยู่*ทำงานควบไปด้วย เหลืออีกสักครึ่งเทอมได้มั้ง ตอนนี้ยังลังเลอยู่ว่า
1. ทำงานล้ะเก็บตังซื้อรถ แล้วค่อยเก็บเงินเรียนต่อ
2.เก็บตังเรียน มหาลัยไปเลย ยังไม่ต้องซื้อรถ
เรียนมหาลัยใช้เงินเยอะมากกกกกกก เท่าที่เคยถามมาคือขนาดได้ทุนเรียนฟรีจนจบ ยังเป็นหนี้ เยอะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คือผมอยากได้มอไซต์มาก วางแผนจะซื้อ มือ2 แบบจ่ายสด ไม่ผ่อน ไม่ยอมเป็นหนี้ง่ายๆหรอก
อีกใจคือ รอตัวเองพร้อมคือ มีรถ มีเงินเก็บ มีใจอยากเรียน ไม่มีภาระ
แล้วค่อยต่อมหาลัย แต่ไม่รู้จะใช้เวลานานมากมั้ย
ทรัพย์สิน เอาจริงๆตอนนี้ที่พอมีค่า คือคอม มือถือ ฮ่าๆๆ มีแค่นี้จริงๆ เงินเก็บตอนนี้อีก3-4พัน พึ่งซื้อคอมไปนี่แหละ *2หมื่น* เป็นความฝันตอนเด็กๆ
เมื่อก่อนก็เด็กติดเกมคนนึง ไปร้านเกมบ่อยมาก เล่นวันล้ะ4-5 ชม.อย่างต่ำ ตอนนั้นอายุ17กลางๆ เลยคิดว่าถ้ามีงานทำจะซื้อเป็น ของขวัญให้ตัวเอง
นั่นแหละครับเลยซื้อ ต่อเน็ตบ้านพร้อม แต่พอจะเล่นคอมกลับไม่เล่นเกมแต่ ศึกษาการทำเพลง การใช้โปรแกรม ตัดต่อ ลงคอสเรียน ทำเพลงออนไลน์
ศึกษาในยูทูบเสริม ก็เคยได้ยินว่า ลงทุนที่คุ้มค่าทีสุดคือการลงทุนในความรู้ เลยจัดไป
หนี้ผมไม่มีนะครับ มีแค่ค่าไฟกับค่าเน็ต เดือนล้ะพัน อันนี้ก็หนี้รึเปล่า ฮ่าๆ
สรุปนะครับ แผนที่ผมคิดคร่าวๆ คือ เรียนม.ปลาย ควบกับการทำงานไปด้วย พอเรียนม.ปลายจบ ตอนนั้นผมก็คงได้ซื้อรถสักคัน แต่เงินเก็บไม่น่าจะมี5555
ก็อยู่ทำงานต่ออีกสัก ครึ่งปี ปีนึง ปีครึ่ง 2ปี รึ ต่อไปเรื่อยๆจนมั่นใจว่ามั่นคงกับ เงินเก็บที่มีอยู่ ต้องเผื่อชีวิตไปกับ เรียนมหาลัย และ ใบดำแดงอีก ฮ่าๆๆ
ปล.อยากมีวุฒิป.ตรีสักใบนึง
ใครที่อยากแนะนำหรือแชร์ประสบการณ์ แชร์ได้นะครับพร้อมอ่าน แนะนำได้นะครับ