เล่า ปสก พบจิตแพทย์ในออสเตรเลีย หลังมีอาการวีนเหวี่ยงและฉุนเฉียวง่าย

สวัสดีค่ะทุกคน

เมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ที่แล้วพี่โอ๋ได้กลับเข้าไปนั่งคุยกับจิตแพทย์อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้พบเค้ามากเกือบ 3 ปีแล้ว สาเหตุรอบนี้แตกต่างจากครั้งแรก เพราะครั้งนี้คือพี่โอ๋มีอาการโกรธง่าย วีนเหวี่ยง ฉุนเฉียวขาดสติ ใส่อารมณ์กับคนแปลกหน้า ซึ่งโดยนิสัยเสียปกติของพี่โอ๋ การพูดใส่อารมณ์หรือวีนเหวี่ยงมักจะทำแค่กับคนในครอบครัว (จริงๆ เป็นเรื่องที่ไม่ดีนะคะ อย่าเอาเป็นแบบอย่าง แค่อันนี้บรรยายนิสัยเสียแบบที่เป็นปกติของตัวเองเท่านั้นนะ)  ขนาดเพื่อนฝูงเรายังไม่กล้าใส่อารมณ์ด้วยเลย ดังนั้น คนแปลกหน้ายิ่งไม่ต้องพูดถึง พี่โอ๋จะสะกดอารมณ์ได้

แต่เมื่อประมาณ 1-2 เดือนก่อนหน้านี้ พี่โอ๋เหวี่ยงทุกคน อารมณ์ก็ขึ้นง่าย แถมมีตะหวาดตะคอกคนส่งของที่มาส่งของอีก ซึ่งบอกเลยว่ารู้สึกผิดมากๆ ที่ทำลงไป แถมเค้าไม่ใช่คนส่งของที่มาประจำด้วยนะ เลยไม่มีโอกาสให้ได้ขอโทษต่อสิ่งที่กระทำลงไปต่อเค้าได้เลย แล้วยังมีฉุนเฉียวใส่อารมณ์ กรี๊ดใส่คุณสามีอีก และมีอาการแน่นหน้าอก หนักที่อก ต่อให้นวดก็ไม่หาย ไปเช็คโควิดก็ไม่ใช่ เลยนั่งลงจับมือคุยกับคุณสาว่า "I need help" แล้วก็อธิบายเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นว่า เรารู้สึกได้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่เราหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไม หรือเพราะอะไร คุณสาจึงจัดการทำนัดหมายให้ เพื่อให้เข้าพบกับนักจิตวิทยาท่านเดิมที่เคยช่วยพี่โอ๋ไว้เมื่อปี 2018

สรุปผลหลังจากที่ได้เข้าพบน่าทึ่งอีกแล้ว ทีแรกในใจพี่โอ๋คาดเดาไว้ว่ามาจากการที่ช่วงนี้ผิดใจกับคุณสาบ่อยๆ และคิดว่าสาเหตุมาจากเค้าแน่ๆ เลย ที่ไหนได้ ต้นตอมาจากปมในวัยเด็กกันเลยทีเดียว อัศจรรย์ใจมากค่ะ บอกเลย

เรื่องมีอยู่ว่า พี่โอ๋เนื่ยเติมโตมากับคุณตาคุณยายในช่วงหลังแรกคลอดได้เพียง 20 วัน นมแม่ได้กินแค่นั้นจริงๆ แค่ 20 วันนั้น ด้วยเพราะพ่อกับแม่พี่โอ๋ต้องทำงานทั้งคู่และครอบครัวเราจนมาก แม่ต้องกลับเข้าไปทำงานที่โรงงาน ดังนั้นพ่อกับแม่ไม่สามารถหาคนเลี้ยงเราได้ พี่โอ๋จึงต้องไปอยู่กับตากับยายนั่นเอง 
พอถึงวัยเข้าเรียนอนุบาล พี่โอ๋ได้กลับมาอยู่กับพ่อกับแม่แระ แต่มักได้ยินคำพูดจากคนรอบข้างตัวเองพี่ชอบพูดว่า "พ่อกับแม่ไม่ได้อยากมีลูกผู้หญิง เค้าอยากได้ลูกผู้ชาย", "พ่อกับแม่ไม่อยากได้ลูกผู้หญิง เพราะเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน", "แม่ไปดูดวงมา เค้าบอกว่าถ้ามีลูกผู้หญิงเป็นคนแรก ชีวิตแม่จะเดือดร้อย" เป็นต้น

และพอพ่อกับแม่มีน้องชายตอนปี 2525 พี่โอ๋ก็ได้เห็นความแตกต่างและความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างจนมันทำให้เรารู้สึกน้อยใจ และรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียม และการถูกทอดทิ้ง(อย่าดราม่าว่าพ่อแม่พี่โอ๋นะคะ สิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยนั้นมาจากชุดความคิดของคนในสมัยนั้นที่มีมาแต่โบราณเนอะ ปัจจุบันพี่โอ๋กับพ่อกับแม่รักกันดี ถึงแม้เราจะอยู่กันคนละประเทศ แต่พี่ก็ยังคงดูแลส่งเสียเลี้ยงดูท่านโดยมิได้คิดโกรธเรื่องในวัยเด็กนั้นอีกแล้ว แค่อันนั้นเล่าปูพื้นให้ทราบถึงที่มาของปมในใจเพียงเท่านั้นค่ะ)

และนั่นคือที่มาของการระเบิดอารมณ์ใส่ผู้คนและอื่นๆ ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้ของพี่โอ๋ ระหว่างการสนทนากับจิตแพทย์พี่โอ๋ร้องไห้หนักมาก นึกไม่ถึงเลยว่าความรู้สึกโกรธ น้อยใจ และการถูกทอดทิ้งมันอยู่กับเรามาได้ยาวนานขนาดนี้ การพูดคุยเป็นการพูดคุยผ่าน Zoom ไม่ได้มีการทำการสะกดจิตแต่อย่างใด แต่เพียงแค่หลับตาลงตามที่จิตแพทย์บอก และเอามือขวาวางลงที่อกซ้ายบริเวณหัวใจ อยู่ๆ ภาพในวัยเด็กของพี่โอ๋ก็ผุดขึ้นมาในหัวซะงั้น อึ้งเหมือนกัน จิตแพทย์จึงตั้งคำถามไปเรื่อยๆ เพื่อให้เราเล่าถึง ปสก ในวัยนั้น อะไรที่เกิดขึ้นกับเรา 

หลังจากคุยกันมาจนถึงช่วงท้าย จิตแพทย์บอกให้พี่โอ๋เรามือท้งสองข้างกอดตัวเองแล้วหลับตาลงพร้อมพูดกับเด็กน้อยคนนั้น โดยเค้ามิได้บอกว่าเราต้องพูดอะไรนะคะ แต่อยู่ๆ ในหัวของเราก็มีคำพูดมาขึ้นเอง แล้วพี่โอ๋ก็พูดออกมากับเด็กน้อยคนนั้นในหัวของพี่โอ๋ว่า "I am here" พร้อมทั้งกอดตัวเองและร้องไห้ตัวโยนเลย มันอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก

จิตแพทย์อธิบายให้พี่โอ๋ฟังว่า มันมีเรื่องราวบางอย่าง หรืออาจหลายๆ อย่างในช่วงก่อนหน้าเดือนหรือสองเดือนนั้นที่ไปสะกิดความทรงจำ ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ความโกรธ และความรู้สึกถูกทอดทิ้งนี้ ที่พี่โอ๋เก็บ กลั้น กด เค้าเอาไว้ให้ปะทุขึ้นมา ซึ่งความเศร้าจากความรู้สึกทั้งหมดจะถูกกดทับ และเก็บกดเอาไว้ข้างใน แล้วแสดงความโกรธนั้นออกมา จึงเป็นที่มาของเหตุการณ์ที่เราร้ายจิตใจของทุกคนรอบข้างไม่เว้นแม้แต่คนแปลกหน้า

ตอนนี้สิ่งที่พี่โอ๋ทำ เพื่อกลับมาเยียวยาตัวเองที่นอกเหนือจากการยังนั่งคุยกับจิตแพทย์ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ก็คือ ทำงานอดิเรกนั่นเองค่ะ งานอดิเรกหลังพบจิตแพทย์ในสัปดาห์แรกคือการหัดทำหรีดแขวนประตู หรือไว้ตกแต่งในบ้าน แบบตามภาพเลยค่ะ

อันนี้คือหรีดอันแรกที่พี่โอ๋หัดทำค่ะ คือบ้านฝรั่งเค้าจะทำหรีดแบบนี้ตามเทศกาล บางบ้านก็ทำไว้ตกแต่งตามฤดูกาลเช่น หรีดช่วงฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง, ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูหนาวค่ะ ดีไซด์ไม่มีอะไรตายตัว ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรของแต่ละบ้านล้วนๆ ค่ะ



ใบไม้ดอกไม้ที่ใช้พี่โอ๋ใช้ใบไม้และดอกไม้ในบริเวณบ้านตัวเองค่ะ บางครั้งก็ใช้เดซี่ บางครั้งก็ใช้กุหลาบ


แบบนี้เป็นหรีดอันที่ 2 ที่พี่โอ๋ทำช่วงหลังคุยกับจิตแพทย์ รู้สึกสงบดีนะคะ มันเหมือนได้เยียวยาตัวเองด้วยสิ่งสวยๆงามๆ

อันนี้เป็นภาพจากอินเตอร์เน็ตนะคะ พี่โอ๋ไม่ได้ทำ แค่อยากให้เห็นว่าการทำหรีดไม่จำเป็นต้องทำจากดอกไม้และใบไม้สดก็ได้นะคะ ใช้ดอกไม้และใบไม้แห้งก็ได้ หรือจะใช้แค่ริบบิ้นอย่างเดียวก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ พี่โอ๋มีทำลงไว้ในวีดีโอ แต่มิใช่การสอนนะคะ แค่ถ่ายไว้ช่วงที่นั่งหัดทำเพื่อเยียวยาจิตใจ และเพื่อแชร์ ปสก การพบจิตแพทย์ โดยทำเป็นคลิปภาษาอังกฤษไว้ในลิ้งค์นี้ค่ะ https://youtu.be/sJeMMoFX8Ws เผื่อใครอยากดูนะคะ

แล้วพบกันใหม่ เมื่อมี ปสก ใหม่ๆ มาแชร์ค่ะ 

รักษาสุขภาพทั้งกายและใจกันด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่