รีวิวเรือนจำกลางเชียงใหม่

ก่อนอื่นเลยผมพึ่งออกจาก เรือนจำกลางเชียงใหม่ได้สองเดือนล่ะ วันนี้ผมจะมารีวิวการเข้าไปอยู่และการใช้ชีวิตภายในเรือนจำมาฝากอยากบอกว่าไม่เหมือนอย่างที่เคยเจอในทีวีแน่นอนครับ

เริ่มกันเลยดีกว่า ผมโดนข้อหาในคดีฉ้อโกงประชาชน(ไม่ขอบอกรายล่ะเอียดคดีนะคับ) ผมโดนให้เข้าไปอยู่ในเรือนจำเนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว ผมออกจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ สู่เรือนจำกลางเชียงใหม่ เวลา 17.00 น. ไปถึงก็ประมาณ 18.30 น. ไปถึง รถก็เข้าไปจอที่ประตูเรือนจำเมื่อรถจอดสนิท ทางเราก็ลงจากรถของทางเรียนจำ อ่อลืมบอกไปทางเรานั่งไปกับคนอื่นๆที่ต้องไปเรียนจำประมาณ 8 คน พอไปถึงผู้คุมที่เฝ้าประตูแรกจะออกมารับเรา รับยังไงนะหรอ เขาจะสั่งให้พวกเราทั้งหมด แก้ผ้าออกไม่ให้เหลือซักชิ้น เป็นชีเปลือยไปเลย จากนั้นเขาก็จะให้เรา ลุกนั่งประมาณสิบครั้งและตรวจดูเสื้อผ้า และ ร่างการเรา พอหลังจากเสร็จประตูแรก คราวนี้ก็เขาสู่เรือนจำ ประตูเปิดออกเราก็เข้าไปสู้ประตูที่สอง เหมือนกันครับ แก้ผ้าทั้งหมด ตรวจดูเสื้อผ้าร่างกาย ลุกนั่งเหมือนประตูแรกเลย แต่นี่เพิ่มมาคือ ถ่ายรูปซักประวัติ คดี จากนั้นก็ตรวจโควิด (อ่อลืมไปว่า เขาต้องมีการตรวจโควิดก่อนที่จะเข้าในแดนนะครับ เพราะว่าในเรือนจำมีอยู่ช่วงหนึ่ง นักโทษติดเกือบหกพันกว่าคน แต่ข่าวออกติดแค่ พันกว่า เอาง่ายๆ ติดทั้งเรือนจำอะ) หลังจากเสร็จอะไรหมดแล้วทีนี้ก็เข้าสู้แดน วันแรกผมได้เข้าไปอยู่ที่แดน 2 ซึ่งคือแดนที่เราต้องกักโควิด ที่ๆเราได้กักคือเป็นเรือนนอนของแดน 2 ซึ่งจะมีผู้ต้องขังอยู่ก่อนหน้านั้นประมาณ สิบกว่าคนแล้ว เราก็เข้าไปซักพักก็จะมีคนนำข้าวมาให้เรากินและ หลังจากกินเสร็จเราก็ต้องอาบน้ำ แล้ว ก็นอน อ่อ น้ำในเรือนจำอยากบอกเลยว่า เขาปล่อยออกมาเป็นเวลามากบาง น้ำดื่ม กับ น้ำอาบ น้ำในส้วม คืออันเดียวกันหมด ถ้าบางวันน้ำไม่ไหล หรือไหลช้าก็ต้องกินน้ำจากในส้วมนั้นแหละครับ วันถัดมาวันที่สองเราจะตื่น เจ็ดโมง เพื่อทานข้าว ทานเสร็จ ก่นอนบ้างคุยบ้างตามอัธยาศัย ข้าวกลางวัน+ของหวาน เที่ยง ข้าวเย็น บ่ายสามโมง คือจบ ไม่มีมื้อต่อไปแล้ว ขนนไม่มีทาน  เป็นแบบนี้หนึ่งอาทิตย์เต็มๆเป็นประจำวนไปวนมา พอครบหนึ่งอาทิตย์ เราเตรียมตัวย้ายแดนซื่อเราจะไปแดน 4 ซึ่งจากที่ฟังคนที่เคยดิตมาก่อนล่ะมาติดอีกรอบ ก็เหมือนจะดีนะ มีการร้านขายของ มีทีวีให้ดูเราก็โอเคยังดีกว่าต้องมากักตัวแบบนี้ หลังจากทางข้าวเย็นเสร็จ อาบน้ำเสร็จ ห้าโมงเตรียมตัวย้ายเเดน ซึ่งไม่ใช่ห้องเราห้องเดียวที่ย้าย มีอีกห้องที่ย้ายไปกับเราด้วย หลังจากที่เรียนชื่อตรวจสัมภาระอะไรเสร็จเรียนร้อยหมดแล้ว ตอนนี้เราก็มุ่งหน้าไปสู่ยังแดน 4 พอถึงแดน 4 เราก็ต้องมานั่งรอให้เขาเช็คชื่ออีก ล่ะจากที่ฟังคนเก่าเล่ามาเขาจะให้เรากระจายไปอยู่ตามห้องต่างๆ (เราลืมบอกไปว่าเรายังไม่ได้ตัดสินคดีนะ เรารอพบทนายก่อนจะตัดสิน) ในใจก็นึกว่ามาอยู่แดน 4 ละจะสบายที่ไหนได้ เหมือนกับแดน 2 เลยโดนกักโควิด แต่ที่แดนนี้นานหน่อยโดนกักตั้ง 21 วัน เหมือนเดิมเลย ตื่น ทานข้าว อาบน้ำ การปล่อยน้ำ เหมือนกับแดน 2 เลย แต่ที่เพิ่มมาคือ นับยอด ยิ้มงง สามชั่วโมงนับครั้ง ครั้งแรก หกโมง สายๆ มาหน่อยก็ เก้าโมง บ่ายโมง สี่โมงสองทุ่ม ถึงหยุดนับ นับอยู่นั้นแหละกลัวหายมากรึไง จะไปไหนได้ ในห้องเรามีทั้งหมด 54 คน คือนอนเบียดๆกันนั้นแหละ ผ้าห่มสามผืนแล้วแต่ว่าใครจะเอาไปทำอะไร เราโดนกักตัว 21 วันได้กินแต่ ข้าวกับน้ำ ข้าวก็ถาดเดียว จบ ไม่อิ่มก็ต้องอิ่ม จนบางทีต้องขายเสื้อขายกางเพื่อแลกกับมาม่า ซึ่งปกติแล้วเขาจะไม่ให้ติดต่อหรือส่งของให้กับผ็ที่กักโรคแต่นี่ให้คนดูแลแอบๆเอามาให้ถึงจะได้กินมาม่า มาม่าซองเดียวกินกัน 5-6 เลย คนล่ะคำสองคำ บาางทีมาม่าหมดก็กินพริกมาม่า พอประทังหิวได้  บอกเลยว่าน้ำหนักเราจาก 67 เหหลือ 55 ภายใน 21 วัน ไม่เห็นแสงแดด ไม่เห็นกลางคืนว่าเป็นยังไง ผมลืมบอกไปว่าเวลานอนเขาจะเปิดไฟนอนเขาจะไม่ปิดไป ทุกวันจะเห็นแต่แสงของหลอดไป กับลมของพัดลมเท่านั้น และอากาศคือ โคตรๆๆๆๆๆร้อนเลย ครบ 21 วันแล้ว ได้เวลาที่จะลงมาเจอว่าการใช้ชีวิตในเรือนจำเป็นยังไง หลังจากที่เราลงมา ใช่ว่าเราจะได้อยู๋กับคนอื่นๆที่อยู่ก่อน ไม่เลย เขาจะมีห้องที่เรียนกว่า แรกรับ ซึ่งเอาไว้สำหรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ต้องมาอบรม เรียนรู้กฎระเบียบ เรียนร็ว่าการใช้ชีวิตเราเป็นยังไง 7 วัน และอีก 7 วันคือ การฝึกแถว เหมือนการฝึกแถวของทหารเลย เวลาขึ้นห้องก็สามโมงครึ่ง แต่แรกรับยังดีหน่อยเรายังสามารถซื้อขนมซื้ออะไรกินได้อยู๋ อยากบอกว่าอาหารในนั้น รสชาติคือไม่ได้เรื่องเลย หนึ่งเดือนเขาจะมีรายการอาหารที่ทางเรือนจำวางไว้แล้ว อาหารก็จะวนเวียนอยู่อย่างนั้นแหละทุกครึ่งปีจะเปลี่ยนเมนูทีหนึ่ง ทำไงได้ล่ะก็ต้องมีวิธีทำให้อิ่มนั้นก็คือ มาม่าปลากระป๋อง และอาหารที่ทางเรือนจำเขาเอามาขาย(ร้านข้างนอกอร่อยมากๆๆๆ) มาม่าเรายังเอา ต้มกับน้ำเย็นคือแช่กับน้ำเย็น ล่ะมากินกับข้าว ไม่ก็มาม่าดิบกับข้าว ซึ่งอร่อยมากในตอนนั้น ที่นี่เขาจะมีวันหยุดคือ เสาร์ อาทิตย์ และนัดขัต ซึ่งจะฟรีเดย์มาก เขาจะเอาทีวีมาให้พวกเราดูไม่ต้องอบรม ไม่ต้องฝึกใดๆ ซึ่งเราชอบมาก เป็นแบบนี้จนครบ 14 วันหลังจากที่ครบ 14 วันแล้วถึงเวลาที่เราจะต้องออกมาใช้ชีวิตข้างนอกซ่ะที แต่ดูๆแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรจากแรกรับลเท่าไหร่นะ ต่างแค่ ได้เดินไปเดินมาได้มีอิสระบ้างเท่านั้นเอง แต่มันก็ไม่เชิงว่าจะอิสระเสมอไป ในตอนที่เข้าไปเป็นช่วงโควิดไม่ค่อยมีอะไรทำ ถ้าเป็นปกติเขาจะให้เราทำงาน สานเข่งบ้าง แกะลำใยบ้าง เย็บผ้าบ้าง หรือไม่ก็บางคนที่ไม่อยาดไปอยู่แดนนอื่นก็ต้องหาหน่วยงานอยู่ ถึงจะไม่ถูกย้ายแดน ในการทานข้าวการขึ้นห้องอะไรก็เหมือนกับแรกรับ แต่การนับยอด คือ หกโมงเช้า กับ สองทุ่ม สามทุ่มคือนอนทุกอย่างอยู่ในความเงียบทั้งหมด อ่อลืมบอกการอาบน้ำ ที่นี่จะต้องอาบน้ำทีหนึ่งก็ประมาณ ครั้งล่ะ 20-30 คนต่อครั้งและต้องแก้ผ้าอาบทั้งหมด เห็นของกันและกันหมดไม่มีใครอาบ เข้าห้องน้ำเหมือนกัน ห้องน้ำจะไม่มีประตูความสูงของห้องน้ำแค่หัวเขาคือจะขี้จะเยี่ยวก็เห็นหมดห้องน้ำมีประมาณสิบกว่าห้อง ส่วนเรือนนอนแต่ล่ะห้องจะนอนเบียดกันห้องล่ะ 40-60  คนเลยทีเดียว การเปิดปิดน้ำ ก็เป็นเวลา ทั้งน้ำดื่ม ทั้งน้ำในห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ เสาร์อาทิตย์ นักขัด วันหยุดก็ดูทีวี ไม่มีอะรไพิเศษ ขึ้นห้องนอน บ่ายสามครึ่งทุกวัน ดึกๆมาอย่างหิวเลย เป็นนี้ตลอดถึง สองเดือนเลย จนถึงวันที่ศาลตัดสิน ให้เราลงอาญา 2 ปีเราจึงพ้นจากเรือนจำนั้นได้ แต่คดีมันยังไม่จบ รอดูในกระทู้ต่อไปนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นอีก ในส่วนของเรือนจำเชียงใหม่ก็มีเพียงเท่านี้และเชื่อว่าที่อื่นๆก็เป็นแบบนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่