JJNY : ลูกมั่นใจพ่อตายเพราะฉีดวัคซีน│ฉีด"โมเดอร์นา"ครบ ป้องกันได้6ด.│สิบล้อฮึ่มเมินฝันดีเซล25บ.│สภ.ชุมแพวุ่น ตร.ติดโควิด

ลูกชายร่ำไห้ มั่นใจพ่อตายเพราะฉีดวัคซีนโควิด วอนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
https://www.matichon.co.th/region/news_3029902
 
 
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 5 ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายทนงศักดิ์ ศรปัญญา อายุ 46 ปี และ นายธนกฤต ศรปัญญา อายุ 42 ปี พร้อมด้วยครอบครัว ญาติพี่น้อง ได้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษว่า นายสุรัตน์ ศรปัญญา อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นพ่อของพวกตนได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทั้งที่พ่อของพวกตนมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงไม่ได้มีอาการป่วยไข้มาก่อนเลย แต่เมื่อพ่อไปฉีดวัคซีนเข็มแรกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้พ่อของตนมีอาการป่วยไข้และเสียชีวิตในเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น โดยได้นำเอาหลักฐานการฉีดวัคซีนเข็มแรก และเอกสารต่างๆ มาแสดงให้สื่อมวลชนได้ทราบด้วย
 
นายทนงศักดิ์ ศรปัญญา อายุ 46 ปี กล่าวด้วยน้ำตาว่า นายสุรัตน์ ศรปัญญา อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นพ่อของพวกตนปกติมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาก ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 64 พ่อของตนได้ไปฉีดวัคซีนเข็มแรกที่ รพ.สต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นก็ได้ทำงานบ้านทุกอย่างตามปกติ ต่อมาวันที่ 29 ต.ค. พ่อมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเป็นไข้เหมือนกับไม่สบาย จึงได้บอกกับภรรยาของตนซึ่งลูกสะใภ้ว่าไม่สบายเป็นไข้ พอตอนเย็นของวันที่ 29 ต.ค. พ่อได้มากินข้าวตอนเย็นก็ได้อาเจียนเจ็บปวดท้องมาก พวกตนจึงได้รีบนำตัวพ่อส่งไปยัง รพ.กันทรารมย์ หลังจากนั้นแพทย์ได้ทำการรักษาพยาบาลโดยได้ส่งตัวพ่อไปนอนพักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยชาย จนถึงเช้าของวันที่ 30 ต.ค. ก็รอให้หมอมาตรวจตอนเช้า ประมาณ 09.00 น.พ่อได้ปัสสาวะครั้งแรก แต่พอประมาณ 10.00 น.พ่อเริ่มปัสสาวะและอุจจาระไม่ออก จากนั้นพ่อเริ่มร่างกายอ่อนแรงพยาบาลได้ทำการเจาะเลือดเพื่อนำเอาไปตรวจดู เพื่อเตรียมส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ จนถึงเวลาประมาณ 12.30 น. ทางโรงพยาบาลได้นำรถมารับตัวพ่อซึ่งขณะนั้นร่างกายอ่อนแรงมาก แต่พอนำตัวพ่อขึ้นรถแล้วแพทย์พยาบาลเห็นว่าร่างกายพ่ออ่อนแรงมากจึงได้นำตัวเอาลงมาปั๊มหัวใจที่เตียงนอน
 
จากนั้น ได้นำพ่อขึ้นรถพยาบาลเพื่อเดินทางไปที่ รพ.ศรีสะเกษแต่พอถึงกลางทางปรากฏว่าพ่อหัวใจหยุดเต้นจึงได้นำตัวพ่อกลับมาที่ รพ.กันทรารมย์อีกครั้ง เพื่อทำการปั๊มหัวใจเป็นครั้งที่ 2 หลังจากนั้นจึงได้นำตัวพอขึ้นรถโรงพยาบาลออกไปอีกเป็นครั้งที่ 3 เพื่อไปส่งที่ รพ.ศรีสะเกษแต่ระหว่างทางหัวใจของพ่อก็หยุดเต้นอีกแพทย์พยาบาลก็ได้ทำการปั๊มหัวใจฟื้นขึ้นมาอีกจนถึง รพ.ศรีสะเกษ พ่อก็ได้รู้สึกตัวขึ้นมาแพทย์ได้นำเข้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งแพทย์พยาบาล รพ.ศรีสะเกษก็ได้ช่วยกันรักษาพยาบาลคุณพ่ออย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากพ่อร่างกายอ่อนแรงมาก ทางแพทย์พยาบาลแจ้งว่าคุณพ่ออาการหนักมากตั้งแต่อยู่ที่ อ.กันทรารมย์แล้ว จนมาถึงที่ รพ.ศรีสะเกษ จึงได้แจ้งว่า 80% คุณพ่อคงจะไม่รอด อีก 20% ก็แค่เป็นยากระตุ้นหรือออกซิเจนที่ช่วยชีวิตพ่อเท่านั้น จะให้ถอดเครื่องเพื่อให้คุณพ่อไปสบายหรือไม่อย่างไร ตนจึงได้แจ้งว่าให้รอคุณแม่ก่อนเมื่อคุณแม่มาถึงก็ได้พูดคุยกับคุณหมอ จากนั้นคุณพ่อได้เสียชีวิตเมื่อเวลา 01.44 น.ของวันที่ 31 ต.ค. 2564 ทำให้ตนและครอบครัวญาติพี่น้องทุกคนเสียใจมากที่พ่อของตนเสียชีวิตอย่างกะทันหันแบบนี้
 
นายธนกฤต ศรปัญญา อายุ 42 ปี กล่าวว่า ปกติแล้วพ่อของตนเป็นผู้ที่ร่างกายแข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัว การที่ร่างกายพ่อมีการเปลี่ยนแปลงก็เนื่องมาจากการฉีดวัคซีนจึงทำให้พ่อของตนเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน พวกตนจึงขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องว่า ขอให้มีการตรวจสอบพิสูจน์การเสียชีวิตของพ่อพวกตน อย่างน้อยก็เป็นการชดเชยที่พ่อของตนต้องเสียไปอย่างกะทันหัน หากพ่อของตนไม่ฉีดวัคซีนก็คงไม่เสียชีวิต ซึ่งแพทย์ลงความเห็นสาเหตุของการเสียชีวิตว่า ติดเชื้อในกระแสโลหิต แต่ตนขอยืนยันว่า พ่อของตนเสียชีวิตเนื่องจากการฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 เข็มแรก พวกตนจึงต้องการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ให้การช่วยเหลือเรื่องนี้ เพื่อที่จะขอความเป็นธรรมอย่างน้อยก็เพื่อที่จะเรียกร้องค่าเยียวยาหรืออะไรต่างๆ ที่พ่อของตนสมควรจะได้รับ ตนขอยืนยันว่าพ่อของตนเสียชีวิตเพราะวัคซีนที่ซิโนแวคที่พ่อฉีดเข็มแรกไปเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 อย่างแน่นอน
 
ทางด้าน นพ.อดุลย์ โบจรัส ผอ.รพ.กันทรารมย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ นายสุรัตน์ ศรปัญญา ซึ่งการเสียชีวิตของนายสุรัตน์ ศรปัญญา น่าจะเป็นเหตุประจวบเหมาะ เพราะว่า นายสุรัตน์ อายุมากแล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ตนยังไม่ได้รับรายงาน จะต้องรอผลการสอบสวนสาเหตุของการเสียชีวิตเสียก่อนจึงจะทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของนายสุรัตน์ เพื่อจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
 

 
ผลวิจัยชี้ฉีด "วัคซีนโมเดอร์นา" ครบ2เข็ม ป้องกันเชื้อโควิดกลายพันธุ์ได้ 6 เดือน
https://www.tnnthailand.com/news/covid19/95838/
 
โมเดอร์นา เผยผลวิจัยถึงประสิทธิภาพ ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม สามารถป้องกันเชื้อโควิดกลายพันธุ์ได้ 6 เดือน นับจากเวลาที่ได้รับวัคซีนเข็ม 2
 
วันนี้ (7พ.ย.64) เว็บไซต์ของโมเดอร์นา รายงานข้อมูลผลงานวิจัยฉบับใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของวัคซีนโมเดอร์นาที่มีต่อการคงระดับอยู่ของระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดีประเภทยับยั้งเชื้อต่อเชื้อไวรัสโควิดในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวล (VOCs) โดยต้นฉบับที่แสดงข้อมูลผลงานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Science
 
จากรายงานพบว่า ในบุคคลส่วนใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา มีระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดีทั้งประเภทจับกับแอนติเจนของเชื้อโควิดและภูมิคุ้มกันแอนติบอดีประเภทที่ทำหน้าที่ยับยั้งเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่างๆ คงอยู่ได้นานเป็นเวลา 6 เดือน นับจากเวลาที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2
 
นอกจากนี้แล้ว ข้อมูลเหล่านี้ยังเป็นการสนับสนุนถึงประสิทธิภาพที่ทนทานในระดับ 93% ของวัคซีนโมเดอร์นา ตลอดระยะเวลา 6 เดือน คาดว่าข้อมูลเหล่านี้และการเพิ่มขึ้นของข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของวัคซีนเมื่อถูกนำมาใช้จริงจะเป็นการช่วยหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านสุขภาพในการกำหนดแนวทางทั้งในด้านวิธีการและเวลาที่เหมาะสมสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
 
การศึกษาฉบับนี้มีการใช้วิธีวิเคราะห์ที่หลากหลายและแสดงให้เห็นว่าหลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา ครบ 2 เข็ม มีการผลิตขึ้นของภูมิคุ้มกันแอนติบอดีทั้งประเภทที่จับกับแอนติเจนของเชื้อโควิดและประเภทยับยั้งเชื้อโควิดทั้งต่อเชื้อโควิดสายพันธุ์บรรพบุรุษเอง รวมไปถึงต่อเชื้อโควิดสายพันธุ์ที่น่ากังวล (VOCs) อันได้แก่ อัลฟา (Alpha), เบตา (Beta), แกมมา (Gamma), เดลตา (Delta), เอปซิลอน (Epsilon) และไอโอต้า (Iota)
 
แม้ว่าจะมีการลดระดับลงของภูมิคุ้มกันแอนติบอดีเมื่อเวลาผ่านไป แต่ก็พบว่า อาสาสมัครผู้เข้าร่วมวิจัยส่วนใหญ่มีระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดีที่ยังอยู่ในระดับที่ตรวจวัดได้แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 6 เดือน ภายหลังจากการฉีดวัคซีนครบก็ตาม
 

 
สิบล้อฮึ่มลุงตู่เมินฝันดีเซล25บ.
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_227678/
   
จับสัญญาณท่าที่รัฐบาลนายกฯลุงตู่ กับ ดีเซลที่ 25 บาทต่อลิตร ดูจะเป็นเพียงแค่ฝัน
 
นั่นเพราะผ่านมาแล้ว 14 วัน กับรถบรรทุกเฉียดหมื่นคันหยุดวิ่งรับส่งสินค้า เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลพยุงดีเซล 25 บาท แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าจากรัฐบาลเลยมีเพียงแค่ลมปากตอกย้ำ ตรึงดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร โดยใช้กลไลกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ปัจจุบันมีเงินอยู่ประมาณ 7 พันล้านบาท สมทบกับเงินกู้ 2 หมื่นล้านบาท เข้ามาพยุงราคา
 
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถาม ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย “นายทองอยู่ คงขัน” กับท่าทีของสิงห์รถบรรทุก นับจากนี้จะเปิดเกมรุก ยกระดับกดดันรัฐบาลอย่างไรต่อไป เพื่อให้ได้ตามข้อเรียกร้อง โดยนายทองอยู่ ระบุว่า การออกมาเคลื่อนไหวแสดงพลังในกิจกรรม Truck Power ครั้งที่ 2 มีให้เห็นอย่างแน่นอน พร้อมมองว่า รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงพลังงานไม่จริงใจที่จะทำให้ราคาดีเซลถูกลงมาอยู่ที่ 25 บาทต่อลิตร เห็นได้จากได้มติกบง.ที่กลับไปกลับมาและย้ำว่า ทางสหพันธ์ก็พร้อมที่หารือกับรัฐบาลเพื่อหาทางออกร่วมกัน
 
นอกจากนี้ ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบก ยังได้กล่าวถึงมติกพช.ที่ล่าสุดเห็นชอบลดเงินส่งเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 5 สต.ต่อลิตร จากเดิมที่จัดเก็บอยู่ที่ 10 สต.ต่อลิตรด้วยว่า ไม่ตอบโจทย์ที่จะทำให้ราคาน้ำมันถูกลง
 
พร้อมกันนี้ นายทองอยู่ มองว่า สิ่งสำคัญของรัฐบาลในเวลาก็คือ การดูแลประชาชนไม่ให้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน ซึ่งถ้ารัฐบาลห่วงแต่รายได้เพียงอย่างเดียว ไม่ห่วงทุกข์สุขของประชาชน เชื่อแน่ว่า รัฐบาลก็จะมีปัญหาในอนาคต และก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในที่สุด
จากนี้ต่อไปคงต้องจับตาท่าทีของรัฐบาลกับนโยบายด้านพลังงานอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับราคาน้ำมัน เพราะนี่คือปัจจัยที่ถูกเชื่อมโยงกับคะแนนนิยมรัฐบาลนั่นเอง
  
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่