กต.เบรก มธ.รับบริจาค "โมเดอร์นา" จากโปแลนด์ เหตุไม่ใช่การติดต่อแบบรัฐต่อรัฐ
https://ch3plus.com/news/category/263277
กระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือถึง อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เบรกการรับบริจาควัคซีน “โมเดอร์นา” จากโปแลนด์ ชี้ไม่ใช่การบริจาคแบบรัฐต่อรัฐ
นาง
จุฬามณี ชาติสุวรรณ อธิบดีกรมยุโรป ปฏิบัติราชการแทน ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ส่งถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา มีใจความระบุว่า
เรื่อง การนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา (บริจาค) จากโปแลนด์ มายังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เรียน อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อ้างถึง
1. หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ อว 67/ร1135 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2564
2. หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ อว 67/264 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2564
ตามหนังสือที่อ้างถึง
1. แจ้งว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้รับความร่วมมือจากองค์กร Rzadowa Agencia Rezerw Strategicznych (RARS) ของโปแลนด์ และว่ารัฐบาลโปแลนด์จะบริจาควัคซีน โมเดอร์นาให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงขอความอนุเคราะห์กระทรวงการต่างประเทศมอบหมายให้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ช่วยอำนวยความสะดวกตรวจสอบวัคซีน และร่วมกับหน่วยงานภาครัฐของโปแลนด์ในการจัดส่งวัคซีนดังกล่าวมายังประเทศไทย
และหนังสือที่อ้างถึง
2. ขอให้กระทรวงการต่างประเทศให้ความร่วมมือในการนำวัคซีนดังกล่าวเข้าประเทศไทย และมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ เป็นตัวแทนขอบคุณหน่วยงานภาครัฐของโปแลนด์ในการบริจาคดังกล่าว ความแจ้งแล้ว นั้น
กระทรวงการต่างประเทศขอเรียน ดังนี้
1. โดยที่การบริจาควัคซีนโมเดอร์นาจากโปแลนด์ข้างต้น ไม่ใช่การบริจาคในลักษณะรัฐต่อรัฐ โดยกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้รับแจ้งเรื่องการบริจาคดังกล่าวผ่านช่องทางการทูตอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์หรือสถานเอกอัครราชทูตโปแลนด์ประจำประเทศไทย จึงเห็นว่า การติดต่อโดยตรงระหว่างหน่วยงานผู้บริจาควัคซีนของโปแลนด์และหน่วยงานผู้รับบริจาควัคซีนในไทย จะเหมาะสมกว่า
2. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อาจพิจารณาหารือกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับกระบวนการนำวัคซีนดังกล่าวเข้าประเทศไทย รวมทั้งประเด็นอื่น ที่เกี่ยวข้อง เช่น ประเด็นการชดเชยความเสียหาย (indemnity) ฯลฯ
3. อนึ่ง ในการบริจาควัคซีน Astra Zeneca และวัคซีน Pfizer จากมิตรประเทศให้รัฐบาลไทยที่ผ่านมา บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต้องให้ความยินยอมด้วย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงอาจพิจารณาแนวปฏิบัติในการบริจาควัคซีนโมเดอร์นาในครั้งนี้โดยถี่ถ้วน เพื่อป้องกันการร้องเรียนจากฝ่ายใดในภายหลัง
แกนนำภาคธุรกิจเอสเอ็มอี แนะเลื่อนเปิดเมืองหัวหิน 1 พ.ย. ลดความเสี่ยงโควิดกลายพันธุ์
https://www.matichon.co.th/region/news_3009141
แกนนำภาคธุรกิจเอสเอ็มอี แนะเลื่อนเปิดเมืองหัวหิน 1 พ.ย. ลดความเสี่ยงโควิดกลายพันธุ์
วันที่ 25 ตุลาคม น.ส.
พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์ผู้ประกอบการ เอส เอ็ม อี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตกรรมการโครงการหัวหิน รีชาร์จ เปิดเผยว่า หลังจากมีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายวันในพื้นที่ อ.หัวหิน เกินจากหลักเกณฑ์ต่อสัดส่วนประชากรตามที่ ศบค.กำหนด เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การเปิดเมืองตามโครงการ “หัวหินรีชาร์จ” ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะต้องเลื่อนออกไปอีกระยะตามความเหมาะสม ที่สำคัญหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ควรชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการทุกภาคส่วน แจ้งข้อมูลให้ประชาชนรับทราบโดยเร็วเพื่อคลายความหวั่นวิตกตามแนวทางการควบคุมโรคในคลัสเตอร์ต่างๆ
น.ส.
พรระวี กล่าวว่า ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าความปลอดภัยของชีวิตมนุษย์จากโรคระบาดสำคัญกว่าทุกสิ่ง หากเปิดเมืองแล้วยังมีภาระความเสี่ยงกับเชื้อกลายพันธุ์จากต่างประเทศก็ต้องประเมินให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการ เอส เอ็ม อี และร้านค้าย่อยบอบช้ำไปมากกว่านี้ และส่วนตัวขอให้หน่วยราชการไปตรวจสอบตัวเลขผู้ฉีดวัคซีนใน อ.หัวหินให้ชัดเจน เนื่องจากยังมีประชาชนจำนวนมากต้องไปวอร์คอินฉีดวัคซีนโควิดที่ห้างสรรพสินค้า
นาย
วิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ. ประจวบคีรีขันธ์พี่ชายนาย
เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะนายกสมาคมอุตสาหกรรมสับปะรดไทย กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านสาธารณสุขสามารถควบคุมคลัสเตอร์การระบาดของเชื้อโควิด 19 ใน 4 โรงงานแปรรูปผลไม้กระป๋อง ที่ ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรีได้ทั้งหมด สถานการณ์โดยภาพรวมไม่น่ากังวล ไม่มีผลกระทบกับประชาชนรอบพื้นที่ โรงงานแปรรูปผลไม้กระป๋องทุกแห่งยังคงรับซื้อสับปะรดและว่านหางจระเข้ จากชาวไร่นำไปผลิตเพื่อส่งออกตามปกติ ไม่มีผลกระทบกับกลไกราคา แม้ว่าทุกโรงงานจะลดการซื้อวัตถุดิบจากช่วงปกติเพียงเล็กน้อย หลังจากมีแรงงานชาวเมียนมาร์และพนักงานคนไทยติดเชื้อโควิด 19 กว่า 300 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ รักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม
นาย
วิรัช กล่าวว่า พนักงานทั้ง 4 โรงงานมีกว่า 1500 คน ที่ผ่านมาได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วทุกคน สาเหตุที่ทำให้คนงานในโรงงานติดเชื้อยอมรับว่ามาจากปัจจัยภายนอกเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่มีผู้ประกอบการโรงงานแห่งใดต้องการให้มีโรคระบาดเกิดขึ้น ส่วนมาตรการป้องกันหลังจากนี้หากเป็นแรงงานเมียนมาร์ที่อาศัยในหอพัก จะให้ทำงานในโรงงานแล้วกลับไปอาศัยในหอพัก จากนั้นโรงงานจะสนับสนุนอาหารครบ 3 มื้อ ส่วนพนักงานคนไทยได้มอบถุงยังชีพเพื่อเยียวยาผลกระทบ และต่อไปคนงานทุกแผนกต้องได้รับการตรวจหาเชื้อจาก ATK ทุกสัปดาห์
พิธา เล่าเรื่องภาคใต้ ลั่น หลายพรรคสู้ด้วยอดีต แต่ก้าวไกลขอชนะใจคนใต้ด้วยเรื่องอนาคต
https://www.matichon.co.th/politics/news_3008956
พิธา เล่าเรื่องภาคใต้ ลั่น หลายพรรคสู้ด้วยอดีต แต่ก้าวไกลจะสู้ด้วยอนาคต
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล เขียนข้อความทางเฟซบุ๊ก เล่าเรื่อง ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ภาคใต้ ระบุว่า
ว่าด้วยยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคใต้: หลายพรรคสู้ด้วยอดีต แต่เราจะสู้ด้วยอนาคต
หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า พี่ต๋อม
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล คนที่เป็นมันสมองของพรรคมาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ต่อเนื่องมาจนถึงพรรคก้าวไกล เป็นคนใต้ เกิดและเติบโตที่จังหวัดสงขลา ตลอดทั้งเส้นทางการตะลุยภาคใต้ของพวกเราในอาทิตย์ที่ผ่านมาจึงเต็มไปด้วยเรื่องเล่าและความฝันเกี่ยวกับภาคใต้ของพี่ต๋อม
พี่ต๋อมเล่าว่า “เรามีความเชื่อความภาคภูมิใจว่าภาคใต้ของเราเจริญกว่าภาคอื่นๆ ซึ่งก็ไม่ผิดนักหรอกเพราะเมื่อ 30 ปีที่แล้วภาคใต้ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทำให้เราหาทรัพย์จากดินได้เป็นจำนวนมาก ปัญหาคือ 30-40 ปี มานี้นอกจากการตัดถนนที่เพิ่มขึ้นแล้วภาคใต้แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ทุกอย่างเหมือนหยุดอยู่กับที่ 30 ปีก่อนเป็นอย่างไรวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น”
“แต่ก่อนกรีดยางแล้วถูกกดราคากันอย่างไรวันนี้ก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น เทคโนโลยีการแปรรูปยางที่ควรจะมีเพื่อให้เกษตรกรสามารถขายยางได้ในราคาที่สูงขึ้น แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเพราะเหล่าเสือนอนกินพยายามกีดกันทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้โรงงานแปรรูปยางเกิดขึ้น ปาล์มที่ชีวิตเกษตรกรอยู่ในกำมือของรัฐบาล มังคุดที่ราคาตกทุกปี และการท่องเที่ยวที่งบประมาณและแนวคิดในการส่งเสริมอยู่ในกำมือรัฐส่วนกลาง ไม่ได้มาจากคนในพื้นที่ แต่มาจากนักรบห้องแอร์ที่กรุงเทพฯ”
“เราอาจจะติดอยู่กับความเจริญรุ่งเรืองในอดีตมากจนเกินไป ไม่กี่ปีก่อนตอนผมพาแม่ไปอีสานแม่ผมตกใจพอสมควรที่อีสานเจริญขนาดนี้ ผมเลยต้องบอกแม่ว่าอีสานเองก็ไม่ได้พัฒนามาสักพักแล้วเหมือนกัน คุณลองคิดดูแล้วกันว่าความเชื่อว่าบ้านเราเจริญที่สุดมันฝังลึกขนาดไหน ขนาดภาคอีสานที่ไม่ได้พัฒนาอย่างเห็นได้ชัดมาสักพักแล้วยังทำให้แม่ผมตกใจได้”
“ปัญหาก็คือโลกพัฒนาไปข้างหน้าใน pace ที่ไวมากๆ เราที่หยุดอยู่กับที่มา 30 ปี ในขณะที่คนอื่นอย่าเรียกว่าเดิน เรียกว่าวิ่งไปข้างหน้าน่าจะถูกกว่า ไม่ต้องเทียบกับประเทศอื่นก็ได้ เอาแค่ภาคอื่นของประเทศก็พอ หากไม่ทำอะไรสักอย่างกับบ้านเกิดของเรา อีกไม่นานภาคใต้ต้องแย่จนยากจะฟื้นอย่างแน่นอน เพราะเราตามโลกที่กำลังพัฒนาไปข้างหน้าไม่ทัน ปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคใต้มาตลอด 30-40 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถที่จะพาภาคใต้ไปต่อได้อีกแล้ว อย่างมากเราอาจจะลากต่อไปได้อีกสัก 4-5 ปี แต่นั่นล่ะ หลังจากที่ถูลู่ถูกังลากกันไปเสร็จแล้วคนที่ต้องแบกรับความล้มเหลวทุกอย่างเอาไว้ก็จะเป็นคนรุ่นถัดไป”
แต่พี่ต๋อมก็เชื่อว่าเรายังมีความหวัง พี่ต๋อมมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ พรรคก้าวไกลจะมี ส.ส. มากพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับภาคใต้และประเทศไทยได้
เพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทุกพรรคเฟ้นหาตัวผู้สมัคร ส.ส. ภาคใต้ โดยดูจากนามสกุล ขอให้ได้เป็นเครือญาตินักการเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น หรือนักการเมืองระดับชาติ ไล่ตั้งแต่ อบต อบจ ส.ส. ส.ว. สุดแล้วแต่ว่าพรรคไหนจะไปดูดนามสกุลใครมาได้
ทุกพรรคต่างสู้ศึกภาคใต้กันด้วยอดีต อดีตที่ผูกติดกับนามสกุล
“เราคงไม่ไปเล่นเกมแย่งชิงตัวนักการเมืองเก่าหรือลูกหลานนักการเมืองเก่าเพื่อดึงตัวมาทำงานทางการเมืองกับเราแน่ๆ เพราะสิ่งที่เราพยายามตามหาไม่ใช่นามสกุลดัง แต่คือคนที่มีอุดมการณ์และความฝันเดียวกันกับเรา
เราจะไม่สู้ด้วยอดีต เราจะสู้ด้วยอนาคต และเรามั่นใจว่ามีคนจำนวนมากที่รู้และเข้าใจว่าเราไม่สามารถย้อนกลับไปในอดีตได้อีกแล้ว
แต่มันไม่ง่ายหรอก ในระดับหนึ่งเราต้องเชื่อใจคนที่ตื่นแล้วว่าเขาจะยังไม่ยอมแพ้และกลับไปช่วยกันปลุกคนที่บ้านให้ตื่น ไม่มีวิธีไหนที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว เราจะตื่นคนเดียวไม่ได้ เราทุกคนมีหน้าที่ต่ออุดมการณ์ ความฝัน และขบวนการเปลี่ยนแปลง”
สิ่งที่พี่ต๋อมพูดไว้ด้านบนทั้งหมดเป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้ตลอดการเดินทางของพวกเรา
ในระหว่างทางเราได้พบปะพูดคุยกับคณะทำงานจังหวัดเป็นจำนวนมาก ตอนแรกเราคิดว่าเราคงจะถูกคณะทำงานในภาคใต้ตำหนิที่เราไม่ค่อยมีเวลาลงมาพบปะพูดคุยกับพวกเขา หรือไม่คณะทำงานอาจจะมีข้อเรียกร้องขอให้เราสนับสนุนพวกเขาในด้านต่างๆ ก่อนลงมาภาคใต้เราทำใจกันไว้พอสมควรว่าโดนต่อว่า โดนวิพากษ์วิจารณ์หนักแน่นอน
แต่ไม่เลย ไม่มีใครอยากได้อะไรแบบนั้นจากเรา ทุกคนเข้าใจว่าที่ผ่านมาเราใช้เวลาทั้งหมดไปเพื่อพิสูจน์ตนเองในสภา พิสูจน์ว่าต่อให้เขาเอาธนาธร ปิยบุตร ออกไป แต่อุดมการณ์อนาคตใหม่ก็ยังดำรงอยู่และยังคงเดินหน้าต่อ กลับกันสิ่งที่คณะทำงานจังหวัดเรียกร้องจากเรา คืออยากให้เราสู้มากกว่านี้ ชนกับต้นตอของปัญหามากกว่านี้ ทุกคนมองไปข้างหน้า บทสนทนามีแต่เรื่องอุดมการณ์การต่อสู้
คุณยายคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยงานคณะทำงานจังหวัดบอกกับผมว่าที่ยายมาเข้าร่วมการต่อสู้นี้ สุดท้ายยายคงอยู่ไม่ทันได้เห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ที่ยายต้องมาช่วยเพราะเวลาของยายเหลืออยู่มากแล้ว พี่ต๋อมได้ยินประโยคนี้แล้วถึงกับน้ำตาไหล นี่ไม่ใช่เพียงพรรคการเมืองแล้ว มันคืออุดมการณ์การเปลี่ยนแปลง
ตลอดการเดินทางลงสู่ภาคใต้ เราสัมผัสได้ถึงความโหยหาความเปลี่ยนแปลงที่คุกรุ่นในทุกหย่อมหญ้า เจตจำนงอนาคตใหม่ วิถีก้าวไกลที่พรรคประกาศไว้ที่ขอนแก่น สะท้อนมาไกลถึงร้านติ่มซำที่สุราษฎร์ธานี นาข้าวบนเกาะกลางที่กระบี่ สวนยางที่ตรัง ไปจนถึงสวนมังคุดที่นครศรีธรรมราช คำประกาศของพรรคก้าวไกลว่าเราจะปลดปล่อยศักยภาพของประเทศให้หลุดพ้นจากคำสาปห้ามพัฒนาด้วยการชนกับช้างรัฐราชการรวมศูนย์ และเสือนอนกินที่ได้ประโยชน์จากความไม่เปลี่ยนแปลง
JJNY : กต.เบรกมธ.รับบริจาค"โมเดอร์นา"จากโปแลนด์│แนะเลื่อนเปิดหัวหิน1พ.ย.│พิธาเล่าเรื่องภาคใต้│7วันข้างหน้า ตกหนักทั่วปท.
https://ch3plus.com/news/category/263277
กระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือถึง อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เบรกการรับบริจาควัคซีน “โมเดอร์นา” จากโปแลนด์ ชี้ไม่ใช่การบริจาคแบบรัฐต่อรัฐ
นางจุฬามณี ชาติสุวรรณ อธิบดีกรมยุโรป ปฏิบัติราชการแทน ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ส่งถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา มีใจความระบุว่า
เรื่อง การนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา (บริจาค) จากโปแลนด์ มายังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เรียน อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อ้างถึง
1. หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ อว 67/ร1135 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2564
2. หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ อว 67/264 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2564
ตามหนังสือที่อ้างถึง
1. แจ้งว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้รับความร่วมมือจากองค์กร Rzadowa Agencia Rezerw Strategicznych (RARS) ของโปแลนด์ และว่ารัฐบาลโปแลนด์จะบริจาควัคซีน โมเดอร์นาให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงขอความอนุเคราะห์กระทรวงการต่างประเทศมอบหมายให้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ช่วยอำนวยความสะดวกตรวจสอบวัคซีน และร่วมกับหน่วยงานภาครัฐของโปแลนด์ในการจัดส่งวัคซีนดังกล่าวมายังประเทศไทย
และหนังสือที่อ้างถึง
2. ขอให้กระทรวงการต่างประเทศให้ความร่วมมือในการนำวัคซีนดังกล่าวเข้าประเทศไทย และมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ เป็นตัวแทนขอบคุณหน่วยงานภาครัฐของโปแลนด์ในการบริจาคดังกล่าว ความแจ้งแล้ว นั้น
กระทรวงการต่างประเทศขอเรียน ดังนี้
1. โดยที่การบริจาควัคซีนโมเดอร์นาจากโปแลนด์ข้างต้น ไม่ใช่การบริจาคในลักษณะรัฐต่อรัฐ โดยกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้รับแจ้งเรื่องการบริจาคดังกล่าวผ่านช่องทางการทูตอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์หรือสถานเอกอัครราชทูตโปแลนด์ประจำประเทศไทย จึงเห็นว่า การติดต่อโดยตรงระหว่างหน่วยงานผู้บริจาควัคซีนของโปแลนด์และหน่วยงานผู้รับบริจาควัคซีนในไทย จะเหมาะสมกว่า
2. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อาจพิจารณาหารือกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับกระบวนการนำวัคซีนดังกล่าวเข้าประเทศไทย รวมทั้งประเด็นอื่น ที่เกี่ยวข้อง เช่น ประเด็นการชดเชยความเสียหาย (indemnity) ฯลฯ
3. อนึ่ง ในการบริจาควัคซีน Astra Zeneca และวัคซีน Pfizer จากมิตรประเทศให้รัฐบาลไทยที่ผ่านมา บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต้องให้ความยินยอมด้วย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงอาจพิจารณาแนวปฏิบัติในการบริจาควัคซีนโมเดอร์นาในครั้งนี้โดยถี่ถ้วน เพื่อป้องกันการร้องเรียนจากฝ่ายใดในภายหลัง
แกนนำภาคธุรกิจเอสเอ็มอี แนะเลื่อนเปิดเมืองหัวหิน 1 พ.ย. ลดความเสี่ยงโควิดกลายพันธุ์
https://www.matichon.co.th/region/news_3009141
แกนนำภาคธุรกิจเอสเอ็มอี แนะเลื่อนเปิดเมืองหัวหิน 1 พ.ย. ลดความเสี่ยงโควิดกลายพันธุ์
วันที่ 25 ตุลาคม น.ส.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์ผู้ประกอบการ เอส เอ็ม อี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตกรรมการโครงการหัวหิน รีชาร์จ เปิดเผยว่า หลังจากมีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายวันในพื้นที่ อ.หัวหิน เกินจากหลักเกณฑ์ต่อสัดส่วนประชากรตามที่ ศบค.กำหนด เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การเปิดเมืองตามโครงการ “หัวหินรีชาร์จ” ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะต้องเลื่อนออกไปอีกระยะตามความเหมาะสม ที่สำคัญหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ควรชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการทุกภาคส่วน แจ้งข้อมูลให้ประชาชนรับทราบโดยเร็วเพื่อคลายความหวั่นวิตกตามแนวทางการควบคุมโรคในคลัสเตอร์ต่างๆ
น.ส.พรระวี กล่าวว่า ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าความปลอดภัยของชีวิตมนุษย์จากโรคระบาดสำคัญกว่าทุกสิ่ง หากเปิดเมืองแล้วยังมีภาระความเสี่ยงกับเชื้อกลายพันธุ์จากต่างประเทศก็ต้องประเมินให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการ เอส เอ็ม อี และร้านค้าย่อยบอบช้ำไปมากกว่านี้ และส่วนตัวขอให้หน่วยราชการไปตรวจสอบตัวเลขผู้ฉีดวัคซีนใน อ.หัวหินให้ชัดเจน เนื่องจากยังมีประชาชนจำนวนมากต้องไปวอร์คอินฉีดวัคซีนโควิดที่ห้างสรรพสินค้า
นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ. ประจวบคีรีขันธ์พี่ชายนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะนายกสมาคมอุตสาหกรรมสับปะรดไทย กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านสาธารณสุขสามารถควบคุมคลัสเตอร์การระบาดของเชื้อโควิด 19 ใน 4 โรงงานแปรรูปผลไม้กระป๋อง ที่ ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรีได้ทั้งหมด สถานการณ์โดยภาพรวมไม่น่ากังวล ไม่มีผลกระทบกับประชาชนรอบพื้นที่ โรงงานแปรรูปผลไม้กระป๋องทุกแห่งยังคงรับซื้อสับปะรดและว่านหางจระเข้ จากชาวไร่นำไปผลิตเพื่อส่งออกตามปกติ ไม่มีผลกระทบกับกลไกราคา แม้ว่าทุกโรงงานจะลดการซื้อวัตถุดิบจากช่วงปกติเพียงเล็กน้อย หลังจากมีแรงงานชาวเมียนมาร์และพนักงานคนไทยติดเชื้อโควิด 19 กว่า 300 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ รักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม
นายวิรัช กล่าวว่า พนักงานทั้ง 4 โรงงานมีกว่า 1500 คน ที่ผ่านมาได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วทุกคน สาเหตุที่ทำให้คนงานในโรงงานติดเชื้อยอมรับว่ามาจากปัจจัยภายนอกเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่มีผู้ประกอบการโรงงานแห่งใดต้องการให้มีโรคระบาดเกิดขึ้น ส่วนมาตรการป้องกันหลังจากนี้หากเป็นแรงงานเมียนมาร์ที่อาศัยในหอพัก จะให้ทำงานในโรงงานแล้วกลับไปอาศัยในหอพัก จากนั้นโรงงานจะสนับสนุนอาหารครบ 3 มื้อ ส่วนพนักงานคนไทยได้มอบถุงยังชีพเพื่อเยียวยาผลกระทบ และต่อไปคนงานทุกแผนกต้องได้รับการตรวจหาเชื้อจาก ATK ทุกสัปดาห์
พิธา เล่าเรื่องภาคใต้ ลั่น หลายพรรคสู้ด้วยอดีต แต่ก้าวไกลขอชนะใจคนใต้ด้วยเรื่องอนาคต
https://www.matichon.co.th/politics/news_3008956
พิธา เล่าเรื่องภาคใต้ ลั่น หลายพรรคสู้ด้วยอดีต แต่ก้าวไกลจะสู้ด้วยอนาคต
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล เขียนข้อความทางเฟซบุ๊ก เล่าเรื่อง ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ภาคใต้ ระบุว่า
ว่าด้วยยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคใต้: หลายพรรคสู้ด้วยอดีต แต่เราจะสู้ด้วยอนาคต
หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า พี่ต๋อม ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล คนที่เป็นมันสมองของพรรคมาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ต่อเนื่องมาจนถึงพรรคก้าวไกล เป็นคนใต้ เกิดและเติบโตที่จังหวัดสงขลา ตลอดทั้งเส้นทางการตะลุยภาคใต้ของพวกเราในอาทิตย์ที่ผ่านมาจึงเต็มไปด้วยเรื่องเล่าและความฝันเกี่ยวกับภาคใต้ของพี่ต๋อม
พี่ต๋อมเล่าว่า “เรามีความเชื่อความภาคภูมิใจว่าภาคใต้ของเราเจริญกว่าภาคอื่นๆ ซึ่งก็ไม่ผิดนักหรอกเพราะเมื่อ 30 ปีที่แล้วภาคใต้ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทำให้เราหาทรัพย์จากดินได้เป็นจำนวนมาก ปัญหาคือ 30-40 ปี มานี้นอกจากการตัดถนนที่เพิ่มขึ้นแล้วภาคใต้แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ทุกอย่างเหมือนหยุดอยู่กับที่ 30 ปีก่อนเป็นอย่างไรวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น”
“แต่ก่อนกรีดยางแล้วถูกกดราคากันอย่างไรวันนี้ก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น เทคโนโลยีการแปรรูปยางที่ควรจะมีเพื่อให้เกษตรกรสามารถขายยางได้ในราคาที่สูงขึ้น แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเพราะเหล่าเสือนอนกินพยายามกีดกันทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้โรงงานแปรรูปยางเกิดขึ้น ปาล์มที่ชีวิตเกษตรกรอยู่ในกำมือของรัฐบาล มังคุดที่ราคาตกทุกปี และการท่องเที่ยวที่งบประมาณและแนวคิดในการส่งเสริมอยู่ในกำมือรัฐส่วนกลาง ไม่ได้มาจากคนในพื้นที่ แต่มาจากนักรบห้องแอร์ที่กรุงเทพฯ”
“เราอาจจะติดอยู่กับความเจริญรุ่งเรืองในอดีตมากจนเกินไป ไม่กี่ปีก่อนตอนผมพาแม่ไปอีสานแม่ผมตกใจพอสมควรที่อีสานเจริญขนาดนี้ ผมเลยต้องบอกแม่ว่าอีสานเองก็ไม่ได้พัฒนามาสักพักแล้วเหมือนกัน คุณลองคิดดูแล้วกันว่าความเชื่อว่าบ้านเราเจริญที่สุดมันฝังลึกขนาดไหน ขนาดภาคอีสานที่ไม่ได้พัฒนาอย่างเห็นได้ชัดมาสักพักแล้วยังทำให้แม่ผมตกใจได้”
“ปัญหาก็คือโลกพัฒนาไปข้างหน้าใน pace ที่ไวมากๆ เราที่หยุดอยู่กับที่มา 30 ปี ในขณะที่คนอื่นอย่าเรียกว่าเดิน เรียกว่าวิ่งไปข้างหน้าน่าจะถูกกว่า ไม่ต้องเทียบกับประเทศอื่นก็ได้ เอาแค่ภาคอื่นของประเทศก็พอ หากไม่ทำอะไรสักอย่างกับบ้านเกิดของเรา อีกไม่นานภาคใต้ต้องแย่จนยากจะฟื้นอย่างแน่นอน เพราะเราตามโลกที่กำลังพัฒนาไปข้างหน้าไม่ทัน ปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคใต้มาตลอด 30-40 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถที่จะพาภาคใต้ไปต่อได้อีกแล้ว อย่างมากเราอาจจะลากต่อไปได้อีกสัก 4-5 ปี แต่นั่นล่ะ หลังจากที่ถูลู่ถูกังลากกันไปเสร็จแล้วคนที่ต้องแบกรับความล้มเหลวทุกอย่างเอาไว้ก็จะเป็นคนรุ่นถัดไป”
แต่พี่ต๋อมก็เชื่อว่าเรายังมีความหวัง พี่ต๋อมมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ พรรคก้าวไกลจะมี ส.ส. มากพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับภาคใต้และประเทศไทยได้
เพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทุกพรรคเฟ้นหาตัวผู้สมัคร ส.ส. ภาคใต้ โดยดูจากนามสกุล ขอให้ได้เป็นเครือญาตินักการเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น หรือนักการเมืองระดับชาติ ไล่ตั้งแต่ อบต อบจ ส.ส. ส.ว. สุดแล้วแต่ว่าพรรคไหนจะไปดูดนามสกุลใครมาได้
ทุกพรรคต่างสู้ศึกภาคใต้กันด้วยอดีต อดีตที่ผูกติดกับนามสกุล
“เราคงไม่ไปเล่นเกมแย่งชิงตัวนักการเมืองเก่าหรือลูกหลานนักการเมืองเก่าเพื่อดึงตัวมาทำงานทางการเมืองกับเราแน่ๆ เพราะสิ่งที่เราพยายามตามหาไม่ใช่นามสกุลดัง แต่คือคนที่มีอุดมการณ์และความฝันเดียวกันกับเรา
เราจะไม่สู้ด้วยอดีต เราจะสู้ด้วยอนาคต และเรามั่นใจว่ามีคนจำนวนมากที่รู้และเข้าใจว่าเราไม่สามารถย้อนกลับไปในอดีตได้อีกแล้ว
แต่มันไม่ง่ายหรอก ในระดับหนึ่งเราต้องเชื่อใจคนที่ตื่นแล้วว่าเขาจะยังไม่ยอมแพ้และกลับไปช่วยกันปลุกคนที่บ้านให้ตื่น ไม่มีวิธีไหนที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว เราจะตื่นคนเดียวไม่ได้ เราทุกคนมีหน้าที่ต่ออุดมการณ์ ความฝัน และขบวนการเปลี่ยนแปลง”
สิ่งที่พี่ต๋อมพูดไว้ด้านบนทั้งหมดเป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้ตลอดการเดินทางของพวกเรา
ในระหว่างทางเราได้พบปะพูดคุยกับคณะทำงานจังหวัดเป็นจำนวนมาก ตอนแรกเราคิดว่าเราคงจะถูกคณะทำงานในภาคใต้ตำหนิที่เราไม่ค่อยมีเวลาลงมาพบปะพูดคุยกับพวกเขา หรือไม่คณะทำงานอาจจะมีข้อเรียกร้องขอให้เราสนับสนุนพวกเขาในด้านต่างๆ ก่อนลงมาภาคใต้เราทำใจกันไว้พอสมควรว่าโดนต่อว่า โดนวิพากษ์วิจารณ์หนักแน่นอน
แต่ไม่เลย ไม่มีใครอยากได้อะไรแบบนั้นจากเรา ทุกคนเข้าใจว่าที่ผ่านมาเราใช้เวลาทั้งหมดไปเพื่อพิสูจน์ตนเองในสภา พิสูจน์ว่าต่อให้เขาเอาธนาธร ปิยบุตร ออกไป แต่อุดมการณ์อนาคตใหม่ก็ยังดำรงอยู่และยังคงเดินหน้าต่อ กลับกันสิ่งที่คณะทำงานจังหวัดเรียกร้องจากเรา คืออยากให้เราสู้มากกว่านี้ ชนกับต้นตอของปัญหามากกว่านี้ ทุกคนมองไปข้างหน้า บทสนทนามีแต่เรื่องอุดมการณ์การต่อสู้
คุณยายคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยงานคณะทำงานจังหวัดบอกกับผมว่าที่ยายมาเข้าร่วมการต่อสู้นี้ สุดท้ายยายคงอยู่ไม่ทันได้เห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ที่ยายต้องมาช่วยเพราะเวลาของยายเหลืออยู่มากแล้ว พี่ต๋อมได้ยินประโยคนี้แล้วถึงกับน้ำตาไหล นี่ไม่ใช่เพียงพรรคการเมืองแล้ว มันคืออุดมการณ์การเปลี่ยนแปลง
ตลอดการเดินทางลงสู่ภาคใต้ เราสัมผัสได้ถึงความโหยหาความเปลี่ยนแปลงที่คุกรุ่นในทุกหย่อมหญ้า เจตจำนงอนาคตใหม่ วิถีก้าวไกลที่พรรคประกาศไว้ที่ขอนแก่น สะท้อนมาไกลถึงร้านติ่มซำที่สุราษฎร์ธานี นาข้าวบนเกาะกลางที่กระบี่ สวนยางที่ตรัง ไปจนถึงสวนมังคุดที่นครศรีธรรมราช คำประกาศของพรรคก้าวไกลว่าเราจะปลดปล่อยศักยภาพของประเทศให้หลุดพ้นจากคำสาปห้ามพัฒนาด้วยการชนกับช้างรัฐราชการรวมศูนย์ และเสือนอนกินที่ได้ประโยชน์จากความไม่เปลี่ยนแปลง